รักสุดท้ายให้กับนาย

บทที่111 เธอคิดว่าเธอเป็นใคร



บทที่111 เธอคิดว่าเธอเป็นใคร

บทที่111 เธอคิดว่าเธอเป็นใคร

“นายว่าไงนะ?”

นรมนคิดว่าตัวเองฟังผิด

นี่คงไม่ใช่เกมของบุริศร์อีกนะ?

แต่ทำไมใจเธอถึงรู้สึกหวิวๆอย่างห้ามไม่ได้ล่ะ?

มือของนรมนสั่นเล็กน้อย ถึงขั้นในขณะที่ลุกขึ้นเข่าไปชนกับ ขอบโซฟาอย่างไม่ระวัง เจ็บจนเธอขมวดคิ้ว

“เป็นอะไร?เกิดอะไรขึ้น?”

แม่นรมนเห็นสภาพนรมนแบบนี้ก็เป็นห่วงมาก

นรมนจ้องมองแม่นรมนและพ่อนรมน ห้าปีที่ผ่านมานี้พวกเขา ดูแลบุริศร์ดั่งลูกของตัวเอง ถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้ ไม่แน่อาจกังวล มากขนาดไหนเลยก็ได้

ถ้าบอกว่าไม่อิจฉาละก็ไม่ใช่เรื่องจริง

คุณพ่อคุณแม่ของตัวเองแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับชอบบุริศร์มาก ขนาดนั้น และยังเป็นในช่วงที่เธอไม่อยากต่อความสัมพันธ์กับบริศร ก

นรมนกระแอมเสียงหนึ่งแล้วพูดว่า “ทางบริษัทของบุริศร์มี ธุระนิดนึง ต้องการให้หนูกลับไปจัดการ คุณน้า คุณอา ไว้หนู มาเยี่ยมวันหลังนะคะ”

เธอพยายามให้น้ำเสียงของเธอดูปกติ แต่ในฝ่ามือเธอกลับมี เหงื่อไหลออกมา

“ไปเถอะ ไปเถอะ หลายปีนี้บุริศร์ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน เธอ สามารถช่วยได้มากเท่าไหร่ก็ช่วยเขาหน่อย”

คุณแม่นรมนตอนนี้คือดูแม่ยายดูลูกเขย ยิ่งดูยิ่งเข้าตา ก็เลย

ช่วยปุริส พูดอย่างธรรมชาติ นรมนก็ไม่ได้ว่าอะไร รีบกล่าวลากับพวกคุณแม่นรมน จาก

นั้นก็ออกไปขึ้นรถแท็กซี่ รีบมุ่งไปยังโรงพยาบาลทหารเป็น

เวลาแรก

หลังจากที่มาถึงโรงพยาบาลทหาร ของที่นี่ก็ทำให้เธอตกใจ

หน้าประตูห้องผ่าตัดมีชายหนุ่มชุดดำยืนอยู่สองแถว ผู้ชาย ที่นั่งบนรถเข็นจ้องอย่างอาฆาต ส่วนพฤกษ์ก็จ้องมองพวกเขา อย่างโกรธเคือง

“พฤกษ์ บุริศร์เป็นไงบ้าง?
นรมนก้าวขึ้นไปถาม เธอรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นของตัวเอง แต่เธอบอกกับตัวเอง ทุกอย่างนี้ทำเพื่อกมล ไม่ได้เป็นเพราะ ว่ายังมีเยื่อใยต่อบริศร์

พฤกษ์ที่เห็นนรมนมา ก็รีบเข้ามาต้อนรับ

“คุณนรมนครับ ประธานบุริศร์ยังอยู่ในภาวะที่ช่วยชีวิต”

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ตอนที่นรมนกับบุริศร์จากไป บุริศร์ยังดีๆอยู่เลย แล้วทำไมถึง เกิดเรื่องแบบนี้กะทันหันล่ะ?

พฤกษ์ยังไม่ทันได้พูด ธรณีที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยขึ้นก่อน

“คุณคือแคทเธอรี?”

“คุณเป็นใคร?”

นรมนมองชายหนุ่มคนนี้โดยจิตใต้สำนึกไปทีหนึ่ง

ชายหนุ่มคนนี้หน้าตาอบอุ่นมา ดูก็รู้ว่าเป็นคนเกลียดคนเลว และสิ่งเลวร้ายเช่นศัตรู แต่ในความทรงจำของนรมนจำไม่ได้ ว่ารู้จักกับคนนี้

พฤกษ์ดึงนรมนถอยมาอยู่ข้างหลังโดยจิตใต้สำนึก พูดอย่างดุร้ายว่า “คุณชายธรณี ประธานบุศรบอกไว้แล้วว่า อยากได้แคทเธอรี นอกจากว่าจะเหยียบข้ามผ่านตัวเขาไป ตอนนี้ประธานบุริศร์อยู่ข้างในยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีหรือยัง ไง คุณชายธรณีคงไม่ใช่ว่าจะฉวยโอกาสหรอก พาคุณแคท เธอรีไปหรอกนะครับ?”

“ถ้าฉันยืนกรานที่จะพาไป นายจะทำอะไรฉันได้? พฤกษ์

นายแค่ตัวคนเดียว รอบๆฉันมีตั้งหลายคนเลยนะ”

คิ้วของธรณีบมวดขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าโกรธเล็กน้อย

ที่บุริศร์กล้าขัดกับเขา เพียงเพราะอาศัยอำนาจของตระกูล โตเล็ก รวมถึงที่เขาเป็นหัวหน้าของตระกูลโตเล็ก แต่พฤกษ์ เป็นแค่ผู้ช่วย กล้ามาพูดแบบนี้กับเขา ทําอย่างงี้ได้ยังไงกัน!

พฤกษ์โกธรจนหน้าแดง เพิ่งจะอยากพูดคุยกับธรณี แต่แขน ก็กลับถูกนรมนคว้าไว้ก่อน

*สามารถบอกฉันก่อนได้ไหม ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้คือใคร? เกี่ยวอะไรกับบุริศร์?บุริศร์อยู่ในห้องนั้นใช่ฝีมือของเขาไหม?”

นรมนยิงคําถามรัวๆไปหลายคําถาม

พฤกษ์พยักหน้าพูดขึ้นว่า “เขาชื่อธรณี เป็นคนตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา ประธานบริศ ได้รับบาดเจ็บจากปืนพกของเขา กระสุนยิงเข้าที่หัวใจโดยตรง ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้างแล้ว”
เมื่อกล่าวถึงบริศ ขอบตาของพฤกษ์ เริ่มแดง

ใจของนรมนเจ็บจี๊ดทันที

ยิงเข้าหัวใจ?

ไม่นานนี้เขาเพิ่งจะรอดชีวิตกลับมานะ!

นรมนเดินขึ้นมาหนึ่งก้าว มองธรณีและถามไปตรงๆ “นายเป็น คนอะไรของคุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา”

“นั่นคือคุณแม่ของผม!”

ธรณีเห็นว่านรมนถามถึงคุณย่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา โดยตรง ความโกรธก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณอย่าคิดว่ามีบุริศร์ปกป้องคุณ แล้วบ้านตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาจะทําอะไรคุณไม่ได้ ผมบอกคุณเลยนะตอนนี้คุณแม่ ของผมยังอยู่ที่โรงพยาบาลใส่เครื่องช่วยหายใจไว้ เรื่องที่คุณ เคยทำไว้กับคุณแม่ของผมผมจะไม่ให้อภัยคุณเด็ดขาด!

“ฉันทำอะไรให้แม่ของนาย? ธรณีใช่ไหม? ดูท่าทีของนายก็ดู

เป็นคนนะ แต่กลับชอบหาเรื่องเหมือนคุณแม่นายเหมือนกันเห รอ?”
นรมนไม่รู้ว่าทำไม ในใจเหมือนมีไฟคอยวนเวียน ระบายไม่ ออก ฉะนั้นตอนพูดก็เลยแหลมคมไปหน่อย

ธรณีเห็นว่าเธอเถียงกับเขาไม่พอยังหาว่าคุณแม่เขาหาเรื่อง อย่างเต็มปากอีก ก็โมโหทันที

“คุณว่าอะไรนะ? กล้าก็ลองพูดอีกทีดู”

“ฉันกล้าพูดยังไม่พอ ฉันยังจะพูดให้รู้เรื่องด้วย แม่นายดู แล้วก็เป็นผู้อาวุโสที่มีอายุเยอะแล้ว หน้าด้านทําเรื่องกล่าวหา ก่อนไม่พอ ตอนนี้กลับใช้เหตุผลนี้มาหาเรื่องบริศร์ของฉัน ฉัน อยากจะถามจริงๆว่าหน้าของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอยู่ไหน? ยังมีอยู่ไหม? ถ้าพวกนายไม่เอา ได้โปรดกลับบ้านปิดประตูซะ อยากทําอะไรก็ทําอะไร ฉันนรนมเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ฉันไม่ เคยแตะต้องคุณแม่นาย แม้แต่ขอบเสื้อก็ยังไม่เคยโดน แต่วัน นี้เรื่องที่พวกนายทําร้ายบุริศร์ ฉันไม่จบแน่!”

นี่เป็นครั้งแรกที่นรมนทําท่าทีแข็งกร้าวต่อหน้าคนนอกเพื่อ ปกป้องบุริศร์ แม้แต่พฤกษ์ก็อึ้งไปเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาควร ทําปฏิกิริยาแบบไหน

หลายปีที่ผ่านมานี้ธรณีอยู่อย่างราบรื่น เคยถูกด่าต่อหน้า แบบนี้เมื่อไหร่กัน? รวมทั้งด่าถึงคุณแม่เขาด้วย

เขาโกรธจนหัวเราะออกมา

“คุณก็แค่ผู้หญิงที่อ่อนแอ ไม่จบกับผมแล้วมันยังไง?”
ธรณีเพิ่งพูดประโยคนี้เสร็จ ‘ป๊าบ เสียงดังฟังชัด มือที่ตบได้ เสียงชัดเจนก็ฟาดไปบนหน้าของธรณี

การตบครั้งนี้ฟาดลงอย่างกะทันหัน และไม่มีใครคิดว่านรมน จะลงไม้ลงมือกะทันหันแบบนี้ เพราะว่าแม้แต่พฤกษ์ที่เป็นผู้ ช่วยก็ทําได้เพียงจ้องเขม็งเขาด้วยความโกรธโดยไม่กล้าทํา อะไรเขา แต่นรมนกลับตบหน้า!

ตบไม่พอ ยังตบอย่างแรง!และเสียงดังอีก!

บอดี้การ์ดรอบๆตะลึงไปเลยทีเดียว!

ธรณีก็ตะลึงเหมือนกัน!

ความรู้สึกร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า แสบขึ้นเรื่อยๆ

นรมนสบัดแขนที่ชาของตัวเอง พูดอย่างเฉยชาว่า “ถ้าบุริศร์ ไม่เป็นอะไรก็ถือว่าดี แต่ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาละก็ ฉันไม่สน ว้านนายจะมีอำนาจมากแค่ไหน แม้จะต้องเสี่ยงด้วยชีวิตฉัน ฉันก็จะให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้ชดใช้แน่ๆ!ทางที่ดีนาย ควรภาวนาให้เขาไม่เป็นอะไร!”

พูดเสร็จ นรมนก็มองธรณีอย่างเหลือทน เดินขึ้นมาหน้าประตู

ห้องฉุกเฉิน

ไฟของห้องฉุกเฉินยังไม่ดับ ข้างนอกไม่เห็นข้างใน และไม่รู้ ด้วยว่าเป็นไงบ้างแล้ว
นรมนกังวล คิ้วขมวดเข้าหาอย่างแน่นๆ

เธอไม่ได้รู้สึกปวดใจแบบนี้มานานหลายปีแล้ว

ผู้ชายที่อยู่ในนั้นทําร้ายเธอหนักเกินไป เธอแทบอยากจะให้

เขาตาย!

แต่นั้นก็จำกัดเพียงแค่ต้องเป็นเธอเท่านั้นที่ลงมือ!

บริศ เป็นผู้ชายของเธอนรมน ถึงจะตัดสินเป็นโทษประหาร ชีวิต ก็ยังไม่ถึงขั้นที่ให้คนอื่นมาทําเรื่องนี้ อีกอย่างกมลยัง ต้องการบริศร์ ยังไงเขาก็ยังตายไม่ได้

นรมนพยายามปลอบใจตัวเอง แต่ก็ยังคงหักห้ามความความ กลัวในใจไม่ได้

เธอกำลังกลัว!

ใช่!

เธอก๋าลังกลัวจริงๆ

ร่างกายของเธอสั่นเบาๆ

ความรู้สึกกลัวบริศร์ตายบนเตียงผ่าตัดแบบนั้น ไม่สามารถ ลืมตาขึ้นมาเผชิญกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ เหมือนกับฝันร้ายที่ปกคลุมในใจเธอ กดดันจนเธอหายใจไม่ออก

“พฤกษ์ บุริศร์ได้พูดอะไรไว้ไหม?”

นรมนอยากจะเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง แต่เธอทําไม่ ได้ ดวงตาคู่นั้นราวกับติดอยู่กับประตูห้องฉุกเฉิน ไม่สามารถ ขยับไปไหนได้

พฤกษ์ถูกนรมนเรียกแบบนี้ เพิ่งจะดึงสติกลับมา

“ประธานบุริศร์ได้บอกไว้อยู่ครับ”

เขาเกาะบนข้างหูของนรมน ทวนคำพูดของบุริศร์ซ้ำอีกครั้ง

นรมนฟังเสร็จ แววตาดูคาดเดาไม่ได้ ไม่มีใครดูออกว่าเธอ คิดอะไรอยู่

ธรณีเพิ่งจะได้สติกลับมา

“ไอ้เหี้ย! คุณกล้าตีผมเหรอ?พวกนายเป็นหุ่นยนต์หรือไง? มองดูฉันถูกผู้หญิงตีแบบนี้เนี่ยนะ?”

ตอนนี้ธรณีโกรธจนจะบ้าแล้ว

โตขนาดนี้ นอกจากคุณแม่ของเขาแล้ว เขายังไม่เคยถูกผู้ หญิงคนไหนตบเลย
บอดี้การ์ดรอบข้างเพิ่งจะได้สติ จะขึ้นไปจับนรมนโดย จิตใต้สำนึก

นรมนแม้แต่หน้าก็ไม่ได้หันกลับมา พูดอย่างเย็นชาว่า “ทำไม? ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ใช่แค่หน้าด้านอย่างเดียว ตอนนี้ยังไร้ยางอายถึงบ้านเลยเหรอ? ผู้ชายที่ดูแข็งแกร่ง เยอะขนาดนั้น ยังจะลงไม้ลงมือกับผู้หญิงที่ดูไร้เรี่ยวแรงอย่าง ฉันเหรอ? ได้สิ พวกนายลองแตะต้องตัวฉันดูสิ บังเอิญว่าฉัน เชื่อมต่อกับวิดีโอพอดี ถ่ายทอดสดตอนนี้ ให้ทุกคนในเมือง ชลธีดูว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นแบบไหนดีไหม?”

เธอพูดจบก็เอามือถือขึ้นมาเลย

มือถือเชื่อมต่อกับห้องถ่ายทอดสดห้องหนึ่ง ในห้องมีสมาชิก จำนวนเยอะมาก

ธรณีหน้าเสียทันทีในจังหวะนั้น

“แคทเธอรี คุณนี่เด็ดจริงๆนะ! วันนี้บุริศร์ปกป้องคุณไว้ ผม ปล่อยคุณไปก่อนละกัน คุณรอไว้เลยนะ!”

ธรณีโมโหมาก รู้สึกแค่ว่ามีกลิ่นคาวเลือดพุ่งขึ้นมา แต่ก็จะ อ่อนแอต่อหน้านโมนไม่ได้ โกรธจนหันหลังเข็นรถเข็นไป

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

นรมนพูดเสียงดุ
ธรณีก็หยุดจริงๆ หลังจากที่หยุดก็รู้สึกแปลบใจ ทำไมตัวเอง ถึงเชื่อฟังแบบ

นรมนพูดเสียงเย็นชาว่า “ก่อนที่บุริศร์ยังไม่รอดพ้นอันตราย

ใครก็ห้ามไปไหน”

“มีสิทธิ์อะไรมาห้ามผม?”

ธรณีรู้สึกว่านรมนผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว

เขาเคยสืบเรื่องนรมน เป็นแค่นักออกแบบของต่างประเทศ ไม่มีอำนาจใดๆ ไม่มีเส้นสายใดๆในเมืองชลธี ผู้หญิงที่ ธรรมดาจนไม่สามารถธรรมดาได้อีก กลับตบเขา!

ไม่เพียงแต่ตบเท่านั้น ตอนนี้ยังกล้าที่จะสั่งให้เขาหยุด! เธอนึกว่าเธอเป็นใคร?

นรมนกลับตอบเสียงเย็นชาว่า “ไม่มีสิทธิ์อะไร ก็แค่ระหว่าง ทางที่ฉันมาโรงพยาบาล ฉันได้โทรหาเพื่อนของฉันไปแล้ว เอาเรื่องนี้บอกไปถึงเมืองหลวงแล้ว ถ้าบริศร์ไม่เป็นอะไรละก็ ยังคุยง่ายหน่อย แต่ถ้าเขาเป็นอะไรไป ฉันพูดแล้วว่า ฉันจะให้ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเชดใช้แน่!”

คําว่าเมืองหลวงสองคำนี้ทําให้สีหน้าของธรณีเปลี่ยนไป อย่างเห็นได้ชัด
“คุณจะไปมีเพื่อนอะไร?”

“ก็ไม่ได้มีเพื่อนอะไรหรอก ก็แค่รู้จักกับเจตต์เท่านั้น แต่เจต ต่เหมือนรู้จักกับคุณชายธเนศพลอะไรของเมืองหลวง เหมือน ชื่อว่าธเนศพล?”

พอนรมนพูดประโยคนี้ออกมา สีหน้าของธรณีก็เปลี่ยนไป ทันที สีหน้าซีดดั่งกระดาษขาว

แท้จริงแล้วนรมนก็ไม่รู้ว่าธเนศพลคือใคร แต่ว่าเจตต์บอก เธอให้พูดแบบนี้ เธอก็พูดตาม ดูตอนนี้แล้ว คุณชายธเนศพล คนนี้มีอิทธิพลในเมืองหลวงมาก และธรณีคนนี้ก็อาจจะกลัว ผู้ชายที่ชื่อธเนศพลจริงๆ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ