บทที่17 คุณทำอะไรผมก็จะสนับสนุน
บทที่17 คุณทําอะไรผมก็จะสนับสนุน
เขมิกาตามติดบริศร์ไปอย่างรวดเร็ว เธอขอร้องเขาไปตลอดทาง
นรมนได้ยินเสียงของพวกเขาดังผ่านประตูมา เสียงไกลออกไป เรื่อยๆ มือทั้งสองของเธอกำแน่น
บริศ ช่างเลือดเย็นจริงๆ
เขาทรยศเธอเมื่อห้าปีก่อน ทรยศการแต่งงานของพวกเขา ตอน ที่หลงใหลเขมิกา เขาก็ไม่ได้เยือกเย็นเหมือนเช่นตอนนี้
เธอยังจำได้ว่าเห็นพวกเขาที่โรงพยาบาล บุริศร์ทั้งเอาอกเอาใจ เขมิกา เมื่อรู้ว่าเขมิกาตั้งครรภ์ก็ดีอกดีใจ
ถึงตอนนี้แม้แต่ผู้หญิงที่เขาชอบพอบอกจะทิ้งก็ทิ้ง อดีตภรรยา เช่นเธอจะเหลือที่ยืนตรงไหนในหัวใจของเขาไหม
ถ้าหากว่าเธอผิดตั้งแต่แรก ก็คือที่เธอไม่ควรตกหลุมรักผู้ชายคน นี้ เขาเป็นคนเลือดเย็น เป็นก้อนหินที่ติดอย่างไรก็ไม่มีประกายไฟ
แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องจริงที่รู้อยู่แล้ว แต่หัวใจของนรมนก็ห้ามไม่ ได้ที่จะเจ็บขึ้นมา
ช่วงเวลาอันแสนลำบากในห้าปีที่ผ่านมาได้ปรากฏขึ้นในใจของ เธออีกครั้ง เสียงเปลวเพลิงอันโหดเหี้ยมโหมกระหน่ำเข้ามา เมื่อ ตอนที่ได้ยินว่าทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของบุริศร์ ทุกวันนี้เธอยังจำได้ ทุกสัมผัสของความสิ้นหวังและความหนาวเหน็บ
ชายคนนี้ ทําให้เขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่แท้จริง ทําให้เขาได้ รู้ว่าการถูกที่ตนเองรักทรยศนั้นเป็นเช่นไร เขาจะได้รับรู้ว่าทุกสิ่ง ที่เขาทํานั้นมันโหดร้ายเพียงใด เป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้
นัยน์ตาของนรมนเปี่ยมไปด้วยประกายความเกลียดชัง
กลับมาคราวนี้ เธอแค่ต้องทําให้บริศร์หลงรักเธอ เธอแทบจะรอ ไม่ไหวที่จะได้เห็นบริศร์หัวใจสลาย
นรมนทรุดตัวนั่งลงพิงแผงประตู เธอเหม่อลอยอยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งโทรศัพท์ดังขึ้น เธอถึงได้สติกลับมา
ประธานรเมศโทรมาจากสหรัฐอเมริกา
เมื่อเห็นชื่อรเมศ เสียงของนรมนก็อ่อนลงเล็กน้อย
“รเมศ”
นรมนรับสายด้วยน้ำเสียงที่สุภาพมาก
ห้าปีมานี้เธอต้องขอบคุณรเมศมาก
เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน โชคดีที่ได้รเมศช่วยเหลือเธอ ไว้ และยังช่วยชีวิตเธอกลับมา ช่วยสร้างตัวตนใหม่ให้กับเธอ ให้ ชีวิตใหม่กับเธอ และยังฝึกฝนเธอให้เป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียง ทำให้เธอสามารถหาเลี้ยงตัวเองและลูกของเธอได้
นรมนรู้สึกสํานึกบุญคุณต่อเขามาก
เมื่อรเมศได้ยินเสียงของนรมนเขาก็หัวเราะขึ้น
“เป็นอย่างไร กลับไปคุ้นเคยรึยัง เขาไม่ได้รังแกคุณใช่ไหม”
ที่จริงรเมศไม่อยากให้นรมนกลับมา แต่เขารู้ว่าความเกลียดใน ใจของนรมนนั้นฝังอยู่ลึก ถ้าหากไม่ปล่อยให้เธอกลับมาแก้แค้น ก็กลัวว่าชาตินี้เธอคงจะหาความสุขไม่ได้
และการที่นรมนกลับมาคราวนี้ก็มีเหตุผลอื่น เหตุผลนั้นรเมศรู้ สึกว่าช่างน่าเศร้า แต่เขากลับปฏิเสธไม่ได้
เมื่อได้ยินเสียงอันอบอุ่นของนรมน ดูเหมือนว่าร่างกายของเธอ จะมีแรงกลับคืนมา
เธอลุกขึ้นยืน หายใจเข้าลึกๆและพูดว่า “ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี บุริศร์เริ่มจะสงสัยในตัวฉัน แต่นั่นก็เพราะความสามารถของคุณ ทำให้เขาตรวจสอบแล้วไม่พบร่องรอยอะไร ฉันจะระวังตัว คุณไม่ ต้องเป็นห่วงฉัน”
“ถ้าหากคุณรู้สึกว่าไปต่อไม่ไหว คุณสามารถกลับมาได้ คุณก็รู้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ผมพร้อมจะเผชิญหน้าไปกับคุณ
คำพูดของรเมศทำให้นรมนรู้สึกซาบซึ้งใจ
“ขอบคุณค่ะ รเมศ แต่ว่าฉันมีเรื่องที่ต้องทำด้วยตัวเอง นอกจาก นั้นโรคของกลมยังต้องการบุริศร์”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ทั้งคู่ก็นิ่งเงียบไป
“กลมสบายดีนะคะ”
นโมนทําลายความเงียบขึ้นมา
“สบายดี แค่มีเวลาตื่นขึ้นก็คิดถึงคุณและกานต์ แต่ว่าคุณวางใจ ได้ ผมอยู่นี่ กมลไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“ขอบคุณค่ะ รเมศ
นรมนนอกจากจะพูดว่าขอบคุณแล้ว เธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเขา
อีก
“ไม่เป็นไร มีกานต์อยู่ ผมค่อยมีแรงจูงใจหน่อย เขาอยู่ที่นี่เก่ง มาก วางใจเถอะ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ช้าก็เร็วบริศร์ก็ต้องรู้ว่ามีกานต์ อยู่ การหลบหนีไม่ใช่หนทาง แค่เพียงทําให้เขาคิดตั้งแต่ต้นว่า กานต์ไม่ใช่ลูกชายของเขา กานต์ก็จะปลอดภัย”
คําพูดของนรมนทำให้รเมศคัดค้านไม่ได้
“คุณทำอะไรผมก็จะคอยสนับสนุน
“ขอบคุณค่ะรเมศ แต่ว่าวันนี้เขาสงสัยในตัวฉันมาก บางทีอาจจะ เร็วเกินไปหน่อย ฉันอยากจะไปปกปิดรอยแผลไฟไหม้หน่อย คุณ มีคนที่พอไว้ใจได้ไหมคะ
นรมนนึกถึงตอนที่บริศมาแล้วไม่สนใจพระอิฐพระปูน ใจเธอรู้สึกกลัวถึงวันข้างหน้า
ครั้งนี้สามารถหลบซ่อนได้ แต่ว่าครั้งหน้าล่ะ
เธอต้องการหว่านเสน่ห์ให้บริศร์หลงรักเธอ ไม่ช้าเธอก็จะตรงไป ตรงมากับบริศร์ ถึงตอนนั้นรอยแผลไฟไหม้นี้ก็สามารถเปิดเผย ได้
รเทศนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งและลดเสียงลง “มีร้านสักร้านหนึ่งใน ตรอกทิศใต้เมือง อาจารย์ท่านนี้ฝีมือไม่เลว และยังเป็นสหายเก่า ของผม คุณไปที่นั่นได้ ต่อให้ภายหลังมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่ สามารถตรวจสอบอะไรได้
“ขอบคุณค่ะ”
นรมนและรเมศยังคงคุยเรื่องของกมลต่อไป จากนั้นก็วางสาย อย่างไรก็ตามในสมองของเธอเต็มไปด้วยภาพความอ่อนแอของ กมล กังวลจนเธอหน้าซีด
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ