รักสุดท้ายให้กับนาย

บทที่ 95 ต่อไปมีโอกาสทำให้เขาพยายาม



บทที่ 95 ต่อไปมีโอกาสทำให้เขาพยายาม

บทที่ 95 ต่อไปมีโอกาสทำให้เขาพยายาม

บุริศร์พูดเสร็จก็หมุนตัวเดินไปเลย ไม่หันกลับมามอง

พฤกษ์นิ่งอึ้งอยู่กับที่

คุณบุริศร์เป็นอะไรไป?

ผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งมาอยู่เมืองชลธีแค่สิบกว่าวัน เขาถึงกับ ต้องโมโหมากขนาดนี้เลยหรือ?

ก็แม้กระทั่งคุณผู้หญิงของปีนั้นก็ไม่สามารถทำให้คุณบุริศร์ เป็นทุกข์ได้เช่นนี้ แคทเธอรีมีดีอะไร?

เขาแค่พูดถึงเธอนิดหน่อย คุณบุริศร์ก็จะเล่นงานเขาเสีย

แล้ว?

พฤกษ์น้อยใจนิดหน่อย เขาติดตามบุริศร์มาห้าหกปีแล้ว นี่ เป็นครั้งแรกที่เห็นบุริศร์บอกให้เขาออกไปอย่างเคร่งขรึม จริงจัง แล้วอีกฝ่ายยังเป็นเพราะผู้หญิงคนหนึ่งอีกด้วย

แต่ไม่ว่าจะน้อยใจอย่างไร พฤกษ์ก็ยังตามไปอย่างรวดเร็ว

“คุณบุริศร์ครับ ผมผิดไปแล้ว”
บริศร์ก็รู้ว่าตนพูดแรงไปแล้ว แต่ด้วยความรู้สึกที่มีต่อนรมน เขาจะต้องพูดอย่างไรล่ะ

เขาทอดถอนใจ ขึ้นรถ นั่งที่นั่งด้านหลังทันที แต่อารมณ์ในใจ ยังคงไม่สงบลง หยิบบุหรี่ออกมาจุดไฟ สูบแล้วสูบอีก

พฤกษ์ขึ้นไปที่นั่งคนขับ เห็นบุริศร์อย่างนี้ ก็พูดเสียงทุ้มต่ำ: “คุณบุริศ ถ้ารู้สึกว่าผมพูดมากไปแล้ว คุณจะหักเงินเดือน หรือลดตำแหน่งผมก็ได้ แต่อย่าทําลายสุขภาพตัวเองอย่างนี้ เลยครับ ถ้าคุณสูบบุหรี่ปอดของคุณจะรับไม่ไหวนะครับ”

หลังจากที่บุริศรสูบบุหรี่เข้าไปลึกๆแล้วก็ดับไฟไปเลย

เขามองรถติดที่ด้านนอก พูดเสียงต่ำ: “พฤกษ์ ฉันรู้ว่า มิตรภาพระหว่างนายกับฉันแน่นแฟ้น แม้ว่าจะเป็นเจ้านายกับ ลูกน้อง แต่จริงๆก็เป็นพี่น้องกันแล้ว ฉันก็รู้ว่านายทำเพื่อฉัน รู้สึกยากที่จะเข้าใจใช่ไหมที่จู่ๆฉันก็ทำอย่างนี้กับผู้หญิงที่เพิ่ง รู้จักกันแค่สิบกว่าวัน?”

เห็นว่าบุริศร์เป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องนี้ก่อน พฤกษ์จึงถือโอกาส ถามให้เข้าใจเสียเลย

“ใช่ครับ ผมนึกไม่ถึงเลย ตั้งแต่ที่แคทเธอรีมาที่เมืองชลธี คุณบุริศร์ก็แปลกๆ คุณไม่พูดผมก็ไม่กล้าถาม แต่บางเรื่องเธอ ก็ไม่มีค่าพอที่คุณจะทำอย่างนั้นเพื่อเธอ แล้วผมก็เห็นว่าเธอไม่ ได้สำนึกบุญคุณสักเท่าไหร่ ปฏิบัติต่อผู้หญิงที่ไร้หัวใจอย่างนี้ คุณบุริศร์เป็นอะไรกันแน่ครับ?”
บริศ ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย สายตาค่อนข้างจะลึกซึ้งอยู่บ้าง

“เป็นอย่างไร? ฉันรู้สึกว่าฉันควรทำอย่างนี้กับเธอตั้งนาน แล้ว ถ้าห้าปีก่อนฉันทําอย่างนี้กับเธอ บางทีตอนนี้ลูกชาย ของเราก็คงจะได้เติบโตอยู่ข้างกายฉัน และเธอก็ไม่ต้อง มีประสบการณ์ที่ยากลําบากอย่างนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งที พาลูกชายพลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอน ใครๆก็คงจะ จินตนาการได้กันทั้งนั้นว่าไม่ง่ายเลยกว่าที่เธอจะผ่านมันมา

พฤกษ์ได้ยินแล้วก็ตกตะลึงไปหมด

“คุณบุริศร คุณกำลังบอกว่าแคทเธอรีคือคุณผู้หญิงคน

ก่อน?”

เขาไม่ค่อยกล้าเชื่อเลยจริงๆ

นี่เป็นไปได้อย่างไรล่ะ?

บุริศร์กลับยิ้มแล้วพูด: “ยังจำตอนที่ฉันให้นายไปทำเรื่อง ตรวจDNAไหม? นั่นเป็นของฉันกับเจ้าตัวแสบกานต์ เราเป็น พ่อลูกกัน และกานต์เป็นลูกชายที่แคทเธอรีให้กำเนิด นายว่า เธอเป็นใคร?”

“แต่นี่จะเป็นไปได้อย่างไรครับ? คุณผู้หญิงไม่ได้หน้าตา อย่างนี้ อีกอย่างกองเพลิงที่รุนแรงในปีนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่ จะหนีออกไปได้?
นี่ก็เป็นคําถามที่บริศ สงสัยมาโดยตลอด แต่ก็ไม่เป็นไร ใน เมื่อนรมนกลับมาแล้ว เขาก็จะหาคำตอบได้

“เรื่องนี้ฉันจะหาคำตอบให้ชัดเจน นอกจากนี้ฉันยังไปทำการ ตรวจสอบDNAอีกชุดหนึ่งลับหลังพวกนายทุกคน นั่นเป็น เส้นผมที่นรมนทิ้งเอาไว้เมื่อห้าปีก่อน กับเส้นผมของเธอตอน นี้เหมือนกันไม่มีผิด เดชาก็ยืนยันแล้วว่าเธอก็คือนรมนใน ตอนนั้น ก็คือภรรยาของฉันบุริศร์ที่แต่งงานกันถูกต้องตาม กฎหมาย ถึงแม้ตอนนี้เธอยังไม่ยอมรับ แต่ฉันเชื่อว่าข้างในคง มีเรื่องเข้าใจผิดอะไรแน่ๆ ในเมื่อเธอกับลูกกลับมาแล้ว ฉันก็จะ ไม่ให้ใครมาหาร้ายพวกเขาอีก ใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น!”

พูดเสร็จ บุริศร์ก็มองไปทางโรงพยาบาลขมวดคิ้วแน่น

คุณย่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็อายุมากแล้ว ปมในใจที่ ใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้คงจะเป็นปัญหาผู้สืบสกุลของตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา ธรณีเป็นคนพิการคนหนึ่ง ถึงจะบอกว่าก็สามารถ แต่งงานมีลูกได้ แต่ในหลายปีมานี้ธรณีไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มา โดยตลอด จึงทําให้คุณหญิงกังวลใจเป็นพิเศษสินะ

สรุปว่าบอดี้การ์ดคนนั้นเป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่ดูจากที่เขาปฏิบัติต่อแคทเธอรีในตอนนี้ คนๆนี้ก็เป็นกุญแจสำคัญ

“พฤกษ์ ยังจํานาวินได้ไหม?”

จู่ๆบุริศร์ก็พูดชื่อของบอดี้การ์ดขึ้นมา พฤกษ์เหม่อลอยไปครู่หนึ่ง

“นาวิน? คุณบุริศร์พูดถึงนาวินที่หายไปในกองเพลิงพร้อมกับ คุณผู้หญิงเมื่อห้าปีก่อนใช่ไหมครับ?”

“เขานั่นแหละ ช่วยฉันสืบหาตัวตนของเขาให้ชัดเจน แล้วก็ ตอนนี้นาวินยังไม่ตาย ซ่อนตัวอยู่สักที่หนึ่งในเมืองชลธี ฉันไม่ สนว่านายจะใช้วิธีไหน ต้องตามตัวเขามาให้ฉันให้ได้ พาเขา มาอยู่ต่อหน้าฉันอย่างลับๆ ฉันมีเรื่องมากมายที่ต้องถามเขา”

“ครับ!”

พฤกษ์รู้ตัวตนที่แท้จริงของนรมนแล้ว แต่ในใจยังคงไม่สงบ เขาพูดขึ้นอย่างลังเลเล็กน้อย: “คุณบุริศร์ คุณไม่ได้คิดผิดไป จริงๆใช่ไหมครับ? ดีไซน์เนอร์แคทเธอรีคือคุณผู้หญิงจริงหรือ ครับ? แต่ความแตกต่างของพวกเธอก็มากเกินไปนิดหน่อยนะ ครับ”

“นายพูดถึงหน้าตาใช่ไหม? ในโลกนี้มีเทคนิคประเภทหนึ่งที่ เรียกว่าทำศัลยกรรม ถึงฉันจะไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงศัลยกรรม แล้ว แต่ฉันคิดถึงกองเพลิงใหญ่นั้นเมื่อห้าปีก่อน คงจะทิ้งรอย แผลเป็นไว้ให้เธอ ทําศัลยกรรมก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก”

บุริศร์แค่คิดถึงรอยสักทั่วทั้งร่างของนรมน จู่ๆก็เหมือนกับจะ เข้าใจอะไรแล้ว
เธอไม่ชอบคนที่สักขนาดนั้น ทำไมอยู่ๆถึงเปลี่ยนเป็นแบบ อย่างที่ตนเองไม่ชอบได้ล่ะ? คิดโยงไปถึงกองเพลิงใหญ่เมื่อ ห้าปีก่อนขึ้นมา จริงๆก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้คิดไม่ออกเลย

พฤกษ์พูดเสียงทุ้มต่ำ: “ไม่ได้พูดถึงหน้าตาครับ ผมรู้สึก ว่านิสัยของคุณผู้หญิงก็เหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว เหมือนกับ เปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งเลย แต่ก่อนคุณผู้หญิงรักคุณขนาดนั้น ไม่ยอมให้คุณได้รับความลำบากใดใดทั้งสิ้น แต่กลับมาตอน นี้ ผมรู้สึกว่าคุณผู้หญิงไม่มีความรู้สึกเหมือนแต่ก่อนให้คุณอีก แล้ว ขอพูดบางอย่างที่ล่วงเกินนะครับ ในทางกลับกันเธอค่อน ข้างเกลียดคุณรำคาญคุณ ผมเห็นว่าล้วนแต่เป็นคุณบุริศร์ที่ ทำดีกับคุณผู้หญิง แต่เธอกลับไม่รับมิตรไมตรีเลย”

“นี่ฉันจึงจำเป็นต้องตามหาที่อยู่ของนาวินอย่างไรล่ะ ตอนนั้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ด้วยความสามารถของฉันไม่นึกว่าจะหาไม่ เจอ แต่นรมนก็ปิดปากแน่นไม่ยอมพูดอะไรเลย แม้กระทั่งไม่ ยอมพูดถึงตัวตนในอดีตของตัวเอง ฉันคิดว่าเธอคงทำเพื่อ คุ้มครองความปลอดภัยของลูก แต่เธอกำลังกลัวอะไรอยู่ล่ะ? เธอกำลังเตรียมการปกป้องลูกจากการลงมือของใคร? เรื่อง พวกนี้พวกเราต้องหาคำตอบให้ชัดเจน ถ้าเป็นนรมนเมื่อก่อน ต้องบอกฉันทุกเรื่องอย่างแน่นอน ฉันเป็นพระเจ้าของเธอ เป็น ทั้งหมดของเธอ ที่น่าเสียดายก็คือ ตอนนี้เธอทิ้งฉันไว้นอกโลก ของเธอเรียบร้อยแล้ว”

บุริศร์รู้สึกหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วก็ปวดใจนิดหน่อย

เวลาห้าปีสามารถตัดขาดความรู้สึกของคนสองคนได้จริงๆใช่ไหม?

ความรักที่เคยลึกซึ้งอย่างนั้น จะคล้อยผ่านไปตามกาลเวลา แล้วก็เปลี่ยนไปได้จริงหรือ?

แต่เขาก็ไม่พบความหลงใหลที่เคยอยู่ในสายตาของนรมน ยิ่งมองไม่เห็นเงาในอดีตของเธอเลยสักนิด

ก็ถูกนะ

นรมนในตอนนี้สำหรับเขา ก็เหมือนเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง แต่ระหว่างพวกเขาก็มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นที่สุด ถึงกับมี ลูกคนเดียวกัน

จู่ๆบุริศร์ก็อยากเจอนรมนขึ้นมาทันที

“เตรียมเฮลิคอปเตอร์ให้ฉันลำหนึ่ง ฉันอยากไปกอง บัญชาการ”

“ตอนนี้? คุณบุริศร์ ตอนนี้จะเที่ยงคืนแล้วนะครับ คุณบินไป ถึงคุณผู้หญิงก็คงจะหลับไปแล้ว คุณยังจะไปอีก…….

“ไปเตรียมเถอะ”

บุริศร์ถอนหายใจ อ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากตั้งแต่เกิดเรื่องที่คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ทำให้เป็นอุบัติเหตุ บุริศร์ก็ไม่ได้นอนเลย ตอนนี้ยิ่งเพื่อแค ทเธอรีแล้วก็ทําสงครามกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทันที ไม่รู้ เลยว่าที่บุริศร์ทำลงไปทั้งหมด นรมนจะรับน้ำใจด้วยความ ขอบคุณหรือเปล่า

พฤกษ์ไม่ได้พูดอะไรแล้ว จัดการคนไปเตรียมเฮลิคอปเตอร์ ในตอนนี้ก็ไปส่งบุริศร์ที่ยอดเขา

บนยอดเขาลมแรงมาก พัดแรงจนทำให้ค่อนข้างหนาวเย็น แต่ใจของบุริศร์กลับร้อนผ่าว เพราะเขาอยากเจอนรมนแล้ว

แปดปีก่อนตอนที่แห่ขันหมากไปขอเจ้าสาวก็ไม่ได้ตื่นเต้น อย่างนี้

พฤกษ์อยากจะส่งคนตามบุริศร์ไปด้วย แต่กลับโดนบุริศร์ ขวางเอาไว้

“ไม่จําเป็นหรอก ฉันไปคนเดียว ไปกลับก็ใช้เวลาไม่นาน ตอนเช้าฉันก็กลับแล้ว การประชุมตามปกติที่ต้องจัดก็จัดไว้ ให้เรียบร้อย ในเมื่อตระกูลทวีทรัพย์ธาดาพุ่งเข้ามาปะทะกับ นรมน อย่างนั้นเรื่องของเจตต์นายก็รู้แล้วใช่ไหมว่าควรจัดการ อย่างไร?”

คำพูดของบุริศร์ทำให้พฤกษ์พยักหน้าเล็กน้อย พูดเสียงทุ้ม ต่ำ: “แต่ดึงเจตต์ออกมาอย่างนี้แล้ว ไม่กี่ปีมานี้เจตต์ก็ตั้งตัว เป็นศัตรูกับพวกเรามาโดยตลอด เรื่องนี้เขาก็คิดจะถือโอกาสอย่างเห็นได้ชัด ทำอย่างนี้ไม่เอาเปรียบเขาเกินไปหรือ ครับ?”

“ไม่ถือว่าเอาเปรียบ ต่อไปมีโอกาสทำให้เขาพยายาม

บุริศร์พูดแฝงไว้ด้วยความหมายเสร็จแล้วก็ขึ้นเครื่องบินไป

เลย

ตอนที่เครื่องบินบินขึ้นไปกลางอากาศ ใจของบุริศร่ก็บินตาม ขึ้นมาด้วยแล้ว

เขาไม่กล้าจะเชื่อเลย ไม่นึกว่าตนจะตื่นเต้นดีอกดีใจเหมือน กับเป็นชายหนุ่มวัยละอ่อนที่อายุสิบเจ็ดสิบแปดปี

เดิมทีความรู้สึกที่ใจเต้นสวยงามเช่นนี้ สวยงามเสียจนเขา สามารถใช้ทุกอย่างไปแลกมาได้

ตอนที่เครื่องบินถึงกองบัญชาการก็เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าๆแล้ว

แชมป์สังเกตเห็นว่ามีคนบุกรุก เตรียมป้องกันไว้อย่างดีแล้ว แต่แรกคิดว่าเป็นเจตต์ที่ย้อนกลับมา ไม่คิดเลยว่าจะเป็นบุริศร์ ได้

“คุณบุริศร์? คุณมาได้อย่างไรครับ? มีเรื่องสำคัญอะไรที่ ต้องการแจ้งให้ทราบหรือเปล่าครับ?”
น้อยมาก แชมป์จะได้เห็นบริศมากองบัญชาการกลางดึก ดังนั้นจึงเตรียมที่จะรับมืออย่างเต็มที่

บริศ กลับโบกๆมือแล้วพูด: “ถึงเวลานอนก็ไปนอน ฉันแค่มา ดูผู้หญิงของฉันก็เท่านั้น ไม่ต้องบอกให้คนอื่นรู้ ฟ้าสว่างฉันก็ จะกลับแล้ว ไม่ต้องทำให้ใครตื่นตกใจ”

แชมป์ตกตะลึงไปหมดแล้ว

เขาติดตามบุรีศรมาหลายปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นท่าทางที่ไม่ สุขมของบริศ อย่างนี้มาก่อนเลย

บริศ กลับไม่สนใจท่าทางที่ตื่นตระหนกตกใจของแชมป์ ก้าว เท้าเดินไปทางห้องของนรมนทันที

ห้องของนรมนล็อกจากด้านใน แต่สำหรับบุริศร์นี่ก็ไม่ใช่เรื่อง

ใหญ่อยู่แล้ว

เขาเปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตนไม่ เหมือนกับสุภาพบุรุษเลย แต่นั่นจะเป็นอย่างไรล่ะ?

คนที่อยู่ด้านในเป็นภรรยาของเขา เป็นลูกชายของเขา!

บุริศร์เข้าไปในห้องอย่างนุ่มนวล
แสงจันทร์ทะลุผ่านหน้าต่างสะท้อนลงมาบนเตียง

นรมนนอนอย่างสงบอยู่ตรงนั้น กอดกานต์อยู่ ราวกับภาพ วาดที่สวยงาม ทําให้บริศ อดใจไม่ไหวที่จะทําให้วุ่นวาย

เขาก็มองนรมนกับกานต์เงียบๆอย่างนั้น ใจที่ว่างเปล่ามา ตลอดห้าปีนั้นจู่ๆก็โดนเติมเต็มเข้าแล้ว

นี่ก็คือความสุขที่มีมาตั้งแต่แรกสินะ นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ

บุริศร์นั่งลงข้างๆเตียง ความเหนื่อยล้าหายไปหมดแล้ว แค่ มองพวกเขาแม่ลูกอย่างนี้ เขาก็คงมีความสุขได้ตลอดไปแล้ว

นรมนเพิ่งจะหลับลงได้อย่างค่อนข้างสงบ แต่จู่ๆก็ขมวดคิ้ว แน่น ตัวสั่นๆ เหงื่อไหลซึมออกมาทั่วหน้าผาก

“ไม่! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”

นรมนกอดร่างกายของตนแน่นๆ เหมือนกับโดนฝันร้ายทำให้ ตกอยู่ในความลำบากเสียแล้ว

ใบหน้าของเธอหวาดกลัวจนขาวซีด เหงื่อค่อยๆซึมออกมาที่ ชุดนอนแล้ว ร่างกายราวกับใบไม้ที่โดนลมพัดสั่นไหวไปทั้งตัว
“ไฟไหม้ รีบดับไฟ! ลูก! ลูกของฉัน!”

นรมนร้องไห้ตะโกนออกมา กอดท้องของตนเองเอาไว้แน่นๆ ตกจากเตียงลงมาบนพื้นทันที แต่เธอกลับยังไม่ตื่นขึ้นมา กอด ท้องเอาไว้แล้วพลิกตัวไปมาอยู่บนพื้น ร้องไห้ตะโกน ตะโกน ไม่หยุด “ช่วยด้วย ช่วยลูกของฉันด้วย!”

ใจของบุริศร์โดนจับเอาไว้แน่นอย่างฉับพลัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ