ตอนที่ 75-5 พกยาพิษติดตัว
พระราชฐานชั้นในหรือวังหลังนั้น มีสาวงามนับไม่ถ้วน ยังไม่ ต้องพูดถึงพระสนมนางกำนัล เอาแค่นางในสาวใช้ที่หน้าตา สะสวย ก็มีอยู่ไม่น้อย และเพราะเห็นคนสวยสะพรั่ง สวยสะดุด ตามามาก ไปซิ่วฮุยจึงไม่สนใจสาวงาม นางเห็นมามากจริงๆ จนรู้สึกว่าพวกนางสวยพร่างพราวเกินไป และแปดถึงเก้าในสิบ ส่วนก็ร่วงโรยก่อนวัยอันควร
ความสวยของผู้หญิง ทางที่ดีที่สุดควรเป็นเหมือนน้ำ หวานของดอกไม้ที่หอมหวานและเข้มข้น ไหลออกมาทีละนิด เลือกที่จะปล่อยความหอมที่ทำให้คนเอะใจก่อน จากนั้นค่อย ปล่อยน้ำหอมออกมา ค่อยๆ แสดงให้เห็นบุคลิกและความ สามารถ ค่อยๆ มัดใจคน ดังนั้นดอกไม้แรกแย้มที่ยังบานไม่ หมด เฉกเช่นเด็กสาวที่ค่อยๆ เผยให้เห็นบุคลิกตรงหน้า กลับ ทำให้นางสนใจมากกว่า
เด็กสาวรูปร่างไม่สูง ยังคงมีลักษณะของเด็กอยู่ หน้าอก เล็ก เพิ่งจะนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด หน้าตาก็ใสๆ เหมือน ดอกโบตั๋นตูมที่ยังไม่บาน น้ำใสในดวงตาดุจน้ำทะเล คิ้วดก ดุจภูเขา ทั้งหมดอยู่บนใบหน้ารูปไข่ที่ขาวเนียนดุจหยก ริม ฝีปากแดงเล็กน้อย ดุจผลอ่อนเชอร์รี่ จมูกเป็นสันดุจหน่อไม้ อ่อน แต่งตัวอยู่กับบ้านแบบสบายๆ สวมเสื้อเอวลอยคอตั้งสี แดงเข้มลายผีเสื้อและดอกไม้สีขาว กับกระโปรงทอลายสีเงินมวยผมปกติ ไม่มีเครื่องประดับเงินหรือทอง เพียงปักดอกชบา ดอกเล็กๆ ไว้ด้านหน้า ยืนตรงสง่า น่ารักดุจเม็ดบัว
ความงามและความเรียบง่ายที่ผสมผสานอยู่ในตัวเด็ก
สาว ทำให้ไปช่วยที่งามเปล่งปลั่งและมีจริตแบบผู้ใหญ่มอง ไม่วางตา
แต่สิ่งที่ทำให้นางต้องหยุดฝีเท้า นอกจากบุคลิกของเด็ก สาวแล้ว ยังมีแววตาขณะมองตนที่ไม่หยิ่งและไม่นอบน้อมจน เกินไป คล้ายรู้สถานะตน แต่ไม่กลัว ไม่ลนลาน และไม่หยิ่ง ยโส…สายตาสงบนิ่ง แฝงความนัยอันลึกล้ำ รวมทั้งแววตาเช่น นี้ ตนคล้ายเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
เป็นไปไม่ได้…ไปซิ่วฮุยรวบรวมสติ
ตนเพิ่งพบหน้านางเป็นครั้งแรก จะเคยเห็นคุณหนูใหญ่ สกุลอวิ๋นได้อย่างไร
อาจเป็นเพราะเมื่อครู่ท่านพี่ร้องไห้ฟูมฟายว่าอนหวานชื่น มีส่วนทำให้กลายสภาพเป็นเช่นนี้ ตนจึงอดไม่ได้ที่จะหยุดพินิจ พิเคราะห์
ไปซิ่วฮุยรู้สึกเสมอมาว่า ในใต้หล้านอกจากฮ่องเต้กับ ฮองเฮาแล้ว ตนไม่เคยตื่นเต้นเวลาพบใครมาก่อน แต่ไม่รู้ ทำไม ตอนนี้กลับถูกดวงตาคู่นี้จ้องมองจนใจลอย จึงเอ่ยปาก ขึ้น
“เจ้าคือคุณหนูใหญ่สกุลอวิ๋นสินะ”
แล้วน้ำเสียงที่ค่อนข้างหนึ่งของหลุมอมอก็ดังมา “ท่านนี้ คือหัวหน้าไป
อนหว่านชื่นก้าวไปข้างหน้าเบาๆ พลางใช้มือม้วน เส้นผมที่ปล่อยยาวลงมาด้านข้างเล่น ท่าทางแบบเด็กบ้านๆ ก่อนยิ้มแล้วตอบรับตามมารยาท “อ้อ หัวหน้าไป
พอไปซิ่วฮุ่ยเห็นนางไม่แม้แต่จะแสดงความเคารพ ก็พลัน เข้าใจแล้วว่าเหตุใดพี่สาวถึงได้บอกว่าอนหว่านในเป็นนาง มารน้อย ตอนนั้นนางยังดูแคลนว่า กะอีแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง จะเป็นนางมารได้อย่างไรกัน ที่พี่สาวต้องตกต่ำ เป็นเพราะมัก ง่าย ไม่ระวังตัวเอง ตอนนี้พอมาเห็น ค่อยรู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น
“คุณหนูอน ท่านนี้คือหัวหน้าไปแห่งวังหลัง” หล่มอมอ เห็นสีหน้าไปซิ่วฮุยไม่สู้ดี ก็มองอวิ๋นหวานชื่นด้วยดวงตาอัน ลึกล้ำ บอกใบ้ให้นางแสดงความเคารพ “เป็นคนสนิทข้างกาย ฮองเฮา”
อวิ๋นหวานชินกะพริบตา ทำท่ามึนงง ใบหน้าคล้ายมีคำว่า “แล้วไงต่อ”
หลุมอมอพูดไม่ออก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงแค่นเสียงไม่ พอใจ แล้วว่า
“และเป็นน้องสาวของฮูหยิน ถือว่าเป็นท่านอาของเจ้า
อวิ๋นหวานชื่นค่อยยิ้มน้อยๆ ก่อนเล่นตลกต่อ ด้วยการบิด นิ้วมือไปมา พลางว่า
“ไปฮูหยินทำผิดกฎบ้านและกฎหมาย กำลังถูกท่านย่ากับ ท่านพ่อขังไว้ในห้องบูชาบรรพชน เหมือนจะเขียนหนังสืออย่า แล้วด้วย ข้าต้องทำตามกฎบ้าน จึงไม่กล้าคิดว่านางเป็นแม่ มี ฉะนั้นอาจถูกหาว่าร่วมมือกับนางทำผิดกฎบ้าน เมื่อช้าไม่มี ท่านแม่แล้ว จะมีท่านอางอกออกมาได้อย่างไรกัน
“เจ้า…. หมอมอชี้หน้าอนหวานชื่น
ท่าทางใสซื่อบริสุทธิ์ บวกกับคำพูดที่ไม่มีทางตำหนิ ไป ช่วยจึงไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรดี เด็กนี่ อาจมิได้ทำท่าทางเช่น นี้กับพี่สาว ส่วนพี่เขยกับท่านย่า ก็อาจเป็นอีกแบบ ตอนนี้ตน นับว่าเชื่อพี่สาวแล้ว เจ้าเล่ห์กลิ้งกลอกจริงๆ!
ไปช่วยหัวเราะเย็นชา แล้วว่า “แม่นางน้อย อย่านึกว่า อยู่ในบ้านตีลังกาได้ที่สองที ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นปลาหลีฮือ กระโดดข้ามประตูมังกรได้แล้ว”
พูดเสียลึกซึ้งขนาดนี้ คิดว่าจะข่มคนที่ไม่เคยเข้าวังได้หรือ อนหว่านชิ้นพลันก้าวเข้าหาไปซิ่วฮุยสองก้าว เอียงศีรษะเล็ก น้อย เห็นแก้มชมพูที่ยังคงความน่ารักแบบเด็กๆ ก่อนส่งเสียง หัวเราะดุจระฆังเงินออกมา
“ข้ารู้แต่เพียงว่า ต่อให้ปลาหลีฮือกระโดดข้ามประตูมังกร ไปได้ ก็อาจถูกปลาใหญ่กินได้ทุกเมื่อ ในวังคลื่นลมแรง หัวหน้าไปควรดูแลตัวเองให้ดี ดอกไม้ใช่ว่าจะหอมได้ตลอด คนใช่ว่าจะสบายได้ตลอด ช่วงสงบสุขก็ควรสวดมนต์ให้มาก หวังว่าท่านจะปกป้องไปฮูหยินได้ตลอดไป!
ไปช่วยยกมุมปากข้างหนึ่งขึ้น แล้วหรี่ตาลง เด็กสาว กำลังสาปแช่งว่าตนอาจอยู่ในวังได้ไม่นาน จึงมองกลับด้วย สายตาดุจคมมีด “เด็กน้อย เจ้าก็ควรจะดีใจนะว่า ตอนนี้เจ้าไม่ ได้อยู่ในวัง
แล้วจึงสะบัดแขนเสื้อ กำลังจะเดินจาก แต่อนหวานชื่น กลับดึงแขนเสื้อนางไว้
“เอ๋ หัวหน้าไปจะไปแล้วหรือ เป็นเพราะออกนอกวัง เป็นการส่วนตัวใช่ไหม ถึงต้องรีบกลับไป มิเช่นนั้นถ้าถูก พบเห็นจะถูกลงโทษ? เช่นนั้นระหว่างทางก็ต้องระวังหน่อย อย่าให้ใครพบเห็นจนไปบอกเจ้านายได้ล่ะ!”
ไปช่วยรู้สึกเคือง จึงออกแรงสลัดแขนเสื้อที่ถูกดึงออก แค่นเสียงเย็นชา แล้วเดินนำหน้าหลี่มอมอ ก้าวออกจากซุ้ม ประตูไป
ชูซย่าที่ยืนอยู่หลังซุ้มประตูมองตามหัวหน้าไปไปสักพัก แล้วรีบก้าวเข้ามา หัวเราะแล้วว่า
“คุณหนูเจ้าคะ ถึงคนในวังร้ายกาจอย่างไร ก็ข่มคุณหนู ไม่ได้” พูดถึงตรงนี้ก็หยุดเล็กน้อย แล้วพูดต่อ
อย่างกังวลใจ “แต่ นางจะเกลียดคุณหนูฝังใจ แล้วแก้ แค้นนี่สิ ครั้งก่อนก็คุณหนูรอง ครั้งนี้ยังเป็นฮูหยินอีก บ่าวเห็น พอดีว่า นางน่ะเดินกร่าง แบบเจ้าแม่ในวังที่ไม่กลัวฟ้าไม่กลัว ดินเชียว”
อนหวานชื่นยิ้มน้อยๆ “ต่อให้เกลียดฝังใจ ก็เกลียด ตั้งแต่เกิดเรื่องกับพี่สาวนางแล้ว จะมาเกลียดที่ข้าค่อนขอด นางหรือ เจ้าวางใจ สาวใช้คนโปรดที่เจ้าเห็นเมื่อครู่ ไม่มีทาง เป็นคนโปรดได้ตลอดไปหรอก นี่เป็นกฎที่ใครๆ ก็ไม่สามารถ หลีกหนีพ้น ผู้ที่มีชีวิตอยู่ด้วยการพึ่งพาผู้อื่น พึ่งพาไม่ได้เป็น ที่สุด เพราะพอที่พึ่งล้ม คนผู้นี้ก็ต้องล้มตาม ซูซย่า นางเบ่งได้ ไม่นานหรอก”
พูดถึงตรงนี้ อวิ๋นหว่านชิ้นก็ยิ้มค้าง ถอนหายใจเบาๆ ออกมา ถ้าเป็นไปตามชาติที่แล้ว รัชสมัยของหนังซีฮ่องเต้ กำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่ปี…และเจียงฮองเฮาก็ดูเหมือนจะ สวรรคตขณะที่หนังซีฮ่องเต้ยังอยู่ในบัลลังก์
แม้นางไม่รู้รายละเอียด แต่กลับรู้ว่า ถ้าไม่มีเจ้านายแล้ว ไปช่วยยังจะไต่ไปถึงไหนได้
เมื่อซูซย่าเห็นคุณหนูดูมั่นใจมาก ไม่กลัวหัวหน้าไปนั่น แม้แต่น้อย จึงไม่คิดมากอีก แต่ความคิดบางอย่างพลันวาบขึ้น
“คุณหนูเจ้าคะ บ่าวเห็นท่านดึงแขนเสื้อหัวหน้าไปไว้ เหมือนใส่อะไรเข้าไป คืออะไรหรือเจ้าคะ
อนหว่านในกะพริบตาปริบๆ “เมื่อเช้าตอนทำสมุนไพร ในห้อง มีสมุนไพรบางอย่างติดกระเป๋าข้ามา ถือว่าเป็นของ ขวัญแรกพบก็แล้วกัน ให้หัวหน้าไปพักของติดตัวเข้าวังนิด หน่อย”
ชูซย่าอึ้ง “คือ…คือสมุนไพรอะไรหรือเจ้าคะ
“ไม่มีอะไร ดอกลำโพงไม่กี่ดอกเอง” อวิ๋นหวานชื่นหัวเราะ
ดอกไม้ชนิดนี้พบเห็นน้อยมาก ในเมืองหลวง บ้านสวน โย่วเสียนเดิมทีก็ไม่ได้ปลูก แต่พอดีหลายวันก่อน ญาติคนหนึ่ง ที่บ้านสวนมีบ่าวรับใช้ที่เพิ่งกลับจากบ้านเกิดทางตะวันตก เฉียงใต้ แล้วเอาเมล็ดพันธุ์ดอกไม้หลายชนิดมาฝาก หูต้าชวน จึงลองเอามาปลูกในกระถางเล็กๆ ไม่กี่ชนิด พอนางรู้ ก็บอก ให้คนนำติดมาให้นิดหน่อย
ซูซย่าอ้าปากค้าง นางติดตามคุณหนูมานาน จนเข้าใจ ความรู้สึกๆ เกี่ยวกับดอกไม้ไม่น้อย นับประสาอะไรกับดอก ลำโพงอันเลื่องชื่อที่ชาวบ้านร้านตลาดยังรู้จัก
ดอกลำโพงนั้น ถ้าเอาแกน เกสร และก้านดอกออก เอาแต่กลีบดอกบดเป็นผง เติมน้ำให้เจือจาง ผสมเพียงเล็ก น้อยลงในสมุนไพรเกี่ยวกับความงาม สามารถเพิ่มความขาว ให้กับผิวได้โดยไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งคุณหนูมักใช้เป็นหนึ่งใน ส่วนผสมของสูตรเครื่องสำอาง
แต่ถ้าใช้ทั้งดอก ก็คือยาพิษดีๆ นี่เอง และนี่ก็เป็นสาเหตุ ที่ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้เลื่องชื่อระบือไกล
โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่คือเศรษฐีเจ้าสำราญ ในต้าเซวียน ที่มัก ฝากคนจากตะวันตกเฉียงใต้ซื้อผงชนิดหนึ่ง เอามาสูบกับ กล้องยาสูบ แล้วจะออกฤทธิ์แรงกว่าผงห้าศิลา ซึ่งถ้าเสพติด ยากที่จะเลิก ต้องเสพไปตลอดชีวิต
ผงเสพติดชนิดนี้ ส่วนใหญ่กลั่นมาจากดอกลำโพง
และวังหลังก็เป็นสถานที่ต้องห้าม จะอนุญาตให้ดอกไม้
พิษเช่นนี้ปรากฏได้อย่างไร
ถ้าหัวหน้าไปพกของมีพิษเข้าวัง ก็ได้แต่ขอให้นางโชคดี
สามารถพบและทำลายมันได้ก่อน เพราะถ้าไม่
ทันระวัง ถูกคนนอกพบเข้า…ต่อให้เป็นบ่าวคนสนิทข้าง กายฮองเฮา ก็ต้องถูกลงโทษแน่
อีกทั้งนางยังออกนอกวังเป็นการส่วนตัว ย่อมไม่กล้า อธิบายอะไร คงได้แต่ฝืนทน กลืนความจริงลงท้อง พูดไม่ได้ว่า ถูกคนให้ร้าย
ชูซย่าสูดลมหายใจเข้าปอด
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ