Uncategorized

ตอนที่ 59 นายหึงหรอ?



ตอนที่ 59 นายหึงหรอ?

สาวผมสั้นคนนั้นมองแผ่นหลังของจันวิภา มันค่อนข้างที่ จะมืดมนจึงอยากที่จะหนีเตลิดออกไป

“เธอลืมเรื่องอะไรไปหรือเปล่า พี่สาว! ” สุมิตรพูดออกมา อย่างเยือกเย็น น้ำเสียงไม่ดัง แต่กลับทำให้คนที่กำลังเตรียมที่ จะหนีหยุดเท้าลงทันที

สามผมสั้นคนนั้นหันกลับมา ทำหน้าเหยเก แล้วพูดขึ้น “คุณชายสุมิตร ฉัน ฉันเตรียมที่จะออกไป”

“ที่” สุมิตรส่งเสียงหัวเราะออกมา เขาหลับตาลงเล็กน้อย นิ่มมือลูบคลำดวงตาของตนเอง แล้วถอนหายใจออกมาเฮือก หนึ่ง “พี่สาวเธอคงจะลืมไปจริงๆ ต้องให้ผมเตือนไหม?”

สามผมสั้นคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หัวใจของเธอเต้น ออกมาอย่างบ้าคลั่ง จนแทบที่จะพูดอ้อนวอนออกไป “คุณชาย สุมิตร คุณชายสุมิตร…”

ทันใดนั้นสุมิตรก็โน้มตัวลงไปข้างหน้า มองดูผู้หญิงที่อยู่ ตรงหน้าอย่างเยือกเย็น จากนั้นจึงตะโกน “จับผู้หญิงคนนี้แก้ ผ้าแล้วโยนออกไป”

ผู้คนที่อยู่รอบๆนิ่งอึ้งไป และผวาอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังมี บางคนที่เคลื่อนไหวอยู่

ในที่สุดชายคนแรกก็ทนไม่ไหวต่อการยั่วยวนของร่าง เนื้อที่เปลือยเปล่านี้ เดินไปข้างหน้า จากนั้นชายฉกรรจ์หลาย ตอนที่ 59 นายหึงหรอ?

สาวผมสั้นคนนั้นมองแผ่นหลังของจันวิภา มันค่อนข้างที่ จะมืดมนจึงอยากที่จะหนีเตลิดออกไป

“เธอลืมเรื่องอะไรไปหรือเปล่า พี่สาว! ” สุมิตรพูดออกมา อย่างเยือกเย็น น้ำเสียงไม่ดัง แต่กลับทำให้คนที่กำลังเตรียมที่ จะหนีหยุดเท้าลงทันที

สามผมสั้นคนนั้นหันกลับมา ทำหน้าเหยเก แล้วพูดขึ้น “คุณชายสุมิตร ฉัน ฉันเตรียมที่จะออกไป”

“ที่” สุมิตรส่งเสียงหัวเราะออกมา เขาหลับตาลงเล็กน้อย นิ่มมือลูบคลำดวงตาของตนเอง แล้วถอนหายใจออกมาเฮือก หนึ่ง “พี่สาวเธอคงจะลืมไปจริงๆ ต้องให้ผมเตือนไหม?”

สามผมสั้นคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หัวใจของเธอเต้น ออกมาอย่างบ้าคลั่ง จนแทบที่จะพูดอ้อนวอนออกไป “คุณชาย สุมิตร คุณชายสุมิตร…”

ทันใดนั้นสุมิตรก็โน้มตัวลงไปข้างหน้า มองดูผู้หญิงที่อยู่ ตรงหน้าอย่างเยือกเย็น จากนั้นจึงตะโกน “จับผู้หญิงคนนี้แก้ ผ้าแล้วโยนออกไป”

ผู้คนที่อยู่รอบๆนิ่งอึ้งไป และผวาอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังมี บางคนที่เคลื่อนไหวอยู่

ในที่สุดชายคนแรกก็ทนไม่ไหวต่อการยั่วยวนของร่าง เนื้อที่เปลือยเปล่านี้ เดินไปข้างหน้า จากนั้นชายฉกรรจ์หลาย คนก็ได้วิ่งถลันมาข้างหน้าเช่นเดียวกัน ต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อลาก สามผมสั้นคนนั้นออกไป

สามผมสั้นกรีดร้องราวกับสัตว์ป่าที่กำลังจะตายอย่างไร อย่างนั้น แต่ทว่าเสียงของเธอกลับถูกกลบไว้ด้วยบรรยากาศที่ น่าหม่นมองของไนท์คลับ

ธนภาคสูตหายใจเข้าลึกๆ เขาล้างลำคอแล้วเปล่งเสียง ออกมาดังๆ “สุมิตร ไม่ว่าจะเป็นจันวิภาหรือคนอื่นๆ นายก็ไม่ ควรโกรธเกินไป”

สามตาของธนภาคแฝงไว้ด้วยความกังวล เขาเป็นเพื่อน กับสุมิตร ประโยคนี้เขาจึงกล้าพูดกับสุมิตร

เมื่อสุมิตรได้ยินจึงเบิกตากว้าง เขาพูดออกมาอย่างเยือก เย็น “เพราะว่าพวกมันสกปรกโสมม”

ธนภาคยิ้มอย่างขึ้นขย่ม สายหัวแล้วพูดขึ้น “นิสัยรักสะอาด ของนายมาถึงจุดนี้แล้วหรือไง แม้ว่าจะเป็นของที่สกปรก ก็ สามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งของที่สะอาดได้”

สุมิตรเอื้อมมือออกมาขัดจังหวะเขา “เกิดมาก็โดนดูถูก แล้ว แม่ของเธอก็เป็นคนต่ำช้า”

ธนภาครินไวน์ให้เขา เขามองไวน์แดงที่กำลังไหลรินลงมา จากขวด แล้วพูดขึ้นอย่างช้าๆ “ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่านายจะ ไม่รู้สึกอะไรกับจันวิภา บางทีนายอาจจะไม่รู้ทันสังเกต ตอนที่ จันวิภาชนะ นายก็ยิ้มออกมาหน่อยหนึ่ง” คนก็ได้วิ่งถลันมาข้างหน้าเช่นเดียวกัน ต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อลาก สามผมสั้นคนนั้นออกไป

สามผมสั้นกรีดร้องราวกับสัตว์ป่าที่กำลังจะตายอย่างไร อย่างนั้น แต่ทว่าเสียงของเธอกลับถูกกลบไว้ด้วยบรรยากาศที่ น่าหม่นมองของไนท์คลับ

ธนภาคสูตหายใจเข้าลึกๆ เขาล้างลำคอแล้วเปล่งเสียง ออกมาดังๆ “สุมิตร ไม่ว่าจะเป็นจันวิภาหรือคนอื่นๆ นายก็ไม่ ควรโกรธเกินไป”

สามตาของธนภาคแฝงไว้ด้วยความกังวล เขาเป็นเพื่อน กับสุมิตร ประโยคนี้เขาจึงกล้าพูดกับสุมิตร

เมื่อสุมิตรได้ยินจึงเบิกตากว้าง เขาพูดออกมาอย่างเยือก เย็น “เพราะว่าพวกมันสกปรกโสมม”

ธนภาคยิ้มอย่างขึ้นขย่ม สายหัวแล้วพูดขึ้น “นิสัยรักสะอาด ของนายมาถึงจุดนี้แล้วหรือไง แม้ว่าจะเป็นของที่สกปรก ก็ สามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งของที่สะอาดได้”

สุมิตรเอื้อมมือออกมาขัดจังหวะเขา “เกิดมาก็โดนดูถูก แล้ว แม่ของเธอก็เป็นคนต่ำช้า”

ธนภาครินไวน์ให้เขา เขามองไวน์แดงที่กำลังไหลรินลงมา จากขวด แล้วพูดขึ้นอย่างช้าๆ “ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่านายจะ ไม่รู้สึกอะไรกับจันวิภา บางทีนายอาจจะไม่รู้ทันสังเกต ตอนที่ จันวิภาชนะ นายก็ยิ้มออกมาหน่อยหนึ่ง” สุมิตรอึ้งไปครู่หนึ่ง จ้องมองธนภาคด้วยความประหลาด

ใจอยูเล็กน้อย

ธนภาคเทไวน์ให้ตนเองอีกครึ่งแก้ว หยิบขึ้นมาแกว่งใน มือ พร้อมกับพยักหน้าแล้วพูด “เป็นความจริง นายอย่ามอง แบบนั้น ฉันสังเกตดูนายมาตลอด”

สุมิตรส่ายหัวอย่างเหยียดหยาม แล้วพูดขึ้น “นายจะ สังเกตผมไปทำอะไร? ผมว่านายควรที่จะใช้สองตานั่นมองผู้ หญงสารเลวนั่นมากกว่า เมื่อกี้นายเข้าใกล้เธอขนาดนั้น นาย ไม่กลัวฉันโกรธอย่างนั้นหรอ?”

“บางทีผมก็ต้องการทดสอบว่านายหึงหรือเปล่า ตอนนี้ผม แน่ใจแล้ว ตอนนี้นายกำลังหึงอยู่” ธนภาคเลี่ยงสายตาของสุ

มิตร สุมิตรสายหัว ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ธนภาค นายไม่เข้าใจ ผมหรอ? แม้ว่าจะเป็นของที่เกะกะ แม้จะเป็นของที่สกปรก แต่

นั่นก็เป็นของผม คนอื่นอย่าได้แตะ”

ธนภาคเข้าใจแน่นอน เขายังคงเทไวน์ต่อไป

นิ้วมือของธนภาคขยับราวกับกำลังคิดถึงสัมผัสจากมือที่ อ่อนนุ่มของจันวิภา จากนั้นจึงแสร้งทำเป็นประหลาดใจแล้วพูด ออกมา “สุมิตร นายคงจะไม่ลงโทษผมหรอกนะ”

สุมิตรแบมือออกและยักไหล่ “งั้นก็ต้องดูว่านายทำเกินไป หรือเปล่า” รอยยิ้มที่สุมิตรเผยออกมาให้เห็นทำให้ธนภาครู้สึก คุ้นเคย รอยยิ้มนั่นหยิ่งผยองและเอาแต่ใจ สุมิตรอึ้งไปครู่หนึ่ง จ้องมองธนภาคด้วยความประหลาด

ใจอยูเล็กน้อย

ธนภาคเทไวน์ให้ตนเองอีกครึ่งแก้ว หยิบขึ้นมาแกว่งใน มือ พร้อมกับพยักหน้าแล้วพูด “เป็นความจริง นายอย่ามอง แบบนั้น ฉันสังเกตดูนายมาตลอด”

สุมิตรส่ายหัวอย่างเหยียดหยาม แล้วพูดขึ้น “นายจะ สังเกตผมไปทำอะไร? ผมว่านายควรที่จะใช้สองตานั่นมองผู้ หญงสารเลวนั่นมากกว่า เมื่อกี้นายเข้าใกล้เธอขนาดนั้น นาย ไม่กลัวฉันโกรธอย่างนั้นหรอ?”

“บางทีผมก็ต้องการทดสอบว่านายหึงหรือเปล่า ตอนนี้ผม แน่ใจแล้ว ตอนนี้นายกำลังหึงอยู่” ธนภาคเลี่ยงสายตาของสุ

มิตร สุมิตรสายหัว ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ธนภาค นายไม่เข้าใจ ผมหรอ? แม้ว่าจะเป็นของที่เกะกะ แม้จะเป็นของที่สกปรก แต่

นั่นก็เป็นของผม คนอื่นอย่าได้แตะ”

ธนภาคเข้าใจแน่นอน เขายังคงเทไวน์ต่อไป

นิ้วมือของธนภาคขยับราวกับกำลังคิดถึงสัมผัสจากมือที่ อ่อนนุ่มของจันวิภา จากนั้นจึงแสร้งทำเป็นประหลาดใจแล้วพูด ออกมา “สุมิตร นายคงจะไม่ลงโทษผมหรอกนะ”

สุมิตรแบมือออกและยักไหล่ “งั้นก็ต้องดูว่านายทำเกินไป หรือเปล่า” รอยยิ้มที่สุมิตรเผยออกมาให้เห็นทำให้ธนภาครู้สึก คุ้นเคย รอยยิ้มนั่นหยิ่งผยองและเอาแต่ใจ ธนภาคคิดอยู่นาน จึงพูดกับสุมิตรออกไป “นายไม่แปลก ใจกับการแสดงออกของเธอในวันนี้งั้นหรอ? ฉันนี่นับถือจริงๆ ผู้หญิงที่ใจใหญ่แบบเธอ มีทั้งความกล้าและสติปัญญาอย่างนี้ มันช่างล้ำค่าจริงๆ”

สุมิตรครุ่นคิด และพูดออกไปอย่างเหยียดหยาม “ดู เหมือนเธอจะชอบแฝงกายอยู่ในร้านเหล้าบ่อยๆ เหมือนกับแม่

ของเธอมาก”

“นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ธนภาคพูดอธิ

ลาย

สุมิตรพูดอย่างขุ่นมัวอยู่เล็กน้อย “ก่อนหน้านี้นายยังคง ปฏิเสธ ที่ผมพูดคือนายกำลังสังเกตดูเธออยู่ ใช่ไหม?” เขาจ้อง มองธนภาค และต้องการอยากที่จะเห็นอะไรบางอย่างออกมา จากในสายตาของเขา

ธนภาคถอนหายใจเฮือกหนึ่ง รู้สึกว่าไม่สามารถที่จะพูด คุยกับสุมิตรได้จริงๆ เขาจึงพูดออกไปอย่างกลัดกลุ้ม “งั้นผมก็ ไม่ได้พูดผิด นายกำลังท้องอยู่!

ทั้งสองคนไม่มีอะไรจะพูดต่อ นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง แล้ว หัวเราะออกมา

“มีแต่นายเท่านั้นแหละที่กล้าต่อปากต่อคำกับฉันขนาดนี้” สุมิตรชี้ไปที่ธนภาค รอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่งปรากฏออกมา

ธนภาคยักไหล่ ดื่มไวน์ที่เหลืออยู่นิดหน่อย แล้วจึงพูด หยอกล้อออกไป “นั่นเป็นเพราะว่าผมยังมีประโยชน์อยู่ ผมยัง ธนภาคคิดอยู่นาน จึงพูดกับสุมิตรออกไป “นายไม่แปลก ใจกับการแสดงออกของเธอในวันนี้งั้นหรอ? ฉันนี่นับถือจริงๆ ผู้หญิงที่ใจใหญ่แบบเธอ มีทั้งความกล้าและสติปัญญาอย่างนี้ มันช่างล้ำค่าจริงๆ”

สุมิตรครุ่นคิด และพูดออกไปอย่างเหยียดหยาม “ดู เหมือนเธอจะชอบแฝงกายอยู่ในร้านเหล้าบ่อยๆ เหมือนกับแม่

ของเธอมาก”

“นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ธนภาคพูดอธิ

ลาย

สุมิตรพูดอย่างขุ่นมัวอยู่เล็กน้อย “ก่อนหน้านี้นายยังคง ปฏิเสธ ที่ผมพูดคือนายกำลังสังเกตดูเธออยู่ ใช่ไหม?” เขาจ้อง มองธนภาค และต้องการอยากที่จะเห็นอะไรบางอย่างออกมา จากในสายตาของเขา

ธนภาคถอนหายใจเฮือกหนึ่ง รู้สึกว่าไม่สามารถที่จะพูด คุยกับสุมิตรได้จริงๆ เขาจึงพูดออกไปอย่างกลัดกลุ้ม “งั้นผมก็ ไม่ได้พูดผิด นายกำลังท้องอยู่!

ทั้งสองคนไม่มีอะไรจะพูดต่อ นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง แล้ว หัวเราะออกมา

“มีแต่นายเท่านั้นแหละที่กล้าต่อปากต่อคำกับฉันขนาดนี้” สุมิตรชี้ไปที่ธนภาค รอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่งปรากฏออกมา

ธนภาคยักไหล่ ดื่มไวน์ที่เหลืออยู่นิดหน่อย แล้วจึงพูด หยอกล้อออกไป “นั่นเป็นเพราะว่าผมยังมีประโยชน์อยู่ ผมยัง ต้องหาแมวน้อยตัวนั้นมาให้นาย นายรอข่าวดีจากผมแล้วกัน”

“บางทีนายอาจจะหาแมวน้อยตัวนั้นเพื่อเปลี่ยนชีวิตของผู้ หญิงที่ต่ำทรามคนนั้น” สุมิตรพูดอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ไดๆ

ในที่สุดธนภาคก็ลุกขึ้นมา

สุมิตรหลับตาแล้วดื่มไวน์อีกสองสามแก้วอยู่คนเดียว รู้สึก เหนื่อยล้า จึงเดินออกจากประตูไปอย่างโซซัดโซเช

สุมิตรเปิดประตูรถ กลิ่นเหล้าคลุ้งทั่วรถ

จันวิภารอเขาอยู่ข้างในรถอย่างว่านอนสอนง่าย เอนกาย ลงพิงหน้าต่าง แล้วก็หลับไป แก้มของเธอเป็นสีแดง ลำคอที่ อ่อนนุ่มเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟของรถกลับยิ่งทำให้ดูละมุมมาก ยิ่งขึ้นไปอีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณส่วนใบหูของเธอที่เผยออกมา มันทั้งเล็กและมีทรงกลม ข่าวผ่องและอมชมพู ดึงดูดตัณหาของ สุมิตรเข้าให้แล้ว

สุมิตรปิดประตูรถ โอบกอดจันวิภาที่กำลังนอนหลับฝัน หวานเอาไว้ ก้มศีรษะลงแล้วกัดไปที่ใบหูของเธอ

จันวิภาตื่นขึ้นมา แต่ยังมีความงุนงงอยู่ ตอนที่เธอรู้สึกว่าสุ มิตรกัดใบหูของตนเองอยู่นั้น จึงดิ้นรนอย่างรุนแรง กำปั้นคู่ หนึ่งที่ราวกับหยาดฝนได้ชนไปที่หลังของสุมิตร

สุมิตรออกแรงกัดเบาๆ ดูดใบหูที่อยู่ในปาก มือทั้งสอง ข้างกดมือของจันวิภาที่กำลังดิ้นเอาไว้ ต้องหาแมวน้อยตัวนั้นมาให้นาย นายรอข่าวดีจากผมแล้วกัน”

“บางทีนายอาจจะหาแมวน้อยตัวนั้นเพื่อเปลี่ยนชีวิตของผู้ หญิงที่ต่ำทรามคนนั้น” สุมิตรพูดอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ไดๆ

ในที่สุดธนภาคก็ลุกขึ้นมา

สุมิตรหลับตาแล้วดื่มไวน์อีกสองสามแก้วอยู่คนเดียว รู้สึก เหนื่อยล้า จึงเดินออกจากประตูไปอย่างโซซัดโซเช

สุมิตรเปิดประตูรถ กลิ่นเหล้าคลุ้งทั่วรถ

จันวิภารอเขาอยู่ข้างในรถอย่างว่านอนสอนง่าย เอนกาย ลงพิงหน้าต่าง แล้วก็หลับไป แก้มของเธอเป็นสีแดง ลำคอที่ อ่อนนุ่มเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟของรถกลับยิ่งทำให้ดูละมุมมาก ยิ่งขึ้นไปอีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณส่วนใบหูของเธอที่เผยออกมา มันทั้งเล็กและมีทรงกลม ข่าวผ่องและอมชมพู ดึงดูดตัณหาของ สุมิตรเข้าให้แล้ว

สุมิตรปิดประตูรถ โอบกอดจันวิภาที่กำลังนอนหลับฝัน หวานเอาไว้ ก้มศีรษะลงแล้วกัดไปที่ใบหูของเธอ

จันวิภาตื่นขึ้นมา แต่ยังมีความงุนงงอยู่ ตอนที่เธอรู้สึกว่าสุ มิตรกัดใบหูของตนเองอยู่นั้น จึงดิ้นรนอย่างรุนแรง กำปั้นคู่ หนึ่งที่ราวกับหยาดฝนได้ชนไปที่หลังของสุมิตร

สุมิตรออกแรงกัดเบาๆ ดูดใบหูที่อยู่ในปาก มือทั้งสอง ข้างกดมือของจันวิภาที่กำลังดิ้นเอาไว้ “ปล่อยฉัน สารเลว สารเลว! ” จันวิภาดินอย่างบ้าคลั่ง แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ คำด่าทอที่เธอต่าออกมานั้นลอย ฟุ้งอยู่ในรถที่แสนจะอึดอัด แต่มันกลับไปกระตุ้นตัณหาของสุ มิตรซ้ำแล้วซ้ำอีก

สุมิตรกดเรือนร่างของจันวิภาไว้ใต้ร่างกายของบตนเอง ลิ้นตวัดใบหูและคอของเธออย่างบ้าคลั่ง จากนั้นจึงแง้มริม ฝีปากของเธอ แล้วตะวัดลิ้นเข้าไปนัวเนียกับลิ้นของจันวิภา

จันวิภาดิ้นรน พูดอย่างโหดเหี้ยม “ออกไป สกปรก! ”

จันวิภารู้สึกขยะแขยงอยู่ในหน้าอก

สุมิตรยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมาทันที “เธอไม่มีคุณสมบัติที่จะพูด ว่าผมสกปรก นางผู้หญิงสารเลว”

จันวิภายิ้มเยาะเย้ย “นายไปมั่วกับผู้หญิงพวกนั้น และยัง ใช้ปากที่จูบกับผู้หญิงพวกนั้นมาจูบฉันอีก นายเห็นฉันจันวิภา คนนี้เป็นอะไรกันแน่?”

สุมิตรยังคงกดจันวิภาเอาไว้อย่างหนักหน่วง รู้สึกได้ถึง ความร้อนลุ่มจากร่างกายเธอ เสื้อผ้าที่เบาบาง ยิ่งทำให้เขากระ ทื่นกระหายมากยิ่งขึ้น

“เธอหึงหรอ? หีม?” สุมิตรเอนตัวมาอีกครั้ง แล้วใช้มือทั้ง สองข้างกลั่นแกล้งร่างกายของจันวิภาอย่างบ้าคลั่ง

เสียงเสื้อผ้าถูกฉีกขาดดังออกมาไม่หยุดหย่อน วิวทิวทัศน์ ของฤดูใบไม้ผลิที่มีเสน่ห์ เสียงที่โหดร้ายทารุณดังทะลักทั่วทั้ง “ปล่อยฉัน สารเลว สารเลว! ” จันวิภาดินอย่างบ้าคลั่ง แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ คำด่าทอที่เธอต่าออกมานั้นลอย ฟุ้งอยู่ในรถที่แสนจะอึดอัด แต่มันกลับไปกระตุ้นตัณหาของสุ มิตรซ้ำแล้วซ้ำอีก

สุมิตรกดเรือนร่างของจันวิภาไว้ใต้ร่างกายของบตนเอง ลิ้นตวัดใบหูและคอของเธออย่างบ้าคลั่ง จากนั้นจึงแง้มริม ฝีปากของเธอ แล้วตะวัดลิ้นเข้าไปนัวเนียกับลิ้นของจันวิภา

จันวิภาดิ้นรน พูดอย่างโหดเหี้ยม “ออกไป สกปรก! ”

จันวิภารู้สึกขยะแขยงอยู่ในหน้าอก

สุมิตรยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมาทันที “เธอไม่มีคุณสมบัติที่จะพูด ว่าผมสกปรก นางผู้หญิงสารเลว”

จันวิภายิ้มเยาะเย้ย “นายไปมั่วกับผู้หญิงพวกนั้น และยัง ใช้ปากที่จูบกับผู้หญิงพวกนั้นมาจูบฉันอีก นายเห็นฉันจันวิภา คนนี้เป็นอะไรกันแน่?”

สุมิตรยังคงกดจันวิภาเอาไว้อย่างหนักหน่วง รู้สึกได้ถึง ความร้อนลุ่มจากร่างกายเธอ เสื้อผ้าที่เบาบาง ยิ่งทำให้เขากระ ทื่นกระหายมากยิ่งขึ้น

“เธอหึงหรอ? หีม?” สุมิตรเอนตัวมาอีกครั้ง แล้วใช้มือทั้ง สองข้างกลั่นแกล้งร่างกายของจันวิภาอย่างบ้าคลั่ง

เสียงเสื้อผ้าถูกฉีกขาดดังออกมาไม่หยุดหย่อน วิวทิวทัศน์ ของฤดูใบไม้ผลิที่มีเสน่ห์ เสียงที่โหดร้ายทารุณดังทะลักทั่วทั้ง คันรถ

จันวิภายังคงดิ้นรนอยู่ ไม่รู้ว่าเธอไปเอาแรงมาจากไหน ผลักสุมิตรออกไปอย่างรุนแรง

“หึง? ฉันจันวิภาคนนี้หึงผู้หญิงพวกนั้นงั้นหรอ? นายมัน

สวะ” คันรถ

จันวิภายังคงดิ้นรนอยู่ ไม่รู้ว่าเธอไปเอาแรงมาจากไหน ผลักสุมิตรออกไปอย่างรุนแรง

“หึง? ฉันจันวิภาคนนี้หึงผู้หญิงพวกนั้นงั้นหรอ? นายมัน

สวะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ