หัวใจอสุเรศ

ตอนที่ 13 นอนร่วมหมอน



ตอนที่ 13 นอนร่วมหมอน

โมฉีหมิงนั่งรถเข็นกลับไปที่ห้องนอนของเขา มีดแล้วแต่ว่าโม่ฉีหมิง ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ไปไหน

เปเฟิงโผล่ออกจากมามุมมีดเขาเห็นโม่ฉีหมิงนั่งเหม่ออยู่ที่ริมหน้าต่าง ก็เลยถามว่า:”ท่านอ๋องท่านกำลังกังวลอะไรอยู่?”

โม่ฉีหมิงถอนหายใจ โม่ฉีหานเปลี่ยนเป้าหมายไปลงมือกับท่านหมอ หลวงโล่เพราะนั่นคือครอบครัวของนางอุบายวิธีการลงมือของโม่ฉีหาน เขารู้ดีกว่าใคร

“จวนโล่มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหม?”โม่ฉีหมิงถาม

เย่เฟิงตอบกลับว่า “หออู่อินแจ้งข่าวมาว่าเว็นอ๋องกล่อมพระสนมเอกต วนเฟยให้รับลูกสาวคนรองของท่านหมอหลวงโล่มาเป็นชายาของหลิน อ่อง”

เมื่อพูดถึงโล่วี่เดโม่ฉีหมิงก็นึกถึงคืนวันนั้นที่เย่หวินกลับมารายงานว่า วันนั้นโล่หวินหลานสั่งสอนโล่วี่เว่กลางตลาดยังยินดีให้โล่วี่เสว่ แต่งงานกับหลินอ๋องอีก? โม่ฉีหมิงรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนุกดีก็เลยหาข้อ อ้าง โม่ฉีหมิงพูดว่า “ไปเรือนเฟิงเห่อ”

พูดจบก็หันเก้าอี้แล้วออกไปเย่เฟิงยิ้มแต่ไม่ได้ส่งเสียงแล้วตามโม่ฉีห มิงไปที่เรือนเฟิงเห่อที่โล่หวินหลานอาศัยอยู่

ในตอนนี้โล่หวินหลานหลับไปแล้วเย่หวินเฝ้าอยู่หน้าประตูเมื่อเห็นโม่ ฉีหมิงกับเย่เฟิงมาในใจก็ดีใจแล้วก็รีบหลีกทางให้

“พวกเจ้าสองพี่น้องเฝ้าอยู่หน้าประตูนี่แหละ”โม่จฉีหมิงไม่ได้หันหลัง กลับมาจากนั้นก็เข็นรถเข้าไป

เย่หวินกับเย่เฟิงสองพี่น้องมองหน้ากันแล้วก็ยิ้ม โมนิหมิงเคลื่อนไหวเบามากไม่ทำให้โล่หวินหลานที่หลับสนิทตกใจ ตื่นเลย เขามาที่หน้าเตียงแล้วเปิดผ้าม่านออกแสงจันทร์ส่องมาที่ใบ หน้าเล็กๆของนาง นางสวยมาก

โม่ฉีหมิงจับเก้าอี้ไว้แน่นแล้วขยับตัวเองขึ้นไปนั่งบนเตียงจากนั้นก็ นอนลงข้างๆ โล่หวินหลานแล้วตะแคงนอนมองดูโล่หวินหลานที่หลับ สนิท

โล่หวินหลานพลิกตัวกลับมาตอนนี้ตัวเขากับนางใกล้กันมากกลิ่นหอ มอ่อนๆจากตัวนางลอยเข้าจมูกของโม่ฉีหมิง

โม่ฉีหมิงหายใจแรงขึ้นเขาอยากจะเว้นระยะจากตัวโล่หวินหลานอีก หน่อย แต่พอขยับโล่หวินหลานกลับลืมตาขึ้นมา โม่ฉีหมิงคิดว่านาง ต้องร้องเสียงหลงเหมือนเจอผีแน่ๆ แต่เขากลับเห็นนางแค่กระพริบตา เท่านั้น

โล่หวินหลานตื่นขึ้นมาเห็นหน้ากากปีศาจอยู่ตรงหน้าในใจก็ตกใจแต่ ก็รีบดึงสติกลับมาคนที่นอนอยู่ข้างนางตอนนี้คือสามีของนางโม่ฉีหมิง

“ไม่กลัวหรอ?”โม่ฉีหมิงไม่ได้ปิดบังเสียงของตัวเองอีกน้ำเสียงนุ่มลึก ชวนหลงใหลดังขึ้นมาในความมืด

โล่หวีนหลานส่ายหัวทันใดนั้นก็ตกใจแล้วถามว่า:”เสียงของ เจ้า….”นางพูดยังไม่ทันจบริมฝีปากของนางก็เหมือนมีอะไรบางอย่าง กดทับ ตัวของนางโผเข้าสู่อ้อมกอดของโม่ฉีหมิง เขาจูบนาง

นางไม่ได้รู้สึกรังเกียจเหมือนกับที่จูบกับโม่ฉีหานเลย มิหนำซ้ำยัง รู้สึกว่าสับสนมากด้วยมันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกมันแปลกมาก สำหรับโล่หวินหลาน

ในโลกก่อนนางเป็นคนบ้างานไม่มีเวลาหาแฟนเลย พอมาถึงในสมัย โบราณจูบแรกของนางก็ดันถูกเจ้าบ้าโม่ฉีหานชิงไป ไม่สินี่ถึงจะถือว่าเป็นจูบแรก ตอนนั้นนางแค่แตะปากไป แต่ในวันนี้ มันไม่เหมือนกันโม่ฉีหมิงจูบนางจริงๆมันดีมากมันทำให้โล่หวินหลาน ปฏิเสธไม่ได้

หลังจูบเสร็จโม่ฉีหมิงก็ไร้แรงเขายิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าวางยาพิษบนปาก อีกแล้วหรอ?”

โล่หวินหลานตกใจได้สติจากนั้นก็รีบขวานหาขวดยาออกมาจากใต้ หมอนแล้วเอายายัดเข้าปากโม่ฉีหมิงไปแล้วปนว่า :”แล้วใครให้เจ้าทำ แบบนี้กันล่ะ”

โม่ฉีหมิงรู้ตั้งแต่สัมผัสริมฝีปากของนางแล้วเขาใช้กำลังภายในฝืนไว้ เพราะไม่อยากเอาปากออกจนกระทั่งทนไม่ไหว

เมื่อกินยาไปแล้วอาการของโม่ฉีหมิงก็หายไปเขาเงยหน้ามองไปที่โล่ หวินหลาน โม่ฉีหมิงดึงมือของนางให้นอนลงแล้วถามนางว่า “ทำไมเจ้า ต้องทำเรื่องพวกนี้เพื่อข้าด้วย?”

โล่หวินหลานยิ้มแล้วตอบว่า:”เพราะเจ้าเป็นสามีข้า ข้าไม่อยากเห็น ใครรังแกหรือดูถูกเจ้า”

ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเขามาก่อนใครก็ตามที่ได้ยินชื่อเขาก็ต่าง

หวาดกลัวเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนเห็นเขาเป็นสามี

ผ่านไปครู่หนึ่งเขายิ้มแล้วพูดว่า :”แล้วเจ้ารู้สึกไหมว่าสามีอย่างข้ามัน ไม่เอาไหน?”

“ไม่เลยโม่ฉีหมิง ข้าไม่เคยคิด ข้าคิดแค่ว่าสิ่งที่เจ้าต้องแบกรับมัน มากเกินไปต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายมากมาย ข้าก็แค่อยากช่วยเจ้า ไม่อยากให้ใครทำร้ายเจ้า”โล่หวินหลานพูดอย่างจริงจัง

นางมาที่นี่ตัวคนเดียวไม่มีเพื่อนกับครอบครัวถึงแม้จะไม่เข้าใจว่า ทำไมนางจะต้องมาเจอเรื่องอันตรายแบบนี้ด้วย แต่ในเมื่อนางมาแล้ว ได้มาเจอกับผู้ชายที่น่าหลงใหลคนนี้มันก็ถือว่าเป็นพรหมลิขิต

นางอยากช่วยเขาเพราะว่ามีเพียงแบบนี้เท่านั้นนางถึงรู้สึกว่าตัวเองมี ค่าขึ้นมาอย่างน้อยก็มีคนต้องการนาง

โมฉีหมิงกอดนางเอาแน่นโล่หวินหลานรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของเขา มันไม่เหมือนหน้าตาที่ไร้ความรู้สึกนั้นเลยแต่มันกลับทำให้รู้สึกสบายใจ

“ต่อไปห้ามวางยาพิษบนปากอีกแล้วก็ห้ามใช้วิธีนี้กับคนอื่นอีก”โม่ฉีห มิงพูดอย่างเผด็จการ

โล่หวินหลานถามกลับไปว่า:”แล้วจะให้ข้าวางยาพิษไว้ที่ไหนล่ะ?”

“บนเสื้อผ้าหรือไง”โม่ฉีหมิงพูดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก

“ได้ ทาบนเสื้อผ้าก็ได้จะได้หมดเรื่องไป”โล่หวินหลานรู้สึกว่าข้อ เสนอนี้ไม่เลวนางไม่อยากจะจูบคนเลวทุกครั้งที่เจอ อีกทั้งนางยังต้อง ทนหิวน้ำจนถึงตอนนี้ด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ