บทที่ 6 นางกากี
6
นางกากี
“อ๊า อ๊ะ” พรรณชมพูกรีดเสียงครางจนตัวสั่น ยกขาขึ้นวางไว้ บนบ่าของนายจ้าง ปลายเท้าจิกเกร็งเหมือนมือที่งอกขยุ้ม เรือนผมสั้นๆ ของคุณวายุกระชากรุนแรงจนชายหนุ่มรู้สึกเจ็บ หนังหัว
แต่วายุก็พอใจนักกับแรงอารมณ์ที่เตลิดเพริดจนกู่ไม่กลับ หมูชมพูของเขายังแทบจะหักคอเขาด้วยต้นขาที่หนีบศีรษะของ เขาเอาไว้ กลิ่นน้ำรักของพรรณชมพูหอมหวาน วาดื่มกินอย่าง ตะกละตะกลามปากลิ้นไปทั่วซอกเนื้ออุ่นสีแดงสด น้ำรักเอ่อล้น ก่อนทะลักทะลายเหมือนเขื่อนแตก
“มาแล้ว คุณวายุ อะ อ๊ะ กรี๊ดดดด”
อารมณ์ที่ระเบิดพร่างราวกับมีใครจุดพลุอยู่ในหัว ความชา หนีบเกาะกินไปทั่วร่าง ริมฝีปากของพรรณชมพูก็ชาจนไม่รู้สึก เจ็บยามที่กัด เธอกำลังเสพสุข หลงใหลอยู่ในบทเพลงกามาที่ วายุปรุงแต่งให้ซาบซ่าไม่แพ้พี่เสือ
นางกากี!
พรรณชมพูกำลังสวมวิญญาณนางกากี ตอนนี้เธอมีสองตัว ใช่ เธอกำลังมีสามีคนที่สอง เสียใจที่ทำตัวร่านทั้งที่เป็นลูกผู้ดี เธอผิดที่ติดใจในรสสวาทไม่ว่ามันจะเกิดด้วยน้ำมือใคร แค่ใคร สักคนมอบความสุขเขียนคลั่งให้เธอได้ ความพอใจก็ยืนรออยู่ ตรงหน้าไม่ต่างจากนางกากี
ร่างอวบถูกซ้อนขึ้น เธออ่อนเปลี้ยจนทิ้งตัวอยู่ในอ้อมอกของ วายุ เขาวางเธอบนโซฟา ตวัดต้นขาของเธอพาดไปบนพนัก กระโปรงของเธอยังถูกตลบขึ้นสูง และหลังจากนั้นลิ้นหนาก็แทง ทะลวงสาวให้ซ่านเสียว
“อ๊า คุณวาย พอเถอะค่ะ ชมพูเสียว ซี้ดดดด”
เธอกำลังจะขาดใจตาย ลิ้นหนาที่ละเลงเพลงกามไปทั่วกลีบ เนื้อนุ่ม มันลื่นไปด้วยน้ำลายของเขาบวกกับน้ำสาวที่แตกซ่าน ของเธอ ลิ้นสว่านควงแรกนุ่มเนื้อ สะบัดพลิ้วไปบนตึงกระสัน มือของวายุบีบเคล้นเต้าเต่งนุ่มหยุ่นอย่างเมามัน
พรรณชมพูกระดกบั้นท้ายลอยละลิ่ว ต้องโทษวายุที่ทำให้ เธอลืมสิ้นความอาย โคกบุปผชาติร่อนไปมาอยู่ใต้ริมฝีปากหนา ของเขา
“โอวววว พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว อ๊า”
วายุดื่มธารน้ำสาวจนปากเปียกก็ลุกขึ้นรูดซิปกางเกงแล้วงัด มังกรออกมา พรรณชมพูเห็นล่ามังกรอบ ใหญ่เหมือนของพี่เสือไม่มีผิด เธอลุกขึ้นนั่งแล้วซุกหน้าเข้าหา แท่งเนื้อที่แข็งดั่งเหล็กเส้น
“ซี้ดดดดด โอวววว สุดยอดดด
ความเป็นชายของวายุกระทั่งอยู่ในอุ้งปากเล็ก พรรณชมพู ดูดดุนกลืนกินล่ามังกรเขื่อง ยิ่งสวาปามมันก็ยิ่งสู้ปาก แข็งแกร่งไม่ต่างจากเจ้าของ
“อา” วายุยังครางไม่หยุด ดวงตาหรี่หรือมองแก้มตอบๆ ยามดูดกลืนความเป็นชายเข้าปาก มองแก่นกายที่หายเข้าไปใน ปากเล็กๆ แล้วให้รู้สึกรักเธอจัง ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึกดีขนาดนี้ มาก่อน
มือใหญ่สองมือกระชากศีรษะสวยเข้าหาลำตัว แก่นกาย อวบยาวกระทุ้งยืนคอหอย พรรณชมพูต้องขย้อนมันออกมาแล้ว ดูดมันเข้าไปใหม่ หลงลืมสิ้นทุกจิตสำนึก
ร่างของเธอถูกฉุดขึ้นหมุนไปตามแรงเหวี่ยงเบาๆ กระทั่ง เนื้อตัวอวบอัดล้มไปบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ เบื้องหน้าของเธอ เป็นกระจกใสไม่ปิดม่าน และวายุก็ไม่อยากปิด
เขากระชากเรียวขาสวยอวบให้พาดบ่า จรดจ่อแก่นแยเข้ากับถ้ำสวาทที่จะพาขึ้นสวรรค์
“เจ็บค่ะ” เธอร้องเพราะยังเจ็บ ความใหญ่ของพี่เสือทำให้ เธอเจ็บค้างอยู่หลายวัน
“ทนนิดนะ ผมจะไม่ทำให้คุณเจ็บนานหรอกคนดี”
มังกรของวายุเคลื่อนหายเข้าไปในถ้ำสวรรค์ทีละนิด จนถึงกลางล่า เขาก็ตัดสินใจผลักสะโพกอัดแรงๆ ให้ลึกที่สุด ร่องเนื้อนุ่มขยายรับความใหญ่โต ตอดรัดทันทีเสียด้วย
“โอวววว”
“อ๊า”
พรรณชมพูครางไม่เป็นศัพท์ แสงสว่างจากภายนอกทำให้ ต้องปรือตามองออกไป ไกลออกไปไม่มีตึกสูงเท่ากัน เธอควร ดีใจไหมที่จะไม่มีคนเห็นเธอเกือบเปลือย ส่วนเขายังมีเสื้อผ้า ครบชุด แค่ความเป็นชายถูกงัดออกมาจากรังผ้าเท่านั้น
“ถอดกางเกง”
“ว่าไงนะ”
“ไม่ยุติธรรม ซี้ดดดด ในขณะที่ฉัน เทียบ จะเปลือย อ๊า” เธอ หอบหายใจทรวงกระเพื่อมหนักหน่วง “คุณต้องถอดบ้าง
วายเอียงคอนิดๆ
“ไม่ยักรู้ คุณก็ชอบเอ้าท์ดอร์” เขาพยักหน้าหงิกหงัก ปลด กางเกงออกจากตัว เอาไปพาดไว้บนโซฟาไม่ให้มันยับ “พอใจ หรือยังคนสวย”
พรรณชมพูพยักหน้าอ้าแขนกว้าง วายุพุ่งตัวเข้าไปกระหน่ำ ซอยสะโพกโยกแก่นกายเพิ่มความเสียว เก้าอี้หนังชนิดมีล้อ เลื่อนขยับถอยไปชิดริมห้อง ตรงนั้นมีผ้าม่านหนาสีน้ำตาลไหม้ ถูกรัดเอาไว้เรียบร้อย
ร่างอิ่มถูกดึงขึ้นจากเก้าอี้ พรรณชมพูตัวหมุนคว้างก่อนแผ่น หลังจะเบียดกระจกเย็นเฉียบ ริมฝีปากหนารุ่มร้อนบดขยี้กลีบ ปากรูปคันศร มือตลบชายกระโปรงจนบั้นท้ายเปลือยเบียดเสียด กระจกใส
“ให้คนข้างล่างเห็นไปเลยก้นคุณสวยแค่ไหน
บั้นท้ายสองลูกกลมกลึงสายไหวเหมือนใบไม้ มือหนาบีบ เคล้นก่อนจะกดปลายนิ้วเข้ากลางร่องลึก
“อืม”
“ชอบสินะหมูชมพูตัวน่ารัก
ทรวงอกกลมใหญ่หายเข้าไปในปากอุ่น พรรณชมพูยืดตัว เหยียดแขนให้เขาฟอนเฟ้นตามใจ เซ็กส์ของใครเร่าร้อนกว่ากัน เธอตอบไม่ได้เพราะแยกกันแทบไม่ออก นอกจากคุณวายุจะชอบโชว์ความตื่นเต้นมากกว่าพี่เสือนิด
นึง
“ก้มโค้งให้ผมหน่อยที่รัก”
พรรณชมพูหันหลังแล้วก้มโค้งเอามือยันกระจกใสแล้วคว้า ผ้าม่านบังร่างไว้ครึ่งๆ โดยเฉพาะใบหน้า บั้นท้ายงอนเด่นถูกลิ้น สากตวัดเลียกลีบกายอวบอูมเป็นพลูเปียกน่าลุ่มหลง
“อ๊า เสียวจังคะ” เธอถ่างขาออกให้กว้าง
วายุเลื่อนตัวลงนั่งกดริมฝีปากละเลงกลีบเนื้อนุ่มไปมา พรรณชมพูส่ายสะโพกร่อนสวาท เสียวเสียดทะลวงเข้าไปถึงใน ท้อง
เมื่อน้ำสาวไหลเป็นทางยาว วายุก็ลุกขึ้นกดจรวดมิดไซน์เข้า สู่ถ้ำสวรรค์ เขาเท้าแขนหัวพรรณชมพูกระหน่ำแทงจรวดจน มิด พวงสวรรค์สะบัดอัดกลีบเนื้ออันบอบบางระรัว
“โอ้ววว”
“อ๊ะ ซี้ดดดดด”
“คุณวายุ ชมพูจะถึงอีกแล้ว
วายุถอดเรือนกายออกพรวด ไม่ให้อารมณ์ของพรรณชมพู สูงสุดขีด จับเธอหันหน้าเข้าหากันยกขาอวบข้างหนึ่งขึ้น ตัวตน อันแข็งกร้าวกระแทกกระทั้นร้องสาว
“ผลักๆ” เนื้อกระแทกเนื้อดังลั่นห้อง จนไม่ได้ยินเสียงคน เคาะประตู ไม่รับสายโทรศัพท์และปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น ในเมื่อเจ้านายเธอยังไม่ใส่ใจแล้วเธอเล่าจะใส่ใจทำไม
“แรงๆ เลยค่ะคุณวายุ ชมพูเสียวมาก ซี้ดดดดด อ๊ะ”
“ได้อยู่แล้วทูนหัว”
สองคนยังคงซัดกันนัวอยู่ในห้องทำงานกว้างขวาง กว่าทุก อย่างจะสิ้นสุดก็ทำเอาพรรณชมพูทรวดฮวบลงไปกองกับพื้น วายุมองแรงอารมณ์ที่เขาฉีดเข้าไปในร่างเธอแล้วตอนนี้มันก็ ไหลออกมาเป็นสาย เมื่อเขาถอดถอนตัวเองออกจากเธอ
วายุต้องอุ้มพรรณชมพูไปนั่งที่ จัดเสื้อผ้าของเธอให้ เรียบร้อย ก่อนจะรีบเต่งตัว ทุกอย่างเฉียบเหมือนเดิมยกเว้น สภาพห้องทำงานที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำกาม วายุหยิบส เปรย์ปรับอากาศมาฉีดแม้จะชอบกลิ่นนี้ขนาดไหนก็ยังต้องดับ เพราะที่นี่เป็นห้องทำงานไม่ใช่ห้องนอน
“ไหวมั้ย” เขาก้มจูบขมับชื้นๆ ของคนที่ซบหน้าลงกับโต๊ะ พรรณชมพูพยักหน้า ร่างกายของเธอเดี๋ยวก็กลับเข้าที่ แต่ใจของเธอนี่มันเหมือนจะลอยไปเกาะอยู่บนแผงอก ของเขา
“ผมจะเข้าโรงงาน คุณอยู่ที่นี่นะ แล้วตอนเย็นผมจะไปส่งถึง
บ้าน”
“ไม่เป็นไรค่ะ ชมพูเอารถมา
“ถึงยังไงก็ต้องรอผมนะรู้มั้ย แล้วผมจะรีบกลับ ผมมีเรื่องจะ บอกคุณ”
เพราะถึงจะพูดไป วายุก็คงไม่รับคำปฏิเสธของเธอ พรรณ ชมพูจึงพยักหน้าเงียบๆ
“ผมจะบอกข้างนอกว่าไม่อยู่ ส่วนคุณไม่สบาย ถ้าไม่มีงาน
ด่วนก็อย่ารบกวนแล้วกันนะ”
“ค่ะ”
วายุออกไปแล้วและไม่ใส่แว่นตาออกไปด้วย แต่พรรณชมพู ก็ไม่ได้เห็นใบหน้าของเขา เพราะกว่าเธอจะดึงตัวขึ้นจากท่านั่ง คุดคู้ เจ้านายของเธอก็หายไปจากห้องเสียแล้ว
วายุออกอาการเหมือนคนถูกผีเข้า เมื่อกลับมาออฟฟิศแล้ว
ไม่เจอพรรณชมพู เจอแต่จดหมายลาออกที่เธอวางไว้บนโต๊ะ ทํางานของเขา
เรียน คุณวายุ วัฒนาภักดี
ดิฉัน นางสาวพรรณชมพู กรกนก ไม่เหมาะที่จะเป็นเลขา ส่วนตัวของคุณหรอกค่ะ เพราะดิฉันทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สามารถจะทำงาน ให้คุณได้อีกต่อไป ดิฉันขอลาออกค่ะ
ด้วยความเคารพ
พรรณชมพู กรกนก
“ด้วยความเคารพอะไรกันเล่ายัยซื่อบื้อ ผัวเมียกันต้อง ลงท้ายว่าด้วยรักสิถึงจะถูก
วายุเป็นฟืนเป็นไฟสั่งให้พนักงานฝ่ายบุคคลเอาแฟ้มประวัติ ของพรรณชมพูมาให้
“คุณวายุจะตรวจสอบประวัติพรรณชมพูไปทำไมคะ
“ผู้หญิงคนนั้นขโมยของๆ ผมไปน่ะสิ”
“ว่าไงนะคะ ตายจริง นี่ดิฉันไม่รู้เลย ถ้ารู้ดิฉันจะให้ยาม กักตัวเอาไว้ มิน่าล่ะถึงลาออกกะทันหัน แบบนี้คุณวายุต้องเอา เรื่องให้ถึงที่สุดนะคะ”
“อืมม์ ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแน่
“จะให้ดิฉันโทร.แจ้งตำรวจเลยมั้ยคะ ว่าแต่เด็กนั่นขโมย อะไรของคุณวายุไปคะ ดิฉันจะได้แจ้งกับตำรวจถูก”
วายุเงยหน้าขึ้น เขาเม้มปากอย่างครุ่นคิดก่อนจะตอบที่
ทำให้คนตรงหน้าตัวชาเป็นหุ่น
“หัวใจ พรรณชมพูขโมยหัวใจของผมไป
หญิงสาวผู้ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นขโมยกำลังนั่งคอตกอยู่ใน ร้านกาแฟ คาปูชิโน่แก้วโปรดยังไม่พร่องลงไปเลยสักนิด ลูกค้า ในร้านก็สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันจนพนักงานร้านกาแฟต้อง พากันสะกิดเรียกเพื่อนๆ ให้พุ่งสายตาไปยังคนคอตก
“เห็นนั่นมั้ย ลูกค้าคนนั้นนั่งแบบนี้นานแล้วนะ”
“อืม จริงด้วย ฉันก็สังเกตเหมือนกัน เค้าป่วยหรือเปล่าไม่รู้ “เข้าไปถามดีมั้ย”
“จะดีเหรอ”
“แต่เค้านั่งอยู่แบบนี้โดยไม่แตะต้องกาแฟที่สั่งมานานเป็น ชั่วโมงแล้วนะ”
“ฉันว่าอาการเหมือนคนถูกแฟนทิ้ง”
“เป็นไปได้ เสียดายเนอะหน้าตาก็สวย แค่รูปร่างไม่ดีเท่านั้น
“หรือจะเพราะหุ่นไม่สวย แฟนก็เลยทิ้ง”
“กรี๊ดดดดด” พรรณชมพูอดทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป อาการ คอตกหายเป็นปลิดทิ้ง ความโมโหทำให้เธอเดินตรงปรี่ไปหา พนักงานทั้ง 3 คนที่ยืนจับกลุ่มนินทาลูกค้าอย่างเธอ
“เมื่อกี้ ใครพูด”
“เปล่านะคะ ฉันไม่ได้พูค่ะ”
“ไม่จริง ฉันได้ยินกับหูมีคนในกลุ่มนี้กำลังนินทาฉันอยู่” บท จะโกรธ พรรณชมพูก็ไม่เหลือความซื่อบื้อ ให้เห็น
“คือ”
“ฉันไม่ได้จะมาด่าพวกเธอ แต่จะบอกว่าฉันไม่ได้อกหัก พวก เธอๆ รู้เอาไว้ซะ ฉันไม่ได้อกหัก แล้วที่คอตกเพราะฉันเพิ่งจะหัก อก…แฟนมาหยกๆ แล้วฉันก็รู้สึกผิดมากๆ เท่านั้น จำไว้ซะ แล้ว ขอให้พวกเธอเอาคาปูชิโนรสชาติที่เง่าไปกินเองเถอะ”
ไม่ได้ด่านะ นี่เรียกว่าสั่งสอน
หลังจากระบายอารมณ์หัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่พนักงาน พรรณ ชมพูก็ขับรถไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะ ที่นี่อาจจะมีใครสักคนที่ ช่วยเธอได้ อย่างน้อยให้เธอได้ระบายความอัดอั้นตันใจด้วยการ มองคนที่กำลังมีความสุข จริงอยู่ว่ามันจะทำให้เศร้าหนักแต่มัน จะเป็นยารักษาบาดแผลเยียวยาหัวใจดวงมักง่ายให้หยุดความร่านไว้แค่สอง
มืออุ่นเผลอแตะที่หน้าท้อง ถ้าหากเธอท้องโย้ขึ้นมาแล้วใครจะ เป็นพ่อเด็ก ในเมื่อแม่ของเขาร่านเซ็กส์กับผู้ชาย 2 คน ในเวลา ไล่เลี่ยกัน
“ขอโทษนะลูก ถ้าหนูจะต้องมาเกิดในท้องแม่ แม่ขอโทษที่ ทำให้หนูเกิด”
“ทําไมต้องขอโทษ ถ้าเขาจะเกิดมา มันไม่ใช่ความผิดของใคร
“คุณวายุ”
ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าส่งยิ้มละไมชวนฝัน พรรณชมพูไม่หวัง ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง มันคือความฝันที่ตามหลอกหลอนทั้งยาม หลับยามตื่น เขามาทำไม มาตามรังควาญไม่ให้เธออยู่อย่างสงบ เพื่ออะไร
พรรณชมพูลุกขึ้น และวายุก็ฉวยข้อมือกลมๆ ของเธอเอาไว้ “ผมไม่ยอมให้คุณไปไหน จนกว่าเราจะพูดกันให้รู้เรื่อง” “ทำไมคะ สิ่งที่ดิฉันให้ไป มันยังไม่สาแก่ใจคุณอีกหรือ “นี่คุณอ่านนิยายน้ำเน่ามากเกินไปหน่อยล่ะมั้ง สาแก่ใจผมเรื่องอะไร พูดเหมือนนางเอกนิยายน้ำเน่าที่ ถูกพระเอกข่มขืนใช้หนี้”
“แล้วคุณคิดว่าฉันพอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่าล่ะ
“ผมก็ไม่เห็นคุณจะปฏิเสธเลยนี่นา”
“คุณวาย”
“โอเคๆ ผมจะไม่กวนประสาทคุณอีกแล้ว แต่คุณต้องคุยกับ ผมให้รู้เรื่อง ไม่งั้นผมจะส่งคุณเข้าตะราง
พรรณชมพูหน้าซีด ถึงเธอจะซื่อบือแต่เธอก็ยังฉลาดที่จะรู้ว่า เข้าตะรางคือเข้าคุก
“คุณจะให้ตำรวจจับฉัน ข้อหาอะไรคะ”
“อาจเป็นโจร คุณลาออกเพราะคุณขโมยของๆ ผม
“ขโมย บ้าไปแล้ว ฉันไม่เคยขโมยของๆ ใคร อย่ามาปรักปรำ ฉันนะ ฉันไม่ยอมจริงๆ ด้วย ฉันจะฟ้องกลับคอยดูสิ”
“เอาเลย ผมมีหลักฐานมัดคุณแน่นหนา รับรองคุณดิ้นไม่หลุด
หญิงสาวส่ายหน้าหวือ พยายามนึกว่าได้หยิบฉวยอะไรติดมือ มาตอนไม่รู้ตัวบ้างหรือเปล่า ไม่นะ ถ้าเคยเธอต้องนึกออกสิ ใครจะบ้าเผลอเรอหยิบของคนอื่นติดไม้
ติดมือกลับบ้านถ้าไม่ใช่ขโมย
ไม่จริง เขาโกหก
“เราเจรจายอมความกันได้นะหมูชมพู ผมจะไม่เอาเรื่องคุณ ถ้าคุณยอมพูดกับผมดีๆ จนเข้าใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
“แต่ฉันไม่ได้ขโมย” เธอยืนยันหนักแน่น วายุเลิกคิ้วสูงมอง กราดไปทั่วร่างกลมกลึงเหมือนประมาณค่าตัว
“คุณไม่มีทางเลือก ไม่งั้นโทรศัพท์เครื่องนี้จะไปอยู่ในกำมือ คนในครอบครัวคุณ” ของคน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ