รักสุดท้ายให้กับนาย

บทที่ 43 อำนาจที่จะไม่อ่อนข้อให้



บทที่ 43 อำนาจที่จะไม่อ่อนข้อให้

บทที่ 43 อำนาจที่จะไม่อ่อนข้อให้

กานต์และบุรีศร์ออกจากโรงพยาบาล ขึ้นรถของบุริศร์แล้ว

บุรีศรมองเขาแล้ว ในใจอิ่มเอมไปด้วยความพอใจ เด็กคนนี้ ยิ่งมองยิ่งเพลินจริงๆ

“อยากซื้อของไปให้กิจจาสักหน่อยมั้ย? ”

เขาแค่อยากอยู่กับกานต์ต่ออีกสักหน่อย แต่หาข้ออ้างที่ สมเหตุสมผลไม่ได้ ประธานคนนึงอยากซื้อของ ก็คงไม่ใช่ ประโยคที่เขาจะพูดมันออกมาหรอก?

กานต์ประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็คิดว่าการไปมือเปล่าไม่ค่อย ดีเท่าไหร่ จึงผงกหัวไปมา

ทั้งสองคนไปที่ห้างสรรพสินค้า

“กิจจาชอบอะไรหรอครับ”

กานต์เพิ่งกลับมาที่เมืองชลธี ที่จริงก็ไม่ค่อยสนิทกับกิจจา เท่าไหร่ ที่เขารู้ทั้งหมดก็มีเพียงแค่ว่าเขาเป็นลูกชายที่บุริศร์ ไม่สนใจแล้ว แต่ว่าตัวตนนี้ก็ทำให้เขามีปัญหาเพิ่มมากขึ้น

บริศ ประหลาดใจ
ก็จราชอบอะไรงั้นหรอ?

ดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

เขามักจะเอาสิ่งที่ดีที่สุดไปให้กิจจาเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นของ เล่นที่เพิ่งผลิตออกมาใหม่หรือเสื้อผ้าแบบใหม่ในท้องตลาด เพียงแค่มันคือสิ่งที่ดีที่สุด เขาก็จะเอามันไปให้กิจจา แต่ว่าใจ จริงของกิจจาชอบอะไรกันนะ เหมือนว่าแต่ไหนแต่ไรเขาก็ยัง ไม่เคยถามมันมาก่อน

เห็นท่าทางของบริศร์ขณะนั้น กานต์ยิ้มเยาะพลางพูดว่า “คุณเป็นพ่อของเขาจริงๆหรือเปล่าครับ? ลูกชายตัวเองชอบ อะไรยังไม่รู้เลย แบบนี้ยังนับว่าเป็นพ่อได้มั้ย? ” คำพูดประโยคนี้ทำให้บุริศร์รู้สึกขายหน้าไม่น้อย แค่เด็กเล็กๆคนเดียว ทำไมทำให้เขาขายหน้าได้ตลอดเลย “คุณพูดว่าอะไร? ผมไม่เข้าใจ อั้ม ของเล่นนั่นก็ดูดีนะ”

คัดค้งฉากของห้องน้ำในสนามบินแล้ว ดูเหมือนบุริศร์จะถาม ประโยคนึงขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ

“ตอนอยู่ที่สนามบินเธอตั้งใจจับหรือเปล่า? “
กานต์แสร้งทําเป็นไร้เดียงสาในทันทีและวิ่งตรงไปทางแผนก ของเล่นด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งท่าทางแบบนั้นเห็นได้ชัดถึง การกลัวถูกจับได้

ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นแค่เด็กคนนึงเท่านั้น สงบเสงี่ยมได้ไม่ ตลอดหรอก

บุรีศร์ยิ้มพร้อมกับส่ายหัว ใบหน้าปรากฏให้เห็นถึงความอ่อน

โยน

เขาและกานต์มาถึงที่แผนกของเล่นแล้ว เขากำลังมองหาของ เล่นสำหรับเด็กอายุ4-5ขวบ แต่ไม่คิดว่ากานต์จะไปที่แผนก หุ่นยนต์เลโก้ทันที และหยิบของเล่นชุดคำสั่งหนึ่งขึ้นมาเริ่ม ทําการสํารวจ

“เธอเขียนโปรแกรมได้หรอ?”

สิ่งนี้ทำให้บุริศร์คาดไม่ถึงอย่างมาก

กานต์พูดโดยไม่คิดว่า “ผมชอบตั้งแต่เด็กแล้ว คุณแม่ของผม ซื้อของเล่นเลโก้ให้ผมเยอะแยะเลย”

ในระหว่างที่พูด มือของกานต์ได้หยิบชุดคำสั่งจัดให้แกน หลักเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทันใดนั้นของเล่นตัวเดิมก็เพิ่มฟังก์ชั่ นบางอย่างขึ้น

ตาของบุริศร์ส่องเป็นประกายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนน้ำเสียงและสีหน้าใดๆ

“ชอบมั้ย?

ชอบก็ อเลย ”

“ผมเล่นจนเบื่อแล้ว ไม่แน่กิจจาอาจจะชอบนะ งั้นก็ซื้ออันนี้

แล้วกันครับ” กานต์หยิบของเล่นส่งให้พนักงานขาย สุ่มหยิบบัตรธนาคาร

ใบหนึ่งจากกระเป๋าของเขาแล้วส่งไปให้

“ฉันจ่ายเอง”

บุริศรรับบัตรของกานต์กลับคืนมา กำลังจะดึงบัตรของตัวเอง ออกมาจากกระเป๋าเงิน แต่ถูกกานต์ขวางไว้

“คุณแม่ของผมเคยสอนว่า ไม่ควรขอเงินและสิ่งของจากคน แปลกหน้า แล้วก็ นี่ก็คือสิ่งที่ผมซื้อให้กิจจา ไม่จำเป็นต้องให้ คุณจ่ายเงินให้ นี่เป็นเงินค่าขนมที่ผมสะสมตั้งแต่เด็ก แค่ซื้อ ของเล่นชิ้นเดียวพออยู่แล้ว”

คำพูดของกานต์ทำให้ในใจของบุริศร์รู้สึกแย่ไม่น้อย

“คนแปลกหน้า?

“ใช่แล้วล่ะ นอกจากที่คุณเป็นหัวหน้าของคุณแม่ของผมและ เป็นคุณพ่อของกิจจาแล้ว สำหรับผมแล้ว คุณก็คือคนแปลกหน้า”

กานต์พูดจบก็น่าบัตรเครดิตของตัวเองยื่นออกไป

บริศรรู้สึกแน่นหน้าอก

แม้ว่าเด็กคนนี้จะพูดถูก แต่ทําไมจึงรู้สึกแปลกๆนะ? ”

“แม่ของเธอเคยบอกเธอเรื่องพ่อของเธอมั้ย? ”

ทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นมา

ร่างกายของกานต์หยุดนิ่งไปชั่วขณะ พูดเบาๆ ว่า “บอกครับ คุณแม่บอกว่าคุณพ่อของผมเสียแล้ว แต่พ่อเลี้ยงของผมก็ ดูแลพวกเราดีมาก ถ้าเป็นไปได้ ผมก็หวังให้พ่อเลี้ยงเป็นพ่อ ของผมจริงๆ สองสามปีมานี้คุณแม่ก็รักพ่อเลี้ยงมาก”

พูดจบ เขาไม่ลืมที่จะหันไปยิ้มหวานให้บุริศร์

หน้าอกของบุริศร์รู้สึกแน่นยิ่งกว่าเดิม

“พ่อเลี้ยงของเธอ? รเมศหรอ? ”

“ใช่ครับ คุณรู้จักพ่อเลี้ยงของผมด้วยหรอ? เขาเป็นคนที่ ยอดเยี่ยมไปเลยใช่มั้ยครับ? บริษัทใหญ่ขนาดนั้นก็สามารถ บริหารได้อย่างมีสีสันและน่าเร้าใจ สิ่งที่สำคัญก็คือไม่ว่าพวกเราจะพบเจอกับความยากลำบากอะไร พ่อเลี้ยงก็ จะรีบมาเป็นคนแรก คนที่สอนให้ผมเดิน คนที่ทำให้ผมรู้จักตัว อักษร แม้แต่คนที่สอนให้ผมพูดก็ล้วนเป็นเขาที่สอน ในความ เห็นของผม เขาก็คือคุณพ่อของผมนั่นแหละ นอกจากนี้เขายัง ดูแลแม่ของผมดีมาก พ่อเลี้ยงบอกว่ามีเพียงแค่คุณแม่ตอบ ตกลงเท่านั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็จะแต่งงานกับคุณแม่”

กานต์พูดอย่างภูมิใจเต็มร้อย ความภูมิใจนั้นเปรียบเสมือนดั่ง ของขวัญล้ำค่า ตาของบุริศร์ส่องเป็นประกาย แต่ลึกๆแล้วเขา รู้สึกเหมือนโดนเผา

ทำไมแค่ได้ฟังคำพูดพวกนี้ อยู่ๆ ก็อยากเอาชนะขึ้นมา?

“วันไหนมีโอกาสต้องไปพบพ่อเลี้ยงของเธอซะหน่อยแล้ว ดู ว่าเขาจะดีขนาดนั้นเหมือนที่เธอพูดรึเปล่า”

“ต้องมีโอกาสอย่างแน่นอนครับ เพราะว่าคุณคือคุณพ่อของ กิจจา ตอนที่คุณแม่ของผมและพ่อเลี้ยงแต่งงานกัน ผมจะขอ

ให้คุณแม่เชิญคุณมาด้วย”

กานต์พูด พร้อมกับไม่ลืมที่จะปรบมือของบุริศร์ไปด้วย ความ รู้สึกนั่นทำให้บุริศร์ยากที่จะยอมรับได้จริงๆ

“ไปกันเถอะ กิจจาคงจะรอแย่แล้ว”

“อั้ม”
มองดูบุริศร์นำออกไปก่อน กานต์ซึ่งอยู่ข้างหลังก็ทำหน้าล้อ

เลียนเขา

คนใจแคบ!

อย่าคิดว่าเขาจะดูไม่ออกว่าบุริศร์มีความพยายามกับคุณแม่

ของเขา

แต่ถ้ามองย้อนไปดูเมื่อห้าปีก่อนที่เขาไม่ต้องการคุณแม่และ พวกเราแล้ว เขาก็สูญเสียคุณสมบัติของความเป็นพ่อไปแล้ว ตลอดชีวิต

กานต์ทําหน้าล้อเลียนเสร็จ เจ้าปีศาจตัวน้อยก็หยิบของเล่น แล้วเดินออกจากห้างสรรพสินค้าไปขึ้นรถ

แต่ในเวลานั้นบุริศร์โทรศัพท์ไปที่บ้าน

“เขมิกาอยู่บ้านมั้ย? หาเหตุผลทำให้เธอออกไปจากบ้าน ผม ต้องกลับเข้าไปอีกรอบ ไม่อยากให้เธออยู่

ได้ยินชื่อของเขมิกา คิ้วของกานต์ก็ขมวดขึ้นมาอีกครั้ง

เขาไม่ต้องการให้เขาและแม่ของเขาถูกทำเหมือนเป็นสิ่งของ โดยปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นอาศัยอยู่ในบ้านของเขาทันใดนั้นหน้าของกานต์ก็เงื่อนลง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ