หัวใจอสุเรศ

ตอนที่62รักใคร่



ตอนที่62รักใคร่

สัมผัสที่คุ้นเคยนี้ทำให้โล่หวินหลานรู้สึกอบอุ่นขึ้นนางบีบ มือตอบกลับมือใหญ่

“ เป็นอะไรหรอ? ”น้ำเสียงเย็นเหยียบดังขึ้นใกล้หูนางสายตา ของเขาตกลงที่ร่างของฉินหมิ่น

ฉินหมิ่นยังคงเงียบครีมทำไมถึงซวยขนาดนี้?

โล่หวินหลานใช้สองมือกหน้าเขาไปมาใบหน้าเรียบเนียนไม่ เหลือร่องรอยอะไรเลยเป็นหน้าที่สร้างความเดือดร้อนในตอน นี้เปผันอย่างมาก

“ก็ไม่ใช่เพราะเจ้ารึไงเมื่อกี้สาวใช้ในจวนเห็นเจ้าติดสินบน ฉินหมิ่นด้วยถุงหอมลายปักนกหยวนหยางเย่หวินเห็นแล้วก็ เลยโมโหไง”โล่หวินหลานพูดอย่างเหนื่อยใจยังไม่ทันเก็บ เรียวนิ้วสวยก็ถูกมือใหญ่เกาะกุม

“พวกเขาสองคนก็อย่างนี้นั่นแหละชอบเถียงกันแค่สาวใช้ ในจวนให้ข้าไล่พวกนางออกไหมแล้วเปลี่ยนชุดใหม่เข้า มา?”โม่ฉีหมิงถามอย่างไม่ใส่ใจแต่ไม่ใช่การถามแต่อย่างใด เหมือนจะลองใจโล่หวินหลานในที

โล่หวินหลานฟังแล้ว ก็ส่ายหัวทันที ไม่เป็นไรๆพวกนางแค่ รู้สึกประหลาดใจเวลานานไปเดี๋ยวก็ไม่แปลกใจหรือตกตะลึง กันแล้วแหละ” สาวใช้ในจวนมีอย่างน้อยสิบหว่าคนอย่างมากสุดก็ร้อยกว่า คนหากจะไล่ทีเดียวหมดคนหลายคนตกงานพร้อมกันเยอะ ขนาดนี้คงไม่ดีเป็นแน่?

แต่นางลืมไปเรื่องหนึ่งสาวใช้ในสมัยโบราณจะเซ็นชื่อขาย ร่างกายชั่วชีวิตนี้ไม่ว่าจะเกิดแก่เจ็บตายล้วนต้องอยู่แต่ใน จวนอ๋องหากให้พวกนางออกไปก็คือมีอยู่เรื่องเดียวคือการ แต่งออกไปมีเลือดเนื้อเชื้อไขของทาสถึงจะแต่งงานออกมา ได้ยกระดับให้สูงขึ้นยังไม่รู้อยู่รอท่านอ๋องหาคู่ครองที่ดีให้

“หวินหลานเจ้าคิดว่าพวกเราควรปล่อยพวกนางไป?”น้ำ เสียงเยือกเย็นของโม่ฉีหมิงดังขึ้นข้างหูมีความรู้สึกเย็นยะ เยือก

นางหัวเราะเสียงต่ำสายตามองไปที่โม่ฉีหมิงกล่าว“นี่ไม่ใช่ การปล่อยแต่คือการใจกว้างพวกนางไม่ได้ทำผิดอะไร

โม่ฉีหมิงจ้องมองนางดวงตาเรียวยาวคู่นั้นสะท้อนให้เห็น แสงบางอย่างสายตาเย็นชาคู่นั้นมองลงไปที่ร่างบางเต็มไป ด้วยความอบอุ่นพลันยกยิ้มขึ้นอย่างไม่ตั้งใจจับมือนางแน่นๆ

ผ่านไปไม่กี่วันโล่หวินหลานก็รู้สึกถึงสาวใช้ในจวนเริ่มกลับ มาเป็นปกติเริ่มเข้ากฎระเบียบทุกคราวที่โม่ฉีหมิงปรากฏตัว ยิ่งก้มหน้าระมัดระวังเดินผ่าน

โล่หวินหลานเดินออกมาจากสวนเดินไปไหนก็ไม่เห็นแม้แต่ เงาของโม่ฉีหมิงวันนี้เป็นวันตัดไหมตัดไหมเสร็จแล้วก็ สามารถหัดเดินได้แล้ว “เห็นท่านอ๋องไหม?”โล่หวินหลานถามสาวใช้ที่เดินผ่าน พลางจับไปที่แขนถาม

สาวใช้คนนั้นได้ยินข่าวคราวของท่านอ๋องกับนางก็รีบก้ม หน้าก้มตาส่ายหัวไปมา หวังเฟยหม่อมฉันไม่รู้เพคะพักนี้ไม่ เห็นท่านอ๋องเลย”

โล่หวินหลานถอนหายใจเบาๆไปหาเองดีกว่าตั้งเยอะและ ไม่รู้ว่าโมนี่หมิงไปขู่อะไรพวกนางไว้แม้แต่พูดยังตะกุกตะกัก

พอเดินไปถึงห้องโถงก็เห็นฉินฟยิ่นเดินออกมาจากด้านใน พอดียังหม่ทันที่โล่หวินหลานจะเปิดปากเขาก็รีบพูดอย่าง ร้อนรน”หวังเฟยท่านรีบไปดูท่านอ๋องเถอะท่านอ๋องอยู่ในห้อง ลับเมื่อกี้ยังรีบไล่ข้าออกมา”

“เกิดอะไรขึ้น?”โล่หวินหลานหรี่ตาลงใบหน้าเต็มไปด้วย คำถามคนก็เดินไปที่ห้องลับแล้ว

ฉินหมิ่นรีบสาวเท้าตามนางไปพลางถาม “หวังเฟยท่านไปดู เองเถอะ”

ห้องลับด้านนอกไม่มีสาวใช้เฝ้าอยู่สักคนโล่หวินหลานเดิน เข้าไปในห้องลับเพียงลำพังข้างในเงียบมาก เดินเข้าไปข้าง ในอีกก็มีเสียงลมหายใจแผ่วเบาดังลอดออกมา นางรีบผลัก ประตูเข้าไปอย่างแรงโม่ฉีหมิงกำลังนั่งอยู่บนรถเข็นมือข้าง นึงจับขาไว้ข้างนึงจับล้อรถเข็นบนใบหน้ามีความเจ็บปวด ทรมานอย่างแสนสาหัส เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผากเต็มไปหมดริมฝีปากด เผือดเพราะสีปากไม่มีความชุ่มชื่นทำให้ปากเริ่มลอกเป็นชั้นๆ

หลับตาแน่นจนเป็นเส้นตรงขนตาบรรจบกันแน่นคนทั้งคนมี ความเจ็บปวดทรมานอยู่ในความรู้สึกที่อยากที่จะบรรยาย

“หมิงเจ้าเจ็บขาใช่ไหม?”โล่หวินหลานเห็นอย่างนั้นรีบไป พยุงเขาทันทีนางรู้ดีนี่เป็นแค่การเริ่มต้นความเจ็บปวดของ หลังการผ่าตัดแต่คาดไม่ถึงว่าจะกินเวลานานขนาดนี้

ออกไปอย่ามองนะข้าไม่เป็นไร….……….หมิงกันฟันพูด ออกมาอย่างทรมาน

เขาไม่อยากให้นางเห็นตัวเองทุกข์ทนเจ็บปวดทรมานใน สภาพแบบนี้และไม่อยากให้นางต้องเป็นห่วงแต่ไหนแต่ไรมา เขาให้นางเห็นด้านที่ดีที่สุดของเขา เขาไม่อยากให้ความเจ็บ ปวดร่างกายแค่นี้ต้องมาทำให้นางขมวดคิ้ว

เขายื่นมือออกไปผลักนางอย่างเลือนรางแต่กลับถูกนางปัด มือออกน้ำเสียงเคร่งเครียดเอ่ยสูงขึ้น “นี่มันเวลาไหนแล้วนาน ขนาดแล้วเจ้ายังคิดจะปิดบังข้าอยู่อีกเจ้าคิดจะบอกข้าตอน สุดท้ายเลยใช่ไหม?ความเชื่อใจระหว่างเรามันหายไปไหน หมด?ยังไม่ปล่อยมืออีก?”

นางรีบปัดมือเขาทิ้งเขาก็รีบจับขึ้นมาอีกครั้งเห็นได้ชัดว่า เขาใช้อรงเฮือกสุดท้ายในการผลักนางออกไป

โล่หวินหลานไม่มีเวลาสนใจอะไรแล้วด้านหนึ่งก็คอยแกะมือ ที่เขาปิดบังออกด้านหนึ่งคอยแกะผ้าพันแผลออกแผลมีการ ฉีกขาดเลือดออกเยอะมากก่อนหน้านี้น่าจะมีอาการอย่างนี้ เกิดขึ้นบนนั้นยังมีร่องรอยอยู่

นางกัดฟันจ้องเขาตาแทบถลนออกมาถึงจะอึดอัดใจขนาด ไหนเขาก็ยังสามารถส่งมอบรอยยิ้มให้นางได้เสมอดูไปแล้ว ไม่ใช่คนที่เย็นชากับคนกับทุกเรื่อง

เจอด้านนี้ของเขาในใจของโล่หวินหลานทั้งเจ็บทั้งไม่รู้จะ ทำยังไงพลางใส่ยาให้เขาพลางพูดขึ้น”นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ แล้ว?”

“ครั้งที่สอง”ครั้งนี้เขายอมพูดความจริง

ครั้งแรกเป็นตอนไหน?”

ประมาณว่า……..ก็จำไม่ได้แล้ว”เสียงแหบพร่าของโม่ฉีห มิงตั้งใจแกล้งนางเขาพึ่งสังเกตเห็นนางตอนโมโหว่าน่ารัก ขนาดไหนนัยน์ตาส่องประกายแวววาว

โล่หวินหลานก็เขม็งตามองเขาตอนที่เปลี่ยนยาก็ตั้งใจกด ไปที่แผลของเขาทําให้เขาร้องครางออกมาด้วยความเจ็บจาก นั้นเสียงแหบพร่าก็กดเสียงต่ำลง หวินหลานเจ้าจะฆ่าสามี ของเจ้าใช่ไหม?”

หลังจากพันผ้าพันแผลเสร็จขาซ้ายขวาของเขาก็ถูกผูกเป็น หูกระต่ายสวยนางยืดตัวลุกขึ้นมองลงไปที่เขาเรียนแบบเสียง เย็นของเขาพูดขึ้น“นี่ไม่ใช่การลอบสังหารแต่คือการฆ่าอย่าง เปิดเผยหากวันนี้ข้าไม่มาเห็นก่อนคิดว่าคงไม่ต้องถึงมือข้า แน่”

มือเย็นเฉียบของโมฉีหมิงจับไปที่มืออุ่นของนางดูหน้าโกรธ โมโหของนางรู้สึกช่างน่ารักน่าชังยิ่งนักความเป็นห่วงของนาง เขาประจักษ์เห็นเขาเข้าใจนางว่าแคร์เขามากขนาดไหนก็เลย ยิ่งแกล้งนางหนักขึ้น”หวินหลานเจ้าที่เป็นแบบนี้ตีตนไปก่อน

เจ็บขนาดนี้แล้วยังจะพูดว่าตนไปก่อนไข้?หากปล่อยไว้ใน การรักษาในอนาคตอาจจะถูกหมอคิดว่าตั้งใจปิดบังอาการ หลังจากนั้นก็จะต้องถูกโรงพยาบาลปรับค่าใช้จ่าย

โล่หวินหลานขี้เกียจเถียงกับคนอย่างเขาถึงยังไงตอนนี้ แผลของเขาก็จัดการเวร็จแล้วโชคดีที่ร่างกายเขาแข็งแรง แผลก็ไม่ค่อหนักมากบวกกับเขามีกำลังภายในที่เขามักพูดถึง น่าจะฟื้นตัวได้เร็ว

“ข้าไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกดูแลเจ้าคนเดียวก็ เหนื่อยมากพอแล้ว”โล่หวินหลานกอดอกหันหลังให้เขาอดไม่ ได้ที่จะเติมไปหนึ่งประโยค”ถึงจะเจอหมอที่เก่งขนาดไหนเจอ คนไข้ดื้อขนาดนี้ถึงโรคที่รักษาจะง่ายขนาดไหนมันก็เปลี่ยน เป็นยากได้”

อย่างนั้นหรอ?”โม่ฉีหมิงยิ้มชั่วร้ายหมุนล้อรถเข็นวนไปด้าน หน้าของนางตากลม ดุจดั่งอีกามองทะลุลงไปสะท้อนให้ เห็นความสดใสสว่างแวววาว”ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้ข้าจะเชื่อ ฟังเจ้าคนเดียวเจ้าให้ข้าไปทิศตะวันออกข้าก็จะไปให้ข้าไป ทิศตะวันตกข้าก็จะไป

ประโยคนี้ทำให้นางหัวเราะอย่างสำเร็จคิดไม่ถึงว่าใบหน้า อันเย็นชาของโม่ฉีหมิงจะพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วยสายตาทั้งคู่ เหมือนพระจันทร์บนท้องฟ้าสว่างไสวเป็นเสี้ยวพระจันทร์ดั่ง

เรือ

นางเท้าคางคิดถามเขา”ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วงั้นเจ้าก็บอกข้า เจ้าไปทำยังไงสาวใช้ในจวนถึงไม่กล้าแอบไปตามดูเจ้าอีก?”

“ง่ายมาก ใบหน้าอันหล่อเหลาของโม่ฉีหมิงยิ้มขึ้นอย่าง กะทันหันดวงตาเรียวยาวเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้เห็นท่าทาง นางอยากรู้”ข้าก็บอกให้พวกนางว่า เป็นคำสั่งของหวังเหย หากพวกเจ้ายังไม่ตั้งใจทำงาน จะยึดเงินที่พวกเจ้าสะสมมา หลายปีนี้กลับคืน แล้วก็ไล่ออกจากจวนข้าให้หมด”

รอยยิ้มบนหน้าของโล่หวินหลานหายไปทันทีมองโม่ฉีหมิงอ ย่างตะลึงนานทีเดียวกว่าจะตอบกลับถึงว่าล่ะวันนี้สาวใช้ถึง เห็นนางแล้วพูดจาตะกุกตะกักที่แท้ก็กลัวว่าจะถูกนางไล่ออก จากจวนนี่เอง

นางก้มหน้ามองไปที่โม่ฉีหมิงสายตาของเขาดูไม่โกหก แม้แต่น้อยเหมือนหินออบซิเดียนก็ไม่ปานดูยังไงเขาก็ดู เหมือนหล่อจนยากจะบรรยายมองไปที่ตัวเองอย่างตั้งใจ

“เจ้าพูดอย่างนี้จริงหรอ? ไม่ใช่แล้ว ……หลอกข้ารึป่าว!โล่ห วินหลานก่นร้องในใจหรือตอนนี้นางจะเปลี่ยนจากผู้หญิงอ่อน โยนเป็นเหมือนกับลักษณะของแม่เลี้ยงแล้ว นางมองค้อนโม่ฉีหมิงยื่นมือไปบีบคอเขาแต่ขาที่ไม่รักดี กลับไปแตะโดนล้อรถเข็นโดนขัดไปหนึ่งที่ดูเหมือนเขาจะได้ จูบพื้นแทนแล้วล่ะนางหลับตาแน่นแต่ก็มีอ้อมกอดอันอบอุ่น รอรับอยู่ด้านล่าง

“หวินหลานไม่ว่าอะไรก็ตามที่มีผลต่อความรู้สึกของเจ้าข้า จะไม่ปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่”ไอร้อนจากเสียงแหบแห้งแผ่ซ่าน ไปทั่วข้างหูของนางรู้สึกจั๊กกะจี้เล็กหน่อย

พอเงยหน้าขึ้นก็ต้องพบกับสายตาดุจดังน้ำแข็งของเขา นัยน์ตาใสดุจดั่งลำธารน้ำใสที่ไหลผ่านโล่หวินหลานเหมือน กับจะเห็นตัวเองสะท้อนอยู่นดวงตาของเขาทำให้คนซาบซึ้ง ตรึงใจ

แต่ดวงตาคู่นั้นกลับทำให้นางร้อนเป็นไฟขึ้นยิ่งอยู่ยิ่งเข้า ใกล้เหมือนกับภูเขาไฟที่รอกันประทุขึ้นเหมือนจะแตกภายใน ชั่วพริบตาตรงหน้านาง นางทนไม่ไหวอีกต่อไปไขว่คว้าดิ้น เพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของโม่ฉีหมิงแต่เขากลับกดหัว นางไว้ริมฝีปากเย็นเฉียบกดทับริมฝีปากบางจนแน่น

ขณะที่ริมฝีปากทั้งคู่แตะกันแล้วโล่หวินหลานรู้สึกไฟดูดทั้ง ตัวเขาจูบริมฝีปากบางอวบอิ่มอย่างดูดดื่มเหมือนไฟที่จะ หลอมละลายเข้าเป็นร่างเดียวกับนาง

ขณะที่โล่หวินหลานเหมือนจะขาดหายใจ เขาถึงได้ปล่อย นางไป

“หวินหลานหลายครั้งแล้วนะ เจ้าก็ยังตื่นเต้นอยู่อีก! “เสียง แหบพร่าของโม่ฉีดังอยู่ข้างหูของนางมากับน้ำเสียงขี้เล่นและ มีเสน่ห์

นิ้วของเขาค่อยๆเกลี่ยริมฝีปากที่ถูกจูบจนบวมเจ่อบวมๆ แดงๆช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก

โล่หวินหลานปัดมือเขาทิ้งอย่างแรงทั้งๆที่เขาเป็นคนช่วย โอกาสนางหัวเราะพลางตอบ”ใครพูด?เจ้าไม่มีน้ำยาต่าง หาก!”

พึ่งพูดจบโม่ฉีหมิงก็โถมใบหน้าลงมาใกล้ผู้หญิงคนนี้กล้าว่า เขาไม่มีน้ำยา?

โล่หวินหลานที่ถูกเขาจ้องอยู่รู้สึกขนลุกทั้งตัวเหมือนกับจะ รู้ว่านางจะพูดอะไรผิด

“จริงหรอ?”โม่ฉีหมิงยิ้มออกมาอย่างเย็นๆยื่นมือจับคางนาง

ไว้

ยังไม่ทันฟังโล่หวินหลานแก้ตัวเขาก็จูบลงไปที่ริมฝีปากบาง อย่างดุเดือดดั่งลมพายุมรสุมก็ไม่ปานครอบครองพื้นที่ อาณาเขตในปางนางจนทั้งหมดดูดกลืนความรู้สึกคิดในตอน นั้นของนางไปจนหมด

ถูกเขาจูบอย่างรุนแรงไม่มีแรงแม้แต่จะขัดขืนโล่หวินหลาน พึ่งรู้ที่มาของปลาหมอตายเพราะปาก

นางไม่กล้าสงสัยความสามารถและแรงของโม่ฉีหมิงอีกแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ