Uncategorized

บทที่ 2 คุณหนูไลลา (1)



บทที่ 2 คุณหนูไลลา (1)

หลังจากได้พูดคุยกับบิดาเรียบร้อย อาเรโซ่จึงส่ง โทรศัพท์คืนให้บอดี้การ์ดคนสนิทที่เพิ่งกลับมาปฏิบัติ หน้าที่ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เป็นอันตรธานหาย แทนที่ด้วยความเครียดขรึมทันทีเมื่อ การสนทนายุติลง เขาต้องไปดินเนอร์ค่ำนี้ที่คฤหาสน์!!

“เฮ้อ” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาทางปาก

“นายครับ”

“มีอะไรราเยส?”

บอดี้การ์ดนามราเยสยังเอาแต่มองศีรษะของผู้เป็นนาย “เอ่อ นายเลือดไหลครับ”

อาเรโซ่มุ่ยหน้า “เลือดอะไร?”

“ที่ศีรษะครับ”

เมื่อรู้ตำแหน่งอาเรโซ่จึงเอามือไปแตะบริเวณที่ปวดหนีบ พอเห็นเลือดเท่านั้น ชายหนุ่มถึงกับชะงัก ดวงตา คมคายหรี่แคบฉายแววความโกรธทันทีเมื่อรู้ว่าตนเองถูก ตีจนหัวแตก!! และผู้ที่ทำให้เขาเลือดตกยางออกไม่ใช่ใคร อื่นไกลเลย แต่เป็นฝีมือแม่โฉมงามที่ถูกเขาขังตัวอยู่ใน ห้องนอน!

“อารยา!” อาเรโซ่สบถหัวเสีย ด้วยว่าเขาไม่เคยมีผู้หญิง คนไหนที่พยศเท่านี้มาก่อน

“เดี๋ยวผมเรียกรถพยาบาลให้

“ไม่ต้อง แผลแค่นี้ห่างไกลหัวใจตั้งเยอะ เอากล่อง ปฐมพยาบาลมา เดี๋ยวฉันทำแผลเอง”

พอมีคำสั่ง บอดี้การ์ดคนสนิทจึงรีบปฏิบัติตามคำสั่งทันที

ระหว่างช่วยอาเรโซ่ทาแผล ราเยสไม่กล้าเอ่ยปากถาม ด้วยซ้ำว่าอาเรโซไปโดนอะไรฟาดหัวมา เขาได้แต่พุ่ง ประเด็นไปที่มิสไทยแลนด์ที่อาเรโซ่พาลูกน้องบุกไปอุ้มตัว เธอจากกองประกวดในช่วงเวลาที่เขาลาพักร้อน หากเป็น ฝีมือหญิงไทยคนนั้นจริง ๆ เธอคงใจถึงใช่ย่อยที่กล้างัดข้อ กับอาเรโซ่ซึ่งเป็นถึงผู้ทรงอิทธิพลรายใหญ่ของประเทศคาเธียร์!

“เสร็จแล้วครับ” ราเยสน้อมศีรษะลงหลังจากทำแผลใส่ยา ให้ชายหนุ่มเรียบร้อย

“แผลลึกมั้ย?”

“ไม่ครับ”

อาเรโซ่นิ่งไปก่อนมีคำสั่ง “เตรียมเครื่องบินให้ด้วย ฉัน ต้องเข้าคฤหาสน์

“ครับ” บอดี้การ์ดคนสนิทคอมศีรษะรับคำสั่ง “แล้วมื้อ

“ไม่ต้อง ยังไงช่วยจัดคนเฝ้าผู้หญิงของฉันไว้ให้ดีด้วย ล่ะ อย่าให้เธอติดต่อสื่อสารกับใคร และอย่าให้เธอหนีได้ อย่างเด็ดขาด”

“ครับ”

แม้จะแปลกใจกับการกระทำของผู้เป็นนายมากมายแต่ราเยส งดำรงตำแหน่งบอดี้การ์ดรับใช้ใกล้ชิดทําได้แค่ ค้อมศีรษะน้อมรับคําสั่งเพียงอย่างเดียว

ส่วนสาเหตุที่เขาตั้งคำถามขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอาเรโซ่ยอมลดตัวไปหาผู้หญิง เจ้านายของเขายังถูกสาวเจ้าเล่นงานจนหัวแตกเลือดซิบ!

นี่คือเรื่องผิดปกติที่สุด ปกติแล้วมีแต่ผู้หญิงเป็นฝ่ายเสนอ ตัวมาหาอาเรโซ่ถึงที่ บางรายถึงขนาดอาสาขอรับใช้ถึงบน เตียงเพื่ออุ้มท้องลูกของอาเรโซ่ก็มี! แต่การกระทำหลาย ๆ อย่างของอาเรโซ่ในวันนี้ยิ่งทำให้เขาแปลกใจ และที่ ทําให้ราเยสงวยนมากกว่าเดิมก็คือ การกระทำที่เอาแต่ใจ ของอาเรโซ่ รับรองว่าเรื่องขโมยตัวนางงามต้องกลายเป็น เรื่องใหญ่อย่างแน่นอน

พอเครื่องบินพร้อมแล้ว อาเรโซ่จึงสั่งให้คนของเขาพาตัว อารยาไปยังที่พักส่วนตัวของเขาทันที ซึ่งคำสั่งนี้ได้สร้าง ความแปลกประหลาดใจให้กับราเยสมากกว่าเดิม แต่เขา ก็ไม่กล้าตั้งคำถามกับอาเรโซ่ นอกจากปฏิบัติตามคำสั่ง เท่านั้น

หลังจากถูกปล่อยให้อยู่ลำพังมาทั้งวัน ประตูห้องที่ถูกปิด ล็อกจากด้านนอกจึงเปิดออกอีกครั้ง อารยาที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองและคิดหาวิธีการหลบหนีไปจากที่นี่ ถึงกับสะดุ้งเฮือก เธอจ้องหน้าผู้หญิงหน้าตายที่ยกอาหาร และเสื้อผ้ามาให้ตาเขม็ง

“ฉันอยู่ที่ไหน?”

ผู้หญิงซึ่งแต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองสีน้ำตาล สวมผ้าคลุม ศีรษะด้วยชุดพื้นเมืองไม่ตอบคำถาม อารยาจึงต้องใช้ ภาษาอารบิกซึ่งเธอเคยเรียนและพอพูดสื่อสารได้ แล้วคํ ตอบที่เธอได้รับก็คือ

“นายท่านสั่งไว้ไม่ให้บอกค่ะ”

อารยาถอนหายใจเบาๆ “ฉันขอใช้โทรศัพท์หน่อยสิ”

“เสียใจด้วยค่ะ นายท่านสั่งห้ามไว้เช่นกัน

คราวนี้อารยาถึงกับพ่นลมหายใจออกจากปาก พลาง กลอกลูกตาไปมา “นี่ฉันถูกจับตัวมาเป็นทาสเชลยหรือไง นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ฉันต้องการกลับบ้าน ได้ยินมั้ย?!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ