รักสุดท้ายให้กับนาย

บทที่51 คุณก็รู้ไม่น้อยเลยนี่



บทที่51 คุณก็รู้ไม่น้อยเลยนี่

บทที่51 คุณก็รู้ไม่น้อยเลย

“แกทําอะไรของแก นี่ถือว่าเป็นการข่มขู่หม่ามีของฉันใช่

ไหม? ”

กานต์เดินปรี่เข้าไปผลักบุริศร์ แต่บุริศร์กลับจับเค้าไว้ได้ อยู่มัดด้วยมือเพียงข้างเดียว แววตาที่เยือกเย็นของบุริศร์นั้น ทำให้กานต์เริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที จนเขาถึงกับสะดุ้ง

นรมนรู้ว่าบุริศร์โดนยั่วโมโหเข้าแล้ว และการที่ทำให้เขา โมโหนั้นผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นมันไม่ใช่ว่าใครทุกคนจะทนไหว และยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้กานต์ยังอยู่ในเงื้อมมือของเขา

“บุริศร์ คุณต้องการจะคุยกับฉันไม่ใช่หรอคะ ฉันจะคุยกับ คุณค่ะ แต่คุณปล่อยกานต์ก่อนนะคะเขายังเด็ก ทิพย์คุณพา กานต์ออกไปซื้ออะไรกินก่อนไป ฉันจะอยู่คุยกับคุณบุริศร์

นรมนรีบลนกล่าว สีหน้าตึงเครียด

คมทิพย์มองนรมนอย่างกังวลใจและพูดกับเธอว่า “คุณตัว คนเดียวไม่เป็นไรแน่นะคะ? ”

สีหน้าท่าทางของคมทิพย์นั้นราวกับว่าบุริศร์เป็นสัตว์ ประหลาดร้ายยังไงยังงั้น มองบุริศร์ในใจก็ยิ่งไม่วางใจ
“ถ้าหากฉันจะทำอะไรนรมนขึ้นมา เธอคิดว่าเธออยู่ด้วยจะ สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้งั้นหรอ? คมทิพย์เธอเองก็รู้ดีอยู่ นะว่าฉันเห็นแก่ใครและไว้หน้าใคร เธอถึงได้มีโอกาสมาอวดดี แบบนี้ต่อหน้าฉัน เธออย่าให้ฉันต้องลงมือกับเธอเลยนะ ฉัน กลัวว่าเธอจะรับมือไม่ไหว”

“คุณบุริศ ผู้น่าเกรงขาม แล้วคุณจะทําอะไรฉันหรอคะ?”

คมทิพย์เกลียดการทําตัวอยู่เหนือคนอื่นของบริศ เป็นที่สุด เธอยังอยากจะพูดอะไรต่อแต่กลับถูกนรมนจับแขนไว้และส่ง สัญณาส่ายหัวให้เธอ เพื่อขอให้เธอหยุด

“รีบพากานต์ออกไปซะ เรื่องของผู้ใหญ่ฉันไม่อยากให้ลูกเป็น

ห่วง”

ประโยคนี้เองที่ทําให้คนทิพย์สงบสติอารมณ์ลงได้ หันไป มองที่กานต์ เขากําลังขมวดคิ้วจ้องบริศ ตาเขมง ท่าทีเหมือน ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“กานต์จ๊ะพวกเราออกไปซื้อของกินให้หม่ามี้กันก่อนดีกว่านะ

คมทิพย์เดินนําผ่านหน้ากานต์ไป

ท่าทางการเคลื่อนไหวของบุริศร์ก็แผ่วลงไม่รุนแรงเหมือนก่อนหน้า
กานต์ถลึงตาใส่บริศร์คงเป็นเพราะรู้สึกว่าตัวเองตกใจกลัว สายตาของบุริศร์เมื่อครู่ทำให้ตัวเองดูด้อยโมโหสู้เขาไม่ได้ก็ เลยตั้งใจยกเท้าไปเหยียบเท้าบุริศ เข้าอย่างจัง

เจ้าเด็กคนนี้แรงเยอะไม่ใช่เล่น

บุริศร์รู้สึกว่าเท้าชาๆแต่กลับทนนิ่งไว้ ไม่แสดงท่าทีว่าเจ็บ นรมนและคมทิพย์ต่างพากันกระวนกระวายและรีบร้อนแทน

กานต์

“รีบไปเถอะ ฉันหิวแล้ว”

นรมนจำเป็นต้องเร่งให้คมทิพย์รีบพากานต์ออกไปจากที่นี่

คมทิพย์พากานต์ออกไปจากห้องพักผู้ป่วยอย่างเร่งรีบ

นรมนโล่งใจ เมื่อพวกเขาเดินออกไป และบริศ เองก็มองเห็น ได้อย่างชัดเจน และเข้าใจนรมน

“คุณกำลังปิดบังอะไรผมอยู่?”

บุริศร์ดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆนรมน แต่พอจ้องหน้านรมน ไม่ว่าจะ มองยังไงก็กลับรู้สึกว่าไอ้รอยมือที่อยู่บนใบหน้าของนรมนนั้น มันชั่งขัดหนูขัดตาเขาซะเหลือเกิน
และอยู่ๆบริศร์ก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

“คุณรอผมแปปนึง”

นรมนคาดไม่ถึง และรู้สึกประหลาดใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ไม่นานนักบุริศร์ก็กลับเข้ามาพร้อมกับไข่ต้มและยา เขาปอก เปลือกไข่ต้มและนำผ้าบางๆมาห่อไข่ต้มไว้ หลังจากนั้นก็นำ ไปประคบที่ใบหน้าของนรมนอย่างอเบามือ

แววตาของเขาดูอ่อนโยน และเต็มไปด้วยความผิดหวัง เสียใจ เจ็บปวดและเป็นห่วง

นรมนคิดว่าตัวเองคงตาฝาดไป

เขาจะมาเป็นห่วงและเจ็บปวดแทนเธอทำไมกัน?

ต้องเป็นเพราะตัวเองตาฝาดแน่ๆ

“คุณบุริศร์ ฉันทำเองก็ได้ค่ะ เมื่อครู่คุณบอกว่ามีเรื่องจะคุย กับฉันไม่ใช่หรอคะ พูดตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ”

นรมนหวังจะแย่งไข่ในมือของบุริศร์มาประคบหน้าเอง แต่บุริ ศร์กลับเอาหลบอย่างทันควัน

“ไม่ต้องขยับ นั่งพิงอยู่เฉยๆก็พอ”
น้ำเสียงเขาก็ยังคงเกรี้ยวกราดเหมือนเดิม

“คุณบุริศร์คุณจะทำอะไรของคุณ? ไถ่โทษให้แฟนคูณงั้น หรอค่ะ? หรือว่ากลัวว่าฉันจะไปหาเรื่องเธอ? หรือว่า……..

“ผมเคยบอกไปแล้วว่าเขมิกาไม่ใช่แฟนผม

บุริศร์เน้นย้ำอีกครั้ง สีหน้าเริ่มตึงเครียดเล็กน้อย

“งั้นก็แปลกมาเลยนะคะที่เธอมีทายาทให้กับตระกูลโตเล็ก ด้วย ไม่ใช่แฟนของคุณ ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นภรรยาคุณสินะ คะ? งั้นฉันคงเสียมารยาทน่าดูเลย”

นรมนพูดอย่างนิ่งเฉย

มือของบุริศร์ถึงกับชะงักดวงตาคู่นั้นมองมาที่นรมน

“คุณก็รู้ไม่น้อยเลยนี่”

“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ คุณเขมิกามาบอกฉันด้วยตัวเองเธอว่า เธอเป็น ของตระกูลเล็กโต เธอเป็นคนบอกให้ฉันอยู่ให้ห่าง จากคุณและยิ่งไปกว่านั้นห้ามคิดอะไรที่ไม่ควรคิดกับคุณบุริ ศร์ ฉันจะต้องจำให้ขึ้นใจค่ะ ไม่งั้นรอยฝ่ามือบนใบหน้าของฉัน ก็จะเป็นบทเรียนสั่งสอน คุณว่าไหมล่ะคะ? ”

นรมนยิ้ม รอยยิ้มนั้นแน่นอนว่ามันไม่ได้ออกมาจากใจจริง
บุริศร์ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เรื่องที่เขมิกาเธอมีทายาทให้ กับตระกูลเล็กโตนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เด็กไม่ใช่ลูกผม”

“คุณหมายความว่า ?

นรมน รู้สึกอึ้งเล็กน้อย เป็นเพราะคําตอบของบริศร์นั้นเกิน กว่าที่เธอคาดเดาไว้

จะเป็นไปได้อย่างไรที่ไม่ใช่ลูกของบุรีศร?

ถ้าไม่ใช่ เขาทำไมต้องใส่ใจลูกของเขมิกาขนาดนั้น? และยิ่ง ไปกว่านั้นเพราะลูกของเธอจึงยกตำแหน่งภรรยาเอกให้เธอ อีก?

บุริศร์ไม่อยากที่จะพูดอะไรมาก จึงพูดด้วยเสียงต่ำว่า”เรื่อง นั้นมีโอกาสคราวหน้าผมจะอธิบายให้คุณฟังอย่างละเอียด อีกทีแต่เรื่องรอยฝ่ามือที่อยู่บนใบหน้าของคุณ ผมจะไม่ยอม ให้คุณโดนตบฟรีๆแน่ คุณบอกผมมาเถอะ ว่าคุณจะให้ผมทำ อย่างไรคุณถึงจะไม่ไปจากที่นี่?”

นรมนมองบุริศร์ที่กำลังเปลี่ยนเรื่องพูด ในใจพลางคิดว่าตัว เองนั้นช่างโง่เหลือเกิน

ทำไมยังคงเชื่อในสิ่งที่เขาพูดอยู่อีก?

ตอนนั้นก็เป็นเพราะเชื่อเขามากเกินไปถึงทำให้ตัวเองเกือบ จะเสียชีวิตในกองเพลิงนั้นแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังเดือดร้อนไปถึงลูก มาวันนี้ แค่คำพูดเขาประโยคเดียวก็ทำให้เธอต้องรู้สึก หวั่นไหวอีกครั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ