Uncategorized

บทที่ 1 คราบกาแฟบนเสื้อ



บทที่ 1 คราบกาแฟบนเสื้อ

1

คราบกาแฟบนเสื้อ

“กรี๊ดดดด!!” ณัฐรินทร์ มนัสวี กรีดร้องด้วยความตกใจ กาแฟ ร้อนๆ หกรดเสื้อผ้าของเธอและของคลชัยจนเป็นดวงใหญ่ เธอ ลืมความแสบร้อนที่ผิวหนังเพราะมัวแต่เป็นห่วงคลชัย อังคะวรา งกูร ผู้ชายที่ยืนหน้าซีดสลับแดงด้วยความโมโห ณัฐรินทร์ดึง ผ้าเช็ดหน้า ในกระเป๋ากระโปรงนักเรียนเช็ดซับน้ำกาแฟบนเสื้อ ของคลชัย

“ไม่ต้อง!!!” เขาปัดมือเธอออก ผ้าเช็ดหน้าสีครีมกระเด็น หลุดมือ “เธอคิดว่าผ้าเช็ดหน้างี่เง่าจะชำระล้างความสกปรกที่ เธอฝากไว้บนเสื้อฉันได้หรือไงยัยหมูตอน ถ้าเธอจะไม่โง่เง่าเต่า ตูนแบบนี้ก็คงคิดได้ว่าไม่ควรทำกาแฟหก ใส่เสื้อฉัน

“น้องนุ่มไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษนะคะพี่ดล ถอดเสื้อมานะคะ

น้องนุ่มจะเอาไปซักให้

“คราบกาแฟมันซักยาก คนโง่ๆ อย่างเธอจะทำให้มัน สะอาดได้หรือ
“ได้ค่ะ ถอดเสื้อมานะคะพี่ดล แล้วพรุ่งนี้นุ่มจะเอามาคืนให้

“ถอดทิ้งลงถังขยะเลยไม่ดีกว่าเรอะยัยอ้วน ฉันไม่เสียดาย หรอกนะเสื้อราคาแค่ไม่กี่พันบาท

ค่าพูดของคลชัยสร้างความน้อยเนื้อต่ำใจให้ณัฐรินทร์ เขา บอกไม่เสียดายเสื้อแต่ทำท่าเหมือนเธอเป็นผู้ร้ายวางแผนฆ่าคน ตายโดยเจตนา หน่วยตาคู่สวยของเธอคลอเอ่อไปด้วยหยาดน้ำ ใสๆ หัวใจที่มอบให้เขาไปทั้งดวงถูกเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ ทว่าณัฐรินทร์ก็ยังไม่ละความพยายาม

“น้องนุ่มขอโทษนะคะ ดล ทีหลังน้องนุ่มจะระวังให้มากกว่า นี้ค่ะ”

“บ้าฉิบ!! ไปให้ไกลๆ ตาเลยไป ฉันเห็นหน้าเธอทีไรกินข้าว ไม่ลงทุกที ถ้าเธอไม่คิดจะจับผู้ชายรวยๆ เอาไปทำตัว ก็อย่า พยายามโผล่หน้ามาที่บ้านฉันอีก ไปสิ!!!

ณัฐรินทร์น้ำตาร่วงเผาะผลอย โน้มตัวลงหยิบผ้าเช็ดหน้า ด้วยมืออันสั่นเทา เธอรู้ว่าเขาเกลียด แต่ยังคิดว่าการทำดีสักวัน เขาต้องเห็นความดี ทว่ามันไม่เหมือนที่คิด ดูเหมือนว่าดลชัยจะ ยิ่งเกลียดเธอมากขึ้นทุกที

เพราะอะไร?
“ทําไมพี่ดลถึงเกลียดน้องนุ่มขนาดนี้คะ

“ทำไมน่ะเหรอ เพราะฉันเกลียดผู้หญิงอย่างเธอไงล่ะ สวย ไม่สวย แต่คิดจะหาผัวด้วยวิธีต่ำๆ คนอย่างเธอต่อให้แบอยู่ตรง หน้าก็ไม่มีใครเอา โดยเฉพาะฉัน

ตลชัยพูดจบก็เดินหนี ณัฐรินทร์คิดว่าเขาคงหนีไปไหนแล้ว เหมือนที่เคยทำกับเธอ เหมือนเธอเป็นไส้เดือนกิ้งกือน่า ขยะแขยง พอหยิบผ้าเช็ดหน้าเสร็จก็หันไปเก็บถ้วยกาแฟที่ตก แตก ปลายนิ้วเจ้ากรรมมันสั่นเทา ตาพร่าเลือนเพราะหยาดน้ำตา ปิดบังจึงทำให้เธอถูกกระเบื้องบาดนิ้ว เลือดสีแดงหยดลงบนพื้น ณัฐรินทร์ยกมือขึ้นแตะข้อมือกับหน้าผากให้จนเนื้อตัวสั่นเพิ่ม

ฝ่ายดลชัยหยุดชะงักเผชิญหน้ากับแดนดินพี่ชายต่างมารดา พันตรีแดนดิน อังคะวรากูร ลูกชายของคุณนายแก้วเกล้า และ ท่านนายพลวิศรุต มารดาของเขาเป็นภรรยาเบอร์หนึ่งของบิดา หรือจะพูดภาษาบ้านๆ ก็คือเมียหลวง และคุณนายถนอมศรีแม่ ของคลชัยเป็นภรรยาเบอร์สอง บิดามีภรรยาสองคนมีลูกชายคน เดียว ส่วนดลชัยคือลูกติดของคุณนายถนอมศรี

แดนดินและดลชัยไม่ค่อยถูกกัน แดนดินจะเป็นชายชาติ ทหารเหมือนพ่อเป็นคนมีความรับผิดชอบ จริงจังกับทุกสิ่งที่ทำ ถ้าอะไรที่ไม่ชอบก็จะไม่ท่า ส่วนดลชัยเป็นนักธุรกิจที่วางกล้าม บ้าอำนาจ ไม่เคยรักใคร จริง สองคนนี้แตกต่างกันลิบลับทั้งนิสัยใจคอ รูปร่างหน้าตา

“มองอะไร มีปัญหาหรือไง” ดลชัยท้าทาย เวลายืนใกล้ๆ ดวงตาของเขาจะเบิกกว้างขึ้นเพราะส่วนสูงที่ต่างกัน

** แดนดินไม่ตอบ

“ถ้าไม่อยากมีเรื่องกับฉัน ก็อย่ามองกวนตีนแบบนี้

“บอกตัวเองดีกว่า” แดนดินย้อน

แดนดินหรี่ตาลง แววตาโซนแสงลุกเรื่องรองเหมือนมีไฟสุม อยู่ เลยไม่อยากเสียง เวลาแดนดินเอาจริงแรงช้างก็เหนี่ยวรั้ง ไว้ไม่ได้ เขาเคยมีเรื่องกับมันมาแล้ว ไอ้หมอนี่มันนิ่งลึก พูดน้อย ต่อยหนัก ครั้งก่อนกรามค้างไปหลายวันนึกถึงแล้วยังเจ็บไม่หาย

“ไอ้บ้าเอ๊ย!!” ดลชัยซอยเท้ายิกๆ และเดินหนี

แดนดินมองตาม ในใจอยากตะบันหน้าหล่อๆ ของมันให้ตั้ง หัก กราม โย้ ตาปูด แต่ด้วยความเกรงใจบิดาแดนดินจำต้อง สงบสติอารมณ์ พอหันมาเห็นเจ้าของร่างอวบผิวขาวผ่องเป็นของไปยืนหน้าซีดปากสั่น น้ำตา ไหลนองอาบสองแก้ม แดนดินถึงกับสบ เดือดดาล

“ไอ้เลวเอ๊ย!!”

ณัฐรินทร์มองร่างสูงที่เดินมาใกล้ เห็นแววตาห่วงใยก็ยกมือ ขึ้นปาดน้ำตาป้อยๆ

“อย่าร้อง ”

หญิงสาวในชุดนักศึกษาปีสี่ตัวสั่นงันงก เสื้อสีขาวเปรอะ เปื้อนกาแฟเป็นดวงใหญ่ แดนดินมองรอยด่างนั้นก่อนถลาเข้าไป หา

“เจ็บไหม”

“ไม่…ค่ะ” ณัฐรินทร์บอกเสียงกลั้วสะอื้น

“ตกลงว่าอะไร เจ็บหรือไม่เจ็บ”

“ไม่เจ็บค่ะ” เธอไม่ตอบเปล่า ยังส่ายหน้าช่วยยืนยัน ทว่า น้ำตาที่หลั่งอาบสองแก้มมันปฏิเสธเด็ดขาด ถ้าไม่เจ็บปวดใจ ก็ ต้องมีส่วนหนึ่งส่วนใดของอวัยวะที่กำลังเจ็บปวด

“ไหนดูซิ” แดนดินทําในสิ่งที่เธอไม่คาดคิด ชายเสื้อ นักศึกษาถูกกระตุกขึ้น ณัฐรินทร์อุทานอย่างตกใจ เธอพยายาม ดึงเสื้อสีขาวลงปิดหน้าท้อง “แล้วนี่อะไร นี่เหรอที่ว่าไม่เจ็บ” เขา มองเนื้อขาวๆ ที่เกิดรอยแดงๆ เพราะถูกน้ำร้อนลวก เห็นแล้วอยาก กระชากไอัดลชัยออกมาแล้วตะบันหน้ามันให้หมดสภาพเหลือ เกิน สงสารผิวแดงๆ เป็นปืนของเธอ ไม่ว่ามันจะเกิดจากความ ซุ่มซ่าม หรือถูกอีกฝ่ายแกล้ง มันไม่สมควรจะเป็นรอยบนผิวขาว เนียนแบบนี้

แดนดินสะบัดชายเสื้อสีขาวทิ้งก่อนจับมือเล็กที่กุมชายเสื้อตัว เองขึ้นมาดู เขาเห็นปลายนิ้วชี้มีเลือดอาบก็ทำเสียงบางอย่าง พลางส่งสายตาดุๆ เหมือนจะตะคอกเธอด้วยแววตา

ณัฐรินทร์ขึ้นมือเอาไว้ เธอสู้แรงผู้ชายอกสามศอก ในชุด ทหารไม่ได้ ปลายนิ้วเล็กๆ ของเธอก็เลยถูกบีบ

“โอ๊ย! พี่แดนขา น้องนุ่มเจ็บค่ะ”

ได้ยินดังนั้นแดนดินก็คลายแรงจิกจากปลายเล็บของเขา สลัดปลายนิ้วเล็กแล้วยกขึ้นดูด

“พี่แดน!!!” ณัฐรินทร์เจ็บแปลบที่ปลายนิ้ว การกระทำของ แดนดินมันปั่นป่วนหัวใจเธอแปลกๆ หญิงสาววัย 22 ปี ถึงมือ ออกจากปากหนา พร้อมก้าวถอยหลังด้วยอาการหวาดหวั่น เธอ ซ่อนมือข้างที่เจ็บไว้ข้างหลัง อีกมือดึงชายเสื้อสีขาวปิดหน้าท้อง ตัวเอง

“ทำไมต้องทนล่ะคะ มันทำให้เจ็บขนาดนี้ ทนไปได้ยังไง” เขาต่อว่า

“ช็กๆ น้องนุ่ม…อีก…น้องนุ่มไม่เจ็บหรอกค่ะ” คนไม่เจ็บทำ ปากแข็งพยายามปฏิเสธทั้งที่น้ำตายังไหลอาบสองแก้ม

“น้องนุ่มรักมันมากหรือคะ คนเลวๆ พรรณนั้น

ณัฐรินทร์ไม่ตอบเอาแต่ก้มหน้าให้ตัวสั่น แดนดินขบกราม กรอด เขาเป็นโรคแพ้น้ำตาผู้หญิง เห็นทีไรใจอ่อนได้ทุกทีสิน่ะ

“น้องนุ่มกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวรีบเดินหนี ไม่อยากตอบ คําถามของแดนดิน เพราะที่จริงแล้วเธอเจ็บทั้งที่หน้าท้องและนิ้ว มือ ถ้าแดนดินรู้ว่าเธอเจ็บ ดลชัยอาจจะเจ็บตัว ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ เธอต้องการ ณัฐรินทร์คงทนไม่ไหวถ้าจะเห็นดลชัยเจ็บตัวเพราะ เธอ

แดนดินมองคนร่างอวบเดินลับไปจากประตูรั้ว เขาได้ยิน เสียงประตูรั้วบ้านของเธอเปิดและปิดในเวลาต่อมา ณัฐรินทร์คง ถูกคุณนายถนอมศรีเรียกตัวมาใช้งานฟรีๆ ทั้งที่ก็มีคนรับใช้ มากมายให้จิกหัวใช้ แต่คุณนายถนอมศรีต้องการกลั่นแกล้งณัฐ รินทร์มากกว่า ยิ่งรู้ว่าสาวน้อยมีใจให้บุตรชายก็ยิ่งแกล้ง นี่มัน ทุ่มเข้าไปแล้ว ใครจะบ้าดื่มกาแฟตอนจะนอน นอกจากคน แกล้ง
ณัฐรินทร์ก็ใสซื่อเหลือเกิน คงเพราะคุณนายถนอมศรีเป็น มารดาของคลชัย ไม่ว่าจะเรียกใช้ตอนไหนสาวน้อยก็ไม่เคย ปฏิเสธ แล้วเป็นไง กี่ครั้งแล้วที่เขาเห็นเธอเป็นฝ่ายถูกกระทำ โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทุกครั้งที่เขาเห็นก็เป็นช่วงที่คลชัย ละมือจากเธอแล้วทั้งสิ้น

น่าสงสารน้องนุ่มเหลือเกิน

“ถ้าสงสารนั่งเด็กนั่นนัก ก็มัดมือมัดเท้ามันไว้ที่บ้าน มันจะ ได้ไม่มาเสนอหน้าที่นี่อีก” เสียงคุณนายขี้อิจฉาตั้งอยู่ข้างหลัง เจ้าของร่างสูง 185 ซม.หันไปมอง

“ผมเชื่อว่าน้องนุ่มปฏิเสธไม่ออก ถ้าคนในบ้านนี้โทร.ไป

เรียกเธอ”

“โอ๊ย!!! ไม่มีใครสั่งหรอกจ้ะ แม่นั่นเสนอหน้ามาเองทั้งนั้น เธอไม่รู้หรือไงแดนดิน นั่งเด็กนั่นอยากได้คลชัยเป็นผัว แต่ลูก น้าก็ไม่ได้ตาบอดถึงไม่รู้ว่ายัยเด็กนั่นทั้งไม่มีความงาม และเจ้า เล่ห์มารยาสาไถแค่ไหน”

“น้องนุ่มเป็นเด็กเรียบร้อยนะครับ”

“เรียบร้อยหรือทั้งร้อยเรียบล่ะจ๊ะ เข้าข้างกันแบบนี้ นี่คง ไม่… คุณนายขี้อิจฉากวาดตามองแดนดินตั้งแต่หัวจรดเท้า “หลงเสน่ห์มันเข้า”
แดนดินชักสีหน้าขึ้นมาทันที

“ผมก็พูดไปตามที่เห็น บ้านเรากับบ้านคุณน้าเรไรสนิทสนม กันมานานก่อนที่คุณน้าถนอมจะมาอยู่เสียอีก ผมว่าผมมองไม่ผิด หรอกครับ และอยากบอกอีกว่าใครทำกรรมอะไรเอาไว้รอเวร กรรมคืนสนองแล้วกันครับ ขอตัวก่อน

“ไอ้…” คุณนายถนอมศรีย่ำเท้าอยู่กับที่ โกรธเกรี้ยวแดนดิน ลูกชายคนโปรดของท่านนายพลเหลือกำลัง “ฉันจะรอดูวันที่พวก แกทั้งแม่ทั้งลูกระเห็จออกไปจากที่นี่ ไอ้แดนดิน”

ตื่นเช้ามาณัฐรินทร์ก็มองตัวเองผ่านกระจกเงา ในสภาพตา บวมเป่ง ร่าง ในชุดนักศึกษาหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อสำรวจเรือน ร่างตนเอง เธอสูง 162 ซม. หนัก 53 กก. สัดส่วน 36-26-37 ไม่ ได้อรชรอ้อนแอ้น และยังไม่มีใครล้อว่าเป็นหมูตอน มีแค่เขา…พี่ ดลชัยของเธอ คนที่เกลียดเธอเข้าได้อย่างไร้เหตุผล ไม่สิ เหตุผล เขาก็คือเธออวบอ้วนนี่ล่ะ เขาไม่ชอบผู้หญิงตันๆ ชอบผู้หญิงหุ่น ดีๆ เหมือนนางแบบ แน่นอนเธอหลุดจากวงโคจรทั้งที่รักเขา เหลือเกิน

เมื่อ 7 ปีก่อน ดลชัยและมารดาย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ฝั่ง ตรงข้ามบ้านของเธอ คฤหาสน์หลังนี้ขยับขยายจากบ้านสวยสอง ชั้นราคาหลายล้าน เมื่อสาวน้อยวัยละอ่อนเห็นชายหนุ่มรูปงาม มาดเนี้ยบราวกับนายแบบหลุดมาจากนิตยสารก็กลายเป็นรักแรกพบ เธอ ปรารถนาพาตัวเองเข้าไปใกล้ ด้วยความรู้จักและสนิทสนมพอ สมควรกับเจ้าของบ้านซึ่งก็คือท่านนายพลประจักษ์ คุณนายแก้ว เกล้าและพี่แดนดิน เธอจึงเข้านอกออกในคฤหาสน์หลังนั้นได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ใช่ว่าจะเข้าไปอย่างไร้ซึ่งความเกรงใจ มีเพียงพักหลังๆ ที่เธอถูกคุณนายถนอมศรีเรียกไปใช้งาน

“น้องนุ่มไม่ใช่คนรับใช้ ไม่จำเป็นต้องทำนี่คะ” พี่แดนของ เธอเคยกล่าวไว้

“ไม่เป็นไรค่ะพี่แดน ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร นุ่มทำได้ค่ะ” เธอตอบไปอย่างนั้น

ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงรู้สึกดีๆ กับคนที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้ง

แรก หรือนั่นเรียกว่าพรหมลิขิต

แต่ทว่า…

ณัฐรินทร์ก็ไร้ตัวตนสำหรับพี่ดลชัยเสมอ

เสียงผ่อนลมหายใจดังออกมาไม่เบา แก้มอิ่มที่เต็มไปด้วย เลือดฝาดป่องขึ้นก่อนจะแฟบลงดั้งเดิม ต่อให้พยายามทำดีแทบ ตาย เธอก็ไม่มีค่าในสายตาของเขาอยู่ดี

“นุ่มลงมาแล้ว”
เท้าเล็กๆ ซอยลงมาจากชั้นสองเป็นต้องชะงักเมื่อเกือบจะ เหยียบพื้นชั้นล่าง เสียงของแม่เหมือนกำลังพูดกับใครอยู่ เธอ เงี่ยหูฟังพลางอมยิ้มแล้วก้าวต่อ

“นุ่มพร้อมจะไปเรียนแล้วค่ะแม่”

“นุ่มจ๊ะ ผู้พันแดนมารอสักพักแล้วจ้ะ” นางน้ำทิพย์ส่งเสียง บอกเมื่อเห็นบุตรสาว

ณัฐรินทร์มองเลยมารดาไปยังนายทหารหนุ่มร่างสูงใหญ่ แดนดินอยู่ในชุดไปรเวทไม่ได้สวมเครื่องแบบเหมือนที่เห็นเป็น ประจำ เธอพนมมือไหว้เขาอย่างทุกครั้งที่เจอกัน ชายหนุ่มรับไหว้ พร้อมยิ้มบางๆ ส่งกลับมาให้

“พี่แดนมีธุระอะไรกับนุ่มหรือคะ ถึงมารอนุ่มแต่เช้า”

สายตาของแดนดินมองสบนัยน์ตากลมโตเห็นขอบตาบวม ตุ่ยแล้วนึกอยากหาถุงชาแช่เย็นมาให้ประคบ เขารู้ถึงสาเหตุที่ ทำให้ตาบวม ที่มาหาแต่เช้าก็เพราะเรื่องนี้

“พี่มารับน้องนุ่มค่ะ”

“มารับนุ่มหรือคะ?”

“วันนี้พี่มีธุระจะไปแถวมหา’ลัยน้องนุ่ม ก็เลยมารับน้องนุ่มไปพร้อมกันเลยค่ะ”

“แม่ว่านุ่มไม่ควรขัดศรัทธาพี่เขานะจ๊ะ ผู้พันอุตส่าห์มานั่งรอ เกือบชั่วโมงแล้ว อีกอย่างแม่จะได้สบายใจว่านุ่มไปถึงมหาลัย อย่างปลอดภัย”

ณัฐรินทร์มองมารดาอย่างงงๆ เธอไปเรียนเองทุกวันไม่เคย มีปัญหา มหาลัยกับบ้านก็ไม่ไกลกันเท่าไหร่ แล้วทำไมจู่ๆ มารดาจะมาเป็นห่วงเอาตอนนี้

“ไปค่ะ พี่สายแล้ว” แดนดินบอกก่อนจะเดินหน้าออกไป เปิดประตูรถคันโก้รอเธอ

ณัฐรินทร์จําต้องเดินตามด้วยความเกรงใจ มีมารดาโบกมือ อยู่ข้างหลัง เธอหันไปมองมารดานิดหนึ่งก่อนจะมองเจ้าของรถ คันโก้แล้วขึ้นไปนั่งประจำที่ทั้งยังงุนงงไม่หาย พอโซเฟอร์ขึ้นรถ และเคลื่อนรถออกไป เธอก็เหลียวหันไปมองเขา

“ไงคะ พี่มีเขางอกออกมาจากหัวไหมเอ่ย”

คนที่มัวแต่มองแดนดินอย่างเผลอไผลถึงกับสะดุ้งแล้ว ค่อยๆ ยิ้มเก้อให้ชายหนุ่ม

“ขอโทษค่ะ”

“ทำไมต้องขอโทษด้วยล่ะคะ น้องนุ่มไม่ได้ทำอะไรผิดสัก

หน่อย”
“นุ่มมองพี่แดนนานเกินไป พี่แดนอาจจะไม่พอใจไงล่ะคะ” เธอตอบเสียงอ่อย ถ้าเป็นคลชัยต้องไม่พอใจที่ถูกเธอมองจ้อง แบบนี้แน่

“ถึงน้องนุ่มนั่งมองพี่ทั้งวันทั้งคืน พี่ก็ไม่ว่าหรอกค่ะ

ณัฐรินทร์พยักหน้า แล้วก้มงุดมองมือขาวๆ ของตัวเอง แดน ดินถอนใจเฮือก ถ้าณัฐรินทร์จะไม่มีปากเสียงแบบนี้เห็นทีคงได้ ตกเป็นลูกไล่ให้คุณนายถนอมศรีกับคลชัยตลอดไป

เขาเป็นห่วงเธอจัง

“ช่วงนี้เรียนหนักไหมคะ” ใกล้จะถึงมหา’ลัยแล้ว แดนดิน

ชวนคุย

“นิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวก็ตอบสั้นเหมือนไม่อยากคุยด้วย

“หืมม์” เขาส่งเสียงในลำคอ และณัฐรินทร์ก็พอจะเดาได้ว่าอีก ฝ่ายต้องการคําตอบที่ดีกว่านี้

“ใกล้จะสอบไฟนอลแล้วค่ะ ช่วงนี้ก็มีติวข้อสอบบ้าง บางวันก็ เลยกลับค่าค่ะ”

“ใกล้จบแล้ว ได้ดูลู่ทางวางอนาคตเอาไว้หรือยังคะ” แดนดิน ถามต่อ เขาสนใจและอยากรู้ทุกเรื่องของเธอ แต่ดูเหมือนสาว เจ้าสงบปากสงบค่าราวกับกลัวดอกพิกุลจะร่วงถ้าต้องคุยกับเขา มันก็น่าน้อยใจ แต่แดนดินไม่

อยากถือสา

“ค่ะ” ณัฐรินทร์ตอบแล้วเงียบ พอรู้สึกเหมือนรถกระตุกเธอจึง ขยายความ “นุ่มตั้งใจจะสมัครงานที่บริษัท…” เธอบอกชื่อบริษัท “ไม่รู้ว่าจะผ่านเกณฑ์การพิจารณาไหมค่ะ ที่นี่มีการแข่งขันสูง แต่ ถ้าไม่ผ่านการคัดเลือก นุ่มจะไปสมัครงานที่บริษัท… บอกชื่อเป้า หมายที่สอง

“บริษัทใหญ่ทั้งคู่ พี่ก็ขอให้น้องนุ่มได้ทำงานอย่างที่หวังนะคะ” “ขอบคุณค่ะพี่แดน”

แดนดินเหลือบตามองหญิงสาวเห็นเธอพนมมือไหว้ก็กระตุก ยิ้ม มองแก้มใสๆ เพลินจนเกือบขับรถเลยมหา’ลัย เขาเลี้ยวด้วย ความเร็วเพราะเกือบเลย ณัฐรินทร์ที่นั่งเฉยไม่ได้ตั้งตัวก็เสียหลัก เอียงไปซบบ่ากว้าง พอตั้งสติได้ก็รีบดึงตัวขึ้นนั่งเผลอยกมือลูบ แก้มข้างนั้นป้อยๆ

“รังเกียจว่าพี่ขนาดนั้นเลยหรือคะน้องนุ่ม

“เปล่านะคะ นุ่มก็แค่…” เธอรีบแก้ตัว พอสบตาคนถามแก้มทั้ง สองข้างก็แดงระเรื่อ

“แค่อะไรคะ”
“แค่…กลัวพี่แดนจะรำคาญที่นุ่มนั่งไม่ระวังตะ

คำตอบของเธอทำให้เขากลั้นยิ้ม บางทีณัฐรินทร์ก็ทำให้เขา จนค่าตอบได้เหมือนกัน

รถจอดลงหน้าคณะ ณัฐรินทร์พนมมือไหว้ขอบคุณโชเฟอร์รูป งามที่อุตส่าห์เสียเวลามาส่ง แดนดินส่ายหน้าแล้วกุมมือของเธอ กรายๆ

“ไม่ต้องไหว้พี่บ่อยนักหรอกนะคะ พี่แดนเป็นคนค่ะ ไม่ใช่พระ

“อ่อ…ค่ะ” ณัฐรินทร์ถึงมือคืน ก่อนก้มหน้างุดแล้วเปิดประตูลง จากรถไปเงียบๆ

แดนดินมองตามร่างอวบอิ่มในชุดนักศึกษาไปจนลับสายตา ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เขาจึงติดใจท่าทีของสาวน้อยคนนี้นัก เธออ่อนหวาน เรียบร้อย และกะโปโลมากๆ ในสายตาเขา ณัฐริ นทร์ยังใสแจ๋วเหมือนขวดแก้วที่มีดอกกุหลาบสีขาวอยู่ข้างใน

แล้วผู้หญิงอย่างนี้น่ะหรือที่จะเหมาะกับคลชัย

ไม่!

ต่อให้ณัฐรินทร์มอบตัวมอบใจให้มัน ไอ้หมอนั่นก็ไม่มีวันเห็น ค่าดอกกุหลาบขาวแสนบอบบางดอกนี้ ชายหนุ่มถอนใจยาวเกิด ความเสียดายขึ้นมาดื้อๆ แล้วรีบปัดความรู้สึกนั้นออกไปทั้งๆ ที่เมื่อเช้ามันพลุ่งพล่าน มากกว่านี้หลายเท่า มือขาวๆ ที่มีเลือดจากการถูกบาดนั้นยังสั่น ระริกอยู่ในหัวใจของแดนดิน จนกระทั่งเช้ามาเขาก็พอตัวเองมา นั่งรอเธอที่บ้านแบบงงๆ

งงตัวเอง เพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน

ผู้พันแดนดิน อังคะวรางกูร ไม่เคยต้องรอใครแบบนี้ โดย เฉพาะผู้หญิงซึ่งไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตเขานอกจากมารดา แต่กับ ณัฐรินทร์ เขาอยากปกป้อง อยากคุ้มครอง จะว่าเพราะสงสารก็ ใช่ จะว่าเพราะเป็นห่วงก็ไม่ผิด แต่เหนือสิ่งอื่นใดแดนดินไม่เคย รู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน

รถสปอร์ตคันโก้ราคาหลายสิบล้านสีดำมันปลาบเคลื่อนออก จากจุดเดิม คนในรถไม่มีทางรู้ว่าหญิงสาวที่เขาเพิ่งส่งเธอลงจะ ซ่อนตัวอยู่หลังเสาอีก พอได้ยินเสียงท่อรถซูเปอร์คาร์ถึงโผล่ หน้าไปมองไฟท้ายที่ห่างออกไปเรื่อยๆ ณัฐรินทร์ไม่เข้าใจทำไม แดนดินจึงมาส่ง แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆ คือความ ไม่พอใจ

เธอไม่พอใจ หากเขามานั่งรอตั้งแต่เช้าตรู่เพราะความสงสาร เธอไม่พอใจ หากเขาทำทุกอย่างเพียงเพราะเห็นเธออ่อนแอ

ณัฐรินทร์ไม่เคยเกลียดเขา ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ กับแดนดินเขา คือพี่ชายที่แสนดี เป็นสุภาพบุรุษสมกับเป็นลูกนายพล สายตาที่ เขามองเธอจึงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนระคนสงสาร ซึ่งณัฐริ นทร์ไม่ชอบ!

หากเขาจะมองเธออย่างดูถูกเหยียดหยามเหมือนดลชัย ณัฐ รินทร์ยังพอใจกว่านี้

เธอมันบ้า!

มีผู้ชายดีๆ ทำดีด้วยก็ยังไม่ชอบ ชอบผู้ชายเลวๆ เห็นเธอ เป็นแค่เศษธุลีดิน เธอบ้า แต่มันเป็นไปแล้ว เธออ่อนแอน่ะใช่ เธอ ยอมรับ แต่ไม่อยากให้ใครมองด้วยความสมเพชเวทนานนา มัน ผิดตรงไหน เธอไม่อยากเป็นคนอ่อนแอในสายตาใคร แม้จะเก็บ กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่เคยได้ โดยเฉพาะในสายตาของแดนดิน

“นุ่มขอโทษนะคะพี่แดน แต่ถ้าพี่แดนทำแบบนี้กับนุ่มเพราะ สงสาร นุ่มก็เสียใจค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ