บทที่ 35 พ่อบุญธรรมคือผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก
บทที่ 35 พ่อบุญธรรมคือผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก
กลิ่นนมอ่อนๆทำให้บริศ ตั้งสติได้ เขามองไปที่ซาลาเปาเล็ก ที่อยู่ตรงหน้า เขาสับสนไปหมด คิดไม่ออกว่าระหว่างนี้ควรพูด อะไรดี
กานต์เองก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่นั่งเงียบอยู่ข้างเขา เหมือนว่า เพียงแค่อยากจะหาที่นั่งเฉยๆ ส่วนคนที่นั่งอยู่ๆข้างคือใครนั้น เขาไม่ได้สนใจว่าเป็นใคร
บุริศรู้สึกไม่สบายใจทันที
กิจจาก็สีขวบเหมือนกัน แต่ชีวิตของกิจจานั้นช่างมีอิสระ จน บางทีก็แอบดื้อ เวลาดีใจก็หัวเราะเสียงดัง เวลาไม่พอใจก็ร้อง จนไม่ลืมหูลืมตา แต่เมื่อมองกลับมาที่กานต์ เขานิ่งเงียบสุขุม ราวกับไม่ใช่เด็ก
ความทรงจําครั้งแรกที่เจอกานต์ในห้องนํ้าสนามบิน ขาที่ หนีบกันกับคิ้วที่ขมวดกันไว้ ใบหน้าราวกับซาลาเปาน้อย อ้อนวอนที่มองเขา กับกานต์ที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้แตก ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สภาพแวดล้อมแบบไหนกันที่ทำให้กานต์มีนิสัยแบบนี้?
ถ้าหากว่าเขาเป็นลูกชายของเขาจริง ห้าปีให้หลังมานี้เขากับนรมนต้องเจอกับความยากลำบากยังไงมาบ้าง?
มีค่าถามมากมายอยู่ในใจของบุริศร์ แต่กลับไม่รู้ว่าจะเอ่ย ปากออกมายังไง
ในขณะที่กำลังลังเลอยู่ กานต์ก็เปิดปาก
ทำไมมามี้ผมถึงได้รับบาดเจ็บครับ? ” ”
บุริศร์อึ้งนิดหน่อย พูดเสียงต่ำ “ระบบความปลอดภัยของรถ เกิดปัญหาขึ้นมา มามี้ของนายคือนักออกแบบรถยนต์ของ บริษัทฉัน เกิดอุบัติเหตุที่คาดคิดขึ้นขณะทดลองรถ เรื่องนี้ฉัน ต้องรับผิดชอบฉันไม่ได้ทดลองสมรรถนะความปลอดภัยของ รถก่อน ขอโทษนะ
เขาคือผู้นำของเมืองชลธี ทั้งชีวิตนี้น้อยครั้งมากที่พูดขอโทษ คน แต่ตอนนี้มาขอโทษต่อหน้าเด็กสี่ขวบตัวน้อยๆอย่างกานต์ เขาพูดสามคำนั้นออกมาอย่างธรรมชาติ
หลังพูดจบ บุริศรรู้สึกเหลือเชื่อในตัวเอง
สายตากานต์มองตรงไปยังบุริศร์
บุริศร์มองไปยังดวงตางอนสวยคู่นั้นที่เหมือนตัวเองมาก
หัวใจเต้นขึ้นมา จนเขาอยากจะดึงกานต์เข้ามากอดในอ้อม แขน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทํา เพียงแค่มองกลับไปที่กานต์แบบ นั้นและก็ไม่ได้พูดอะไร
กานต์ดูสายตาของบุริศร์ไม่ออกว่ามีร่องรอยการโกหกหรือ เปล่า ยังไงเขาก็ยังเด็กอยู่ ยังดูคนไม่ออกว่าคนไหนเป็น อันตราย แต่ในใจกลับโกรธแค้น
“ตอนคุณให้คนทดลองรถคุณไม่ระวังแบบนี้เหรอ? หรือจะ บอกว่าคุณตั้งใจทําให้มันเป็นแบบนี้? ”
“ทําไมฉันต้องตั้งใจทําให้เป็นแบบนี้ด้วยล่ะ? ”
บุริศ สัมผัสได้ถึงเจตนาของกานต์
เด็กคนนี้เกลียดเขา!
ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามอย่างสุดที่จะปิดบัง
“เพราะว่าคุณ…….”
อีกนิดกานต์ก็เกือบพูดไปว่าคุณไม่ชอบมามี้ ไม่ชอบผม! คุณอยากให้ผมกับมามี้ตายใช่ไหม?
แต่คําพูดค้างอยู่ที่ปาก เขาก็หยุดลงเหมือนกับตัวเองที่ไร้ ความสามารถ เขาหมุนคอหันหลังใส่บุริศร์ทันที ท่าทางไม่สบ อารมณ์แบบนั้นทำให้หัวใจของบุริศร์แทบจะละลายลง
“เพราะว่าฉันทําไม?
บุริศรเสียงของเขาเบาอ่อนโยนลงอย่างไม่รู้ตัว
แต่กานต์ไม่สนใจเขาแล้ว ลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงเย็น”คุณรีบ ไปจากที่นี่เถอะครับ มามี้ผมฟื้นเธอคงไม่อยากเจอคุณ”
“ฉันคือหัวหน้าของมามี้นาย”
“ผมสามารถบอกให้มามี้ลาออกได้”
กานต์หันกลับมาอีกครั้ง โดยที่ตาคู่นั้นไม่ปกปิดความเกลียด ชังและความเคียดแค้นที่มีต่อบุริศร์แล้ว
บุริศร์รู้สึกใจไม่ดีขึ้นมา
“ตัวเล็ก นายบอกฉันได้ไหม ว่าห้าปีมานี้นายกับมามี้นายเป็น อยู่กันยังไง มากันยังไง? ”
“เกี่ยวอะไรกับคุณ? คุณรีบไปซะ!
กานต์พูดจบก็ลุกขึ้นยืน รีบกลับไปที่ห้องคนไข้อย่างเร็ว
พร้อมกับปิดประตูห้องลง
บุริศร์ไม่เคยถูกใครรังเกียจแบบนี้มาก่อน ในตอนนี้คนที่ รังเกียจเขาคือเป็นเด็กคนนี้ แต่เขากลับเกลียดเด็กคนนี้ไม่ลง
เขามองไปที่เส้นผมตอนที่กานต์จับไปที่หัวอย่างไม่ทันระวัง หรี่ตาลงเล็กน้อย หมุนปลายเท้าแล้วเดินไปยังอีกแผนกหนึ่ง ของโรงพยาบาล
หลังจากที่กานต์กลับมาถึงห้องคนไข้ สีหน้ายังคงเศร้าหมอง เบะปากเล็กๆ ท่าทางที่ไม่มีความสุขตั้งแต่แรกเห็น
คมทิพย์เห็นเขาแบบนี้ ขำแล้วพูด “ตัวเล็ก เป็นไรไป? ใครทำ เธอโกรธล่ะ? ”
กานต์ไม่พูดอะไรเดินไปนั่งลงข้างๆนรมน เวลาผ่านไปครู่ หนึ่งแล้วพูดขึ้น”น้าคมทิพย์ครับ น้าบอกว่ามามี้เป็นดีมาก แล้ว ทําไมถึงมีคนไม่ชอบมาล่ะครับ?”
คมทิพย์นิ่งอึ้งกะทันหัน
เรื่องนี้ก็ทําให้เธอไม่เข้าใจเหมือนกัน
นรมนเป็นคนดีขนาดนั้น ทำไมบุริศร์ถึงทำร้ายเธอได้ลง? “เอาล่ะ เรื่องของผู้ใหญ่เธอเป็นเด็กไม่ต้องยุ่งหรอกเข้าโอเค
ไหม? ”
“ไม่! ผมอยากให้มามี้มีความสุขผมต้องการหาแฟนให้มามี้ มามี้คือผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลกนี้ เหมาะสมกับผู้ชายที่ดีที่สุดใน โลกที่จะมาชอบ”
กานต์พูดโดยที่ไม่ลังเลใจ ทำให้คมทิพย์หัวเราะขำ
“เด็กน้อย เธอยังเด็ก รู้แล้วเหรอว่าแฟนเป็นยังไง? อีกอย่าง เธอคิดว่าใครเหมาะสมที่สุดกับมามีคนเก่งของเธอล่ะ? ”
“พ่อบุญธรรมของผมไง! ”
กานต์เงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน ส่งสายตาแล้วพูด”พ่อ บุญธรรมของผมคือผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก! อีกอย่างเขาดีกับ ผมกับมามี้ของผมมากมากมากเลย พ่อบุญธรรมบอกว่าแค่ เพียงมามี้ยินยอม เขาก็พร้อมที่จะเป็นดาดี้ของผมทุกเวลา!
“พ่อบุญธรรมของเธอคือใครกันล่ะ? ”
คมทิพย์ไม่เคยรู้ว่านรมนใช้ชีวิตอยู่ยังไงที่อเมริกา จนวันนี้ ได้ยินกานต์พูดถึงพ่อบุญธรรม แล้วยังส่งสายตาที่ดูเหมือนจะ มีท่าทางพอใจแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้เรื่องผู้ชายคนนั้น
กานต์พูดแบบภูมิใจในตัวเองมาก”พ่อบุญธรรมผมขอรเมศ เขาคือคนที่ดีกับผมและมามที่สุด”
“รเมศ? “
คมทิพย์ไม่ใช่คนในวงการนักธุรกิจ จึงไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อนี้ นัก เพียงหัวเราะแล้วพูด“ในเมื่อเขาดีกับเธอกับมามี้มาก แล้วเพราะอะไรถึงกลับมาพร้อมมาล่ะ? อยู่กับพ่อบุญธรรมที่นั่น
ไม่ดีกว่าเหรอ? ”
“นั่นก็เพราะว่า…….
กานต์หยุดลงทันที
เรื่องของน้องกมลไม่ว่ากับใครก็พูดไม่ได้
มามี้เคยบอกว่า ไม่ว่าใครก็ตามห้ามรู้เรื่องของน้องสาว
คิดถึงเพียงเท่านี้สายตาของ กานต์ก็เศร้าลง
“น้าคมทิพย์ บอกหน่อยว่าเมื่อไหร่มามี้จะฟื้น? ”
“น้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าเธอเหนื่อยแล้วกลับไปก่อนได้เลย นะ น้าจะอยู่เป็นเพื่อนมามี้เธอเอง”
คมทิพย์เห็นท่าทางเหนื่อยล้าของกานต์ แล้วรู้สึกสงสาร
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนมามี้”
กานต์กระโดดขึ้นไปตรงข้างเตียง ไม่นานก็หลับไป
บุริศร์กลับมาอีกครั้ง แต่คมทิพย์ไม่ได้ให้เขาเข้ามา
ฝั่งพฤกษ์ส่งข่าวมา พูดถึงเรื่องการระเบิดของรถคันนั้นหา สาเหตุพบแล้ว เขาจึงรีบกลับไป
“ประธานบุริศร์มีคนตัดสายเบรก ไม่มีผนังกั้น ชำนาญมาก ตอนที่นักออกแบบแคทเธอรีทดลองรถนั้นเบรกแตก จึงเกิด อุบัติเหตุขึ้น”
ได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้ บุริศร์ก็หน้าเย็นชาจนน่ากลัว
“ไปสืบมา ไม่ว่จะใช้วิธีไหน ก็ต้องสืบมาให้ได้ว่าเป็นฝีมือ
ใคร”
“ครับ! ”
พฤกษ์รีบพยักหน้า แต่ก็พูดเสียงต่ำ “ประธานบุริศร์ ผมพา คุณชายน้อยกลับไปส่งแล้ว เหมือนว่าคุณเขมิกาจะตีคุณชาย น้อย คุณชายน้อยร้องไห้หนักมาก ประธานจะกลับไปดูแก หน่อยไหมครับ? ”
บุริศร์หัวคิ้วขมวดเข้ากันแน่น
“เขายังไม่บอกอีกเหรอว่าคนที่อยู่ในห้องคอมก่อนหน้าเขา
เป็นใคร?
“ไม่ครับ คุณชายน้อยพูดแต่ว่าตัวเองคุณชายน้อย ประธาน บุริศร์ เป็นไปได้ไหมครับที่เราจะมองคุณชายน้อยผิดไป? ”
พฤกษ์เห็นกิจจาตั้งแต่เล็กจนโต เห็นเขาร้องไห้หนักมากแบบ
นั้น รู้สึกสงสาร
บริศร์ไม่สงสารที่ไหนกัน?
แต่พอนึกความลับของบริษัทที่เสียไป ในที่สุดเขาก็ถอน หายใจแล้วพูด “บอกเขมิกา ว่าหยุดตีกิจจาได้แล้ว ต่อให้ยังไง เขาก็เป็นทายาทตระกูลโตเล็ก”
“ครับ รู้ว่าประธานบุริศร์สงสารคุณชายน้อยแล้ว ถ้างั้นตอนนี้ พวกเราจะกลับไปดูคุณชายน้อยกันหรือเปล่าครับ ? ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันยังมีธุระต่อ”
บุริศ พูดจบแล้วก็ออกไป
พฤกษ์มองไปที่เงาหลังของเขา รู้ว่าเขาคาดเดาประธาน คนนี้ไม่ออกแล้ว เมื่อก่อนเขาคือคนที่แคร์คุณชายน้อยที่สุด คุณชายน้อย ตอนนี้เป็นอะไรไปแล้ว?
บุริศร์ไม่ได้ไปที่อื่น แต่ไปที่โรงเก็บรถ เขาหารถที่ระเบิดเจอ
แล้ว
การะเบิดได้ทำลายหลักฐานไปหลายอย่าง แต่เขากลับเจอ ลิปสติกแท่งหนึ่งเมื่อเขาเข้าไปนั่งในรถ
ลิปสติกสีนี้ไม่น่าจะใช่ของนรมน แล้วจะเป็นของใครกันล่ะ?
หรือว่าจะเป็นของฝีมือคนทําที่ท่าตกหล่นไว้?
เขารีบเก็บลิปสติกแท่งนั้นมาห่อไว้ แล้วส่งไปให้หน่วยงาน พิเศษตรวจสอบ
นรมนประสบอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงแบบนี้ เขาจะไม่มีทางให้ อภัยตัวเองเด็ดขาด ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำนี้ เขายิ่ง ไม่ปล่อยไว้แน่
เวลาหนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นทางฝั่งทางตะวันออกในวันที่สอง บุริศร์ ขนอาหารเข้ามาเยอะแยะมาที่โรงพยาบาล
คมทิพย์เห็นว่ากานต์กับนรมนยังไม่ตื่น เลยออกไปซื้ออาหาร เช้า บุริศร์มาถึงตอนที่ไม่มีคนอยู่พอดี
มองไปที่คนใหญ่กับตัวเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียง อยู่ๆบุริศร์
ก็รู้สึกฟูขึ้นมาเต็มหน้าอก
เคยเขาเคยคิดภาพสามคนพ่อแม่ลูกอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา กัน คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากห้าปีผ่านจะเกิดขึ้นจริง
เขามาที่หน้าเตียงของนรมน นำอาหารเช้ามาวางไว้บนโต๊ะ แต่พบว่ามีคนดึงกระตุกเสื้อของเขาอยู่
บุริศร์หันหัวไปเล็กน้อย ก็เห็นว่านรมนลืมตาขึ้นมาแล้ว อยาก จะพูด แต่ก็รู้สึกว่าคอแห้ง
“เธอฟื้นแล้วเหรอ? ดื่มน้ำหน่อยไหม? ฉันจะไปตามหมอมา
บุริศรีบกดกริ่งเรียกพยาบาล แล้วก็เทน้ำอุ่นให้นรมนนั่งลง ตรงหน้าเตียงของเธอ พยุงนรมนขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แล้ว ค่อยๆป้อนน้าเธอ
“เธอเพิ่งฟื้น ไม่กล้าให้เธอดื่มน้ำเยอะ ทำให้คอเธอชื้น รอหมอ มาเช็คเสร็จแล้วค่อยว่ากัน”
น้อยครั้งนักที่บุริศร์จะพูดจาอ่อนโยนกับนรมน อย่างน้อย ที่สุดหลังแต่งงานมาสามปีเขาก็ไม่เคยพูดเลย
นรมนมีโมเม้นแบบนี้ ถึงขนาดที่คิดว่าตัวเองเหมือนฝันอยู่
จนถึงตอนที่หมอและพยาบาลเดินเข้ามา เสียงรบกวนปลุก กานต์ที่อยู่ข้างๆ ตอนที่หน้าตาอ่อนวัยตาสะลึมสะลือกวาด สายตาควานหานรมน ตอนเรียกนุ่มๆ ของหัวใจ นรมนถึงตื่นจากฝัน “มามี้”ส่งไปถึงส่วนลึก
เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ?
อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้สมองเขากระทบกระเทือนขึ้นอย่างคาด
ไม่ถึงเหรอ?
บุริศร์ดีกับทุกคน ไม่ดีแค่กับเธอคนเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะ ว่าหน้าใบนี้ไม่เหมือนกับใบหน้าที่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขา ทําให้ บุริศร์แปลกใจหลายอย่าง เขาจะอ่อนโยนกับได้ขนาด นั้นได้ยังไงกัน?
นรมนยิ้มเจื่อนๆออกมา ไม่ได้สนใจบุริศร์อีก หันหัวไปทาง กานต์
กานต์วิ่งเข้ามาหา แล้วจับที่มือของเธอ
“มาม มา ทําผมตกใจหมดเลย
นํ้าตาของกานต์ไหลลงมาเป็นทาง สิ่งที่อดทนกลั้นไว้มา ตลอดตอนนี้เขาควบคุมไม่อยู่แล้ว
นรมนรู้จักตอนที่กานต์หวาดกลัวดีกว่าใคร เขาไม่ได้แกล้ง
เขากลัวจริงๆ!
อายุน้อยๆ เขาเห็นกมลผ่านความเป็นความตายมาหลายครั้ง มองดูความอ่อนแอและความหม่นหมองที่กมลดิ้นรนต่อสู้จาก ความตายมาครั้งแล้วครั้งเล่า พี่ชายฝาแฝดคนนี้จะไม่มีความ รู้สึกเหมือนเขาได้ยังไงกัน? วันนี้เขาต้องมานอนตัวติดกับมา มี้อยู่บนเตียงคนไข้ จะให้เด็กสี่ขวบแบกรับได้ทุกอย่างงั้นเหรอ?อัพเดทครั้งหน้า วันที่ 17 ธ.ค.2019จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ