บทที่ 215 พูดความจริงออกมา
บทที่ 215พูดความจริงออกมา
ไม่มีใครรู้ว่า ในเวลานี้เติ้งชื่อชีหงุดหงิดแค่ไหน
ในตอนแรกหลังจากรู้สถานะที่เฉินเฟิงเป็นลูกเขยที่ตกถึงข้าวสาร แล้ว เขาก็ไม่ได้เห็นเฉินเฟิงอยู่ในสายตาของเขา แถมเขาก็มีท่าที่ดูถูก ด้วยซ้ำ
เขาคิดว่า ผู้ชายที่มีความสามารถสักหน่อย คงไม่ต้องใช้วิธีถีบตัว เองขึ้นโดยการเป็นลูกเขยเศรษฐี
ในใจเขา เลยดูถูกเฉินเฟิง
แน่นอนว่า ถึงแม้เขาจะดูถูกในตัวเฉินเฟิงมันก็อยู่ในส่วนการดูถูก แต่สำหรับทักษะการแข่งรถแล้ว เขายังคงกลัวอยู่มาก เขารู้ดีว่าหาก เฉินเฟิงได้ขับรถได้ตามปกติ โอกาสในการชนะของเขาก็ไม่มากนัก
ดังนั้นเขาจึงให้คนไปปรับแต่งรถของเฉินเฟิง
เขาสามารถยอมแพ้เยไห่ถังได้ แต่เขาไม่ยอมให้ตัวเองแพ้เฉินเฟิง เด็ดขาด
แต่สุดท้าย เฉินเฟิงไม่เพียงเอาชนะเขาได้ ขนาดเย่ให่ถังแต่ยัง เอาชนะได้
เติ้งซื่อซีใช้ชีวิตมาไม่น้อย ยังไม่เคยล้มเหลวขนาดนี้มาก่อนเลย!
เฉินเฟิงลงจากรถด้วยสีหน้าสงบเสงี่ยม จูกว่างฉวนออกมาต้อนรับ เขาด้วยความตื่นเต้น และยกนิ้วโป้งให้เฉินเฟิง: “น้องชายเฉินเฟิง สุด ยอดมาก! ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยยอมรับใครในชีวิต น้องชายเฉินเฟิง นายนี่ เป็นคนแรก!”
เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้ความหมายของคำพูดของจูกว่างฉวน มาใส่ใจ
ในเวลานั้น ดวงตาของจูกว่างฉวนที่อยู่ตรงหน้า ก็เบิกกว้างราวกับว่า เขาได้เห็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นกับ จูกว่างฉวน?
เฉินเฟิงไม่มีเวลาทันคิดเรื่องนี้ ก็ได้กลิ่นหอมฟังมาจากด้านหลัง
เยไหถังสวมชุดนักแข่งสีดำเดินมาหาเฉินเฟิง เมื่อถอดหมวกกันน็อค ออก ผมสีดำขลับของเธอก็สยายออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เผยให้ เห็นใบหน้าที่ทรงพลังที่สามารถทำให้พระจันทร์หรือพระอาทิตย์ หม่นหมองลงไปได้
“สวัสดีค่ะ ฉันคือ เย่ไห่ถัง” เยไห่ถังยิ้มและยื่นมืองดงามออกไป “เฉินเฟิง” เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย พร้อมทั้งยื่นมือออกไป เพื่อจับมือกับ เยไห่ถัง
ผู้ชมเงียบกริบทั้งสนาม ถ้ามีเสียงเข็มหล่นคงได้ยินกันทั่ว! ใครบอกว่า เยไห่ถังไม่จับมือกับผู้ชายไม่ใช่เหรอ? วันนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ทุกคนรู้สึกว่าสมองของเขาไม่ทำงาน อีกทั้งบรรดาแฟนคลับของ เย่ ไห่ถังหลายคนถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง ใบหน้าทำราวกับแม่ของตนเอง เสียชีวิตแบบนั้น
เยไหถึง ไม่ชอบจับมือกับผู้ชายจริงๆ ในฐานะที่เป็นแฟนคลับของ หล่อน ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ดีไปกว่าพวกเขา!
แต่วันนี้ เยไห่ถังเป็นคนเริ่มยื่นมือออกไปหาผู้ชายก่อน นี่มัน หมายความว่าอย่างไร?
ทุกคนไม่กล้าคิด และไม่อยากคิดด้วย!
นัยน์ตาของเติ้งชื่อ ความโกรธที่กำลังพลุ่งพล่านอย่างต่อเนื่อง เขา รู้สึกว่าปอดของเขากำลังจะระเบิดอยู่แล้ว ปกติแล้วเขามักจะมอง สถานะของตนเองเป็นคู่หมั้นของเย่ไห่ถัง
อาจกล่าวได้ว่า ในบรรดาคนที่มาจีบ เขาเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเยไห่ ถังมากที่สุด ถึงแม้ว่า เขาจะไม่เคยสัมผัสมือของ เยไห่ถังเลยสักครั้ง ทุกครั้งที่ เขาขอจับมือกับ เยไห่ถังเขาจะถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลต่างๆ นานา แต่วันนี้ เยไห่ถังต่อหน้าต่อตาเขา ยังเป็นคนยื่นมือไปจับมือกับ
ผู้ชายแทน
! และชายคนนี้ ยังคงเป็นลูกเขยตกถังข้าวสารที่เขาดูถูกด้วย
“ก่อนหน้านี้คุณเฉินเคยเป็นนักแข่งอาชีพเหรอ? ” เยไห่ถังถาม เพราะว่าเธอเองยังไม่ถูกใจเลย วรยุทธ์ทางบูโดของเฉินเฟิงสูงส่งกว่า เธอ เธอยอมรับได้ แต่สิ่งที่เธอยอมรับไม่ได้ กับการที่เฉินเฟิงยังแข่ง รถ เก่งกว่าเธอ ดูเหมือนว่า ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงจะต้องเรียนรู้ทักษะการ แข่งรถอย่างเป็นระบบมาก่อน จนถึงขั้นเป็นศิษย์ของนักแข่งรถขั้น เทพสักคนด้วย
และสิ่งที่ทำให้เธองงงวยที่สุดก็คือ เห็นได้ชัดว่าคนของเติ้งซื่อชีได้ ทำการปรับแต่งที่รถของเฉินเฟิง แต่เฉินเฟิงก็ยังขับรถอย่างปลอดภัย ตลอดทาง
เฉินเฟิงส่ายหัวไปมา พร้อมทั้งพูดว่า “เปล่านะ วันนี้เป็นการแข่งรถ ครั้งแรกของผม”
เยไห่ถังรู้สึกกระอักกระอ่วน อีกทั้งไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แน่นอนว่าเธอ ดูออกว่าเฉินเฟิงพูดความจริง ว่าเป็นการแข่งรถครั้งแรกของเขาจริงๆ
นอกจากนี้ยังหมายความว่า เรื่องที่เธอจินตนาการก่อนหน้านี้ก็หาย วับไปทันที เฉินเฟิงไม่ได้เรียนรู้ทักษะการแข่งรถใด ๆ และไม่เคย ฝากตัวกับศิษย์กับอาจารย์คนไหน อาศัยพรสวรรค์ที่น่าสะพรึงของ เขา จนเขาได้รับรางวัลนี้มา
เยไห่ถังรู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอไม่ได้คิดว่า จะยังมีคนแปลก ประหลาดแบบเฉินเฟิงอยู่บนโลกนี้ พรสวรรค์ บูโดที่น่าหลงใหล แถม ยังมีพรสวรรค์ในการแข่งรถก็น่าทั่งไม่แพ้กัน
“คุณเย่?” เฉินเฟิงขมวดคิ้ว
“หะ? มีอะไรเหรอ? ” เยไห่ถังสะดุ้ง “มือ .. คุณจะจับมืออีกนานไหม? ” เฉินเฟิงเหลือบมองไปที่เยไห่ถึง โดยหมดคำพูด เขาไม่รู้ว่าเยไห่ถังกำลังคิดอะไรอยู่ หลังจากจับมือเขา แล้ว เธอก็ยืนงงอยู่เกือบนาที
“อ้อ” เยไหถังหน้าแดง พร้อมทั้งรีบปล่อยมือของเฉินเฟิงทันที “ขอโทษค่ะ คุณเฉิน เมื่อกี้ฉันกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่”
“ไม่เป็นไรครับ” เฉินเฟิงส่ายหัวไปมา ตัวจริงเย่ไห่ถังต่างจากที่เขา จินตนาการโดยสิ้นเชิง สิ่งที่เขาจินตนาการเอาไว้ว่าคงเป็นเทพธิดา ภูเขาน้ำแข็งผู้มีไหวพริบ แต่เยไห่ถังที่เขาเห็นตอนนี้ ดูเหมือน.. เด็ก สาวใสซื้อมากกว่า?
สามารถพูดได้เลยว่า ความแตกต่างมันผิดแผกไปเยอะ แน่นอนว่า บางทีเย่ไหถังอาจจะเสแสร้งแกล้งทำ จุดประสงค์ก็เพื่อจะลองเชิงเขา “คืนนี้คุณเฉินมีเวลาไหมคะ?” เย่ไหลถังกลับสู่สภาวะปกติ ในเวลา รวดเร็ว
“มีครับ” เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย เดิมที่เขาคิดว่าจะหาโอกาสคุยกับ เย่ ไห่ถังถึงปัญหาของเมืองชางโจวได้อย่างไร แต่ไม่คาดคิดเลยว่า เยไห่ ถังจะมาหาเขาก่อน
“คุณเฉินจะให้เกียรติ รับประทานอาหารกับฉันซักมื้อได้ไหมคะ? ” เยไหถึงฉีกยิ้ม เผยให้เห็นเขี้ยวน่ารักสองซี่ “คุณเย่ก็พูดเกินไปแล้วครับ ผมไม่สามารถปล่อยโอกาสให้หลุดไป
ได้อยู่แล้ว” เฉินเฟิงหัวเราะเบา ๆ อีกทั้งท่าทีของเย่ไห่ถังก็ดูลดต่ำลง
เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะหลอกใช้อะไรเขา
ไม่จำเป็นต้องมองย้อนกลับไปดู เฉินเฟิงก็รู้ เพราะว่าดวงตาของเติ้ง ชื่อซีในเวลานี้จงเกลียดจงชังถึง
อย่างไรก็ตามเฉินเฟิงไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ แถมยังเป็นประโยคเติม ถ้าเติ้งจื่อฉีรู้จักประเมินตน เขาควรจะอยู่เป็นนายน้อยของตระกูลเติ้ง ในเมืองหนานหนิงไปให้สบายๆ หากเขายังเพิกเฉย ยังมาหาเรื่องเขาที่ เมืองซางโจว งั้นเขาก็จะไม่สนใจ จะทำให้เติ้งซื่อซีรู้จักค่าว่า อะไรที่ เรียกว่าเสียใจในภายหลัง! หลังจากบอกเวลาและสถานที่แก่เฉินเฟิง เย่ไห่ถังก็เห็นสายตาที่ตก ตะลึงของฝูงชน และหายไปในที่สุด
ด้านของข้างเฉินเฟิง จูกว่างฉวนที่ยืนอ้าปากค้างอยู่นาน
เพราะว่าเยไห่ถังเป็นคนเชื้อเชิญที่จะจับมือเฉินเฟิงก่อน แถมยังชวน เฉินเฟิงไปทานอาหารอีกด้วย?!
จูกว่างฉวนไม่อยากจะเชื่อภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้า เขารู้สึกว่าเขา
ต้องตาลายแน่ๆ
ไม่เพียงแต่ จูกว่างฉวนเท่านั้น บรรดาผู้คนจำนวนมากมายที่กำลังมุง ดู ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เคยไห่ถังซึ่งเคยหยิ่งยโสมาตลอด จะมีท่าที เชิงรุกกับผู้ชาย
แค่พบกันครั้งแรกเท่านั้นก็ชวนผู้ชายคนนี้กินข้าวแล้ว
และลือกันว่าชายคนนี้ยังเป็นลูกเขยตกถังข้าวสาร แถม เขาเป็นคน ที่เคยมีครอบครัวมาแล้ว
เยไห่ถังคิดอะไรอยู่กันแน่?
ไม่แต่งงานกับไฮโซที่โสดอย่างเติ้งซื่อชี แต่กลับเดินเข้าหาลูกเขยที่ ตกถังข้าวสารแทนที่มีครอบครัวแล้วอย่างใกล้ชิดสนิทสนมถึงเพียงนี้!
ปัญหาเรื่องนี้ ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้เลย
“น้องชายเฉินเฟิง นายพูดความจริงออกมาว่านายเป็นทายาทของ คนในตระกูลร่ำรวยตระกูลไหน? “จูกว่างฉานกลืนน้ำลายถาม ความ สุดยอดของเฉินเฟิง ทำให้ความรู้ของเขาเพิ่มพูนขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งแรกคือการคว้าแชมป์การแข่งขัน Professional Iuageในครั้งนี้ สองคือทำให้เป็นเยไห่ถังเป็นคนเริ่มที่เข้าหาก่อน ทั้งหมดนี้ ไม่เหมือน กับที่ลูกเขยตกถังข้าวสารสามารถทำได้ จูกว่างฉวน คิดว่า เฉินเฟิงยัง มีสถานะที่ไม่น่าเชื่ออื่นๆ อยู่อีก
“ใช่ ฉันเป็นทายาทของคนในตระกูลร่ำรวยจริงๆ ” เฉินเฟิงยอมรับ ด้วยสีหน้าขับขัน แม้เขาจะรู้ว่าจูกว่างฉวนกำลังล้อเล่น แต่เขาก็พูด เรื่องจริงจังออกมา “จริงเหรอ? ” ดวงตาของ ลูกว่างฉวนเบิกโต
“จริงสิ ” เฉินเฟิงพยักหน้าตอบอย่างจริงจัง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ