บทที่16 สืบเรียบร้อยแล้ว
วันนั้นหลินซินเหยียนกอดอยู่กับเขา
ไม่ใช่ลูกเขาแล้วจะลูกใครกัน?
เหอยเจอรู้สึกเจ็บหัวใจ ถ้าเกิดเธอมาหาเขาในวันที่เกิด อุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้เธอก็คงไม่ต้องมาตกอยู่ในที่นั่ง ลําบากแบบนี้หรอก
ในสายตาของจงจิ่งห้าว เหอรุ่ยเจ๋อนั้นกำลังยอมรับอยู่ เขา หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า “เธอยังอายุน้อย——”
“นายจะไปเข้าใจอะไร?!” เหอรุ่ยเจ๋อตะคอก ดวงตาของเขา เริ่มแดงก่ำ เขารู้ว่าจงจิ่งห้าวอยากจะพูดอะไร ไม่มีอะไรมาก ไปกว่าจะบอกว่าหลินซินเหยียนไม่รักตัวเองหรอก
คำพูดที่ว่าอายุแค่นี้ก็ท้องแล้ว ใช้ชีวิตไม่ระมัดระวังอะไรแบบ
นั้น!
แต่เขารู้สิ่งที่เธอต้องผ่านมาไหม?
เหอรุ่ยเจ๋อมองจงจิ่งห้าวหัวจรดเท้า สูทที่ดูมีราคานั่น เกรงว่า น่าจะราคาเท่าเงินเดือนหนึ่งปีของคนทั่วไปเลยสินะ
“คุณชายผู้สูงศักดิ์อย่างนาย เคยผ่านประสบการณ์ความ ทุกข์ยากรึเปล่า? เคยสัมผัสถึงความรู้สึกที่ไม่มีอะไรจะกินเปล่า? รู้จักการที่ต้องถูกบีบบังคับให้จนตรอกไม่มีทางเลี่ยง ไหม? นายไม่รู้!นายไม่รู้เหรอกว่าเธอมีชีวิตยังไงจนมาถึงทุก วันนี้..…………….
หลินซินเหยียนจับเหอยเจ๋อไว้ แล้วก็ส่ายหน้าให้เขา เธอไม่
ต้องการการเห็นใจ ไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร เธอแค่อยาก
จะมีชีวิตอยู่ ดูแลแม่และลูกในท้องให้ดีก็พอแล้ว
“นายพาฉันไปโรงพยาบาลหน่อย” ตอนนี้เธอแทบจะยืนไม่ ไหวอีกแล้ว
“โอเค” เหอรุ่ยเจ๋อก้มตัวลงเพื่ออุ้มเธอ
หลินซินเหยียนมองไปที่จงจิ่งห้าวที่กำลังงงงวย ราวกับว่า คาดไม่ถึงกับคําพูดของเหอรุ่ยเจ่อ “ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่ ทำงานไม่ได้ แต่ว่าคุณวางใจได้เลย ฉันจะไม่ให้คนอื่นรู้เกี่ยว กับความสัมพันธ์ของฉันกับคุณ ไม่ให้คุณต้องเสื่อมเสีย
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว แววตาดูคลุมเครือ ทันทีหลังจากนั้น สายตาของเขาก็จ้องมองไปที่ใบหน้าของเธอ ผู้หญิงคนนี้——
คนนอกไม่รู้สถานการณ์ของหลินซินเหยียนในตอนนี้ แต่ว่า เหอรุ่ยเจ๋อที่กำลังอุ้มเธออยู่นั้นรับรู้ได้ ตอนนี้ร่างกายของเธอ สั่นไม่หยุด เหอรุ่ยเจ๋ออุ้มเธอไปขึ้นรถ แล้วปลอบใจว่า “ไม่ต้อง กลัว เลือดไม่ออก แสดงว่าไม่ได้เป็นอะไร
เหอริยเจ๋อก็ขึ้นรถด้วยความเร็วสูงสุด พาเธอไปโรงพยาบาล
จงจิ่งห้าวจ้องมองรถที่ขับไปไกล หัวของเขายังย้อนกลับไป คิดคำพูดของเหอรุ่ยเจ๋อเมื่อกี้นี้ หลินซินเหยียนนั้นมีความลับ อะไรกันแน่?
การกระทําหลายอย่างของเธอนั้นแปลกจริงๆ
เพื่อที่จะรู้ให้กระจ่างว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาก็หยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาโทรหากวนจิ้ง
“ไปสิบเกี่ยวกับหลินซินเหยียนมาหน่อย”
“สิบอะไรเหรอครับ? ”
“ทั้งหมด”
พอพูดจบจงจิ่งห้าวก็วางสาย
“อะห้าว”ไป๋จวู่เวยวิ่งออกมาจากร้านอาหาร แล้วก็ดึงแขนของ เขา “นายยังโกรธเรื่องที่ฉันไม่ให้หลินซินเหยียนเข้ามาทํางาน ที่บริษัทอยู่อีกเหรอ? ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด ฉันแค่รักนายมากไป
“เปล่า พวกเรากลับไปกันเถอะ”น้ำเสียง สีหน้าของเขาเรียบเฉยไม่มีขึ้นมีลงเลย
ไม่มีใครสามารถมองทะลุอารมณ์ที่ถูกซ่อนอยู่ได้
ไปัจวูเวยรู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อกี้เขาโทรหาใครกัน?
ที่โรงพยาบาล
หลินซินเหยียนถูกส่งเข้าห้องผ่าตัด
เหอรุ่ยเจ่อรออยู่ด้านนอก การรอคอยมักทรมานเสมอ เขา มองเข้าไปที่ห้องผ่าตัดเป็นครั้งคราว
น่าจะผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก หลินซินเหยียนถูกเข็นออกมา เหอยเจ่อรีบเดินเข้าไปทันที “เธอเป็นยังไงบ้างครับ? ”
หมอใส่หน้ากากอนามัย “เพราะว่าทํางานหนักเกินไป ร่างกาย ส่งสัญญาณการแท้งบุตร ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ว่าต้อง ระวังตัวและพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ยังงั้นครั้งหน้าอาจจะไม่ โชคดีแบบนี้”
“ผมเข้าใจแล้วครับ” เหอรุ่ยเจ๋อเข็นเธอเข้าไปในห้องผู้ป่วย
หลินซินเหยียนมองเหอรุ่ยเจ๋อ แล้วก็พูดออกมาจากใจจริง “ขอบคุณนายจริงๆนะ ที่คอยช่วยเหลือฉันเสมอเลย”
เขาคอยช่วยเหลือเธอเสมอทุกครั้งที่เธอต้องการ
“เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” เหอรุ่ยเจ่อเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อ่อน โยนแบบที่มีมาเสมอ
“นายจ่ายเงินให้ฉันแล้วใช่ไหม? ฉันคงต้องติดหนี้นายไว้ก่อน นะ” หลินซินเหยียนยกริมฝีปากแห้งๆ ของตัวเองขึ้น
“ตอนนี้ยังไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้หรอก เธอต้องพักผ่อน” เหอรุ่ ยเจอไม่ชอบให้เธอมองเขาเป็นคนนอกแบบนี้
พอเข้ามาที่ห้องผู้ป่วย หลินซินเหยียนก็มองเขา “เรียกแม่ฉัน มาเถอะ”
เธอไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับเหอรุ่ยเจอมากเกินไป
เหอรุ่ยเจ๋อนึกว่าเธอคิดถึงจวงจื่อจิ่น ยังไงเวลาที่คนเรา อ่อนแอนั้น ก็อยากจะให้ญาติอยู่เคียงข้างเสมออยู่แล้ว
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาจวงจื่อจิ่น บอกเธอว่าหลินซิ นเหยียนอยู่ที่โรงพยาบาลให้เธอมาที่นี่
จวงจื่อจิ่นได้ยินดังนั้น ก็พูดอย่างตื่นตกใจ “เหยียนเหยียนเป็นอะไรไป? ”
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ แค่ต้องการการพักผ่อน เธออยากจะ เจอคุณ”
พอได้ยินแบบนี้จวงจื่อจิ่นถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความ
โล่งอก
แล้วเธอก็มาถึงโรงพยาบาลด้วยความเร็วสูงสุด
พอจวงจื่อจิ่นมาแล้ว หลินซินเหยียนก็ให้เหอรุ่ยเจ๋อกลับไป
ก่อน
“ใช่ สร้างปัญหาให้คุณแล้ว”จวงจื่อจิ่นขอโทษอย่างสุดซึ้ง
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้ายังงั้นวันนี้ฉันกลับก่อนนะ พรุ่งนี้จะมา เยี่ยมใหม่” เหอรุ่ยเจ๋อมองเธอ “พักผ่อนเยอะๆ นะ”
“อืม”
พอเหอรุ่ยเจ๋อไป จวงจื่อจิ่นก็นั่งลงข้างเตียง แล้วก็ห่มผ้าให้ กับเธอ “อยากกินอะไรไหม? ”
หลินซินเหยียนส่ายหน้า สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก
จวงจื่อจิ่นรู้สึกทุกข์ใจ
“เดิมทีลูกสามารถมีอนาคตที่ดีมากๆได้ แต่ว่าเพราะแม่แล้ว ก็ ไม่ได้เรียนหนังสือ แถมตอนนี้——-
พอนึกถึงลูกในท้องของเธอ จวงจื่อจิ่นก็รู้สึกปวดใจ “ลูกบอก ว่าลูกตั้งท้องตอนที่อยู่ประเทศA ถ้าเกิดว่าเป็นเด็กผมสีทองตา สีฟ้าจะทำยังไงล่ะ? “
จวงจื่อจิ่นกังวลว่าจะเป็นคนในท้องถิ่น
“ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง เขาก็เป็นลูกของหนู และก็คือหลาน ของแม่” หลินซินเหยียนจะไม่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนวันนั้น เรื่องคืน นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับเธอเลย
“ประเทศAงั้นเหรอ? ” จงจิ่งห้าวมาหาหลินซินเหยียนที่โรง พยาบาล เดิมทีอยากจะเคาะประตู แต่ก็พบว่าจวงจื่อจิ่นกำลัง คุยกับเธออยู่ด้านใน ก็เลยไม่อยากจะรบกวนพวกเธอ
“อืม ไม่ว่าจะมีผิวขาวหรือผิวเหลือง ก็เป็นหลานของแม่ทั้งนั้น แหละ” จวงจื่อจิ่นคิดได้แล้ว ขอแค่ลูกสาวของเธอมีความสุข เธอก็ยินดีที่จะทำตามเธอ ดูแลเธอ
บางทีเธอและเด็กคนนี้อาจจะมีโชคชะตาต่อกันก็ได้
เพราะว่าแค่ครั้งเดียวลูกก็ติดเลย
จวงจื่อจิ่นลูบหน้าผากของเธอ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า “ลูกสาวของแม่ ต้องมายากลำบากกับแม่แท้ๆ เลย”
“เธอยังไม่ได้เอาลูกออกอีกเหรอ? ” จงจิ่งห้าวยิ่งนับวันยิ่งรู้สึก
ว่าเธอเป็นปริศนามากขึ้นเรื่อยๆ
วันนั้นที่โรงพยาบาล เธอเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้วนี่
พวกเธอกำลังคุยกันอยู่ เขาไม่อยากจะเข้าไปรบกวน ก็หัน หลัง แล้วก็เดินออกไป
พอเดินมาถึงหน้าโรงพยาบาล โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมา ก็เห็นว่าเป็นชื่อของกวนจิ้ง
เขารับสาย
“สิ่งที่คุณให้ผมไปสืบ ผมสืบมาเรียบร้อยแล้วครับ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ