รักสุดท้ายให้กับนาย

บทที่ 55 เจ้าเด็กคนนี้ช่างเหลือเกินจริงๆ



บทที่ 55 เจ้าเด็กคนนี้ช่างเหลือเกินจริงๆ

บทที่ 55 เจ้าเด็กคนนี้ช่างเหลือเกินจริงๆ

“กิจจาเองคงถึงเวลาที่จะต้องเผชิญหน้ากับทุกสิ่งด้วยตัวของ เธอเอง ไหนๆกิจจาก็เป็นทายาทของตระกูลเล็กโต ตอนนี้เธอ เองก็4ขวบแล้ว จะต้องเริ่มวางแผนเพิ่มคาบเรียนให้แล้วล่ะ ให้ กิจจาอย่านมซะก็ไม่เลวนะเธอไม่ต้องห่วงหรอก บ้านพักริม ทะเลมีทุกอย่างพร้อม ไม่ทำให้เธอต้องลำบากหรอกว่างๆไม่มี ไรทำเธอก็อ่านหนังสือซะบ้าง พวกหนังสือพัฒนาจิตใจ จะได้ ไม่เกิดเรื่องทำให้ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง”

คําพูดของบริศ ทําให้เขมิกาถึงกับทรุดลงไปนั่งอยู่ที่พื้น

นโมนไม่มีแม้แต่ความเห็นใจ ทั้งหมดนี้ใครท่าคนนั้นก็รับไป ในอดีตนั้นเขมิกากาทำไว้กับนรมนไว้อย่างไร ตอนนี้ก็แค่มีด อกเบี้ยเพิ่มมาก็แค่นั้นเอง

เขมิกาโดนลากออกไป

บุริศร์มองนรมนแล้วพูดเสียงทุ้มว่า “ตอนนี้ก็อยู่ต่อได้แล้วใช่

ไหม? ”

นรมน งไปเล็กน้อย

“คุณทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะให้ฉันอยู่ต่อ? ”
“แน่นอน”

“เพื่ออะไรคะ? ”

ถามคำถามนั้นออกไป นรมนพึ่งรู้สึกแปลกๆ แต่จะย้อนเวลา

กลับไปก็ไม่ได้แล้ว

บริศ จับมือเธอแน่น พลางพูดเบาๆว่า “ฉันคิดว่าเธอจะรู้ เหตุผลซะอีก”

นโมนเหมือนกับถูกไฟช็อตยังไงอย่างนั้น อยากจะดึงมือตัว เองกลับมา แต่กลับทำไม่ได้ มือของบุริศร์แน่นอย่างกับคีม เหล็กที่หนีบมือเธอไว้แน่น

แววตาของเขาเฉียบละแหลมคม

“นรมน คุณไม่คิดจะบอกผมจริงๆหรอ?

สายตาของเขาเหมือนมีพลังพิเศษที่สามารถมองทะลุ(มอง ออก) ทำให้นรมนไม่สามารถที่สู้หน้าสบสายตาตาเขาได้

“คุณกำลังพูดเรื่องอะไรคะ? ฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจ คุณบุริศร์ คะ ระหว่างเราจริงๆแล้วมันก็ไม่มีอะไรอยู่แล้วนี่คะ คุณต่างที่ โมโหแทนฉัน ตอนนี้ก็ยังมาพูดจาแปลกๆอีก อย่าทำให้คนอื่น ฟังแล้วเข้าใจผิดสิคะ”
“ใครเข้าใจผิด? คนอื่นที่ว่าน่ะใครกัน? รเมศหรอ? พวกคุณ เป็นอะไรกันหรอ? ”

บุริศร์อยู่ก็อารมณ์ขึ้น

คําถามของเขาท่าเอานรมนถึงกับอึ้งไป แต่พูดเสียงต่ำตอบ กลับไป “ฉันกับรเมศเราเป็นแค่เพื่อนกัน

“รเมศ?สนิทกันขนาดนั้นเลย?ถ้างั้นผมจะให้คุณเรียกผมว่าบุ

ริศร์เฉยๆบ้างได้ไหม? ”

บริศ ได้คืบจะเอาศอก

นโมนขมวดคิ้ว พยายามจะดึงมือตัวเองออกมาพลางพูดว่า “คุณบุริศร่คะ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะคะ”

“ไม่สนิท? นรมนใครจะพูดกับผมแบบนี้ก็ได้นะ แต่คุณ เท่านั้นจะพูดแบบนี้ไม่ได้! ก็ได้ คุณไม่เรียกผมแบบนั้นก็ได้ แต่ยังไงซะไม่ช้าก็เร็วต้องมี วันที่ผมจะทำให้คุณเห็นความ จริงใจและจริงจังของผมก่อนที่จะถึงตอนนั้นคุณห้ามไปจาก เมืองชลธีเด็ดขาด อยู่ในเมืองชลธีนี้คุณจะทำอะไรก็ได้ ไม่ ว่าคุณต้องการอะไรผมจะหามาให้คุณ ขอเพียงแค่คุณไม่ไป ไหนก็พอ”

ตอนนี้บริศร์ถึงขั้นยอมขอร้องอ้อนวอน

นรมนยังไม่เคยเห็นบุริศร์คนที่เอาแต่ทำตัวอยู่เหนือคนอื่นเป็นแบบนี้มาก่อน

เขานับว่าเป็นคุณชายแห่งเมืองชล ถือว่าในเมืองและ เขาสามารถที่จะ นกเป็นนก ชี้ไม่เป็นไม้ ยิ่งไปกว่านั้นมีคน มากมายที่วิ่งไล่ตามเขา ทำดีกับเขา ไม่ว่าจะเป็นอะไร เพียง แค่เขาอยากได้ก็ต้องได้ ก็ไม่รู้ว่าตอนไหนที่เขาเปลี่ยนไปเป็น แบบนี้ไปได้?

หรือว่าทั้งหมดนี้จะเป็นลูกเล่นใหม่ของเขา

นรมนเตือนสติตัวเองในใจ พลางยิ้มและพูดว่า “คุณบุริศร คุณก็ยกยอฉันเกินไป ถ้าคุณต้องการตัวฉันจริงๆ แต่อันกีฬา ได้อยู่แล้วว่าบริษัททั้งสองร่วมมือกันอยู่ และถึงแม้ว่าขาของ ฉันจะได้รับบาดเจ็บแต่ถ้าเกี่ยวกับการดีไซน์ออกแบบแพลน ฉันก็ยังทําได้ค่ะ,

บริศร์มองไปที่นรมนและยิ้มด้วยรอยยิ้มที่สดใส แต่ในใจ กลับไม่ได้สดใสเหมือนกับรอยยิ้มเลย

รอยยิ้มของนรมนเองก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ติดที่นิยมการ กลับไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ถึงขั้นเย็นชาเล็กน้อย

ดวงตาคู่นั้นเหมือนกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน เท้าคู่ที่เคยก้าว ตามเขาอย่างไม่หยุดหย่อนนั้น มาวันนี้กลับกลายเป็นดั่งค่อน น้ำแข็งที่คอยทุบตีเขา ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด

คนเรามักจะรู้สึกได้ว่าช่วงเวลาที่เคยมีเขาอยู่นั้นมันสวยงามมากขนาดไหนก็เมื่อตอนที่เราศูนย์เสียเขาไปใช่ ไหม?

บริศพยายามที่เก็บความรู้สึกเจ็บปวดนั้นเอาไว้ พูดอย่าง ขมขื่น“เธอมีความสุขฉันก็ดีใจ แต่ว่างานการออกแบบนั้นช่วง นี้คงไม่ได้รีบหรอกพักนี้บริษัทมีปัญหานิดหน่อยผมคงต้อง จัดการปัญหานี้ให้เรียบร้อยเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยคุยเรื่อง การทำงานร่วมกันของบริษัท ช่วงนี้คุณก็พักฟื้นไปก่อน แค่ เพียงคุณหายดีแล้ว เราถึงจะมาร่วมงานกันได้ยังไงล่ะ ใช่ไหม ครับ? ”

นรมนไม่ได้มองข้ามความโศกเศร้าและเจ็บปวดที่แฝงอยู่ใน แววตาของบุริศร่ แต่เธอก็ยังคอยเตือนตัวเองว่าจะใจอ่อนไม่ ได้

ผู้ชายคนนี้ เป็นคนที่ไม่มีหัวใจ จะรู้สึกเจ็บปวดและโศกเศร้า ได้ยังไงกัน?

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะแสดงให้เธอเห็น เป็นกลลวงให้เธอใจอ่อน ก็แค่นั้น

เธอเพียงแค่ยิ้มๆ ได้ตอบกลับอะไร แต่กลับหลับตาลง เห็นได้ ชัดว่าเธอเหนื่อย

เห็นเธอเป็นเช่นนั้น บุริศร์จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ ทำได้แค่ลุก ขึ้นมองนรมนที่นั่งหลับตาอยู่ เขาเห็นใต้ตานรมนดำคล้ำ จึง จําเป็นต้องพูด “คุณเหนื่อยมากแล้ว พักผ่อนเถอะ ผมเตรียมพยาบาลพิเศษไว้ให้แล้ว ไม่กี่วันนี้ผมคงไม่ได้เข้ามา เรื่อง อาหารมื้อกลางวัน …

“ทิพย์จัดการให้ฉันได้อยู่แล้วค่ะ คุณบุริศร์ไม่ต้องเป็นห่วง ขอบคุณนะคะ”

นรมนยิ้มแบบขอไปที

“รอยที่หน้าอะคุณก็ประคบอีกทีนะ”

“ขอบคุณค่ะ”

ช่วงเวลานั้นทั้งคู่ต่างไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

บุริศร์นึกถึงเมื่อครู่ตอนที่เขมิกาอยู่ด้วยอย่างน้อยนรมนเธอก็ ยอมที่จะเข้าใกล้เขา ถึงแม้จะมีจุดประสงค์อื่นก็ตาม แต่เขาไม่ สนมันเลยสักนิด

ตอนนี้เส้นทางที่กั้นกลางระหว่างเขาและเธอมันช่างยาวไกล เหลือเกิน ความรู้สึกที่ว่าอยากจะข้ามผ่านมันไปแต่ข้ามไปไม่ ได้แบบนี้ มันทำให้รู้สึกท้อแท้และหมดแรง อีกยังทำให้รู้สึก หงุดหงิดหัวใจ แต่ตอนนี้บุริศร์ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรดี

“คุณพักผ่อนซะ ผมไปแล้ว
“แล้วเจอกันค่ะ”

นโมนไม่สนใจใยดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ