Uncategorized

1 วิวาห์ว้าวุ่น (1)



1 วิวาห์ว้าวุ่น (1)

ความรัก

กามเทพปวดหัว

ดินสอไม้แท่งเก่าถูกวางลงบนหน้าสมุดบันทึกหลังจากหญิง สาวเขียนแคนโต้ระบายความอัดอั้น เจ้าของดวงตากลมโตสวย ซึ่งทอดตาเหม่อลอยผ่านกรอบหน้าต่างไม้ไปยังความมืดสลัว เบื้องหน้าซึ่งเป็นสระบัวขนาดย่อม

เงาพระจันทร์จากโพ้นฟ้าไกลซึ่งตกกระทบผิวน้ำเปลี่ยนเป็นรูป ประหลาดยามสายลมโชยผ่านผิวน้ำ…

ความเงียบคืบคลานแทรกตัวในอณูสายลมที่ลูบไล้เรือนกาย จนเส้นผสลวยยาวถึงกลางหลังพลิ้วสยาย ความว้าเหว่แทรกตัว เข้ามาในหัวใจเงียบเชียบ จนเจ้าตัวต้องปิดเปลือกตาลงช้า ๆ ห่อไหล่เข้าหากันเพื่อกอดตัวเอง

“หนูคิดถึงแม่จังเลยค่ะ… ” เธอรำพันเศร้าสร้อยเมื่อใบหน้า ของผู้ให้กำเนิดปรากฏขึ้นในมโนภาพ ความเงียบเสมือนเพื่อน สนิททักทายได้ประเดี๋ยวก็ต้องโบกมืออำลา “ทิชา ไปเมื่อเสียง โทรศัพท์ดังขึ้น

“ทิชาพูดค่ะ” เธอยกกระบอกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู กรอกเสียง

หวานเย็บ ๆ ลงไป
“ท่าไมถึงรับสายซ้ายะ?” น้ำเสียงคนเจ้าอารมณ์ของแฝดผู้ น้องนาม ตา ทำให้ทาเงียบไปเป็นอึดใจ ด้วยต้องการฟัง เสียงบรรยากาศรอบข้างของคนไทร ๆ ก่อนตอบคำถามเสียง หัวนกว่าเดิม

“อ่านหนังสืออยู่”

“เด็กดีจริงนะ จะเอาที่หนึ่งของระดับชั้นอีกหรือไง?” คนโดด เรียนเป็นนิจสินแขวะเข้าให้ แต่นั่นไม่ทำให้คนใจเย็นอย่างที่ชา โต้ตอบแต่อย่างใด นอกจากท่าเฉยเหมือนไม่ได้ยิน

“มีอะไรก็ว่ามาสิ”

“แม่ใหญ่ใช้ให้เด็กเอาเสื้อผ้าไปให้เธอแล้วใช่ไหม?”

“อื้อ” หญิงสาวตอบรับในลำคอ พลางตวัดสายตาไปยังชุด สวยสีชมพูอ่อนตัดเย็บจากผ้าเนื้อมันวาวอันเหมาะสำหรับ ออกงานราตรีซึ่งแขวนไว้บนผนังบ้านสีอ่อน

“ฉันเลือกเองกับมือ สีหวานแบบนี้หวังว่าคงถูกใจเธอนะ”

ทิชาไม่ออกความคิดเห็นใด ๆ นอกจากหุบเปลือกตาลง มอง กรอบรูปไม้ที่เธอกอดคอถ่ายคู่กับธิดาในวัยเยาว์ ขณะรับฟัง เสียงหวานใสราวระฆังแก้วจากกระบอกโทรศัพท์

“วันพรุ่งนี้ใส่มันด้วย อย่าทำให้แม่ใหญ่โกรธเชียว ฉันโทร มาบอกแค่นี้ล่ะ” ธิดาตัดบทสนทนาดื้อ ๆ ทว่าชาก็รั้งไว้

“เดี๋ยวก่อนธิดา ฉันมีเรื่องคุยด้วย
“ถ้าจะอ้อนวอนให้กลับมาอ่านหนังสือสอบล่ะก็ ไม่ต้องเลยนะ ขอร้อง” ธิดากระแทกเสียง ใส่อารมณ์ “ไหน ๆ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว รู้ไว้ซะเลยนะทิชาว่าเทอมนี้ฉันหมดสิทธิ์สอบหารายวิชา” แฝดผู้ น้องบอกเสียงหัวนไม่ยี่หระ และเรื่องที่ได้ยินก็ทําเอาทิชาสอบ ถอนหายใจ ก่อนกลับเข้าประเด็นสำคัญ

“ไม่ใช่เรื่องนั้น ฉันมีบางอย่างต้องถามจากเธอ”

“ว่ามา ให้เวลาหนึ่งนาที

“เสี่ยเกษมอะไรนั่นรู้จักฉันได้อย่างไร ในเมื่อฉันไม่เคยเหยียบ ย่างเข้าไปที่นั่นสักครั้ง?

ที่นั่นของทิชาหมายถึงคฤหาสน์ของเสี่ยเกษม เจ้าพ่อ อสังหาริมทรัพย์ผู้มีฐานะร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐีนอกจากฐานะ ทางการเงินอันมั่นคงแล้ว มหาเศรษฐีรายนี้ยังเปลี่ยนคฤหาสน์ ของตัวเองเป็นบ่อนพนันขนาดย่อมกลางใจเมืองด้วย ซึ่งคำถาม ของพี่สาวทำเอาผู้ถูกคั้นเอาคำตอบอีกอัก

“ธิดา ฉันต้องการคำตอบ” ทิชาเร่งเร้าทำเสียงดุ

“ไปถามแม่ใหญ่เอาเองเถอะ หรือไม่ก็อดใจรอคำตอบพรุ่งนี้ สาวเจ้าอารมณ์บอกปัด ๆ ก่อนตัดสัญญาณโทรศัพท์ทิ้ง ซึ่งสิ่งที่ ธิดาทิ้งไว้ให้กลับทำให้ทิชาเหนื่อยใจหนักกว่าเก่า

หญิงสาววางโทรศัพท์ลงบนแป้นอย่างเบามือ ก่อนเดินเรื่อย ๆ มาทิ้งตัวนั่งที่เดิม โดยไม่ชายตาไปแลชุดสวยที่แขวนไว้อีก…

เหลือเวลาหนึ่งสัปดาห์เพียงเท่านั้น เธอจะพ้นสภาพการเป็นนักเรียนชั้นมัธยมตอนปลายแล้ว ตอนแรกที่ชารู้สึกตื่นเต้นจน อยากให้ถึงวันสําเร็จการศึกษามาถึงเร็ว ๆ ถึงขนาดกากบาท ปฏิทินนับถอยหลังเขียว ทว่าเรื่องร้าย ๆ ก็เข้ามาทักทายให้เธอ ปวดหัวเสียก่อน

ความรู้สึกที่อยากให้ห้วงเวลาเดินเร็วอันตรธานหาย หากเป็น ไปได้เธออยากหยุดเวลานี้ไว้ที่เสี้ยววินาทีนี้ตราบนานเท่านาน แต่นั่นล่ะ ในความเป็นจริงไม่มีใครสามารถหยุดเวลาได้ มีแต่ ก้าวผ่านปัญหาไปพร้อม ๆ เวลาเท่านั้น

“เชื่อเถอะทิชา แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” หญิงสาวให้กำลังใจ ตัวเอง ก่อนฟุบหน้าลงบนตำราเรียนเล่มหนาซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เขียนหนังสือ

ก็ว่าจะพยายามทำใจ ยอมรับ ในสิ่งที่แม่เลี้ยงสาวหยิบยื่น ให้ แต่เอาเข้าจริงทิชากลับรู้สึกว่า โจทย์ชีวิตในครั้งนี้ยากเกิน กว่าสาวน้อยวัยสิบเจ็ดอย่างเธอจะแบกรับ พรุ่งนี้แล้วสินะ…ที่ อิสรภาพในชีวิตรวมทั้งการตัดสินใจเลือกคู่ครองด้วยตนเองจะ ถูก ‘มารดาเลี้ยง’ ลิดรอน

ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังโรงเรียน นับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ อันดีเยี่ยมสำหรับนักเรียนทั้งหลาย ทิซาเดินเรื่อย ๆ ไม่รู้จะไป ไหนจึงเลือกที่นี่เป็นแหล่งกบดาน หลังจากหาที่เหมาะ ๆ ได้ หญิง สาวจึงวางกระเป๋านักเรียนแล้วหย่อนกันนั่งลงใต้ต้นจามจุรีใหญ่ ซึ่งกำลังผลิดอกชมพูปุย ๆ สะพรั่งต้น

“ต้อม ” เสียงก้อนหินตกสู่ผืนน้ำอันเงียบสงบจนเกิดกลิ่นวงน้อยแล้วกระจายหายไป

ผู้กระทํามองสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะฝีมือตัวเองด้วยสายตาว่าง เปล่า ก่อนหยิบก้อนหินก้อนใหม่ป่าลงไปในบึงน้ำที่ปลูกดอกบัว หลากสีอีกครั้ง เกิดเหตุการณ์คล้าย ๆ กันซ้ำ ๆ แต่เมื่อกวาดมือ ไปบนพรมหญ้าไม่มีก้อนหินอีกแล้ว ทิชาจึงผ่อนลมหายใจออก มายาว แล้วล้มตัวนอนดื้อ ๆ โดยผสานมือทั้งสองเข้าหากัน รองรับท้ายทอยตนเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ