รักสุดท้ายให้กับนาย

บทที่ 33 เราคือพี่น้องกัน



บทที่ 33 เราคือพี่น้องกัน

บทที่ 33 เราคือพี่น้องกัน

บุริศร์พบเจอฝ่ายตรงข้ามแบบนี้ไม่บ่อยนัก คนนี้มีเกาะกัน ข้อมูลที่แน่นหนามาก ทำให้พฤกษ์ภิรมย์ที่ยืนอยู่ข้างๆทำอะไร ไม่ถูก ไม่กล้าแม้แต่จะถอนหายใจออกมา

เขาอยู่กับบุริศร์ตั้งแต่จบจากมหาวิทยาลัย เขาไม่เห็นท่าทาง เงียบขรึมของบริศแบบนี้นานแล้ว งานยากแบบนี้ทำให้ พฤกษ์กระดากใจอายนิดหน่อย

กานต์ใช้ทุกวิถีทาง สุดท้ายเขาก็ถูกโปรแกรมโทรจันของบุริ ศร์จับได้

“โธ่เอ้ย!

กานต์ต้องการที่จะถอนออกจากแต่ทำไม่ทัน เขาเร่งที่จะถอด ปลั๊กด้วยความไว แต่ในไม่ช้าเขาก็ได้รู้ว่าที่อยู่IPของตัวเองถูก ค้นพบแล้ว

เป็นอย่างที่คาดไว้ บุริศร์บอกพฤกษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ”เร่งตามหา ที่อยู่IPนี้ ถ้าครั้งนี้ปล่อยให้เขาหนีไปได้อีก นายก็เกษียณก่อน กำหนดไปได้เลย”

พฤกษ์ไม่กล้าเพิกเฉย รีบให้แผนกเทคนิคแกะรอยอย่าง รวดเร็ว ทำให้กานต์รีบออกมาจากห้องคอมพิวเตอร์อย่างใจฝ่อ ยังดีใจที่ตัวเองอยู่ในโรงเรียนอนุบาล ไม่ใช่ที่บ้าน ไม่ อย่างนั้นผลลัพธ์คงออกมาน่าเวทนาน

ตั้งแต่เขาเกิดมาจนถึงตอนนี้ เขาอยู่อย่างเด็กอัจฉริยะมา โดยตลอด อย่าพูดถึงเด็กรุ่นเดียวกันเลย แม้แต่แฮ็กเกอร์บาง กลุ่มที่อเมริกายังไม่อยู่ในสายตาของเขา เขาคิดไม่ถึงว่าบุริ ศร์ ภายนอกที่ดูเป็นผู้ชายสำรวย กลับมีทักษะฝีมือในการใช้ คอมพิวเตอร์อย่างชำนาญปราดเปรียว

เขาไม่อยากยอมรับว่าบุริศร์นั้นเก่งกาจ แต่ก็ไม่ยอมรับไม่ได้ ความรู้สึกสับสนขัดแย้งกันนี้ทำให้เขาอึดอัด ออกมาจากห้อง คอมพิวเตอร์ด้วยความโมโห มองไปเห็นที่กิจจาวิ่งเข้ามาหา พอดี

“กานต์ นายอยู่นี่เองเหรอ? ฉันได้ยินว่ามามี้นายเกิดอุบัติเหตุ เป็นยังไงบ้าง? เป็นอะไรมากไหม? ทำไมนายถึงไม่ไปหามามี้ นายล่ะ?

กิจจาชอบกานต์มาก รู้สึกว่ากานต์มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึก ปลอดภัยและสบายใจอยู่

กานต์มองไปที่หน้าอันซื่อตรงของเขา คิ้วขมวดเข้าหากันอีก ครั้ง

เขาพบว่าจริงๆแล้วกิจจาเป็นเพื่อนที่ดี แต่เพียงเพราะว่าเขา อยู่ในสถานะลูกชายของบุริศร์จึงทำให้เขาไม่ชอบเอามากๆ แต่จะไม่พูดคุยด้วยเลยก็คงไม่ได้
ทันใดนั้น ตาของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อย คิดอะไรได้เข้ามาในหัว

“กิจจา เมื่อกี้ฉันเจอการ์ตูนเรื่องหนึ่งในห้องคอมพิวเตอร์สนุก มาก แต่ว่าห้ามให้ครูรู้นะ นายอยากดูไหม? ”

“ไปสิไปสิ! นายวางใจได้เลย ฉันรับประกันว่าจะไม่บอกครู” กิจจาดีใจขึ้นมาโดยทันที

ที่จริงแล้วเขาไม่ค่อยชอบเรียนหนังสือเท่าไหร่ เพราะเขาคือ ลูกชายของบุริศร์ คุณครูและผู้อำนวยการจึงปฏิบัติกับเขา อย่างกล้าๆกลัวๆ เด็กคนอื่นก็ไม่ชอบเล่นกับเขา มีแค่กานต์คน เดียวที่ดีกับเขา เล่นกับเขาอย่างเต็มใจ เขาอยากเล่นกับกานต์ ทุกวันเลย วันนี้ได้ยินว่ากานต์จะพาเขาไปดูการ์ตูน หน้าเขาก็ เต็มไปด้วยความสุข

กานต์ลากเขาเข้าไปในห้องคอมพิวเตอร์ เสียบปลั๊กใหม่อีก รอบ และก็ไม่ได้ถอดบัญชีตัวเองออกจากระบบ เพราะว่าเขารู้ ว่าตั้งแต่ตอนนี้ บัญชีนี้ของเขาใช้งานไม่แล้ว

“นี่ นี่คือการ์ตูนที่ฮิตที่สุดในตอนนี้ สนุกมากเลยล่ะ ตอนนี้นาย ดูอยู่นี่ไปก่อนนะ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ ถ้าเกิดว่ามีคนมาถาม นายห้ามพูดชื่อฉันออกมาเด็ดขาดนะรู้ไหม? นายคือทายาท ตัวน้อยของบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจํากัด ไม่มีใครกล้ากับนาย แต่ฉัน เพิ่งย้ายโรงเรียนมา ถ้าหากมีครูหรือคนอื่นรู้ว่าฉันไม่เข้าเรียนแต่แอบมาดูการ์ตูนอยู่ห้องคอมพิวเตอร์ จะถูก

ไล่ออกเอา”

กานต์กําชับด้วยน้ำเสียงเบา

เพียงแค่กิจจาได้ยินว่าเขาจะถูกไล่ออก นั่นก็หมายถึงเขาจะ ไม่ได้เจอกานต์อีกต่อไป รีบพยักหน้าทันที

“นายสบายใจได้ ฉันจะไม่บอกใครว่านายอยู่ที่นี่ ไม่ว่าใคร ฉันก็จะไม่บอก”

“ดา ของนายก็ห้ามบอกนะตกลงไหม? “

กานต์ขยิบตาอย่างเหลี่ยมจัด

กิจจายืดอกรับ พูดด้วยความกล้าหาญ นายสบายใจได้ ต่อ ให้เป็นดา ฉันก็จะไม่บอก”

“เราคือพี่น้องกัน”

กานต์ยิ้มแล้วตบไปที่ไหล่ของเขาก่อนจะเดินออกไป

พฤกษ์และแผนกเทคนิคหาที่อยู่IPเจออย่างรวดเร็ว แต่เมื่อ

เห็นที่อยู่ก็แปลกใจเล็กน้อย

“ประธานบริศร์ครับ ที่อยู่IPคือโรงเรียนอนุบาลของคุณชายน้อยครับ”

บริศร่คิ้วขมวด

ในโรงเรียนอนุบาลมีใครอริกับเขากันนะ?

“ไปเอารถมา ฉันจะไปด้วยตัวเอง”

บุริศร์ลุกขึ้นยืน โดยที่ไม่สวมเสื้อคลุม ไปขึ้นรถด้วยความเร็ว

บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดครั้งนี้สูญเสียสาหัสนัก เรื่องเงินเรื่องเล็ก ตระกูลโตเล็กร้อยปีเงินไม่ขาด ที่สำคัญที่สุดคือความลับของ บริษัทรั่วไหลทําให้เขาเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างมาก

พฤกษ์ไม่กล้าล่าช้า พาบุริศร์ไปถึงโรงเรียนอนุบาลโดยไว

เมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนและคุณครูเห็นว่าบุริศร์มาถึงอย่าง กะทันหัน ต่างก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ทั้งกล้าๆกลัวๆ

“ใครอยู่ในห้องคอมพิวเตอร์?

บริศ เปิดปากถามทันที

ผู้อำนวยการมองไปที่คุณครูด้วยใบหน้าว่างเปล่า คุณครูก็ แปลกใจเหมือนกัน แต่ก็พูดต่อ”ไม่มีใครอยู่ในห้องคอมพิวเตอร์นะคะ”

บุริศร์หน้านิ่งแล้วหันเท้าเดินตรงไปยังห้องคอมพิวเตอร์

กานต์แอบตัวอยู่ในที่ลับเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด อาศัยช่วงที่ ไม่มีใครสนใจ เขารีบวิ่งกลับขึ้นไปที่ห้องเรียน

ตอนที่บุริศร์และพฤกษ์เปิดประตูห้อง ก็พบว่ากิจจากำลังนั่ง ขำการ์ตูนอยู่ในคอมพิวเตอร์อย่างหมกมุ่น

พฤกษ์ตะลึง

“คือ คุณชายน้อย?

ยังไงเขาก็เชื่อไม่ลงในทักษะการใช้คอมที่เชี่ยวชาญขนาด นั้นคาดไม่ถึงว่าจะเป็นฝีมือของคุณชายน้อยของตัวเอง

บริศ หน้ายุ่ง

“กิจจา ลูกมาทําอะไรที่นี่? “

เสียงของบุริศ ไม่ดัง แต่ก็ทำให้กิจจาตกใจ

เขาลงมาจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว เห็นว่าบุริศร่มากับพฤกษ์ ด้านหลังพฤกษ์คือผู้อำนวยการและคุณครู แล้วถัดไปคือพวก เพื่อนของเขาตอนเด็กๆ เขานิ่งอึ้งทันที
“ดาดี้? มาที่นี่ทำไมครับ?

“พ่อถามอีกครั้ง ไม่ไปเรียน มาอยู่ตรงนี้ทำไม? “

บริศร์น้อยครั้งมากที่จะโกรธกิจจา แต่ครั้งนี้มันเหลืออดจริงๆ

กิจจารับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่ออกมาจากตัวบุริศร์ ตกใจจน สั่นไปหมดทั้งขา ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นกานต์ที่อยู่ในกลุ่ม

คน

เขานึกถึงคำที่กานต์พูดไว้ก่อนจะเดินจากไป

เขาไม่อยากเสียเพื่อนกานต์คนนี้ไป!

แล้วก็ไม่อยากให้เขาไปจากที่นี่!

คิดเพียงเท่านี้กิจจากัดไปที่ริมฝีปาก มือบีบปลายเสื้อพูด ผม แค่รู้สึกว่าเรียนมันน่าเบื่อ เลยมาดูการ์ตูนที่นี่ครับ”

บุริศร์หน้ายุ่งเข้าไปอีก

“ลูกอยู่ที่นี่ตลอดเหรอ? นานเท่าไหร่แล้ว? ”
กิจจานิ่งอึ้งไป

เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากานต์อยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว แต่ เขาเองก็บอกไปไม่ได้ว่าตัวเองเพิ่งจะมา ไม่อย่างนั้นกานต์ก็จะ ถูกเปิดโปง

กิจจาพูดเสียงต่ำ “จำไม่ได้ครับ นานมากแล้ว”

บริศรดึงเขาออกไป เมื่อปิดหน้าต่างการ์ตูนลงบัญชีที่คุ้นตา ก็ปรากฏขึ้นมา ขอบข่ายเวลาของบัญชีนั้น เหมือนว่าจะเป็น เวลาเดียวกับแฮ็กเกอร์ที่ใช้โจมตีบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด

บอกมาว่าก่อนหน้าที่ลูกจะมาใครอยู่ที่นี่? ”

บุริศร์เยือกเย็นจนแข็งไปทั้งตัว กิจจาตกใจจนตัวสั่น ทำให้ กานต์เองก็อดไม่ได้ที่จะตงิดใจขึ้นมา

“มีแค่ผมคนเดียวอยู่ที่นี่ ดาดี้ ผมแค่ดูการ์ตูนเอง ดาดี้โกรธข นาดนี้เลยเหรอ? ดาดี้เกลียดผมใช่ไหมครับ? ผมจะกลับไป ฟ้องมามี้ ว่าดาดี้ดุผม”

กิจจาตกใจกลัวมาก ร้องไห้เสียงจ๊ากขึ้นมา

นี่ถ้าเป็นปกติแล้วบุริศร์ก็จะหยอกเล่นกับเขาแน่นอน แล้ว หลังจากนั้นก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่วันนี้เสียงร้องไห้ของเขา ไม่ได้ดึงดูดความประนีประนอมของบุริศร์ กลับกันทำให้หน้า ของบุริศร์ยุ่งเหยิงเข้าไปอีก
“ในฐานะทายาทของบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดคนต่อไป นึกไม่ถึง เลยนะว่าจะพูดโกหกเพื่อช่วยปิดบังคนร้าย กิจจา ลูกทําให้พ่อ ผิดหวังจริงๆ! พฤกษ์พาเขากลับไป ให้เขมิกาอบรมเขาอย่าง เข้มงวด เป็นแบบนี้อีกต่อไป ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะบริหารบริษัท ต่อไปได้เป็นแบบไหน! ”

บุริศร์โกรธอย่างจริงจัง

อยู่กับกิจจามาเป็นเวลาสี่ปี เขาเป็นคนยังไงบุริศร์รู้ดีที่สุด เด็กคนนี้เป็นเด็กฉลาด แต่เขาไม่ได้เก่งเท่าแฮกเกอร์คนนั้น แต่ตอนนี้ให้ตายยังไงกิจจาก็ไม่ยอมพูด หรืออาจจะเป็นเพราะ เขาไม่รู้จริงๆ ฝ่ายตรงข้ามบงการกิจจา หรือไม่ก็กิจจากำลัง ปกปิดคนร้ายคนนั้น

คนที่ทําให้กิจจาช่วยปิดบังได้คือใครกันนะ?

บุริศรคิดไม่ออก ยิ่งเพิ่มความทุกข์ใจและไม่เป็นสุขมากขึ้น

ไปอีก

กิจจาไม่เข้าใจว่าบุริศร์คิดอะไรอยู่ ก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก

“ดา เป็นคนไม่ดี ผมไม่อยากกลับ! ปล่อยผม! ”

เขาขัดขืน แต่ถึงยังไงก็เพราะว่าเขาอายุยังน้อย เลยถูก พฤกษ์อุ้มขึ้นมา แล้วบังคับเอาตัวเขาออกไป
ตอนที่เดินผ่านตัวกานต์ไป ตาใหญ่ของกิจจา ขยิบตาให้เขา ขยับปากแบบไม่มีเสียง กานต์ก็เข้าใจความหมาย

เขาพูดว่า”สบายใจได้ ฉันไม่บอกหรอกว่าเป็นนาย เราคือพี่

น้องกัน” ในขณะนั้น กานต์ก็รู้สึกผิดขึ้นมา จนกระทั่งมีปฏิกิริยาอย่าง หนึ่งขึ้นมา อยากจะวิ่งออกไปบอกกับทุกคน ว่าคนนั้นคือเขา

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกิจจา!

แต่ตอนนี้โทรศัพท์ของบุริศร์ก็ดังขึ้นมา

“ว่าไง? แคทเธอรีไม่ดีขึ้นเหรอ? อะไรนะเธอแพ้ยา? อะไร นะเธอช็อกเหรอ? ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

พูดจบ บุริศร์ก็วิ่งออกไปอย่างรีบร้อน

หัวใจกานต์ร่วงลงถึงตาตุ่ม

มามป่วยเข้าขั้นอันตราย?

เขาอดกลั้นน้ำตาไม่อยู่อีกต่อไป ร่างเล็กๆสั่นสะท้านอย่าง แรง แล้ววิ่งออกไปอย่างไว เพียงแต่จับไปที่มือของบุริศร์ พูด ด้วยน้ำเสียงเศร้า พาผมไปโรงพยาบาล!

บริศ คิดไม่ถึงว่าเด็กที่มาจับที่มือจะเป็นกานต์เด็กคนนี้
“นายจะไปทำอะไรที่โรงพยาบาล? ตอนนี้ฉันมีธุระ ไม่มีเวลา ว่างคุยกับนายหรอกนะ ปล่อยมือ!

เพราะเรื่องแฮ็กเกอร์และนรมนแพ้ยามาชนกันน้ำเสียงของ บุริศร์เลยรุนแรง ปกติแล้ว อย่าว่าแต่เด็กอย่างกานต์เลย ต่อ ให้เป็นนักธุรกิจพอเห็นท่าทางแบบนี้ของบุริศร่ก็ต้องถอยห่าง ออกไปเป็นสามไมล์ แต่กานต์กลับไม่กลัว ไม่เพียงแต่ไม่กลัว ยังดึงมือของเขาไว้แน่นแล้วพูด”พาผมไปโรงพยาบาล! ”

อยู่ๆบริศ ก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้มีบางส่วนคล้ายเขามากไม่มีผิด

เขาเหมือนกับตัวเองบ้าไปแล้ว

บุริศร์อยากจะสะบัดกานต์ออกไปแต่เห็นว่าเด็กคนนี้เป็นเด็ก ตัวเล็ก แต่กลับแรงเยอะมากเลยทีเดียว ช่วยไม่ได้ได้ เพราะ ว่าเป็นห่วงนรมน เขาจําต้องให้กานต์ขึ้นรถไปด้วย

ทั้งสองคนถึงโรงพยาบาลโดยเร็ว

ตอนที่คมทิพย์เห็นว่ากานต์กับบุริศร์ มาถึงพร้อมกันนั้น เธอมึนงงไปหมดทั้งตัว ถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับ สถานการณ์ตรงหน้าดี

นี่คือเรื่องบังเอิญ? หรือว่าบุริศร์ไปรู้อะไรมาแล้ว?

แต่กานต์กลับนิ่งกว่าเขามาก
“คุณครูดมทิพย์สวัสดีครับ!

กานต์มีมารยาทและสุภาพเรียบร้อย คม พ พยักหน้าตอบ อย่างมีจิตสํานึก

บุริศร์ถามอย่างรีบร้อน เธอเป็นยังไงบ้าง? เมื่อกี้ยังดีอยู่เลย ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้เข้าขีดอันตรายอีกล่ะ? ”

แค่เห็นบุริศร์ สีหน้าคมทิพย์ก็ไม่ดีทันที เวลานี้ได้ยินบุริศร์ ถามถึงนรมน พอคิดถึงทุกสิ่งอย่างที่นรมนแบกรับทั้งหมดอยู่ ตอนนี้ อารมณ์โมโหของเธอก็พุ่งออกมาทันที

“ประธานบุริศร์ถามแปลกๆนะคะ ฉันไม่ใช่หมอ ฉันจะไปรู้ได้ ยังไงกัน? ถ้าไม่ใช่เพราะประธานบุริศร์ แคทเธอรีของพวกเรา ก็คงไม่ต้องมาเป็นตายเท่ากันอยู่ข้างในไม่ใช่เหรอคะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ