ตอนที่ 75-4 พกยาพิษติดตัว
ถ้าทำตามความประสงค์ของบิดา อย่างน้อยระหว่างรอการ แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ หรือยังไม่มีความแน่นอนในตำแหน่ง เจ้ากรม ต้องจัดให้คนในวังเห็นว่า ไปฮูหยินอยู่ดีมีสุขในบ้าน สกุลอวิ๋น
อนหวานชิ้นเลิกคิ้วสวย ก่อนพูดให้กระชับและได้ใจ ความ “ท่านพ่อสามารถต่อเติมห้องหลังเล็กๆ ขึ้นที่สวนหลัง บ้าน อัญเชิญพระพุทธรูปและธูปเทียนไปวาง แล้วบอกกับคน ภายนอกว่า ฮูหยินเพิ่งแท้งลูก หัวใจสลาย เศร้าโศกมิคลาย จึงขอมาอยู่ในห้องพระ เพื่อสงบจิตสงบใจสักระยะ
ชะงักเล็กน้อย แล้วใช้ดวงตาสวยๆ แฝงความรู้สึก ดูแคลนไม่มากก็น้อย มองอวิ๋นเสวียนนั่ง
“ข้อแรก ท่านแม่ยังคงเป็นฮูหยินสกุลอวิ๋น ท่านพ่อจะได้ บอกกับผู้สูงศักดิ์ได้อย่างเต็มปาก ข้อสอง สามารถลดทอน อำนาจของท่านแม่ลง
“ดี!” ถึงฮูหยินร้องออกมาทันที ด้วยสามารถทำให้หญิง
ชั่วเข้าไปอยู่ในวังเย็นได้ในที่สุด ชื่อคง แต่อำนาจสลาย!
อวิ๋นเสวียนนั่งยอมรับความคิดของลูกสาว เพียงแต่รู้สึก ว่าสายตาที่พุ่งมองมาที่ตนอย่างรวดเร็วดุจสายรุ้งนั้น เยือกเย็นดุจหิมะ ถึงอยากหลบก็หลบไม่พ้น นั่นเป็นสายตาดูหมิ่น เหยียดหยามที่ไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
ทว่าผิดคาด เขาไม่โกรธ
ดูหมิ่นเหยียดหยาม…ลูกสาวคนหนึ่งที่อ่าน ใช้สายตาเช่นนี้ มองผู้มีอำนาจมากสุดในบ้าน ถ้าไม่ใช่ลูกสาวที่ไม่มีมันสมอง และไม่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยมาก่อน ก็ต้องเป็น…
ลูกสาวคนนี้ จับจุดอ่อนของผู้ใหญ่อย่างตนได้หมดเปลือก
แน่นอน สิ่งที่ลูกสาวเสนอมา เขาไม่สามารถโต้เถียง
ลูกสาวคนนี้ ยังไม่บรรลุนิติภาวะแท้ๆ แม้เคยดูแลเรื่อง หลังบ้านอยู่ระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ยังเป็นเด็ก ตอนนี้ไม่รู้ไป เอาความคิดมาจากไหน
ถ้าพูดถึงรูปโฉม นางยังคงเป็นดอกไม้แรกแย้ม แต่ถ้า มองดูให้ดีๆ ดวงตาที่ใสกระจ่างดุจน้ำค้างในฤดูใบไม้ผลินั้น กลับคล้ายผู้ใหญ่ที่เคยผ่านประสบการณ์มายาวนาน
หลายปีมานี้ เขาได้แต่สนใจว่าหน้าที่การงานของตนจะ ราบรื่นหรือไม่ จึงไม่ค่อยได้ใส่ใจลูกๆ เสียเท่าไหร่ กระทั่ง ลูกชายเพียงคนเดียว ก็ยังมอบให้ไปฮูหยิน อาจารย์และเด็ก รับใช้เป็นผู้จัดการดูแล นับประสาอะไรกับลูกสาว ก่อนหน้านี้ แม้รู้สึกว่าอุปนิสัยของลูกสาวเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ คิดมากอะไร
ตอนนี้ไม่รู้ทำไม อวิ๋นเสวียนนั่งกลับเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้อยู่ในสายตาขึ้นมา
อายุน้อยขนาดนี้ แต่พลังอำนาจที่ซ่อนอยู่ภายใน ราวกับ จวนรองเจ้ากรมเล็กๆ นี้จะเอานางไม่อยู่…
พลังเช่นนี้ ไม่เหมือนตนเอง ไม่เหมือนสวีฮูหยินภรรยาคน ก่อน แต่กลับเหมือนคนผู้นั้น….
พอเถอะ อวิ๋นเสวียนนั่งเก็บอารมณ์ความคิด พยักหน้า แล้วขยับลูกกระเดือก
“ในเมื่อท่านแม่บอกว่าดี ก็ทำตามความคิดของชิ้นเอ๋อร์ แล้วกัน เรื่องต่อเติมห้องพระ ข้าจะบอกให้ใคไหลไปเรียกช่าง มาออกแบบ แล้วรีบจัดการโดยเร็ว
ห้องเล็กข้างห้องบูชาบรรพชน
ไปเสวี่ยฮุยได้รับการชำระล้างร่างกายจนสะอาดสะอ้านนั่ง หลังตรง จับมือมอมอคนหนึ่งไว้ ยังคงเหลือเชื่อ ดวงตาใน เบ้าตาทอประกาย แล้วกะพริบปริบๆ ตื่นเต้นจนพูดจาสะเปะสะ ปะ
“ท่านพี่ให้อภัยข้าแล้วใช่ไหม ไม่มีเรื่องแล้วใช่ไหม ไม่ หย่ากับข้าแล้ว ใช่หรือไม่ แล้วเมื่อไหร่ข้าจะได้ย้ายกลับเรือน หลัก”
จากนั้นก็หันไปสั่งอาเถาอย่างกระตือรือร้น “เร็วเข้า ไป
เอากระจกมาหน่อย ข้าจะแต่งหน้า เดี๋ยวเจอท่านพี่แบบนี้ จะทําอย่างไรดี
อาเถากับมอมอหันมาสบตากัน ต่างคนต่างพูดไม่ออก จริงๆ ด้วยจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เห็นนายท่านบอกว่าจะให้ฮูหยิน ย้ายกลับไป และไม่ได้บอกว่าจะพบฮูหยิน
ขณะทั้งสองกำลังพยักพเยิดให้อีกฝ่ายเป็นคนพูด ประตู เปิดออก แสงส่องเข้ามา ทำให้ห้องน้อยที่มืดและแคบสว่าง กว่าเดิม
ร่างเพรียวบางร่างหนึ่งสาวเท้าเข้ามา แล้วตรงไปหาไปเส วี่ยฮุย สำรวจมองนางจากหัวจรดเท้าสักพัก ก็ย่อตัวลง สวมกอดนางไว้
หลายปีแล้วที่ไม่ได้พบหน้า ครั้งก่อนที่พบเจอกัน เป็นวัน เฉลิมพระชนมพรรษาหนึ่งซีฮ่องเต้ ฮองเฮาทรงพระเมตตา ผ่อนปรนให้ผู้มีตำแหน่งสูง ในวังหลัง ได้พบปะกับญาติที่ประตู หวาชิง
ตอนนั้น พี่สาวกับพี่เขยเพิ่งรักกัน พอความสัมพันธ์ถูก เปิดเผย พี่เขยเกรงว่าจะไม่ธรรมกับพี่สาว จึงรีบรับนางเข้าเป็น อนุจวนรองเจ้ากรม ตั้งแต่นั้นมา เมียหลวงก็ถูกทิ้งให้อยู่อย่าง โดดเดี่ยว กลับกลายเป็นพี่สาวที่เป็นคนโปรดอันดับหนึ่งของพี่ เขยแทน นางจึงมีความสุขมาก ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี สวยสด งดงามยิ่ง วันนั้นตอนได้เจอกันที่ประตูวัง ด้านหลังของพี่สาว ยังมีบ่าวรับใช้ติดสอยห้อยตามมามากมาย เพื่อทำหน้าที่หาม เกี้ยวขนาดใหญ่ ดูแล้วเหมือนอนุเสียที่ไหนกัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ตอนนั้นพี่สาวมีชีวิตอยู่อย่างสมบูรณ์พูนสุข
ตอนนั้นสองพี่น้องต่างก็มีเรื่องสุขใจมาเล่าสู่กันฟัง มากมาย สบายอกสบายใจไร้กังวล ที่หน้าประตูหวาชิง ทั้ง สองจึงตั้งเป้าหมายในชีวิต คนหนึ่งบอกว่าจะสู้เพื่อให้ได้เลื่อน ขึ้นแทนที่ตำแหน่งฮูหยินให้ได้ อีกคนบอกว่าจะสู้เพื่อให้ได้ ตำแหน่งสูงยิ่งๆ ขึ้นไป จนได้เป็นคนสนิทที่มีตำแหน่งสูงสุดใน วังหลัง จากนั้นอีกหลายปี ทั้งสองก็ทำตามเป้าหมายที่วางเอา ไว้ได้
เดิมที่คิดว่า เมื่อวันเวลาดีๆ มาถึง ก็จะมีความมั่นคงใน ชีวิตเฉกเช่นอาคารที่มั่นคง โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าอาคารจะ เอียงกระเท่เร่!
วันนี้พอได้เห็นกับตา ไปช่วยจึงตกใจไม่หาย แก้มชมพู ของพี่สาวหายไป เป็นเช่นดังหญิงสูงวัยที่เข้าสู่สภาวะโรยรา แต่พี่สาวอายุเพียงยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดเท่านั้น!
ไปซิ่วฮุยไม่รอให้บ่าวในจวนก้าวออกจากห้อง ก็เปล่งน้ำ เสียงอันเศร้าสร้อยออกมา “ท่านพี่
หน้าประตู มีเสียงเข้มๆ ของหญิงสูงอายุดัง “ออกมาเร็ว!
อาเถากับมอมอรู้เรื่องนี้ เพราะนายท่านเพิ่งบอกว่าเดี๋ยว จะมีแขกมา ทั้งสองจึงหันไปมองแวบหนึ่งด้วยความอยากรู้ อยากเห็น และเห็นว่าผู้มาเป็นหญิงสาวอายุราวยี่สิบต้นๆ ด้าน หลังดูสง่างาม มวยผมแบบสาวชาววัง สวมชุดกระโปรงรัดเอว สีน้ำทะเล ไม่เหมือนเสื้อผ้าแบบสาวชาวบ้านทั่วไป จึงพอจะเดาได้บ้าง แต่ก็ไม่กล้าถามมาก รีบก้าวออกจากห้องไป หมอมอแอบออกจากวังมาจวนรองเจ้ากรมเป็นเพื่อน
หัวหน้าไป ตอนนี้พอไล่บ่าวออกไปเรียบร้อย ก็พูดเสียงเบา “หัวหน้าไป รีบหน่อยนะ อย่างมากครึ่งชั่วยามก็ต้องกลับวัง แล้ว!”
ครั้งนี้ตนฉวยโอกาสช่วงออกมาซื้อของนอกวัง แล้วให้ หัวหน้าไปแต่งตัวแบบสาวใช้ในวังตามออกมาด้วย ซึ่งผิดกฎ ระเบียบ ถ้าใครรู้เข้า ต้องถูกลงโทษ จึงต้องรีบกลับไปให้เร็ว เป็นดีที่สุด
พอประตูปิด ห้องก็มืดลง
ไปเสงี่ยฮุยได้สติ พอเห็นว่าเป็นน้องสาว ก็กอดนางไว้ พลางร้องไห้อย่างเจ็บปวดออกมา
ท่ามกลางเสียงสะอื้นไห้ในลมฝนอันเศร้าโศก ไปเสงี่ยฮุย ได้ยินเพียงเสียงนิ่งเย็นดังเข้ามาในหู
“ท่านพี่ เรื่องยังไม่ถึงที่สุด ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ น้อง อยากบอกท่านว่า ปล่อยวางสถานะก่อน แล้วรอโอกาสพลิก สถานการณ์”
ในห้องรับแขก
หลังหารือเสร็จ ถึงฮูหยินที่สูญเสียพลังไปไม่น้อย อีกทั้ง ยังเคืองลูกชายอยู่นิดหน่อย ก็รู้สึกอ่อนเพลียมาก อวิ๋นหว่านชิ้นจึงพาท่านย่าไปส่งที่เรือนตะวันตก
แต่เดินออกมาได้ไม่กี่ก้าว ก็ตัดสินใจเลี้ยว เพื่อไปยังห้อง บูชาบรรพชน
พอเดินได้ครึ่งทาง ยังไม่ทันได้ก้าวเข้าไป เดี๋ยวเอ๋อร์ก็รีบ วิ่งเข้ามาหา แล้วป้องปากรายงาน
“คุณหนูใหญ่ หัวหน้าไปที่อยู่ในวังมาแล้ว!
ทว่าอนหวานชิ้นยังไม่ทันได้พูดอะไร ด้านหน้าก็มีคนเดิน เข้ามา เป็นไปซิ่วฮุยที่เพิ่งเสร็จจากการเยี่ยมพี่สาวและกำลัง เดินกลับวังทางเดิม
ทั้งสองกำลังจะเผชิญหน้ากัน
อวิ๋นหว่านชิ้นส่งสายตา ให้เมี่ยวเอ๋อร์หลบไปด้านหลัง ส่วนตนก็ยืนอยู่ที่เดิม
ชุดกระโปรงรัดเอวสีน้ำทะเล เป็นชุดที่สาวใช้ในวังใส่ ออกนอกวังมาทำธุระ แม้นางไม่เคยเข้าวัง และไม่เคยมีเพื่อน เป็นสาวชาววัง แต่ชาติก่อนตอนอยู่ที่วัดเชียงกั่ว ตนเคยเห็นผู้ ติดตามด้านหลังโอรสสวรรค์แต่งกายแบบนี้ เหมือนกันทั้งแบบ เสื้อและลายผ้า
รูปร่างหน้าตาและท่าทางไปซิ่วฮุย มีส่วนคล้ายไปเสวี่ย
ยอยู่เจ็ดแปดส่วน งดงาม ผอมเพรียว สูงโปร่ง เย็นชา เพียง อ่อนเยาว์กว่าบ้าง ความคิดความรู้สึกในแววตาลึกยิ่ง จนดู ไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ มีบุคลิกที่สามารถกดดันคนจนหายใจไม่ออก
มิน่าเล่า เป็นเพราะการใช้ชีวิตในวังหลัง ยากลำบากกว่า อยู่ในบ้านมาก โดยเฉพาะ สาวใช้ที่สามารถปืน
ขึ้นมาได้สูงขนาดนี้ ง่ายเสียที่ไหน
แล้วไปซิ่วฮุยกับหลุมอมอก็เดินมาถึง แม้ไปซิ่วฮุยมิได้พินิจพิจารณาดู ก็พอจะรู้ว่าผู้ที่อยู่ตรง หน้าคือใคร
เมื่อหลานของตนออกเรือน ไม่อยู่บ้านแล้ว ลักษณะการ แต่งตัวเช่นนี้ เด็กสาวอายุเท่านี้ ทั้งจวนรองเจ้ากรม นอกจาก ลูกสาวคนโตที่ฮูหยินผู้ล่วงลับทิ้งไว้แล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีก
แต่พอเดินเข้าใกล้ ไป๋ซิ่วฮุยกลับเอะใจอย่างอดไม่ได้
แม้นางเคยเห็นคนสวยมามากจนชิน แต่บุคลิกของเด็ก สาวตรงหน้า ยังคงทำให้นางอดไม่ได้ที่จะชะลอฝีเท้า แล้ว พิจารณาดูใหม่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ