บทที่ 63 สัมผัสไม่เลวนิ
บทที่ 63 สัมผัสไม่เลวนิ
นรมนจับโทรศัพท์แล้วค่อยๆหลับไป ความรู้สึกตลอด5ปีมานี้ หล่อนชินแล้ว
บุริศร์ที่ตื่นจากความหนาว มองรอบๆไม่มีคนไม่มีไรเลย
ถึงแม้ขาหล่อนจะไม่สะดวก แต่อย่างน้อยหล่อนก็ควรจะให้ พยาบาลเอาผ้าห่ม ห่มให้เขาหน่อยมั้ย
จำได้ว่าเมื่อก่อน หล่อนดูแลเขาอย่างดี ไม่ให้เขาโดนหนาว ร้อนหรือหิว แต่ตอนนี้นับว่าเป็นกรรมตามสนองมั้ย?
เขาถอนหายใจ อีกใจก็รู้สึกปล่อยวางหล่อนไม่ได้ เห็นหมอน ที่อยู่ข้างๆ แล้วก็ไม่ได้ห่มผ้าดีๆอีก เขารีบให้หล่อน
ทำไมผู้หญิงคนนี้ ดูแลตัวเองไม่เป็น?
เขาเอาหมอนวางที่ใต้หัวหล่อน และห่มผ้าให้ก็ดันไปเห็น
โทรศัพท์หล่อน
โทรศัพท์นั้นมีรหัส แต่เวลานั้น ข้อความของรเมศเข้าพอดี
“ชาตินี้ถ้าไม่ใช่เธอใครฉันก็ไม่เอา”
ถึงแม้จะสั้น แต่มันสะเทือนต่อใจบุริศร์มาก
ภรรยาเขา แม่ของลูกเขา ถึงแม้จะห่างหายไป5ปี แต่จะให้ ผู้ชายอื่นมาคิดถึงไม่ได้
เขารีบห่มผ้าให้หล่อน ก็รีบออกไป
ด้านนอกกับในอุณหภูมิต่างกัน
เขาเดินไปที่ทางเลี้ยว แต่สูบบุหรี่เพื่อระงับอารมณ์ตัวเอง
คืนที่มืดมน กับแสงไฟอ่อนๆไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร และยิ่ง ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง
สูบเสร็จ เขาก็รีบโทรโทรศัพท์
“น้องสี่ ช่วยหน่อย
กลางดึกและโทรไปหาคนอื่น บุริศร์ไม่รู้สึกถึงความรู้สึก ผิด และรู้สึกว่ามันสมควรด้วยซ้ำ แต่คนที่หลับสบายอย่างวิน เซนต์นั้นโมโหอย่างมาก
“บุริศร์ เธอบ้าป่ะ? ตอนนี้กี่โมง? ตีสองนะโว้ย เธอมีเรื่องรีบ ร้อนพรุ่งนี้เช้าบอกก็ได้มั้ง?”
“ไม่ได้”
บุริศร์พูด ทำให้วินเซนต์ปวดตับ
“เออ เธอเป็นสัตว์ไง ตรวจเช็คเสร็จสิ้น”
พูดจบเขาที่กำลังจะวาง
บุริศร์พูดขึ้น “ถ้าเธอวาง ฉันจะไม่ให้ข่าวของผู้หญิงที่เธอ ชอบสักอย่าง”
วินเซนต์กัดฟันพูด :”เรื่องไร”
“ฉันจำได้ว่าเธออยู่อเมริกา เคยได้ยินบริษัทHJกรุ๊ปจำกัด
มั้ย?”
“เธอจะทําไม?”
“ฉันจะให้บริษัทเขานั้นมีปัญหาช่วงหนึ่ง ทำให้ประธานยุ่ง ไม่ขาดสาย แยกตัวออกมาไม่ได้เลย ฉันรับรองว่าของที่เธอ อยากได้ จะไปอยู่ตรงหน้าเธอภายใน1อาทิตย์
คำของเขาทำให้วินเซนต์อึ้งค้าง
“รเมศทำไรให้เธอ?”
“แย่งเมียนับมั้ย?”
บริศ พูดจบก็รีบวางสาย
ความอยากนอนของวินเซนต์หายหมด
แม่งเอ้ย
เมื่อกี้ไอ่นั้นพูดไรนะ?
แบ่งเมีย?
เมียมันมาจากไหน?
คนที่5ปีที่แล้วหรอ?
ไม่ใช่ว่าไฟไหม้ตาย?
อีกอย่างเขาไม่รู้สึกว่าบุริศร์จะรักภรรยาตัวเองขนาดนั้น!
ตกลงนี้มันอะไรกัน?
วินเซนต์ที่จะโทรไปแต่เขานั้นปิดเครื่องแล้ว
“วุ้ว เป็นสัตว์ดีๆนี้เอง!”
เรื่องนี้ทำให้วินเซนต์นอนไม่ได้ทั้งคืน
ไม่ได้
คืนที่แสนยาวไกลแบบนี้ เขาจะหายง่วงคนเดียวไม่ได้
วินเซนต์ลุกขึ้น แล้วส่งข้อความเข้าไปในกรุ๊ป
“ข่าวเด็ดๆ รู้สึกว่าเมียของไอ3กลับมาแล้ว ยังโดนคนสวมเขา
อีก”
เพราะว่ากลางดึก เลยไม่มีคนตอบ ทำไรไม่ได้ ก็เลยต้องไป ทำสิ่งที่บุริศร์สั่งไว้
แสงแดดส่องเข้ามา หล่อนเพิ่งสังเกตว่าหล่อนจับโทรศัพท์
แล้วหลับไป
หล่อนดึงผ้าห่ม กะว่าจะบิ้ดตัวสักหน่อย ก็หันไปเห็นหมอน และผ้าห่มที่ห่มถึงคอ นี่คือ…..
รู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ทำเป็นไม่มีไรเกิดขึ้น
หล่อนรีบเข้าห้องน้ำไป
ถึงแม้ขาจะเจ็บสักเท่าไหร่ แต่ก็ทำไรหล่อนไม่ได้ ถ้าจะเทียบ กับไฟไหม้เมื่อ5ปีที่แล้ว ที่เจ็บจนนอนไม่ได้ทั้งคืน แค่นี้ถือว่า เล็กน้อย
หล่อนที่กำลังทำธุระส่วนตัว ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา หล่อนรู้
ว่าเขาเดินเข้ามา
บุริศณ์เดินเข้ามา ไม่เจอหล่อน เขากังวลมาก
“นรมน?”
เขารีบตะโกน เห็นมีคนอยู่ในห้องน้ำ รีบเปิดเข้าไป
“ทําไมลงมาแล้วไม่บอกกัน? ทําไมไม่เรียกฉัน?”
เขาที่กำลังพูดและจะไปพยุง แต่ดันโดนหล่อนหลีกเลี่ยง
“ไม่ต้องแล้ว แผลแค่นี้ฉันทนได้”
พูดจบหล่อนก็ยิ้มให้เขา แล้วกระโดดผ่านตัวเขาไป
ยิ้มที่แจ่มใสแบบนั้น ทําให้เขาจับมือตัวเองไว้แน่
เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งไม่ต้องการผู้ชายแล้ว นี่บ่งบอกว่าอะไร?
เขารู้ แต่ไม่อยากยอมรับ
เขารีบหันตัว ไม่สนว่าหล่อนจะยังไง ชอบหรือไม่ ก็ได้อุ้ม หล่อนไปที่เตียงทันที
หล่อนตกใจ ที่โดนเขาอุ้มไป ในอ้อมกอดเขามีกลิ่นหอมบางๆ
“บริศร์ นี่เธอรู้จักการเคารพเขียนยังไงมั้ย?”
“ไม่รู้”
เขาตอบอย่างเย็นชา
“ฉันรู้แค่ว่า คนที่ป่วย ก็ควรจะมีความเป็นผู้ป่วย
พูดจบเขาก็เอาหล่อนวางลงเตียงช้าๆ
“จะกินอะไร? อยากกินอะไร? ฉันให้ป้าโอทำให้
“ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวทิพย์จะพากานต์มาด้วยกัน ไม่ต้องเป็น ห่วง”
หล่อนอยากทำให้เขาได้รู้สึกอะไรแบบนี้ ไม่งั้นจะยิ้มอย่าง แจ่มใสได้ไง?
บุริศร์โมโห แต่ต้องเก็บไว้
ถ้าเขาอยากอยู่กับหล่อน ก็คงต้องให้คนพวกนั้นออกไปก่อน
คิดแล้ว เสียงอ่อนดังขึ้น
“คุณแม่!”
กานต์วิ่งไปอย่างกับพายุไปตรงหน้านรมนแล้วใช้ก้นเบียดบุรี ศร์ออกไป
บุริศร่ทําสีหน้า
ดูแล้วไอ่เด็กนี้คงจะทำบ่อย
“แม่ครับ วันนี้เป็นไงบ้าง? เจ็บอยู่มั้ย ? เห็นผมแล้วดีขึ้นมั้ย?”
ต่อหน้าหล่อน กานต์เป็นเด็กอายุ4ขวบปกติ
เมื่อหล่อนเห็นหน้าลูกชายตัวเอง ก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“เห็นกานต์แล้ว แม่ไม่เจ็บแล้วจ้ะ”
“จริงหรอ? งั้นผมจะลาแล้วมาอยู่กับดีมั้ย? แม่จะได้ไม่เจ็บ ช่วงนี้แมลงวันเยอะด้วย ผมช่วยแม่ไล่เอง
พูดเหมือนมีความหมายแฝง กานต์มองไปที่บุริศร์อย่างไม่ได้ปิดบัง
คนอย่างเขาเป็นประธานบริษัทใหญ่ของเมืองชลธี ที่คนมาว่าเขาเป็นแมลงวัน?
นี้เด็กนี่กล้าพูดจริง!
เป็นลูกเขาจริงนี่หว่า!
เห็นDNAเมื่อวานแล้ว บุริศร์รู้สึกดีใจครึ่งเสียใจครึ่ง
หล่อนฟังที่กานต์พูดออก จู่ๆก็รู้สึกสดชื่น
“ยังไงแม่ก็หวังว่าลูกจะอยู่ข้างแม่อยู่แล้ว แต่นี้เป็นโรง พยาบาล เชื้อโรคเยอะ เด็กๆไม่ต้องมาบ่อยเข้าใจมั้ย? วางใจ เถอะ อีกไม่กี่วัน เดี๋ยวแม่ออกจากโรงพยาบาล เวลานั้นลูกก็ได้ เจอแม่ทุกวันแล้ว”
“ผมจะได้กอดแม่นอนทุกวันใช่มั้ย? ไม่ได้กอดแม่นอนมานาน แล้ว”
กานต์กระพริบตา
บุริศรีกระตุกยิ้มมุมปาก
“โตขนาดนี้แล้ว ยังให้แม่กอดนอนอีก ไม่อายหรอ?”
“อย่าจุ้น!”
กานต์โต้กลับ แล้วรีบขึ้นเตียงกอดแม่ไว้
“คุณแม่รักผมที่สุดใช่มั้ย?”
“ใช่แล้ว แม่รักกานต์ที่สุดเลย
ลูกชายที่พยายามเข้าใกล้แบบนี้ ถึงจะทำให้หล่อนรู้สึก แปลกใจ แต่ก็ดีใจอยู่เหมือนกัน
เด็กนี้เริ่มนอนคนเดียวตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ทำให้หล่อนไม่มี หมอนข้างนุ่มๆเลย เสียดายมาก แต่ตอนนี้ดันขอนอนเอง หล่อนรู้ว่ากานต์ไม่ชอบขี้หน้าบุริศร์ แต่ก็ฉวยโอกาสบีบเนื้อ นิ่มๆของลูก
ยิ้ม สัมผัสดีจริง นุ่มนิ่มๆ
กานต์ขมวดคิ้ว
นี้เขาโดนแม่แอบจับอีกละหรอ?
แต่ต่อหน้าบุริศร์แล้วทำสีหน้าไรไม่ได้
กานต์มองบุริศร์อย่างหาเรื่อง
บุริศรรู้สึกตัวเองไร้ประโยชน์ เป็นลูกชายตัวเองแท้ๆ ยังจะ เป็นศัตรูกันอีก เป็นเมียตัวเองแท้ๆ ยังทำเป็นคนไม่รู้จักไม่สนใจเขาอีก ที่เขาท่าอะไรลงไปเนี่ย ถึงได้โดนอะไรแบบนี้?
ยิ่งคิดยิ่งนอนบุริศร์ขึ้นไปแล้วยกกานต์ไป
“ฉันพาเธอไปกินอาหารเช้า แม่เธอยังป่วยอยู่ เธออย่าไป
กวน”
พูดจบกานต์ก็เหมือนโดนหิ้วลูกไก่น้อยๆ
ออกไปหน้าประตูเจอเมทิพย์พอดี
คมทิพย์ที่หิ้วอาหารเช้ามา เห็นภาพนี้แล้วรู้สึกงง
“ดูแลนรมนดีๆ”
เขายังไม่ทันมองก็รีบหิ้วเด็กน้อยออกไป
กานต์ค้าน แค่แรงน้อย ทำไรไม่ได้ก็โดนหิ้วออกไปแบบนี้
“แม่น้าคมทิพย์ ช่วยผมด้วย!”
หล่อนกะจะพูดอะไร แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเขารู้ว่ากานต์เป็นใคร
อยู่ เขาไม่ทำอะไรหรอก แต่ตอนนี่หล่อนก็ไม่อยากเจอเขา ก็ เลยมองลูกตัวเองโดนหิ้วไปอย่างทำไรไม่ได้
“แม่”
การต่ไม่มีความหวังกะ
คมทิพย์อยากไปห้าม แต่ได้ยินนรมนไอ ก็รีบไปดูแล
“นรมน ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“ช่างพวกเขาเถอะ”
หล่อนพูดเสียงต่ำ คมทิพย์รู้อยู่แก่ใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ