หัวใจอสุเรศ

ตอนที่54 รักษา



ตอนที่54 รักษา

“ข้าเชื่อใจท่าน” โล่หวินพูดเสียงต่ำ เหมือนจะคิดอะไร ออก ก้มหัวลงมองเท้าของเขา มีความรู้สึกตื่นตันซาบซึ้ง

“หมิง หลินอ๋องหายดีแล้ว ตอนนี้ได้เวลารักษาขาเจ้าและ ใบหน้าเจ้าแล้ว”

แต่ก่อนนางเคยพูดว่าจะรักษาเขา หลายวันมานี้ได้แต่วิ่ง วุ่นเรื่องของโม่ฉีมู่ แล้วก็ไม่มีเวลารักษาอาการของเขา

แต่ยาที่ต้องการก็เจรียมไว้หมดแล้ว

พอพูดเสร็จ สายตาเย็นชาของโม่ฉีหมิงก็เงยขึ้น ก้มต่ำ มองขาของตัวเอง มือข้างหนึ่งวางไว้บนขา

“อืม ในจวนมีห้องลับห้องหนึ่ง ไปรักษาห้องนั่นเถอะ” โม่ฉีหมิงพูดอย่างใบหน้าไร้อารมณ์แต่ในใจรู้สึกปนๆรวมกัน หมด”

ฝีมือการแพทย์ของโล่หวินหลานเขาได้ประจักษ์แก่ สายตาแล้ว ไม่เพียงแต่รักษาโม่ฉีซิวให้หาย ยังรักษาโรค ไข้ทรพิษของโม่ฉีม่หาย สำหรับเรื่องที่นางพูดขึ้นว่าจะ รักษาเขาให้หาย เข้าก็ไม่สงสัยอะไร

เขาเลือกที่จะเชื่อใจนางอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่านางจะทำ

อะไร
“ได้ งั้นวันนี้ข้าจะไปเตรียมของที่จะใช้รักษาในครั้งนี้ พรุ่ง นี้พวกเราก็เริ่มรักษากันได้ ใช่แล้ว เรียกสวินโม่มาด้วยช่วย ข้าด้วยสิ! ” โล่หวินหลานยิ้มให้นางเพื่อให้นางวางใจ

ยิ้มของนางมักมีเสน่ห์อย่างหนึ่งเสมอ ทำให้คนรู้สึกวางใจ เชื่อใจนางอย่างไม่มีเงื่อนไข

โม่ฉีหมิงมองเห็นนางยิ้มอย่างสบายใจสายตามุ่งมั่น ถ้า หากขาเขาดีขึ้น ก็สามารถกอดนางได้ ถ้าหากรักษาหน้า ของเขาได้ ก็จะสามารถถอดหน้ากากออกมาแล้วมองตา อย่างตรงๆ ในใจเขารู้สึกมีหวังขึ้นมาลึกๆ

“ได้ ข้าจะให้คนไปจัดการ คืนนี้ท่านก็พักผ่อนดีๆ มิงพูดพลาง เข็นเก้าอี้ออกไป ” โม่ฉีห

ขาหมุนล้อรถเข็นช้าๆ และก็ไม่ได้ให้คนตามไป นั่งคน เดียวเงียบๆที่สวนข้างหูได้ยินเสียงลมพัดแผ่วเบา ทั้งหมด เงียบสงบนิ่ง

แต่โล่หวินหลานที่อยู่ข้างหลัง ในใจก็รู้สึกรอคอย ตอน นี้ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ขาดแต่ของสำคัญเพียงอย่าง เดียว นางจะพยายามให้ถึงที่สุด ให้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ให้เรื่องดีๆนำพาไปพบกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ตกดึก รอบข้างเสียงเงียบสงบ

“ฉินหยิ่น เจ้าว่าพระราชาจะรักษาท่านอ๋องหายไหม? ” เย่ห วินวางดาบที่แบกไว้ที่หลังลงบนโต๊ะหินอ่อน เห็นฉินหยิ่นที่ยกชาแดงมา

ชาแดงเป็นชาที่ทั้งสองไปคุ้ยจากในครัวมา หลังจากออก จากห้องโถง ฉินหยื่นพลันลากนางไปหาที่นั่งคยดีๆ คิดไม่ ถึงว่าเป็นห้องครัว ชงน้ำชาที่ไม่เลวออกมาสองแก้ว ที่แท้ก็ จะมาคุยที่นี่นั่นเอง

“ท่านอ๋องเชื่อใจพระราชา พวกเราก็ควรเชื่อใจพระราชา นะ ท่านรักษารัชทายาทที่ป่วยเป็นโรคตั้งแต่เด็กให้หาย แล้วกูช่วยรักษาหลินอ๋องที่เป็นไข้ทรพิษ อีกอย่างนางก็รัก ใคร่กับท่านอ๋อง ก็ต้องเพิ่มพูนความใส่ใจท่านอ๋องมากขึ้น” ฉินหยิ่นวิเคราะห์ พลางผลักแก้วชาแดงไปไว้ข้างหน้าเห

วิน

เย่หวินยกแก้วสีเขียวสลักลายดอกไม้ ข้างในมีน้ำชาสีแด งอ่อนๆลอยอยู่ในแก้ว ดื่มอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่หนัก “ข้าไม่ได้สงสัยในฝีมือของพระราชา หากแต่ท่านอ๋องเป็น โรคนี้ตั้งแต่เล็ก หลายปีมานี้น้อยคนนักจะรู้ว่าท่านอ๋องเคย รักษา แต่ก็ไม่เคยดีขึ้น ยิ่ง ข้อเส้นเอ็นของท่านอ๋องขาดสะ บัน เจ้าคิดว่าเส้นประสาทขาดจะสามารถลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง ได้ไหม?

เพราะนางรู้สึกตกใจ เบิกตาโตๆ ทำตาวิ้งๆเข้าใกล้ฉินหมิ่น

“แน่ แน่นอนพรุ่งนี้ก็รู้ ข้า พวกข้าก็รู้กัน” ฉินหมิ่นรู้สึก หายใจติดขัด อดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้นางอีกหน่อย

ในตัวนางมีกลิ่นหอมอ่อนไหว หอมยิ่งนัก แสงจันทร์สาดส่องใบหน้าขาวหมดจด เค้าโครงรูปร่างสมส่วนดังภาพวาด ยิ่งมีความนุ่มนวลมากขึ้น

“ก็จริง เรื่องของพระราชาก็ไม่ถึงมือพวกเราที่มานั่งทาย พวกเราดูแล……… อ้ากกกกกก!” เย่หวินยังพูดไม่จบ ก็ร้อง เสียงหลง โถมเข้าใส่ร่างของฉินหยื่นอย่างแรง รัดคอเขา แน่น

ฉินหยิ่นตะลึงพรึงเพริดก็กลิ่นหอมอ่อนแล้วร่างนุ่มนิ่มที่ โถมเข้าโดยไม่ได้ตั้งตัวไม่ทัน แล้วก็ฟังเย้หวินร้องเสียง หลง ก็นึกว่ามีคนลอบทำร้าย รัดเอวนางแน่นๆก็จัดหมุนตัว หันหลังกลับ

“ตรงไหนมีคนลอบทำร้าย? ออกมา!” ฉินหยื่นคำรามเสียง

“ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่ใครมาลักลอบสังหาร มี มีหนู! เข้าใส่ตัวของเขา น้ำเสียงยังสั่นเทา ” เย่หวินโถม

เมื่อกี้มีตัวอะไรบางอย่างนุ่มนิ่มขนปุกปุยอ้วนท้วมปีนขึ้น ขานาง นางไม่ว่ารู้คือตัวอะไร เลยก้มมองดู เป็นหนูตัวหนึ่ง ปีนขึ้นมาจากรองเท้าขึ้นไป

“นะ หนู?” ฉินหยิ่นอดไม่ได้ที่จะทวนอีกรอบ เย่หวินกลัว หนูเนี่ยนะ?

“ใช่ๆๆๆ ยังอยู่ไหม?” เย่หวินพยักหน้าหัวสั่นหัวคลอน
เย่หวินเห็นหนูจนสั่นทั้งตัว นางคิดว่านางเป็นหญิงแกร่ง โลกนี้ไม่มีอะไรที่ทำให้นางกลัวได้ คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่เห็น หนูตัวเดียว ขนลุกโดยไม่รู้ตัว หายใจติดขัด สุดท้ายยิ่งอยู่ ยิ่งกลัว

ฉินหยื่นตอนแรกจะบอกว่าไม่มีแล้ว แต่ตอนนี้เย่หวิน เหมือนลูกลิงกำลังเกาะติดเขาแน่น เขารู้สึกไม่อยากปล่อย นางลงมา เขาอยากสัมผัสให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

ยังอยู่ เจ้าห้ามลงมานะ หนูยั้วเยี้ยะเต็มไปหมด! ” ฉินหยิ่ นร้อง ยังต้องกระโดดไปมาให้เหมือนหนูยังอยู่ข้างล่าง

เย่หวินกลัวจนทำอะไรไม่ถูก กอดฉินหมิ่นจนแน่น ไม่กล้า ลงมา

ผ่านไปครูใหญ่ ฉินหยิ่นจึงปล่อยเย่หวินลงมา ยกถ้วยชา แดงไปให้นางหายตกใจ

“ ทำไมเจ้าถึงกลัวหนู? ” ฉินหยิ่นอดไม่ได้ที่จะถาม ในความ ทรงจำของเขา เย่หวินไม่เคยกลัวสิ่งใด ขอแค่เพียงเรื่อง ที่นางจัดการเองได้ก็จะแก้ปัญหาเอง มีบางครั้งที่เขารู้สึก สงสัยว่านางเป็นผู้หญิงหรือป่าว

เย่หวินดื่นชาไปอีกหนึ่ง พลางลูบเรียกขวัญตรงหน้าอกไป มา พูด “ตอนแรกข้าก็กลัวหรอกแต่ตอนเด็ก พี่ชายข้าเคย พาข้าไปลำดาบที่ตลาด เล่นกล สมัยนั้นการเล่นกลจะเล่น ให้กลับมาเป็นคนเป็น แต่ตอนที่กำลังเล่นอยู่กลับกลายเปผั นว่าเล่นพลาดจนทำให้คนเป็นกลายเป็นคนตาย พอเปิดโลงไม้ด ข้างในก็มีศพนอนแน่นิ่งไปแล้ว ลูกตาแล้วปากถูกแทง เละไปหมด มีหนูตัวให้ตัววิ่งผ่านไปมาที่หน้าของศพ ข้า รู้สึกสงสัย อยู่ห่างจากตรงที่เกิดเหตุไม่ไกล เลยทำให้ตกใจ กลัวไปเลยตั้งแต่วันนั้น

ฉินหมิ่นเหมือนคิดภาพตามพลางพยักหน้า ที่แท้ก็มีที่มาที่ ไปของเรื่อง เขายื่นมาลูบผมนางเบาๆพูดเสียงเบา “ไม่ต้อง กลัวนะคราวหลังถ้าที่ไหนมีหนูก็จะมีข้า ข้าขะช่วยเจ้ากัน พวกหนูเอง”

เย่หวินเงยหน้ามองไปที่เขา สายตาในนั้นรู้สึกมองเขา แบบแปลกๆ นอกจากพี่ชายไม่มีใครจะคุยกับนางได้เหมือน เขา ไม่มีใครคอยปลอบนางว่าอย่ากลัว

นางเม้มปาก ยกชาขึ้นจิบอย่างไม่ค่อยใส่ใจ

ห้องลับในจวนอยู่ทางทิศเหนือของห้อง ห้องนั้นไม่มีใคร อยู่มานานแล้ว มีเพียงภาพวาดหนึ่งชิ้นแขวนอยู่บนกำแพง

“พระราชา ท่านแค่หมุนภาพไปทางซ้ายสามที ทางขวา สามที ก็สามารถเปิดห้องลับได้แล้ว” ฉินหมิ่นพูดพลาง สาธิตให้โล่หวินหลานดู

ครู่เดียวกำแพงของห้องก็ทะลุออกเป็นรูเล็กๆ สามารถ เข้าไปได้หนึ่งคน ฉินหมิ่นเดินนำหน้าไปก่อน โล่หวินหลาน เข็นโม่ฉีหมิงตามเข้าไป

ตอนแรกคิดว่าที่แห่งนี้จะมืด คิดไม่ถึงว่าห้องลับใต้ดินจะแตกต่างกับข้างบนขนาดนี้ ทำให้โล่หวินหลานอึ้งไปเลยที เดียว

หลังจากเปิดประตู จะเป็นเหมือนกับห้องใต้ดิน ห้อง เครื่องใช้ต่างๆไม่ได้แตกต่างกันมาก หากแต่ว่าในนี้โอ่โถง กว้างใหญ่ อีกอย่างข้างในเต็มไปด้วยตำรา ข้อมูลกับตำรา โบราณ

ข้างหน้ามีโต๊ะไม้โต๊ะหนึ่ง ข้างหลังจะเป็นชั้นวางโบราณ ตำราและวัตถุโบราณ และฝั่งทางด้านซ้ายจะเปผันห้องนอน มีเตียงธรรมดาหนึ่งเตียงที่เพียงพอสำหรับคนได้พักผ่อน

“นี่เป็นห้องลับที่ข้าใช้สะสางงาน นอกจากว่าจะมีเรื่องฉุก เฉินจริงๆถึงจะมาที่นี่ ปกติแล้วจะไม่มา” โม่ฉีหมิงพูด

“ที่แห่งนี้เอาไว้ใช้รักษาเหมาะสมที่สุดแล้ว ห้องกว้างใหญ่ สว่างไสว อีกทั้งยังเงียบสงบไม่มีใครมารบกวนได้ เพียงพอ สำหรับการฟื้นฟูดูแล” โล่หวินหลานยื่นมือจับโต้เบาๆ ด้าน บนถึงจะมีความเรียบง่าย แต่ยังสะอาดไม่พอ

“เย่หวิน เจ้าไปจัดการให้คนมาปัดกวาดเช็ดถูอีกรอบ ต้อง ให้สะอาดหมดจด อย่าให้เหลือร่องลอยไรฝุ่นแม้แต่นิด เดียว” โล่หวินหลานสั่ง สายตาก็พลันเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นใน การรักษา

เย่หวินหยักหน้า รับคำสั่ง

รีบออกจากห้องลับอย่างเร็ว ที่ประตูทางเข้าได้เดินสวนกับสวนโม่ที่กำลังเดินเข้ามา โค้งคำนับ แล้วก็ออกไปอย่าง เร่งรีบ

“เกิดอะไรขึ้น? เย่หวินยังรีบขนาดนี้?” สวินโม่พึมพำ แล้วก็ เดินเข้าไป

เขาได้รับข่าวคราวว่าพระราชาหมิงรักษาอาการของหมิ งอ๋อง ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทำให้มึนงงเหมือนมีหิน มาทุบที่หัว พระราชาหมิงจะรักษาคน การแพทย์เก่งล้ำเลิศ เขารู้ดี หากแต่จะรักษาเส้นประสาทที่ขาดและใบหน้าที่เจ็บ สาหัส เหมือนคนโง่เง่าที่พูดถึงเรื่องความฝัน

หากโม่ฉีหมิงหาย ถ้าอย่างงั้นก็หายตั้งแต่แรกที่เขาเห็น แล้วสิ ทำไมต้องรอถึงตอนนี้

แต่ว่า โล่หวินสามารถรักษากระต่ายที่ขาหักให้หายได้ เขา ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าบนโลกนี้ยังมีเรื่องมหัศจรรย์เกิด ขึ้นได้

เขามาพร้อมกับความสับสนวุ่นวาย มาที่จวนหมิงอ๋อง

ในโลกที่นางอยู่โล่หวินหลานมีประสบการณ์การผ่าตัด อยู่พอสมควร หากแต่อยู่ในยุคที่เทคโนโลยีการแพทย์ล้า หลัง หากไม่มีใครที่มีความเชี่ยวชาญศาสตร์แพทย์แผนจีน โบราณคอยช่วยอยู่ข้างๆล่ะก็ กลัวว่าจะทำให้ไม่สำเร็จ

“สวินโม่ ข้าจะช่วยท่านอ๋องเชื่อมเส้นประสาท แล้วข้าก็ จะช่วยท่านอ๋องฟื้นฟูใบหน้า มันไม่ใช่เรื่องง่าย ข้าอยากให้ท่านช่วย” โล่หวินหลานมองไปข้างหน้าสวินโม่ พูดอย่าง แน่วแน่

ในสายตานาง สวินโม่ไม่มีทีม่าหวาดกลัวหรือท้อถอย มีแต่ อยากจะช่วยอย่างสุดกำลัง ความมุ่งมั่นแบบนี้ ออกมาจาก สายตาของนางที่สะท้อนให้เห็นอยู่เนืองๆ

นางพยักหน้าเบาๆ “พระราชา หากมีเรื่องที่ข้าสวินโม่ สามารถช่วยได้ มท่านได้โปรดพูดมา ข้าจะพยายามให้สุด ความสามารถ”

โม่ฉีหมิงสองมือกำชายแขนเสื้อตัวเองแน่น ไว้ในอุ้งมือ น้ำเสียงราบเรียบ “หวินหลาน การรักษาครั้งนี้ อย่าให้ตัวเอง ต้องบาดเจ็บ”

“วางใจเถอะ” โล่หวินหลานพูดพลาง แล้วเริ่มลงมือเตรียม อุปกรณ์ที่จะใช้

เปิดกล่องอุปกรณ์การแพทย์ ข้างในเต็มไปด้วยอุปกรณ์ ที่ทุกคนไม่คุ้นตา

ครั้งก่อนที่ประดิษฐ์เข็มฉีดยาเสร็จ โล่หวินหลานรู้สึกว่า พอใช้ได้ แล้วก็วาดอุปกรณ์การแพทย์ส่งมอบให้สวินโม่ ใน ตอนนั้น นางก็เริ่มเตรียมการรักษาโม่ฉีหมิงแล้ว

มีดผ่าตัดหนึ่งอัน คีม กรรไกร คีมจับเส้นเลือด นอนแน่นิ่ง อยู่ในกล่อง แล้วยังมีเข็มฉีดยา สายรัดห้ามเลือดละสำลี แล้วยังมียาปฏิชีวนะกับเพนิซิลินที่หลินอ๋องยังใช้ไม่หมดฯลฯ ล้วนแต่เป็นของที่จำเป็นต้องใช้ในวันนั้น

แต่ว่าที่นี่เทียบกับโลกปัจจุบันไม่ได้ อุปกรณ์ที่คิดค้น ประดิษฐ์ไม่รู้ว่าจะทำให้การผ่าตัดครั้งนี้ลุล่วงรึป่าว

สวินโม่ที่อยู่ข้างๆได้แต่งงเป็นไก้ตาแตก ของพวกนี้ใช้ รักษาได้? ทําไมถึงไม่มียา?

“ต่อไปนี้จะเริ่มการผ่าตัด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ ที่ดีนัก แต่พวกเราก็ต้องพยายามรักษาความสะอาดให้ได้ มากที่สุด ฉินหมิ่น เจ้าให้คนไปเอาชุดป้องกันเชื้อโรคมาให้ ข้าที ทุกคนต้องใส่ให้หมด” น้ำเสียงของโล่หวินหลานช่าง เด็ดขาดนัก ท่าทางเหมือนตอนที่นางอยู่ห้องผ่าตัดไม่มีผิด

ฉินหยิ่นรับคำสั่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ