รักสุดท้ายให้กับนาย

บทที่20 ดีที่เธอยังจำลูกชายตัวเองได้อยู่



บทที่20 ดีที่เธอยังจำลูกชายตัวเองได้อยู่

บทที่20 ดีที่เธอยังจําลูกชายตัวเองได้อยู่

นรมนมันๆงงๆเหมือนว่าตัวเองกลับไปอยู่ในกองเพลิงอีกครั้ง ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ในเปลวไฟอย่างสิ้นหวัง

“ไม่! ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย!”

เหงื่อเธอออกทั่วร่าง โบกมือไปมาเหมือนเด็กน้อยที่ช่วยเหลือ ตัวเองไม่ได้

คมทิพย์รีบคว้าจับมือเธอเอาไว้ และพูดอย่างเอ็นดู มน ไม่ เป็นไรนะ ไม่มีอะไรแล้ว ฉันอยู่ที่นี่ ฉันอยู่นี่ เธอไม่ต้องกลัว”

ถึงแม้ว่าเธอไม่รู้ว่าห้าปีที่ผ่านมานรมนต้องเผชิญกับอะไรมาบ้าง แต่เรื่องเพลิงไหม้เมื่อห้าปีก่อนนั้นคนรู้กันทั้งเมืองชลธี ไม่มีใคร สามารถลืมฝันร้ายครั้งนั้นได้

ได้ยินว่าเพลิงไหม้ครานี้ได้เผาทุกอย่างจนวอดวาย เปลวไฟลุก ไหม้อยู่นานเป็นเวลาหลายชั่วโมง

“เจ็บ! ฉันเจ็บเหลือเกิน! ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย! ฉันเจ็บจะตายอยู่ แล้ว!”
นรมน มือคมทิพย์เอาไว้ราวกับว่ามือหล่อนเป็นฟางเส้น สุดท้าย เธอออกแรงทั้งหมดบีบไปที่มือทั้งสอง เล็บแทรกซึม เข้าไปในผิวหนังของคมทิพย์ เจ็บปวดแสบปวดร้อน แต่ก็ยังไม่ เจ็บปวดเท่ากับหัวใจ

“เธอไปเจอเรื่องอะไรมา แล้วทำไมต้องไปสักด้วย มน เธอแบก ความลับมากมายเอาไว้อยู่ตัวคนเดียว ให้ฉันช่วยอะไรเธอได้ ไหม

ดวงตาของคมทิพย์เปียกชื้น

เธอต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับนรมน แต่ว่าต้องเรียก ร้องมันจากใครล่ะ

จากบุริศร์!

คนใหญ่คนโตของเมืองชลธี ผู้มีอิทธิพลในเมืองชลธี

เขาขยับมือนิดเดียวก็ทำให้ทั้งเมืองชลธีสั่นสะเทือน คนตัวเล็ก ตัวน้อยเช่นเธอจะไปทำอะไรได้

สิ่งเดียวที่เธอทำให้นรมนได้ก็คือช่วยให้ที่พักอาศัย และช่วย จัดการเรื่องจุกจิกให้กับเธอ
เธอรู้สึกได้ว่า นรมนกลับมาคราวนี้หล่อนมีแผน อาจจะมีเรื่อง ใหญ่บางเรื่องที่เธอต้องการทำ แต่ว่านรมนไม่ได้บอกเธอ เธอก็ ไม่สะดวกที่จะถาม แต่เมื่อเธอเห็นบรมนเจ็บเหมือนเช่นวันนี้ คม ทิพย์รู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก

นานกว่าที่นรมนจะสงบลงได้ แต่น้ำตาที่ขอบดวงตายังคงไม่ หยุดไหล ปากเธอยังคงพึมพำไม่หยุด ถามว่าทำไมอย่างต่อเนื่อง ร้องเรียกชื่อกานต์และกมลไม่หยุด

ผ่านไปคืนหนึ่งอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง นรมนก็ฟื้น ตื่นขึ้นมา

เธอมองไปที่เพดานสีขาว เตียงสีขาว เธอใช้เวลาสักครู่ถึงจะรู้ว่า ตนเองอยู่ที่ไหน

เธอขยับแขนจึงทำให้คมทิพย์รู้สึกตัวตื่นขึ้น

“เธอฟื้นแล้วหรอ ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า ฉันจะไปตามหมอให้ นะ”

คมทิพย์ไม่รอให้นรมนเอ่ยปากพูดเธอก็รีบวิ่งออกไป
นรมนยิ้มเล็กน้อย อย่างไรก็แล้วแต่เธอยังรู้สึกถึงความอ่อนแอ ของร่างกายตน

ดูเหมือนว่าเมืองชลธีจะยังใจร้ายกับเธอ พอเธอกลับมาก็ป่วย

ทันที

เมื่อหมอมาถึง ร่างกายของนรมนก็ฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว หมอได้ ตรวจว่านโมนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่เธอก็ยังต้องรับประทานยา

“ต่อไปอย่าทำอย่างนี้อีก ร่างกายแพ้ยาแต่ว่าก็ยังจะไปสัก คุณ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือยังไง”

หมอนําหนินรมน นรมนได้แต่ก้มศีรษะลงและไม่พูดว่าอะไร

เดิมทีเธอเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว หลังจากที่คลอดกานต์และกมล ออกมา ตอนที่รเมศให้เธอทำศัลยกรรมใบหน้า เธอถึงได้รู้ว่าตัว เองแพ้ยา ห้าปีมานี้ เพื่อที่จะปรับโฉมใบหน้าใหม่ เธอช็อกมาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน เคราะห์ดี รเมศอยู่กับเธอตลอด เธอถึงยังไม่ได้ เข้าเฝ้ายมบาล

ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าบริศ สงสัยเธอ อยากเห็นร่างกายของเธอ เธอคงไม่เสี่ยงกับการสักเพื่อปิดรอยแผลบนร่างกาย
แต่ว่าเรื่องนี้เธอจะพูดกับหมอได้อย่างไรกัน

เมื่อหมอดูแล้วเห็นว่านโมนน่าจะเชื่อฟัง เขาจึงได้กําชับเธอไม่กี่ คำและบอกว่าเธอสามารถกลับบ้านได้เลย

เมื่อคมทิพย์ส่งคุณหมอแล้วเธอก็รีบหันมาที่นโมนทันที

“เธอไปสักทําไม อย่าบอกนะว่าไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ยา

เมื่อเห็นท่าทางดุของคมทิพย์ นรมนก็ถอนหายใจและบอกทุก อย่างกับเธอ

“เธอบ้าไปแล้วหรอ เพื่อไม่ให้บริศรรู้ตัวตนของเธอเธอถึงกับ ลงทุนทำร้ายตัวเองแบบนี้ ทำเพื่อผู้ชายสวะๆคนนั้นมันคุ้มกันมั้ย ถ้าหากเธอเป็นอะไรขึ้นมา กานต์จะทําอย่างไร คิดบ้างรึเปล่า

คมทิพย์โกรธมาก

นรมนกระซิบ “รเมศเป็นคนแนะนำอาจารย์สักให้ ฉันรู้ว่าเขาจะ ต้องดูแลเรื่องนี้ให้ ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะคนสักไม่ได้ใช้ยาแรง ฉันอาจจะไม่ได้เป็นแค่นี้ เธอวางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไรแล้ว ฉันกะ ว่าจะกลับไปกินยาแก้อักเสบ ไม่ได้คิดว่าจะทําให้พวกเธอตกใจ ใช่แล้ว แล้วกานต์ล่ะ”
“ดีที่เธอยังจำลูกชายตัวเองได้อยู่

คมทิพย์ยังโกรธอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่สามารถตำหนิเธอได้ ตอน นั้นนรมนประสพกับชะตากรรมเลวร้ายมากมาย ไม่ว่าเธอต้องการ ทำอะไรบุริศร์ คมทิพย์ก็รู้สึกว่านั่นเป็นเรื่องที่สมควร

“เอาน่า กานต์ไปอยู่ที่ไหนแล้วล่ะ”

นรมนเขย่าแขนของคมทิพย์ เธอทำเหมือนว่าตัวเองยังเป็นเด็ก

คมทิพย์เอามือดันไปที่หน้าผากเธอและพูดอย่างไม่ชอบใจ “ที่ นี่เป็นโรงพยาบาล เชื้อโรคเยอะแยะ ฉันจะปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่ได้ อย่างไร กานต์อยู่ที่บ้าน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะไปทำเรื่องออก จะได้รีบกลับไป ฉันก็เป็นห่วงเจ้าตัวแสบอยู่เหมือนกัน”

“ได้”

นรมนร้อนใจ กานต์เป็นเด็กอยู่บ้านคนเดียวทั้งคืน ไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม เธออดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ