บทที่ 2 คุณหนูไลลา (2)

หญิงสาวผู้นั้นไม่พูดอะไร เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาแล้วเดิน กลับออกไปจากห้องดื้อ ๆ กิริยานี้ยิ่งทำให้อารยาหงุดหงิด หัวเสียยิ่งกว่าเดิม

“ให้ตายเถอะ!! นี่มันเรื่องบ้าที่สุดเลย” หญิงสาวสบถหัว เสีย พลางเสยเส้นผสมที่ม้วนเป็นลอนสวยไปด้านหลัง ก่อนทุ่มตัวลงบนเตียงนุ่ม

พอไม่มีอะไรทำ อารยาจึงเปิดโทรทัศน์เพื่อดูข่าวสาร บางทีอาจมีข่าวเรื่องที่เธอหายตัวไปจากกองประกวดก็ได้ แล้วเธอก็เปิดมาเจอรายการข่าวบันเทิงซึ่งกำลังนำเสนอ ข่าวมิสเอเชียแปซิฟิกอินเตอร์เนชันแนลคนใหม่พอดี!

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ในข่าวไม่มีการกล่าวถึงการหายไป ของเธอเลย!!!

ช่างเป็นเรื่องที่ตลกร้ายสำหรับเธอเหลือเกิน!

อารยาไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยที่คว้ามงกุฎมาครองไม่ได้ ซ้ำเธอยังเซ็งสุด ๆ กับการประกวดนางงามในครั้งนี้
เรื่องนี้โทษใครไม่ได้เลย นอกจากโทษการตัดสินใจของ ตัวเอง

“เฮ้อ ไม่น่าเลยเรา” หญิงสาวจึมงำ เพราะตัดสินใจผิดโดย แท้ เธอถึงมีชะตากรรมเช่นนี้

เมื่อสามเดือนที่แล้วก่อนที่เธอจะตัดสินใจเข้าประกวด นางงาม หุ้นส่วนบริษัทน้ำมันที่บิดาเป็นประธาน ได้เข้ามา ทาบทามให้เธอเข้าประกวดนางงามเอเชีย คนพวกนี้เซ้าซี้ จนน่ารำคาญ ซึ่งเธอได้ปฏิเสธไปหมด ทั้งนี้เป็นเพราะเธอ รักสงบและไม่ชอบแสดงตัวในที่สาธารณะ จนกระทั่งแม่ ของเธอมาพูดกล่อมให้ขึ้นประกวด

เธอจึงบ้าจี้ตอบตกลงเข้าประกวดนางงามในครั้งนี้ แต่ใคร จะไปรู้ว่าเธอจะสามารถมงกุฎนางงามมาครอบครอง

เรื่องเหนือความคาดหมายนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอทันที จากผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีใครรู้จักได้กลายเป็นคนดังของ ประเทศที่ถูกจับตามองเพียงชั่วข้ามคืน นอกจากนี้เธอยัง ได้เป็นตัวแทนของคนไทยเดินทางมาประกวดนางงามใน ประเทศคาเธียร์ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันจึงเกิดขึ้น!
“เฮ้อ…” หญิงสาวถอนหายใจอีกเฮือก พลางกอดเข่า นํ้าตาซึม

ป่านนี้ทุกคนจะเป็นอย่างไรบ้าง ทีมงานในกองประกวดจะ วุ่นวายกับการออกตามหาตัวเธอมั้ย แต่ตอนนี้เธอคิดถึงแม่ คิดถึงน้องสาวที่เมืองไทยเหลือเกิน

อาเรโซ่ค่อนข้างเครียดพอสมควรเมื่อเขาเดินทางมา ดินเนอร์กับบิดาโดยการถูกบังคับ ใช่ว่าความสัมพันธ์แบบ พ่อลูกมีปัญหา แต่เรื่องที่ทำให้ชายหนุ่มเครียดระหว่างร่วม รับประทานอาหารคือ พ่อได้แนะนำให้เขารู้จัก ‘ว่าที่คู่หมั้น’!

นอกจากนี้เขายังถูกกดดันเมื่อต้องร่วมโต๊ะอาหารกับ คุณหนูไลลา คุณหนูโมนาร่า และคุณนายญานาซ่าซึ่ง เป็นมารดาของคุณหนูทั้งสอง อีกทั้งสตรีสูงวัยแต่งหน้า จัด ที่พ่วงด้วยตำแหน่งเพื่อนสนิทของแม่เขา ได้พยายาม ยัดเยียด ‘คุณหนูโมนาร่า” ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กให้เป็นคู่ หมั้นของเขาอีกด้วย!

แน่นอนว่าการร่วมรับประทานอาหารแบบพร้อมหน้า พร้อมตาในค่ำนี้ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาเลย เพราะราเชน ผู้ เป็นบิดาต้องการปูทางให้เขาได้รู้จักกับคุณหนูโมนาร่าซึ่งมี วัยเพียง 18 ปี เพื่อทำความคุ้นเคย ก่อนการหมั้นหมายแบบคลุมถุงชนจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

แล้วใครอยากจะหมั้นหมายกับเด็กกะโปโลที่เพิ่งโตล่ะ!!

พออาหารจานสุดท้ายถูกนำมาเสิร์ฟ อาเรโซ่ที่ทนฟังแขก ของพ่อพูดคุยอวดสรรพคุณของลูกสาวคนเล็กมานานไม่ ไหว จึงขอตัวลุกจากโต๊ะอาหาร แล้วปลีกตัวออกไปทันที แต่เขาก็ถูกสายตาของผู้เป็นพ่อห้ามไว้

“พ่ออยากให้ลูกอยู่ด้วยนะอาเรโซ่”

“ผมอยากเข้าห้องน้ำครับ ขออภัยที่เสียมารยาท” ค้อม ศีรษะให้บิดาเป็นเชิงขอโทษเสร็จ ชายหนุ่มจึงจากมา

พระจันทร์สีเงินเกือบเต็มดวงทำหน้าที่ต่างโคมไฟช่วย ส่องสว่างในสวนน้ำพุ ต้นไม้ที่ถูกตัดแต่งเป็นรูปตัวหมากรุก เรียงเป็นแถวช่วยเสริมให้สวนสวยดูมีชีวิตชีวาสะท้อนถึง ศิลปวัฒนธรรมและรสนิยมของเจ้าของบ้านได้อย่างลงตัว

เสียงน้ำตกในสวน ความเงียบ ลมเย็น และกลิ่นหอมของดอกจัสมินช่วยผ่อนคลายความเครียดของอาเรโซ่ได้ ในระดับหนึ่ง แต่ทว่าความเป็นส่วนตัวก็อันตรธานหายไป เมื่อมีใครบางคนก้าวเข้ามาในสวนแสงจันทร์แห่งนี้

อาเรโซ่ทำหน้ายุ่งเมื่อหันไปมอง พอรู้ว่าเป็นคุณหนู ไลลา เขาจึงชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนเบือนหน้ากลับมาสนใจ พระจันทร์สีเงินที่งามจับตาตามเดิม