ตอนที่ 78-1 ม้าผอมแย่งชิง สองพี่น้องเข้าวัง
พอเห็นสีหน้าอนุฟาง อวิ๋นเสวียนนั่งก็รู้แล้วว่านางอยากจะขอ อะไรตน
และแล้วอนุฟางก็ก้าวเข้ามาใกล้ ก้มหน้าลง พลางพูด เสียงเบา “ท่านพี่ หลายปีมานี้ ข้าไม่เคยขออะไรท่านพี่เลย เพราะรู้สถานะตัวเองดี จึงไม่กล้าขออะไร แต่ตอนนี้มีเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับชีวิตทั้งชีวิตของลูกสาม ถึงต้องมาขอท่านพี่สักครั้ง
ว่าแล้วก็ถูกแขนเสื้อทั้งสองข้าง คุกเข่าลง โขกศีรษะสองครั้ง
อนเสวียนนั่งเป็นคนฉลาด พอจางเพื่อให้ไป อนุฟางก็มี เรื่องมาขอทันที เขาถึงได้เดาอะไรบางอย่างได้ จึงบอกให้นาง ลุกขึ้น “เจ้าลองว่ามาก่อน
อนุฟางหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ดวงตาพลันแดง บิด ผ้าเช็ดหน้าไปมา มองบนเล็กน้อย ก่อนพูดละล่ำละลัก น้ำเสียง แสดงความเจ็บปวด
“ครั้งนี้คุณหนูใหญ่โชคดี ได้รับเลือกจากพระสนมเอกให้ เข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ในวังที่เจียไทเฮาทรงจัดขึ้น จาก ความสามารถที่คุณหนูใหญ่มี มองมุมไหนก็ราศีจับ ใครเห็นใครก็รัก สามีในอนาคตย่อมเป็นผู้เอกอุในแผ่นดิน ซึ่งนางต้อง เลือกลูกเขยที่ดีให้กับท่านพี่และสกุลอวิ๋นได้แน่ แต่…แต่ลูก สามกลับไร้วาสนาและอาภัพ มาเกิดในท้องของคนที่ไม่เอา ไหนอย่างข้า เป็นลูกเมียน้อยที่เกรงว่าคงหาสามีที่ดีได้ยากยิ่ง ลูกสามก็โตแล้ว กำลังอยู่ในวัยเลือกคู่หมั้นพอดี…ตอนนี้เมื่อ สบโอกาส ข้าก็อยากขอท่านพี่ ให้ลูกสามได้พึ่งพาความร้อน แรงของคุณหนูใหญ่ ด้วยการให้คุณหนูใหญ่พาลูกสามไปงาน เลี้ยงในวันนั้นด้วย พอจะได้หรือไม่…
ตั้งแต่พบเจอกับรัชทายาทโดยบังเอิญที่โรงละครว่านไฉ อนุฟางก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าต้องหาผู้สูงศักดิ์สักคนมาเป็น สามีของลูกสาวให้ได้ ครั้งนั้นแม้ล้มเหลว ลูกสาวยั่วยวน รัชทายาทไม่สำเร็จ แต่ก็นับว่ายังพอมีหวัง ลูกท่านหลานเธอ ในเมืองหลวงมีมากมาย แม้เป็นชายารัชทายาทไม่ได้ ก็ยังมี ชายาอ๋อง ชายาชื่อจื่อ ฮูหยินอำมาตย์ ฮูหยินท่านโหว เป็นต้น!
เมื่อครู่ พอได้ยินว่าอนหวานชื่นสามารถเข้าวัง อนฟาง จึงปีติยินดียิ่ง งานเลี้ยงสังสรรค์ที่ไทเฮาทรงจัด ย่อมมีผู้ชายสูง ศักดิ์หลากหลายสถานะ โอกาสก็ย่อมมากตาม
พูดอ้อมไปมา อีกทั้งร้องไห้และเยินยอ ทุกอย่างมาจบที่ อยากให้ลูกเมียหลวงพาลูกเมียน้อยเข้าวังด้วยว่างั้น เพื่อให้ เด็กสาววัยละอ่อนสุดในบ้านมีโอกาสจับลูกเขยเชื้อจ้าวกับเขา บ้าง แม้น่าขัน แต่อขึ้นเสวียนนั่งกลับคิดจริงจัง เมื่อลูกสาวคน รองอวิ๋นหว่านเฟียตกกระป๋อง เขาก็เหลือลูกสาวแค่สองคน กับต้าเซวียนที่เห็นสถานะเป็นเรื่องสำคัญด้วยแล้ว โอกาสที่ลูก เมียน้อยอย่างลูกสาวคนเล็กจะได้แต่งกับผู้สูงศักดิ์จึงมีอยู่ไม่ มาก ซึ่งงานเลี้ยงสังสรรค์ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีเอามากๆ
อีกอย่าง ถ้าลูกสาวทั้งสองคนไปด้วยกัน โอกาสที่จะเข้า ตาชายสูงศักดิ์ย่อมมีมากกว่า โดยถ้าคนหนึ่งไม่ผ่าน อีกคนก็ ยังมีสิทธิ์
อนเสวียนนั่งหวั่นไหวแล้ว ลูบคางไปมา ก่อนพูดอย่าง ลังเลใจ “ข้าก็เคยคิดเช่นกัน เพียงเสียดาย ที่พระสนมเอกเชิญ ลูกสาวสกุลอวิ๋นเพียงคนเดียว แล้วจะให้ข้ายัดถุงเอ๋อร์ไปด้วย ได้อย่างไรกัน”
ปกติอนุฟางไม่ถือว่าเป็นคนเหลี่ยมจัด แต่จะไวเรื่อง ประจบสอพลอผู้มีอำนาจ พอได้ยินว่าสามีเคยคิดอยู่เหมือนกัน ก็หยุดคร่ำครวญ แล้วรีบเสนอแผนการ
“ท่านพี่ ลูกสาวสกุลอวิ๋นได้รับเชิญคนเดียวก็จริง แต่พระ สนมเอกมิได้จำกัดจำนวนข่าวที่จะไปด้วย อนเสวียนนั่งหรี่ตา “ให้ถุงเอ๋อร์แต่งตัวเป็นบ่าวหรือ
อนุฟางว่า “ก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้ชัดก็ได้ว่าเป็นบ่าวหรือ น้องสาว เพียงตามคุณหนูใหญ่ไป แล้วรับใช้ขณะไปไหนมา ไหนก็พอ คนในวังไม่ถามอะไรมากอยู่แล้ว ถ้าลูกสามเตะตา ใครเข้าจริงๆ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน ถ้าเป็นเรื่องพรหมลิขิต ผู้ สูงศักดิ์ไหนเลยจะตำหนิเราได้
อนเสวียนนั่งหัวเราะ “ข้าดูเบาเจ้าไป ดูไม่ออกเลยว่า เจ้าจะมีความคิดที่ละเอียดลออเช่นนี้
อนุฟางพลันแก้มแดง แต่กลับเพิ่มจริตจะกร้านเข้าไป แสร้งก้มหน้าลงพลางว่า
“ท่านพล้อเล่นแล้ว นี่เป็นเรื่องน่าอายสิไม่ว่า ทำเอาข้า หน้าแดงไปหมด
เรื่องอวิ๋นหวานชิ้นได้รับเชิญไปงานเลี้ยง ทำให้ออื่นเสวี ยนนั่งอารมณ์ดีขึ้นมาก จึงลืมเรื่องโสเภณีมาหาเรื่องที่บ้านไป ชั่วคราว ตอนนี้ยังเตรียมการให้ลูกสาวคนเล็กเสร็จสรรพอีก ก็ รู้สึกตัวเบาขึ้นมาก พอเห็นอนุฟางหน้าแดง พูดเสียงเล็กเสียง น้อย ก็รู้สึกวาบหวาม จึงดึงนางมาไว้ในอ้อมอก แล้วลูบตาม อำเภอใจไปสองครั้ง
อนุฟางรู้ว่าเขาต้องการอะไร เพียงเสียดายที่รอบเดือนมา ปรนนิบัติเขาไม่ได้ จึงบอกเขาไปตามตรง
พออวนเสวียนนั่งได้ยิน ก็ผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง คลายมือออก
“น่าเบื่อเสียจริง” แล้วก็คร้านที่จะพูดมากอีก เดินกลับ เรือนหลักเพียงลำพัง
ถ้าเป็นยามปกติ อนุฟางต้องเท้า หงุดหงิดใจว่าทำไม ต้องมามีรอบเดือนเอาตอนนี้ด้วย เสียโอกาสได้ใกล้ชิดไป เปล่าๆ ปลี้ๆ แต่ตอนนี้นางคิดแต่จะรีบกลับไปบอกข่าวดีให้ลูกสาวฟัง รวมทั้งต้องฉวยโอกาสสอนลูกอีก จึงไม่มีกะใจมา เสียดงเสียดาย สาวเท้าก้าวเดินไปที่เรือนเล็กของอวิ๋นหว่าน งอย่างรวดเร็ว
ในห้อง เดิมทีอวิ๋นหว่านลงกำลังจะเข้านอน จึงสวมชุด นอนผ้าฝ้ายบางเบา เผยให้เห็นเอี้ยมสีเขียวสดทรงครึ่งวงรีตรง หน้าอก ขับให้ผิวดูขาวดุจน้ำนม อรชรอ้อนแอ้นยิ่ง
พอเห็นลูกสาวที่นับวันก็ยิ่งสวยขึ้นเรื่อยๆ อนุฟางก็ยิ่ง
เปี่ยมความมั่นใจ ดึงลูกสาวให้นั่งลง
ใต้แสงตะเกียง พอมารดาเล่าเรื่องเมื่อครู่ให้ฟังอย่างยินดี ปรีดาจนจบ อวิ๋นหว่านลงก็ปีติยินดีเช่นกัน แต่สองมือกลับม้วน ชายเสื้อ พลางว่า
“ผู้ชายในงานเลี้ยงแม้มีแต่เชื้อพระวงศ์ แต่ผู้หญิงที่มี อำนาจก็มีมากเช่นกัน ต้องแก่งแย่งกันรุนแรงแน่…ข้า ข้ากลัว ว่าจะไม่มีใครเห็นข้าอยู่สายตา หรือก็คือ ได้ไปงานเลี้ยงทั้งที แต่กลับเปิดเผยสถานะไม่ได้ โอกาสก็ยิ่งน้อยลง ส่วนพี่ใหญ่ เป็นแค่ลูกสาวคนโตแห่งจวนรองเจ้ากรม ในงานเลี้ยงไม่น่าจะ มีสถานะโดดเด่น แล้วใครจะมามองบ่าวข้างกายนางเล่า
อนุฟางถอนหายใจ “ก็เพราะอย่างที่ว่า ครั้งนี้เจ้านะ ถึง ต้องยิงให้เข้าเป้าในคราวเดียว แม่จะสอนให้
ก่อนอื่น เจ้าต้องติดสอยห้อยตามพี่ใหญ่เจ้าทุกฝีก้าว นาง ไปไหน เจ้าต้องอยู่ไม่ห่าง มีเพียงต้องตามติดนางไป
เท่านั้น เจ้าถึงจะมีโอกาส เมื่อก่อนแม่ก็เคยได้ยินไป หยินพูดถึงเรื่องงานเลี้ยงสังสรรค์นี้อยู่บ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วไทเฮา ต้องการให้ลูกหลานชายหญิงของพระองค์คบหากันในหมู่เชื้อ พระวงศ์ งานเลี้ยงจึงไม่มีข้อจำกัดอะไร ถ้าชายสูงศักดิ์คนใด ถูกใจสาวคนใดในงาน โดยทั่วไปแล้วก็จะเรียกอีกฝ่ายมาคุย กัน ถามไถ่เรื่องงานอดิเรกหรือเรื่องที่สนใจ ข้าเห็นว่า หมู่นี้พี่ ใหญ่เจ้าน่ะสวยขึ้นทุกวันๆ ดวงตาคู่นั้น คือคือ เหมือนนาง จิ้งจอกไม่มีผิด คล้ายไม่ส่งเสียง แต่จริงๆ แล้วจงใจปล่อยให้ เหยื่อตายใจ แล้วค่อยตะครุบทีหลัง…ไม่แน่ว่าในงานเลี้ยง จะ มีชายสูงศักดิ์จำนวนไม่น้อยมาผูกมิตรไมตรีกับนาง ซึ่งตอนนี้ ล่ะ คือโอกาสของเจ้า เข้าใจหรือยัง”
อนหว่านลงกัดริมฝีปาก “ท่านแม่กำลังบอกว่า ถ้าชาย ใดสนใจพี่ใหญ่ ก็จะเรียกผู้ติดตามอย่างข้าเข้าไปถามก่อน ข้า
“ไม่ผิด เจ้าก็ค่อยจัดการไปตามสถานการณ์
เมื่ออนุฟางเห็นว่าชี้แนะเพียงนิดเดียว ลูกสาวก็เข้าใจ นับ ว่าลูกสาวยังมีไหวพริบดีอยู่ จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “ถ้า ชายผู้นั้นสถานะดี เจ้ารู้สึกว่าพอจะจับเอาไว้ได้ ก็อย่ารอช้า คิด หาวิธีแย่งเอามาให้ได้!” อนุฟางสอนลูกสาวทีละคำทีละ ประโยคอย่างมั่นใจ
อวิ๋นหว่านถุงยังคงกัดริมฝีปาก จนจวนจะขาวอยู่รอมร่อ “ท่านแม่น่ะพูดง่าย ในเมื่ออีกฝ่ายถูกใจพี่ใหญ่ แล้วจะเห็น คนอื่นอยู่ในสายตาได้อย่างไร ข้าจะแย่งได้หรือ
“เด็กโง่!” อนุฟางเจ็บใจที่ไม่สามารถหลอมเหล็ก ให้กลาย เป็นเหล็กกล้า “ของเล่นอย่างผู้ชาย แม่น่ะรู้จักมากกว่าเจ้าเสีย อีก ในงานเลี้ยง เขาถูกใจพี่ใหญ่เจ้าก็จริง แต่ก็แค่ความ ประทับใจเมื่อแรกพบ ต่อให้นางสวยดั่งเซียนแล้วไง? เขาก็ได้ แต่ดูอยู่ห่างๆ เอามาเล่นในมือไม่ได้ สำหรับผู้ชายแล้ว จะยิ่ง เสียอารมณ์เข้าไปอีก สิ่งที่ผู้ชายในใต้หล้าชอบที่สุด ก็คือ ดอกไม้สวยงามที่จับต้องได้ เจ้าเข้ามาพูดคุยอยู่ใกล้ๆ ทั้งคน ขอเพียงรู้จักทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ รวมทั้งหาโอกาส เหมาะ พูดให้เขามองพี่ใหญ่เจ้า ในแง่ลบ เพิ่มข้อเสียของนาง ลงไป ร่วมทำอะไรบางอย่างกับเขาในเวลาที่เหมาะสม…ผู้ชาย นะ เห็นว่าเจ้ามาก่อน ก็จะโน้มเอียงมาทางเจ้า
พออนหว่านลงรู้ว่าอะไรคือ ร่วมทำอะไรบางอย่างกับ เขา ก็อับอายจนหน้าแดง ครั้งก่อนนางถูกรัชทายาททำร้าย จิตใจไป ความมั่นใจจึงลดลงไปมาก
แม่ลูก ใจถึงกัน สุดท้ายอนุฟางก็มองความคิดนางออก จึง ท่าปากยื่นปากยาว แล้วว่า
“รัชทายาทนั้น ไม่ใช่ผู้ชายปกติทั่วไปจริงๆ! อย่าเอาเรื่อง นั้นมาใส่ใจ ผู้ชายปกตินะ พอเห็นสาวงามปิดหน้าต่างขอ ความเห็นใจ จะไม่แยแสสนใจได้อย่างไร
พูดถึงตรงนี้ ก็กลอกตาไปมา ก่อนสอนนางโดยการเล่า ประสบการณ์ของคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนให้ฟัง
“ครั้งนี้ ถ้าเจ้าถูกใจชายใด…” แล้วจึงกระซิบเสียงเบาที่ข้างหูอนหว่านลง
อวิ๋นหว่านลงหน้าแดงไปถึงหู แม้รู้ว่า งานเลี้ยงสังสรรค์ ในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งของตน ชาตินี้ไม่แน่ว่าอาจ มีเพียงครั้งเดียว ถึงเสี่ยงที่จะเสียหน้าก็ต้องทํา พอฟังจบ ก็ รู้สึกร้อนผะผ่าวที่ใบหน้าขณะพยักหน้า
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ