บทที่ 2 ความหวังดี
2
ความหวังดี
“มาช่วยนังจําปีร้อยมาลัยถวายพระหน่อยสิ เธอร้อยมาลัย เก่งไม่ใช่เหรอ”
เพราะประโยคนี้ณัฐรินทร์จึงพาตัวเองเข้ามายืนงงๆ อยู่ใน อาณาเขตคฤหาสน์หลังงงามของตระกูลอังคะวรางกูร เธอไม่ได้ เข้ามาเหยียบที่นี่หลายวันนับจากคืนนั้น พยายามหลีกเลี่ยงและ ทําใจให้ยอมรับการอกหักอย่างจริงๆ จังๆ แต่ก็อดไม่ได้ หรืออีก ที่คงจะบอกว่าปฏิเสธไม่ออกเมื่อคุณนายถนอมศรีโทร.ตามและ อ้างเรื่องร้อยมาลัยถวายพระเอาพระมาอ้างณัฐรินทร์ก็ต้องยอม มา
ฝีมือการร้อยมาลัยของเธอเลื่องชื่อไม่เบา ขนาดที่เคยมีคน มาติดต่อขอซื้อพวงมาลัยฝีมือเธอไปขายอีกที ณัฐรินทร์ปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีเวลา แต่พอถึงวันพระเธอก็จัดการร้อยพวงมาลัย ถวายพระด้วยตัวเอง
“มาแล้วเหรอ”
สายสมรคนรับใช้คนสนิทของคุณนายถนอมยืนรออยู่ ณัฐรินทร์เดินเข้าไปหาแล้วตะกร้าดอกไม้ที่ถูกเตรียมไว้ก็ขึ้น มาตรงหน้า แถมคนยื่นยังแกล้งทำตะกร้าหลุดมือ ดีที่เธอรับไว้ ทันก่อนจะกระจายเกลื่อนพื้น
ณัฐรินทร์มองสายสมรอย่างไม่พอใจ
“ทำไม มีปัญหาอะไรไม่ทราบ” สายสมรชักเสียงตอบกลับ “ถ้าตะกร้าตก ดอกไม้จะไม่รู้หรือไง”
“แล้วไงล่ะ ดอกไม้ก็ไม่เกี่ยวกับฉันนี่นา นี่มันหน้าที่เธอ ถ้าไม่ระวังก็ช่วยไม่ได้
“พี่หมอนแกล้งนุ่มทำไม” ณัฐรินทร์ไม่ยอม สายสมรก็เป็น แต่คนรับคำสั่งมาอีกที ไม่มีสิทธิ์จะมารังแกเธอแบบนี้ในเมื่อ ศักดิ์ศรีก็ไม่ต่างกัน
“แกล้งตรงไหนไม่ทราบยะ หรือคุณนุ่มคิดว่าฉันแกล้งทำ ตะกร้าหลุดมือ ฮิๆ” เสียงที่เปล่งเรียก “คุณนุ่ม ไร้ซึ่งความจริงใจ ใดๆ ออกมา
ณัฐรินทร์เม้มปาก ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ แต่เธอก็ควรมีสิทธิ์ เรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง ในเมื่อเธอกำลังถูกกลั่นแกล้ง ตอนนี้
“พี่แกล้ง ถ้านุ่มรับไม่ทันดอกไม้ร่วงเสียหายหมด
“โอ๊ย!! ฉันจะแกล้งเธอทำมั้ย” สายสมรทำเสียงสูง บิดริม ฝีปากจนผิดรูปร่าง สายตาที่มองมาก็มีแต่ความหยามเหยียด ทั้ง ที่ณัฐรินทร์ก็เป็นคนเหมือนกัน
ณัฐรินทร์กัดริมฝีปากประคองตะกร้าดอกไม้ไว้ด้วยสองมือ เธอไม่อยากโวยวายเพราะที่นี่แทบจะไม่มีใครเข้าข้างเธอ โดย เฉพาะคนที่เธอแอบหลงรัก
“เอะอะอะไรกัน” ดลชัยยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองมา
ณัฐรินทร์ไม่เห็นเขาก่อนหน้านี้ พอเจอหน้ากันเธอก็ประหม่า เพราะความในใจที่มันพุ่งพล่านไปหมด เธอมองเขาแต่พอ ประสานนัยน์ตากัน เธอก็ฝ่ายหลุบตาลงด้วยความเขินอาย
“ฉันถามว่าเอะอะอะไรกันเสียงดัง”
“ก็นั่ง….คุณนุ่มน่ะสิคะ เกือบทำตะกร้าดอกไม้ที่คุณนายให้ ช่วยร้อยมาลัยตก นี่ถ้าตะกร้าตกดอกไม้กระจายก็หมด คุณนายจะไม่มีมาลัยถวายพระนะคะคุณดล”
ณัฐรินทร์เบิกตากว้างกับการใส่ร้ายหน้าด้านๆ ของสายสมร เธอแน่ใจไม่เคยทำผิดคิดร้ายกับผู้หญิงคนนี้ แล้วทำไมสายสมร จึงจงเกลียดจงชังเธอนัก
“ไม่จริงค่ะ นุ่มไม่ได้ทำ เธอปฏิเสธ
“ยังจะมีหน้าปฏิเสธอีกเหรอ น่าสงสารคุณนายจริงจริง อุตส่าห์เชื่อใจให้เธอมาร้อยมาลัย แต่เธอเกือบจะทำดอกไม้เสีย หาย”
“ยังต้องโกหกอีกเหรอนุ่ม เธอนี่มันจอมโกหกชัดๆ เลยนะ เห็นกับตาว่าเธอเกือบทําตะกร้าตก ฉันเห็นกับตา! ยังโกหกกัน หน้าด้านๆ อีกนะยัยบ้า” ดลชัยตะคอกเสียงกร้าว ณัฐรินทร์น้ำตา
“นุ่มไม่ได้ทำนะคะพี่ดล
“ตอแหล!! ขนาดฉันเห็นกับตา เธอยังหน้าด้านปฏิเสธอีกเห
รอ”
นอกจากน้ำเสียงที่แข็งกร้าว สายตาที่มองมาก็ยังเต็มไป ด้วยความจงเกลียดจงชังอย่างไม่คิดจะปิดบัง คนตัวเล็กมอง ตอบด้วยสายตาตัดพ้อ แต่ดลชัยไม่คิดสนใจ ณัฐรินทร์ไม่เคยอยู่ ในสายตาเขาเลยสักนิด
“ต่อให้นุ่มแก้ต่างยังไง พี่ดลก็ไม่เคยเชื่อนุ่มเลยสักครั้ง
“ต่อให้เธอกราบฉัน ฉันก็ไม่เชื่อยัยบ้า อย่ามาบีบน้ำตาท่ สําออยในบ้านฉัน ถ้าทนไม่ได้ก็กลับไปอยู่ในที่ที่เธอควรอยู่
ริมฝีปากของณัฐรินทร์สั่นระริก ทำไมดลชัยถึงใจร้ายกับเธอ ขนาดนี้ เธอไปทําอะไรให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจนักหนา ถึงใจร้าย ใจดีกับเธอเหลือเกิน แต่ แต่ณัฐรินทร์ไม่เคยมองเขาในแง่ร้าย เธอเชื่อว่าสักวันเขาจะใจอ่อน เธอจะทำดีจนกว่าเขาจะใจอ่อน
ณัฐรินทร์หันหลังจะเอาตะกร้าดอกไม้ไปนั่งร้อยมาลัยที่ศาลา หกเหลี่ยม กลั้นสะอื้นไม่ใส่สะท้านออกมาให้เห็น ทำตัวเข้มแข็ง เพื่อสักวัน…สักวันดลชัยจะต้องเห็นใจเธอ
“นังหน้าด้าน เขาไล่ก็ไม่ยอมไป” สายสมรพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหันหลังจะเข้าครัวก็เจอกับคลชัยที่ยังยืนอยู่
สายสมรส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มรูปงาม เธอใส่เสื้อสีขาว คอกว้างลึก จึงก้มตัวลงแสร้งเก็บของทั้งที่ไม่มีของตกให้เก็บ คน มองก็มองทะลุเข้าไปเห็นหน้าอกที่มีเสื้อชั้นในตัวจิ๋วปิดบัง เห็น แล้วดลชัยเลียริมฝีปาก คนเคยขาม้าเคยขี่ ทีเด็ดของสายสมรก็มี พอจะให้ดลชัยลูกคลำได้ แม้จะดูเป็นคนเรื่องมาก มักใหญ่ ใฝ่สูง แต่ของแบบนี้มันง่าย ยิ่งสายสมรเป็นเพียงดอกไม้ริมทาง เขาก็ยิ่งอยากขยี้
“แม่ไม่อยู่ ไปเที่ยวกันมั้ย
ตลชัยไม่สนใจใครนอกจากอยากจะคลึงเคล้นทรวงอกที่อยู่ ใต้เสื้อคอกว้างนั่น สายสมรรีบแอ่นอกให้ขย่า ดวงตาของเธอหรี่ ปรือ เหยียดณัฐรินทร์อยู่ในใจ ผู้หญิงจืดชืดขนาดนั้น ใครเล่าจะ สนใจ สู้เธอก็ไม่ได้สักอย่าง นี่ขนาดเป็นคนใช้ เจ้านายก็ยังจะมี เซ็กซ์ด้วย ฮีๆ
“ไปสิคะ คุณดลจะพาหมอนไปขึ้นสวรรค์ลงนรกที่ไหนก็ไป ค่ะ หมอนจะไปทุกที่ที่มีคุณดล”
“งั้นมานี่สิ”
ว่าแล้วดลชัยก็ดึงมือสายสมรเข้ามุมมืดใกล้ๆ กันนั้น ตรงนั้น อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่และค่อนข้างมืด แม้ว่าบรรยากาศรอบตัวจะยัง มีแสงอัสดงทอสว่าง แต่ทั้งคู่ก็ไม่สนใจจมจ่อมอยู่ในห้วง กามารมณ์อันร้อนฉ่า
มือชายสอดเข้าไปในเสื้อยืดกอบกุมทรวงสล้างและบีบ เคล้น สายสมรเงยหน้ารอคอยจูบจากเขาซึ่งเธอไม่เคยได้รับ สิ่ง หนึ่งที่คลชัยระวังนอกจากการใส่ถุงยางอนามัยก็คือการจูบ แม้ว่าสายสมรจะทำให้เขาเคลิ้มแต่ดลชัยจะดึงสติถอยปากหนี เธอทุกครั้งไป
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ปากของดลชัยฉกวูบข้ามกลีบปากอิ่มหนาของสายสมรลงสู่ปลายกัน เต้านมอวบที่ยังโดนขย่ แล้วยังถูกปากร้อนดูดกลืน เสื้อของนางคนใช้ถลกขึ้น เสื้อชั้นใน หลุดจากการปิดบัง ทรวงอกหยุ่นทะลักออกมาให้ปากร้อนรวบ กลืน
“โอว์…ซี้ดดดด คุณเลขาหมอนเสียวเหลือเกิน
สายสมรนุ่งผ้าซิ่นเป็นประจำอยู่แล้วเพราะมันเอื้ออำนวยให้ ทำการนี้เป็นอย่างมาก แค่กระตุกปมก็หลุด ท่อนล่างของ สายสมรมีเพียงกางเกงชั้นในตัวบางๆ
“ถอดสิ จะรออะไร” ดลชัยสั่งเสียงพร่า อึดใจต่อมาท่อนล่าง ของสาวใช้ก็เปลือยเปล่า
นิ้วของดลชัยลูบไปมาอยู่บนเนินสาวที่อุดมไปด้วยไรขนสี เข้ม ดลชัยแหญ่ปลายนิ้วเข้าไปในร่องเนื้อ ขยี้จุดกระสันของเธอ ให้ครางหงิงๆ
“อ๊ะ…อ๊า”
สายสมรขาแข้งสั่นต้องยืนกางขาออกกว้างให้ดลชัยปลุก เร้า ไม่นานร่องเนื้อนั้นก็แฉะไปด้วยน้ำสาว
“ใส่เลยได้มั้ยคะคุณดล หมอนอยากจะแย่แล้ว”
ดลชัยกระตุกกางเกงลง แล้วงัดท่อนเนื้อออกมาอวดศักดิ์ดา สายสมรยิ้มกริ่มยกขาขึ้นตวัดรัดเอวหนาให้ท่อนเอ็นกระแทกเข้ากับร่องสาว ก่อนจะดันตัวเข้าสู่ ภายใน
“โอววว…ซี้ดดดด” ทุกครั้งที่มีเซ็กซ์กัน สายสมรชอบที่จะส่ง เสียงครวญครางดังๆ โดยไม่สนใจใครจะได้ยินหรือไม่ เธอ ระบายความเสียวกระสันออกมาเป็นเสียงแหลมเล็กที่กรีดร้อง อย่างทุรนทุราย
“อ๊า…อ๊า”
เสียงของสายสมรนั้นดังไปเข้าหูหญิงสาวที่นั่งอยู่ในศาลา หกเหลี่ยม ณัฐรินทร์มองหาต้นตอเสียง คราแรกไม่เห็นก็มอง ผ่าน
“ซี้ดดด…แทงแรงๆ สิคะคุณขา เอาหมอนแรงๆ
“แล้วเธอจะร้องไม่ออก”
“ไม่จริงหรอก ซี้ดดด หมอนจะกรีดร้องให้ดังๆ เลยต่าง
หาก”
“งั้นรึ หึ หึ” ฝ่ายชายก็ใช่จะห้ามปรามไม่ให้ส่งเสียงดัง ดล ชัยก็ครามแผดกร้าวเหมือนกันยามกระทั่งท่อนเอ็นเข้าๆ ออกๆ อยู่ในร่องสาว
ณัฐรินทร์วางดอกไม้ลงแล้วลุกขึ้นยืน เธอเห็นพุ่มไม้ตรงมุม ตึกไหวสะบัดไปมาอย่างน่าประหลาดใจ และได้ยินเสียงดังมา จากตรงนั้น เป็นเสียงคุย เสียงร้องของผู้หญิงที่คล้ายจะขาดใจ เสียงคํารามเหมือนไม่พอใจของชายคนหนึ่ง เกิดอะไรขึ้นตรงนั้น
ด้วยความสงสัยณัฐรินทร์จึงสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วเธอก็ เห็นปลายเท้าเล็กๆ สะบัดเร่าๆ เห็นสะโพกที่คงแข็งกระด้างขยับ สาย เธอยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตา โบกโพลง ลมหายใจแทบจะ ขาดรอน
พัดลชัยกับสายสมร!!!
น้ำตาร่วงเผาะ เท้าเล็กวิ่งหนีภาพที่แสนเจ็บปวดนั้นไปอีก ทาง เธอวิ่งไปทางฝั่งขวาซึ่งมีสระว่ายน้ำ เท้านำพาไปโดยที่ใจ นั้นร่ำร้องอยากกลับบ้าน สระว่ายน้ำกว้างกำลังดีนั้นเงียบกริบ เธอทิ้งตัวลงนั่งยองๆ อยู่ตรงขอบสระ อุดปากร้องไห้เงียบๆ อยู่ ตรงนั้น
สายน้ำไหวกระเพื่อมและใครบางคนก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ
ณัฐรินทร์มัวแต่ปิดปากก้มหน้าซุกหัวเข่าตัวเองจึงไม่เห็นคน ที่สปริงตัวขึ้นจากน้ำ แดนดินมีสีหน้าเคร่งเครียดทันทีที่เห็นเธอ เขาย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าแล้วใช้ปลายนิ้วแตะที่แก้มนวล ใส
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหลุดเสียงกรีดร้องด้วยความ ตกใจ แดนดินก็จูบปิดปากกลั้นไม่ให้เสียงของเธอเล็ดลอดออก
ไป
“อื้อ!!!!!
จูบแรกในชีวิตสาวถูกเขาพรากไปเสียแล้ว
จูบที่เธอตั้งใจจะเก็บไว้ให้คนที่เธอรัก
จูบที่เต็มไปด้วยความหมาย หากแต่คนจูบจะรู้หรือเปล่า
แดนดินไม่คิดว่าจูบของณัฐรินทร์จะหวานได้เพียงนี้ ไม่ผิด หวังเลยที่อยากจูบเธอมานานเหลือเกิน กลีบปากนั้นหวานละมุน เรียวลิ้นเล็นนั้นช่างไร้เดียงสา เป็นความหวานที่มีค่าและมีความ หมายสําหรับเขาที่สุด
แดนดินถอนริมฝีปากออก เพราะถูกฝึกมานานจึงมีประสาท รับรู้ที่ไวกว่าคนธรรมดา หูของเขาได้ยินเสียงคนเดิน และคงไม่ดี แน่ถ้าจะเห็นเขาอยู่กับเธอในตอนนี้
สิ่งที่แดนดินทำก็คือการกระชากเธอสู่วงแขนแล้วไถลตัวลง น้ำไปด้วยกัน ณัฐรินทร์ถูกจูบอีกครั้ง ใต้สายน้ำ ร่างนุ่มถูกกอด รัดจนกระดิกไม่ได้ ทั้งคู่ฝังตัวเองอยู่ในมุมหนึ่งของสระว่ายน้ำ คนที่กำลังจะเดินผ่านไปถ้าไม่สังเกตก็คงไม่ชะโงกหน้าลงไปมอง เมื่อไม่มีอะไรผิดสังเกตนอกจากคลื่นน้ำตามปกติ
ร่างนั้นเดินผ่านไป แดนดินก็ถอนริมฝีปากจากปากนุ่มแล้ว พาเธอขึ้นสู่ผิวน้ำ
“ซูว์!!” เขาส่งเสียงห้ามก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา
ณัฐรินทร์เองก็เงียบกริบเพราะกลัวจะมีใครมาเห็น เธอไม่ อยากให้ใครเห็นในสภาพนี้ โดยเฉพาะพี่ดลชัย และเมื่อเงียบจน แน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เธอก็ผลักอกเขา
“พี่แดนทำอะไร พี่แดนทำแบบนี้กับนุ่มทำไมกันคะ
“เพราะพี่อยากทํา อยากให้น้องนุ่มตัดใจจากไอ้ดล มีคน ดีๆ ที่คู่ควรกับน้องนุ่มมากกว่ามัน ทำไมถึงมองไม่เห็นคะ
“พี่แดนอย่าพูดเรื่องนี้เลยค่ะ นุ่มไม่อยากพูด
“พี่ก็ไม่อยากเห็นน้องนุ่มเสียน้ำตาอีกเหมือนกันค่ะ” “ก็เลยจูบนุ่มหรือไงคะ” ถามเสียงสูงแล้วจ้องเข้าไปใน ดวงตาคู่คมกริบที่มีประกายไหวระริกเชิงเจ้าชู้ เห็นดังนั้นแก้ม นวลก็แดงแช้ดขึ้นในทันตา
“ใช่ค่ะ” ชายหนุ่มตอบหน้ามึน พลางยิ้มกว้างอวดฟันขาว และลักยิ้มเล็กๆ บนแก้มที่เห็นไรเคราขึ้นเขียว
“พี่แตน!! ใจร้าย” เธอสะบัดสะบิ้งร่างกายจะให้หลุดจาก อ้อมกอด แดนดินก็ยิ่ง โอบรัดให้คนตื้นเริ่มเหนื่อย “ปล่อยนุ่มนะ คะ”
“พี่แดนไม่เคยใจร้ายกับน้องนุ่มเลยนะคะ ไม่เหมือนใคร บางคน ที่น้องนุ่มยอมทน ให้มันทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ทำไมคะ ไปรักมันทําไมไอ้คนพรรค์นั้น”
เสียงของเขาเข้มขึ้นแต่ก็เยือกเย็นและเว้าวอนอยู่ในที ณัฐริ นทร์ก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลย แล้วจะอธิบายให้เขาเข้าใจได้ อย่างไร
“ปล่อยนุ่มนะคะ ไม่งั้นนุ่มจะร้อง
“ร้องสิคะ ร้องเลย
“กะ…” เสียงของณัฐรินทร์ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอหนา ริมฝีปากของเธอถูกจูบซับหนักหน่วงแตกต่างจากเมื่อครู่ คราวนี้ เรียกร้องเอาแต่ใจ ร่างกายของเธอเริ่มอ่อนเปลี้ยไปตามอารมณ์ ที่ถูกปลุกปั่น อารมณ์ที่ไม่เคยรู้จักว่าจะมีอิทธิพลมากมายขนาดนี้
กายบางใต้น้ำถูกรัดด้วยวงแขน ฝ่ามือของเขาเลื่อนลง ลูบขึ้นลูบลงสลับไปมา กระทั่งมันอยู่นิ่งอยู่บนแอ่งก่อนจะขึ้นสู่ ลอนสะโพก
แดนดินถอนริมฝีปากออกเพราะเธอโอนอ่อนผ่อนตามเขา แต่ทว่าเขาคิดผิด ณัฐรินทร์ส่งเสียงร้องทันทีที่ปากเป็น
อิสระ
“กรี๊ด”
ผู้พันแดนดินฉกริมฝีปากประกบปากเธออีกครั้ง คราวนี้ ตั้งใจจูบมากกว่าเดิม ตั้งใจปลุกเร้าทั้งด้วยปลายลิ้นและฝ่ามือที่ ค่อยๆ ลูบไล้บั้นท้ายงอนเช้ง ในขณะที่ณัฐรินทร์ก็เริ่มประคองสติ ไม่อยู่ สัมผัสนั้นปลุกเร้าจนสติสัมปชัญญะของเธอหลุดลอยไป ไกล
ทรวงอกเธอแนบชิดไปกับกายหนา สัมผัสได้ถึงความ แข็งแกร่งเหมือนหินผา มือของเธอค่อยๆ ไต่ขึ้นไปบีบบ่ากว้าง อย่างเผลอไผล ลิ้นเล็กทำปฏิกิริยากับลิ้นหนาโดยอัตโนมัติ ควบคุมตัวเองไม่อยู่
หลุดลอยไปในภวังค์ความหวาน
“สวบ!” เสียงอะไรบางอย่างดังใกล้เข้ามา ณัฐรินทร์ได้ยิน แต่ไม่อาจดึงสติกลับคืนมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ในขณะที่แดน ดินดึงตัวเธอลงสู่ผิวน้ำอีกครั้ง
ทั้งคู่จมจ่อมอยู่ในภวังค์ความหวามไหว สัมผัสของแดนดิน เลื่อนมาด้านหน้ากอบกุมเต้าทรวงสล้างอย่างย่ามใจ หญิงสาว ปล่อยให้เขาลูบไล้โดยไม่ปฏิเสธเพราะยังคุมสติไม่อยู่ รู้แต่เพียงว่าจูบและรสสัมผัสของ เขานั้นช่างอบอุ่นเสียจริง แม้แต่ในน้ำเย็นๆ ก็ยังแทบจะอุ่นจน ร้อน
อ็อกซิเจนที่ทั้งคู่มอบให้แก่กันมีมากพอจะปล่อยเวลาให้ ดื่มอยู่กับสัมผัสนั้น กระทั่งทนไม่ไหว ร่างของหญิงสาวก็ลอย ขึ้นสู่พื้นน้ำลำตัวชั่วล่างอยู่ในวงแขนของเขา
“แฮ่กๆ” เธอหอบหายใจ เพิ่งจะรู้สึกว่ากำลังจะขาดใจก็ตอน นี้ สายลมเย็นๆ ชวนให้อยากดันตัวเองลงใต้น้ำอีกครั้ง ทว่า สายตาที่ตรึงตาเธอให้หยุดนิ่งนั้นกำลังออกคำสั่งบางอย่าง เธอ เผลอหลุบตามองเรียวปากของเขาเข้าให้ แดนดินจึงยิ้มกว้าง เป็นการตอบแทน
“กลับบ้านไปได้แล้วค่ะ”
เวลานี้เองที่เธอมีสติครบถ้วน
“นุ่มต้องร้อยมาลัยก่อนค่ะ”
“พี่จะไม่ปล่อยให้ลูกหมาตกน้ำไปนั่งร้อยมาลัยท้าสายลม หรอกนะคะ เดี๋ยวจะไม่สบายไป พี่คงต้องโทษตัวเองไปอีกนาน
“ก็ไม่ผิดนี่คะที่พี่แดนจะโทษตัวเอง”
“ทราบค่ะว่าพี่ผิด แต่พี่แดนจะไม่ยอมให้น้องนุ่มไม่สบายเพราะตัวเองแน่นอน พวงมาลัยนั้นช่างมันเถอะค่ะ
คนอื่นก็ร้อยได้
“แต่…เดี๋ยวคุณนาย…”
“พี่แดนสั่ง ใครจะมีสิทธิ์โต้แย้งล่ะคะ” เมื่อเห็นเธอลังเล เขา ก็ให้ทางเลือก “งั้นเลือกเอานะคะ ระหว่างจะกลับไปพักผ่อนดีๆ ที่ บ้าน หรือจะนอนพักผ่อนในห้องพี่ และถ้าห่วงพวงมาลัยนัก พี่ อนุญาตให้เอาเข้าไปร้อยในห้องนอนได้ค่ะ”
ณัฐรินทร์ส่ายหน้าหวือแล้วรีบถีบตัวขึ้นจากสระ แดนดิน หัวเราะช่วยส่งเธอขึ้นโดยจงใจใช้มือดันสะโพกสาว หญิงสาว แก้มแดงเป็นลูกตำลึงทำปากขมุบขมิบเหมือนจะสวดอะไรให้แต่ ไม่มีเสียง เธอหันมามองเห็นเขายิ้มหล่อกระชากใจก็วิ่งปรู๊ดออก จากรั้วบ้าน
แดนดินถอนใจเฮือก หลุบตามองเป้ากางเกงตุงๆ ของตน ถ้าณัฐรินทร์ยังไม่ยอมกลับ มีหวังพรุ่งนี้ต้องพาไปอำเภอเป็นแน่
แล้วจะรออะไรล่ะไอ้บ้า!
รุกเธอขนาดนี้แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง!!
แดนดินกระตุกยิ้มที่มุมปาก คนเลวๆ อย่างไอ้ดลชัยไม่มีทาง ได้ณัฐรินทร์ไปครองเด็ดขาด
ตอนสายๆ ของบ่ายวันหนึ่ง ณัฐรินทร์ซึ่งคอยชะเง้อคอมอง บ้านหลังใหญ่ตรงกันข้ามแทบจะทุกนาทีเลยก็ว่าได้ ใช้…เธอ กําลังมองหาใครบางคน และคนๆ นั้นก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากดลชัย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันก่อนทำให้หญิงสาวไม่กล้าเข้าไป ในเขตรั้วบ้านหลังงามอีกเลย แต่แทนที่เธอจะถอยห่างและเลิก สนใจคนที่นั่นอย่างจริงๆ จึงได้เสียที กลับกลายเป็นว่าเธออยาก รู้อยากเห็นเรื่องของเขามากขึ้น
ภาพกายชายที่กำลังกกกอดคนรับใช้สาวยังติดตาและฝัง แน่นอยู่ในใจไม่แพ้ภาพของเธอกับใครอีกคนในสระว่ายน้ำ ทว่า เธอไม่กล้าคิดถึงแดนดิน ไม่รู้เพราะอะไร ทุกครั้งที่ภาพของเขา เด่นชัดขึ้นเธอจะไล่ลบมันออกไปเสียทุกครั้ง
ณัฐรินทร์ยังคงตัดใจจากดลชัยไม่ได้ แถมภาพสะโพก เปลือยของเขาที่กำลังขยับโยกไปมาก็ยิ่งดึงเธอให้เข้าหา หญิง สาวกรนด่าตัวเองว่าบ้า หน้าไม่มียางอาย จดจำเข้าไปได้ยังไง เรื่องพรรค์นี้ เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงเอาแต่คิดถึง มัน ยากที่จะลืมเลือน
“นุ่มไม่ได้ไปช่วยงานคุณนายมานานหลายวันแล้วนี่ลูก แม่ ยังแปลกใจเลยทำไมคุณนายไม่เรียกใช้งานหนูเหมือนเดิม
มารดาของณัฐรินทร์เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และเชื่อมั่นมา โดยตลอดเรื่องความดีต้องชนะทุกสิ่งทุกอย่าง คนดีๆ ตกน้ำไม่ ไหลตกไฟไม่ไหม้ อีกอย่างณัฐรินทร์ก็ไม่เคยกลับมาเล่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรั้วบ้านหลังนั้นให้ฟังอย่างลึกซึ้ง แม้บาง ครั้งก็เห็นสีหน้าของบุตรสาวไม่ดีเอาเสียเลย แต่บุตรสาวไม่พูด ไม่เล่า คนเป็นแม่ก็เลยปล่อยผ่าน คิดว่าถ้าณัฐรินทร์ไม่ไหวจริงๆ ก็คงบอกเล่าให้ฟัง
“คุณนายท่านคงไม่มีอะไรจะใช้นุ่มมั้งคะแม่” หญิงสาวตอบ เสียงอ่อย แล้วเดินไปนั่งข้างมารดาช่วยปอกเปลือกกระเทียมหัว หอมไว้ทำกับข้าวมื้อเย็น
“งั้นหรือ”
“ค่ะ” ณัฐรินทร์มองมือมารดาก่อนจะมองใบหน้าสวยสมวัย
ของท่านด้วยความรัก “วันนี้แม่แกงอะไรคะ”
“ต้มสายบัวใส่ปลาทูจะเอ้อ…คุณนายแก้วเกล้าชอบกินต้ม สายบัวมาก เดี๋ยวแม่ทำเสร็จ หนูเอาไปให้คุณนายท่านหน่อยนะ ลูก”
หญิงสาวเกือบส่ายหน้าไปแล้ว ถ้าไม่ทันคิดว่ามารดาจะ สงสัย เธอจําต้องพยักหน้ารับคำเสียงเบาไม่อยากเจอใครบางคนเพราะกลัว กลัวเขาเหลือเกิน
เมื่อต้มสายบัวร้อนๆ มาวางอยู่ตรงหน้า ณัฐรินทร์ก็ทอด ถอนใจออกมาหลายต่อหลายครั้ง
“เป็นอะไรหรือเปล่านุ่ม แม่ว่าหนูดูแปลกๆ นะ”
“เปล่านี่คะแม่” รีบปฏิเสธเสียงหลง
“ทําเหมือนไม่อยากไปงั้นแม่เอาไปให้เองก็ได้
“ไม่เป็นไรค่ะ นุ่มเอาไปให้เองค่ะ” ว่าแล้วบุตรสาวก็ประคอง ถ้วยหนาใบโตเดินออกจากบ้าน
ณัฐรินทร์วางถ้วยลงบนโต๊ะในห้องรับประทานอาหาร เธอ โน้มตัวลงนิดๆ เพื่อใช้ทิชชูเช็ดขอบถ้วยให้เกลี้ยงน่ารับประทาน แต่ในขณะที่เธอกำลังสาละวนอยู่กับถ้วยชามใบโต สะโพกงอน งามก็ถูกสัมผัสจาบจ้วงจากใครบางคน
“ว้าย!!”
เธอรีบปัดมือนั้นแล้วหันหลังไปมอง พอเห็นว่าเป็นคลชัย ความอยากรู้อยากเห็นที่มีอยู่เต็มหัวใจก่อนหน้านี้หายไปหมด สิ้น กลายเป็นความไม่พอใจที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง
“ทำเป็นสะดีดสะดิ้งนักนะ เธออยากให้ฉันเอาเธอไม่ใช่เหรอ แล้วจะกรีดร้องตกใจไปทำไม” น้ำเสียงสีหน้าและแววตาชวนให้ เกิดอาการคลื่นไส้ชอบกล
“พี่ดล!! พูดอะไรอย่างนั้นคะ
“หึ เธอชอบฉันจะเป็นจะตาย อยากให้ฉันตอบรับไมตรีจาก เธอบ้างสินะ งั้นก็แก้ผ้าออกแล้วนอนลงกับพื้น
“พี่ดล!!!” ณัฐรินทร์ตกใจเตรียมวิ่งหนี หากแต่คลชัยคว้าเอว เล็กเอาไว้แล้วกดเธอลงกับพื้น
“ไม่นะคะพี่ดล น้องนุ่มไม่ได้ต้องการแบบนี้ ปล่อยค่ะ” เธอ ปัดป้องทั้งผลักไสพัลวัน แต่ดุลชัยก็ยิ่งรวบรัดร่างอิ่มแสนหอม แน่นขึ้น แถมยังบีบเคล้นหน้าอกเธออย่างจาบจ้วง ไร้ความ ทะนุถนอม ไร้ความกริ่งเกรงใดๆ แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้อยู่ในที่ รโหฐาน
“ฉันรู้ว่าเธอแอบดูวันนั้น เห็นด้วยว่าเธอชะเง้อคอยาวอยู่ใน บ้าน เธออยากได้ฉันใจจะขาดนุ่ม เธอไม่พอใจที่ฉันเอากับคนใช้ เธออยากให้คนๆ นั้นเป็นเธอ ก็นี่ไงเล่าแม่ตัวดี ฉันจะทำให้ฝัน ของเธอเป็นจริงเสียทีไง ฮ่าๆ”
ดลชัยซุกไซ้ซอกคอขาว กดข้อมือทั้งสองข้างไว้กับพื้น การก ระทำนั้นทั้งรุนแรงจาบจ้วงเหลือเกิน ณัฐรินทร์ลิ้นเร่าๆ อย่างไม่มี ทางสู้ กรีดร้องส่งเสียงดังก็ถูกดลชัยขยี้จูบปิดกลั้นเสียงร้อง
ทว่า…เสียงของเธอก็ยังดังพอจะเข้าหูคนที่มีประสาทสัมผัสไวมาก
แม้เสียงนั้นจะดังนิดเดียว แดนดินก็ยังจำได้ขึ้นใจ เท้าไวเท่า ความคิดน่าพาเขาไปหาต้นเสียงอย่างมั่นใจ และเห็นการกระทํา ที่เหมือนค้อนทุบหัวเขาเต็มแรง แดนดินกระชากคอเสื้อดลชัยขึ้น มา แล้วซัดกําปั้นกระแทกหน้าไอ้คนสารเลวจนมันล้มไปบนโต๊ะ ถ้วยใส่ต้มสายบัวตกแตก
“เพลง!!”
หลังจากนั้นทั้งเท้าทั้งหมดก็ระดมใส่ดลชัยไม่ทันได้นับ
ณัฐรินทร์น้ำตารินกระถดตัวมานั่งกอดเข่าซุกอยู่หลังเก้าอี้ เวลานี้เธอไม่คิดจะร้องขอให้แดนดินหยุด ไม่มีแม้ความเป็นห่วง ดลชัยแม้เศษเสี้ยวของหัวใจ เธอมองการความโกรธที่ถาโถม ไม่มียั้งด้วยสายตาว่างเปล่าเหมือนคนช็อก น้ำตาก็หลั่งรินเป็น สาย ริมฝีปากนั้นสั่นระริก
หยุดนะ นี่มันอะไรกัน แดนดินหยุดเดี๋ยวนี้”
เสียงของใครบางคนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของณัฐรินทร์ เหมือนสายลมพัดผ่าน จวบจนต้นแขนทั้งสองข้างถูกดึงให้ลุกขึ้น เธอจึงกะพริบตาและเห็นใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาของแดนดิน เข้าอย่างจัง
“พี่แดน…”
โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ณัฐรินทร์โถมตัวเข้ากอดแดนดินแล้วสะอื้น ชักจนตัวโยนอย่างคนขวัญเสีย ท่ามกลางความตกใจของผู้ที่เข้า มาใหม่
“ลูกตล!! ลูกดลของแม่!!!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ