บทที่ 42 ฉันไม่ได้ชื่อสวัสดี2
บทที่ 42 ฉันไม่ได้ชื่อสวัสดิ์2
“เอาล่ะ ไม่ใช่เธอหรอกที่อยากจะไปหาเขา เป็นฉันเองที่ อยากจะพาเธอไป ดีมั้ย? ไปบอกแม่เธอก่อน แล้วฉันจะพาเธอ ไปหาเขา หลังจากนั้นค่อยพาเธอกลับมาส่งดีมั้ย?
บุริศ อมยิ้ม แต่กานต์ตกตะลึงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ดี เขาก็ พูดอย่างเฉยเมยว่า “นี่เพราะคุณข้อร้องให้ผมไปหรอกนะ”
“ใช่แล้ว เป็นฉันที่ขอร้องให้เธอไปเอง”
เห็นอารมณ์ของกานต์แบบนี้แล้ว บุริศร์ก็อดประหลาดใจไม่
ได้
กานต์ผลักประตูห้องพักผู้ป่วยและตรงไปยังด้านหน้าเตียง
ของนรมน
“คุณแม่ ผมขอออกไปข้างนอกหน่อยได้มั้ยฮะ? ”
“ไปไหน? อยากจะกลับแล้วหรอลูก? ให้ป้าทิพย์พาลูกกลับ
ได้นะ”
ที่จริงนรมนก็ไม่อยากให้กานต์มาโรงพยาบาล โรงพยาบาล
ไม่ใช่สถานที่ที่ดีเท่าไหร่
แต่กานต์สายหัวแล้วพูดว่า “เพื่อนร่วมฉันเรียนของผมป่วย ผมอยากไปเยี่ยมเขา ติดรถของคุณบุริศร์ไปได้พอดี คุณแม่ วางใจได้ ผมกลับมาเองได้ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงผม”
“คุณวางใจได้ ผมจะพาเขาไปส่งอย่างปลอดภัย”
ไม่รู้ว่าบุริศร์เข้ามาตอนไหน อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมา
“ไม่ได้! กานต์ต้องไปที่อื่นฉันไปส่งน่ะดีแล้ว ไม่ต้องรบกวน ประธานบริศหรอกค่ะ”
ทิพย์ปฏิเสธทันทีพลางดึงกานต์มาไว้ข้างหลังหล่อน ท่าทาง แบบนั้นช่างเหมือนแม่ไก่กำลังปกป้องลูกไก่เลย
นรมนขมวดคิ้วแล้วพูดเบาๆว่า “ทิพย์ ปล่อยให้กานต์ไปเถอะ ฉันเชื่อว่าประธานบุริศร์คงไม่ปล่อยให้ลูกของฉันเกิดเรื่อง หรอก ใช่มั้ยคะ? ”
“ใช่ครับ”
บุริศร์คิดไม่ถึงว่านรมนจะอนุญาต ดูจากที่เธอกันไม่ให้เขา เข้าไปแล้ว จะปล่อยให้เขารู้จักกับกานต์ได้ยังไง?
ทิพย์ก็สงสัยเช่นเดียวกัน แต่ไม่อยากถามบุริศร์ต่อหน้า ทำได้เพียงมองบุริศร์พากานต์ออกไปจากห้องพักผู้ป่วย
“นรมน เธอคิดยังไงนะ? เธอไม่กลัวว่าบุริศร์จะพบตัวตนที่แท้ จริงของกานต์หรอ? ถึงเวลานั้นถ้าเธอหรือเขาต้องแย่งลูกกัน จะทํายังไง? ”
นรมนหรี่ตาลง แล้วพูดเบาๆว่า : “ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันเป็นหนี้ กานต์และกมลอย่างมาก แม้ว่าฉันอยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับ พวกเขา แต่ฉันก็รู้ดีว่าสิ่งที่ฉันพอจะให้พวกเขาได้ตลอดมามี เพียงสิ่งที่พวกเขาขาด หลังจากกลับมาคราวนี้ ฉันอาจจะต้อง จากไปอีก ตลอดชีวิตของกานต์ไม่มีโอกาสเจอบุริศร์เลย ใช้ โอกาสนี้ปล่อยให้พวกเขาพ่อลูกได้รู้จักกันสักหน่อยเถอะ”
“เธอบ้าไปแล้วหรอ? หรือว่าเธอยังลืมบุริศร์ไม่ลง การกลับ มาของเธอคราวนี้เพื่อกลับมาคืนดีกับเขาหรอ?”
ทิพย์มองไปที่นรมนอย่างเกรี้ยวกราด
ใจของนรมนรู้สึกปวดร้าว
“คืนดีหรอ? ถ้าเขาตกหลุมรักฉันก็คงดี เธอคิดว่าหน้าตาของ คนแปลกหน้าอย่างฉันในตอนนี้ มีตรงไหนที่ยังเหมือนกับในปี เดียวกันนั้นล่ะ? ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดี ถ้าเขาตกหลุมรักฉัน จริงๆ นี่ก็คือสิ่งที่ฉันต้องการ
“นรมน สุดท้ายแล้วเธออยากจะทำอะไร? ถูกเขาทำให้เจ็บ มาครั้งนึงแล้วยังไม่พอหรอ ต้องถูกเขาทำให้เจ็บปวดเป็นครั้ง ที่สองใช่มั้ย? เธอพากานต์กลับมาเพื่อให้เขารู้จักกับบรรพบุรุษของเขาหรอ? ”
ทิพย์รู้สึกเหมือนเห็นตัวเองผ่านนรมน
เธอรู้ซึ้งได้ถึงความเจ็บปวดและความกลัวในความฝันยาม ค่าคืนของนรมนเป็นอย่างดี แต่เธอแค่ไม่เข้าใจว่า เป็นไปได้ หรอที่นรมนจะสามารถให้อภัยผู้ชายที่สร้างความเจ็บปวด แสนสาหัสขนาดนั้นให้เธอได้?
หรือว่าเป็นเพราะลูกกันนะ?
แต่ไอ้ผู้ชายเฮงซวยอย่างบุริศร์จะทำเพื่อลูกเหมือนที่เธอคิด มั้ยล่ะ?
“นรมน สุดท้ายแล้วเธอวางแผนไว้ยังไง เธอบอกฉันหน่อยได้ มั้ย? ”
ท่าทางเป็นห่วงของทิพย์ทำให้นรมนรู้สึกอบอุ่น
เธอยิ้มพลางเอามือไปกุมมือของทิพย์ แต่ไปกระตุ้นความ ทะนงตนของทิพย์
“ไม่ว่าเวลาไหนๆ เธอก็ยังยิ้มได้หรอ? เธอคิดจริงๆ หรือว่าบุริ ศร์ดูไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร? แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเธอจะ เปลี่ยนไปแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าเธอเปลี่ยนโฉมหน้า เปลี่ยนตัวตน แล้วมิตรภาพระหว่างเธอกับฉันจะเปลี่ยนไปสักหน่อย เขาก็ไม่ ได้ตาบอด ทําไมถึงจะเดาไม่ออก ครั้งหนึ่งที่เขายืนยันว่าเธอคือภรรยาของเขาในปีเดียวกันนั้น เขาปฏิบัติกับ เธอยังไงล่ะ แล้วยังมีเรื่องกานต์ถ้าเขารู้ว่ากานต์คือลูกของเขา เธอคิดหรอว่าเขาจะปล่อยให้กานต์อยู่กับเธอต่อไป? นรมน เธอเพียง……
“เอาล่ะ ฉันรู้ว่าเธอหวังดี และก็รู้ว่าเธอเป็นห่วง เดิมทีฉัน กลับมาก็ไม่ได้วางแผนที่จะปกปิดตัวตนของฉันหรอก เพียง แค่ตอนที่เขายืนยันตัวตนของฉันเมื่อคราวก่อน ฉันหวังใช้ ความสงสัยนั่นเพียงพอที่จะทำให้เขาตกหลุมรักฉันบ้าง มัน ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะรู้ว่ากานต์เป็นลูกของเขาหรือไม่ ฉันมี วิธีที่จะทำให้กานต์ออกมาให้พ้นจากสายตาของเขาได้ ทิพย์ ฉันไม่ใช่นรมนคนเดิมกับในปีนั้นแล้ว เธอวางใจเถอะ ฉันกลับ มาครั้งนี้ สิ่งที่ต้องการคือหัวใจของบุริศร์ และของของเขาอีก อย่างหนึ่ง เมื่อได้มาแล้วฉันจะพากานต์ไป การปล่อยให้กานต์ กลับมาอยู่ข้างๆเขาช่วงนึงก็เป็นการชดเชยให้กานต์รูปแบบ หนึ่ง
ตาของนรมนหรี่ลงจนปิดสนิท ภายในมีความรู้สึกมากมาย หลบซ่อนอยู่ ทำให้ทิพย์มองเห็นไม่ชัด
“เธอยังอยากได้หัวใจของบุริศร์อยู่อีกหรอ? นรมน เธอบ้า ไปแล้วใช่มั้ย? ห้าปีก่อนเธอยังไม่อาจได้ใจของเขามาครอบ ครอง แล้วอีกห้าปีต่อมาเธอคิดว่าเธอจะทำได้หรอ?
ทิพย์ไม่เข้าใจนรมนจริงๆ
นรมนมองไปที่ก้อนเมฆที่ลอยอยู่นอกหน้าต่าง แสยะยิ้มแล้ว พูดว่า “ห้าปีก่อนฉันมันโง่ ทั้งใจทั้งวิญญาณต่างทุ่มเทเพื่อให้ได้ความรักของเขา แต่เดี๋ยวนี้ฉันรู้แล้วว่ามารยาแบบ ไหนที่จะทำให้เขารักฉันได้ นอกจากนี้ มีความสงสัยมาก ขนาดนั้นไว้เป็นกันชน เชื่อใจฉันเถอะว่าฉันทำได้ ฉันไม่รู้ว่ามี สิ่งอื่นที่ต้องการมากไปกว่าสิ่งที่ต้องการในตอนนี้แล้วมั้ย ถ้า คุณเป็นเพื่อนของฉัน แค่สนับสนุนฉันแค่นั้นก็พอแล้วล่ะ”
เธอทำให้ฉันไม่รู้จะทำยังไงกับเธอแล้วจริงๆ? ดูๆไปแล้วเธอ เพิ่งกลับมาก็สร้างรอยแผลซะแล้ว”
ทิพย์พูดอย่างเจ็บปวด แต่ก็ไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้อีก นร มนรู้ดีว่าแม้ว่าเธอจะยังคงไม่มั่นใจ แต่เธอก็เห็นด้วยกับการ ตัดสินใจของตัวเอง ความรู้สึกนี้ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถมอบ ให้หรือครอบครองได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ