Uncategorized

2 ริดรอนอิสรภาพ (3)



2 ริดรอนอิสรภาพ (3)

“เธอทำรายงานพวกนี้เองหรือธิดา?” คุณครูประจำภาควิชา สังคม งสอนพุทธศาสนามองลอดแว่นตาขอบทองด้วยสายตา จับผิด เมื่อนางสาวธิดาคลานเขานำรายงานเกี่ยวกับชีวประวัติ ของพระพุทธเจ้าเข้าไปส่งได้ทันตามกำหนด

“ค่ะหนูทําเอง แต่ข้อมูลบางส่วนอานนท์กับทิชาช่วยหามาให้

ด้วย

เอาเป็นว่าเธอแก้ต่างเอาตัวรอดไปได้ คุณครูที่เหลืออีกสาม ท่านก็มีคำถามคล้าย ๆ กัน ทุกท่านพยายามจับผิดนางสาวธิดา เทียมวารีที่อยู่ในชุดพละศึกษาในวันนี้ แต่คุณครูทุกท่านก็คว้า น้ำเหลว…

“ยังไงก็ขอบใจนนนี่มากเลยนะ ไม่งั้นเสร็จคุณครูบ้านบุญจอม

โหดแน่เลย”

“นิดหน่อยน่า เรื่องแค่นี้เอง” อานนท์ไหวไหล่ทำท่าสะบัดผม ทำท่าเอาผมทัดหู ทั้ง ๆ ที่ทรงผมยังเป็นรองทรงสูง ซึ่งกิริยา ล้อเลียนสตรีเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากทิชาได้ดี แต่เดี๋ยวเดียว เท่านั้นเสียงหัวเราะนั้นก็จางหายไป กลายเป็นความเงียบสงบ เข้ามาแทนที่

“เหม่ออยู่นั่นล่ะยัยทิชา” อานนท์สะกิด ที่ขาจึงหลุดออกจาก

หวัง ความคิดของตัวเอง
“ฮะ?” ทิซาเบือนหน้ากลับมาหาคนสะกิดพร้อมยกนิ้วขึ้นสูง “นน ว่าอะไรนะ?”

“นี่ก็เย็นมากล่ะ เราไปหาของกินอร่อย ๆ กันดีกว่า” อานนท์ ชวนด้วยน้ำเสียงร่าเริง ลุกขึ้นปิดกั้นตัวเองเอาเศษหญ้าแห้งออก ก่อนยื่นมือไปให้ทิชาจับเหมือนเคย ซึ่งที่ชารู้ดีว่าฝ่ามือนุ่ม ๆ ของ อานนท์นั้นอบอุ่นด้วยมิตรภาพเพียงใด สองคนพูดคุยหยอกเย้า กันตามประสาเพื่อนสนิทที่มีเรื่องคุยกันได้ตลอดเวลา จนกระทั่ง มาถึงถนนใหญ่หน้าโรงเรียน

“อันที่จริงเธอน่าเอารายงานพวกนี้ฝากไว้ที่ห้องสมุดโรงเรียน นะ ไม่น่าหอบกลับเลย” อานนท์บ่นอุบทั้งนี้เป็นเพราะทิชาใช้ให้ ช่วยแบกรายงานเล่มโตนั่นเอง

“ฉันก็อยากทำอย่างนั้นอยู่หรอกนนนี่ แต่คุณครูสั่งมา ขนเอา กลับไปไว้ที่บ้านเป็นที่ระลึกนะธิดา เผื่อเธอจะรักการเรียนมาก ขึ้น” ทิชาทำท่าขยับแว่นบีบเสียงเล็กลงให้เหมือนคุณครูประจำ ภาควิชา ซึ่งกิริยานั้นทำให้อานนท์อดค้อนขวับด้วยความหมั่นไส้ ไม่ได้

“เธอก็เลยบ้างตามนั้นสิ นั้น ๆ ฉันเจอที่ปลดปล่อยเจ้าพวกนี้ แล้ว” อานนท์ชี้นิ้วไปยังถังขยะสีเหลืองซึ่งตั้งอยู่บนฟุตบาท พร้อมตรงดิ่งเข้าไปหาสิ่งนั้นในทันที

“เฮ้ย! จะทําอะไรยัยนน

“ก็ทำให้เธอไม่ต้องขนเจ้าสิ่งนี้กลับบ้านไงล่ะยะ” อานนท์จีบ ปากจีบคอตอบ แล้วกรีดนิ้วเปิดฝาถังขยะ ซาตาใครีบเข้าซื้อแย่งรายงานคืนในทันที แต่คว้าได้แค่เล่มเดียวเธอก็ถูกสะโพก ของอานนท์ชนกระเด้งจนเซเสียหลักก่อน และพื้นต่างระดับของ ฟุตบาททําให้ทําเสียหลักล้มไปบนท้องถนน

เอียด……

เสียงเบรกลั่นท้องถนนพร้อมเสียงอุทานของอานนท์ดังลั่น ทุก คนที่เดินขวักไขว่บนถนนฟุตบาทต่างหยุดมองต้นเหตุของเสียง เป็นสายตาเดียว

“อุ้ย… เจ็บ” ทิชาห่อปากหน้าแหยเมื่อกันกระแทกกับพื้นถนน เต็ม ๆ พอทรงตัวลุกขึ้นนั่งได้ หญิงสาวจึงทำตาปริบ ๆ กับเลข ทะเบียนรถชุดเดิมซึ่งอยู่ตรงหน้าเธอไม่ถึงคืบ

ใช่ ! ทิชาจดจํามันได้ดี และไม่คิดว่าโชคชะตาจะทําให้เธอ ต้องมาเจอเหตุการณ์ทำนองนี้อีก

“เฮ ไอ้น้องไม่เคยตายหรือไง?” คนขับมาดเซอร์ปิดประตูเสียง ดังลงมาเท้าสะเอว ทำหน้าตาบูดบึงมองมาทางหญิงสาวซึ่งนั่งม ปักอยู่หน้ารถด้วยความโมโห

เพียงแค่เห็นวงหน้าซีดเซียวของเด็กสาว ลายครามถึงกับทำ อะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

“เธออีกแล้วเหรอ ยัยเด็กผมเปีย! ชายหนุ่มแยกเขี้ยวหน้า ทิชาจึงหน้าเสียกว่าเดิม เพราะกลัวใบหน้าดุดันและท่าทีเกรี้ยว กราดของอีกฝ่าย

“หนู… หนูขอโทษค่ะคุณลุง” ทิชาประนมมือไหว้ประหงก ๆ ไม่กล้าสบตาคนที่เท้าสะเอวหน้าอีก จากนั้นเธอจึงหันไปหา อานนท์ที่เข้ามาช่วยประคองให้ลุกขึ้น

“ไม่เป็นอะไรนะ?”

“ฉันไม่เป็นอะไร เราไปกันเถอะ” ทิซาลากแขนอานนท์จากไป ดื้อ ๆ โดยไม่สนใจเสียงเรียกของคนขับหนวดหนานั่นอีก

“อะไรกันเด็กพวกนี้” ลายครามพิมพ์หงุดหงิด พลางขมวดคิ้ว ยุ่งขณะพุ่งสายตาตามหลังเด็กนักเรียนทั้งสองไป แต่ก็ไม่เห็นคู่ กรณีนั่นแล้ว

เขาส่ายหน้าหุบเปลือกตาลงมองรถแสนรักของตัวเองที่เพิ่ง ออกจากโชว์รูมพร้อมกับเสียงผ่อนลมหายใจ แต่สายตากลับ เหลือบไปเห็น บางสิ่ง ซึ่งหล่นอยู่บนพื้นถนนทำให้เขาอดที่จะ หยิบขึ้นมาดูไม่ได้…

รายงาน (สอบซ่อม) อักขระตัวโตหนาทีมโดดเด่นบนปก รายงาน เปลือกตาหนาด้วยแพขนตาชนิดที่ผู้หญิงยังอายกวาด ไล่จนกระทั่งหยุดลงที่ชื่อผู้จัดทํา

“นางสาวธิดา เทียมวารี” ชายหนุ่มอ่านชื่อซึ่งติดอยู่บนปก รายงาน แล้วปรายตาไปยังทางที่เด็กสาวหน้าตาดีหายไปอีกครั้ง มีรอยยิ้มจาง ๆ แต้ม ใบหน้าคมเข้มก่อนกลับขึ้นรถไป…

หลังจากแวะเที่ยวเตร็ดเตร่และอิ่มท้องเรียบร้อยแล้วทิชาและ อานนท์จึงกลับบ้าน ทว่ายังไม่ทันถึงประตูรั้วด้วยซ้ำ ทิชาซึ่งเป็น นำหน้าต้องชะงักเท้ากะทันหันเมื่อเห็นรถเก๋งสีเลือดหมูของ รุ่งอรุณเข้า
“แม่ใหญ่มา ทำอย่างไร นนนี่?” ทิชาเขย่ามือเพื่อนรักหน้าตา ตื่น ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวไปไหนรุ่งอรุณและคุณนายชินจิตมารดา ของอานนท์ก็ออกมาจากบริเวณรั้วบ้านซะก่อน

“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะเด็ก ๆ ?” ยังไม่ทันได้หาที่ซ่อนตัวคุณนาย ชินจิตก็ทักเสียงหวานเข้าก่อน และนั่นก็ทำให้เราหนีไปไหนไม่ ได้แล้ว

“ค่ะ คุณป้า” หญิงสาวยิ้มแห้งให้คุณนายชื่นจิต ก่อนประนม มือไหว้แม่เลี้ยงของตนเอง

“ฉันมารับเธอกลับบ้าน” น้ำเสียงเย็นเยียบของรุ่งอรุณนั้นคือ ประกาศิตที่ยากจะขัดได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ