หัวใจอสุเรศ

ตอนที่56 หน้าตา



ตอนที่56 หน้าตา

เย่หวินเหล่ตามองฉินหยิ่น สายตาของเขาส่องประกายวิบ วับ นางยื่นมือดีไปที่สมอง “สงสัยขนาดนี้ เจ้าไม่ไปเองล่ะ?”

ไม่ค่อยเห็นนางท่าทางอย่างงี้ฉินหยิ่นจับหัวที่โดนตี สายตาสงสัย

“เจ้าไม่พูดก็แล้วไป ถ้าอย่างงั้นเรามาแสดงฉากเมื่อกี้กัน ไหม?” ฉินหยิ่นยักคิ้วกวนประสาท

แสดงบ้านเจ้าสิ เย่หวินกระพริบตาปริบๆ ในนั้นมีสายตา อันตรายเตือนอยู่เนืองๆ

สวินโม่ดูสองคนมีความสนิทสนม เขารู้จักสองคนนี้มานาน พวกเขาช่วยงานโม่ฉีหมิงอยู่ตลอด มีบ้างที่ทักกันในบาง ครั้ง ฉินหยิ่นรู้สึกกับเย่หวิน เขาไม่ใช่ไม่ออก

“วันนี้พระราชาสุดยอดมากเลย การหยิบมีด เข็มกับด้าย เหมือนกำลังเย็บผ้าเลย แล้วก็ช่วยท่านอ๋องเย็บเส้นเอ็นที่ ขาดให้เชื่อมต่อกันได้ การแพทย์อย่างนี้ เห็นได้น้อยนัก!” เย่หวินค่อยๆนึกถึงภาพที่โล่หวินหลานกำลังผ่าตัด พลาง ชื่นชมไม่ขาดปาก

“ใช่ ข้าวิจัยการแพทย์มานานแรมปี ไม่กล้าจะเอามีดกรีด เนื้อคน แล้วก็เย็บ แต่พระราชาสามารถทำได้”สวินโม่พูดถึง เรื่องนี้ขึ้นมาบิดขี้เกียจ พยักหน้าอย่างหนักแน่น ในสายตา เขามีแต่ความชื่นชม
อีกอย่างยังเส้นประสาทฉีกขาดที่เท้า ยังจะช่วยเชื่อม ประสานให้ ฝีมือการแพทย์อย่างนี้นับว่าเห็นได้น้อยหนัก!

“ความเก่งกาจของพระราชาพวกเจ้าก็เคยประจักษ์? รักษาโรคของรัชทายาท และยังตอนที่เป็นไข้ทรพิษ แค่นี้ก็ สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าพระราชาการแพทย์เก่งขนาดไหน ฉินหยิ่นกล่าว

เขาไม่เคยสงสัยฝีมือการแพทย์ของโล่หวินหลานเลย และไม่รู้สึกว่าการรักษาแบบนี้จะแปลกสักเท่าไหร่ แค่พวก เขาไม่เคยสังเกตเห็นว่ามีการแพทย์แบบนี้ด้วย

“แต่ว่า หากท่านอ๋องเดินขึ้นมาได้จริงๆ ข้าเชื่อยิ่งหนักว่า เฉินเฟยที่อยู่บนสวรรค์จะต้องดีใจมากแน่ๆ” ฉินหมิ่นเงย หน้ามองขึ้นบนท้องฟ้า ดวงดาวส่องแสงประกายระยิบระยับ

ทุกคนกำลังพูดคุยกัน พูดถึงเรื่องโม่ฉีหมิง พวกเขาต่าง รู้สึกไม่ค่อยดี พวกเขาไม่เคยเจอเฉินเฟยแม่ของโมฉีหมิงมา ก่อน แต่ได้ยินมาปากต่อปาก ได้ยินคราวข่าวจากผู้คนมา บ้าง และก็รู้ว่าอวี่ฉือซู่น่าสงสารขนาดไหน

“ชมพระจันทร์ก็เป็นความสุขของคนเราอีกแบบหนึ่ง! พวก เจ้าทุกคนช่างรู้จักเพลิดเพลินนัก!”เสียงของโล่หวินหลาน ดังมาแต่ไกล ร่างบางเดินมาแต่ไกล สะโพกอ่อนแอ่นโยก ตามจังหวะการก้าวเดิน อยู่ใต้ดวงจันทร์ยิ่งทำให้สวยงาม ยางขึ้น

“พระราชา” ทุกคนไม่คิดว่านางจะมาได้ รีบทำความเคารพกันอย่างรวดเร็ว

โล่หวินหลานปัดมือเบาๆ ให้พวกเขาลุกขึ้น

“พระราชา ท่านอ๋องดีขึ้นบ้างรึยัง?” เขาคำนับโล่หวิน หลาน แล้วจึงถาม

ฟื้นแล้วล่ะ ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และก็ไม่มีอาการ ติดเชื้อ สวินโม่ อีกสองข้าจะผ่าตัดแก้ไขศัลยกรรมใบหน้า ของเขา เจ้าต้องอยู่ช่วยข้าโล่หวินหลานบอกกับเขา

เคยเห็นมือการแพทย์ของโล่หวินหลานแล้ว สวินโม่ไม่ กล้าสงสัยอะไรอีก ได้ยินนางพูดอย่างนี้ ก็พยักหน้ารับคำ “พระราชาต้องการอะไรอีกไหม ข้าจะไปช่วยหา

ศัลยกรรมใบหน้าแน่นอนว่าต้องใช้ผิวหนังมาเปลี่ยนปลูก ถ่าย นางเคยเห็นโม่ฉีหมิงถอดหน้ากาก พื้นที่โดนไฟไหม้ เป็นไม่ค่อยมาก ส่วนมากจะเป็นแผลทางใบหน้าด้านหน้า ผากจรดคาง แผลไฟไหม้บนตัวจะเยอะกว่า

ถึงนางอยู่โลกอนาคตจะเป็นแพทย์เฉพาะทาง ไม่เคย ศัลยกรรมมาก่อน แต่นางก็ไปเข้าเรียนการศัลยกรรมอยู่บ้าง ฟังอาจารย์พากษ์เรื่องศัลยกรรม สิ่งที่ได้เรียนเทียบไม่ได้ กับผู้ชำนาญ แต่ก็เรียนรู้เข้าใจอยู่มากพอสมควร

เพราะฉะนั้น ดังนั้นการศัลยกรรมโม่ฉีกมิงในครั้งนี้ไม่น่า จะมีปัญหาอะไร บวกกับมีสวินโม่เป็นลูกมือช่วย ต้องสำเร็จ แน่ๆ
“ข้าอยากได้ผิวหนังของคน ดีที่สุดคือส่วนของกันและตรง

น่อง”

โล่หวินหลานระลึกตอนอยู่ในชั้นเรียน ถึงแผลไหม้ระดับ สองสามไม่ต้องใช้การปลูกถ่ายผิวหนังก็ได้ แผลไฟไหม้ ของโม่ฉีหมิงยังไม่ถึงระดับสาม แต่ว่าเพื่อให้การศัลยกรรม ฟื้นฟูได้รวดเร็วขึ้น ยังไงก็คงต้องเลือกใช้ผิวหนังปลูกถ่ายดี ที่สุด

แต่ว่า พูดออกไปอย่างนี้ ทำให้สวินโม่ตกใจอยู่ไม่น้อย เขา กำลังดื่มนํ้า ×งดื่มเข้าไปแต่ก็ต้องพ่นออกมา ไออยู่ครู่ใหญ่ หน้า หน้าแดงถึงหยุดได้ เห็นโล่หวินหลานพูดอย่าง ตะกุกตะกัก “พระราชา อะไรนะ ผิวหนังอะไร? น่อง? กัน?

โล่หวินหลานรู้ดีว่าการผ่าตัดแบบนี้คนยุคโบราณยังไม่ ยอมรับกัน แต่ว่าถ้าหากทำให้ใบหน้าของโม่ฉีหมิงดีขึ้น มัน ก็เป็นแค่ทางเดียวที่ทำได้

“ใช่แล้ว ผิวหนังตรงน่องและกัน เจ้าไปหาคนจัดการที” โล่ หวินหลานพูด

ทบทวนเรื่องที่ตัวเองได้ยินจากโล่หวินหลานอีกที ส วินโม่ไม่อึ้งอีกต่อไป เขามีลูกน้องเยอะแยะ แค่ผิวหนังตรง น่องกับกันมัสไม่ใช่เรื่องยากอะไร? เขาพยักหน้า แล้วรีบไป จัดการ

ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น ไม่ทันรู้สึกตัวก็นอนอยู่ในห้องลับ
คืนนี้ โม่ฉีหมิงเหมือนกลัวว่านางจะจากไปไหน กอดนาง จนแน่น นางแค่พลิกตัวเบาๆก็สามารถทำให้เขาตกใจตื่นได้ จากนั้นเขาก็ลืมตาโตจ้องมองโล่หวินหลานนอน

มีบางครั้งที่เขารู้สึกจริงๆว่า เขาเป็นเหมือนเด็กขาดความ อบอุ่นคนหนึ่ง แต่ว่า คนภายนอกดูเขาเป็นเย็นชาแต่ก็ทำให้ นางรู้สึกอบอุ่นได้อย่างน่าแปลก

วันนี้ ข้าจะช่วยเจ้ารักษาแผลที่หน้าเจ้า การผ่าตัดสอง อย่างนี้สำเร็จ เจ้าก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว” โล่ห วินหลานมือหนึ่งใช่เสื้ออีกทางก็นั่ง

สายตาเย็นชาดั่งลมพัดม้วนน้ำในหนองขึ้นมา พัดโบก อย่างแผ่วเบา นัยน์ตาลึกดั่งน้ำตก ยากแท้หยั่งถึง

โล่หวินหลานมองเข้าไปในตาเขาไม่สามารถคาดเดาได้ เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ ดวงตาสีเทากลมในนั้นมีแต่ความเย็น ชา หากรักษาแผลที่หน้าสำเร็จ ถอดหน้ากากออก ใบหน้า คมอันหล่อเหลากลัวว่าจะทำให้สาวเล็กสาวน้อยหลงรักกัน นับไม่ถ้วน

“ก็แค่ใบหน้า ขอแค่ได้หูได้ยิน ตามองเห็น ก็พอแล้วไม่ใช่ หรือ?” น่ำเสียงของเขาหัวเราะเย็น หลายปีมานี้เขาอยู่รอด มาจนถึงทุกวันนี้

สายตาเย็นชาของเขาดังจะกลืนผู้คนเข้าไป มองดูแล้ว เหมือนกับว่าจะไม่ค่อยสนใจอะไร หรี่ตามองออกไปที่นอก หน้าต่าง บานหน้าต่างข้างนอกมีต้นไม้สีเขียวดอกไม้สีแดงแต่งแต้มเข้ามาในดวงตาของเขา เหมือนกับว่าถ้าดูนานอีก หน่อยจะทําให้หัก

แต่โล่หวินหลานเหมือนจะชินกับเขาที่เป็นอย่างนี้ ส่งเสียง หึ ไม่พอใจ “ใบหน้าหล่อเหลาขนาดนี้ถ้าไม่แก้ไขให้ดูดีให้ ผู้คนได้เห็นบ้าง เป็นการเสียดาย”

ได้ฟังที่นางพูดเสร็จ โม่ฉีหมิงรีบเก็บสายตา จ้องมองที่ ดวงตาคู่สวยอย่างจดจ้อง มุมปากค่อยๆยิ้มร้ายๆออกมา เข้า ชิดใกล้ใบหน้าสวย ลมหายใจอุ่นๆรินรดลงมา

“หวินหลาน หากเจ้ารู้สึกว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของข้าไม่ ได้รับการแก้ไขถือเป็นการเสียดาย งั้นเจ้าก็รักษาเถิด รักษา เสร็จแล้ว จะให้เจ้าดูคนเดียว” โม่ฉีหมิงยิ้มร้ายๆ ในรอยยิ้ม นั้นมีความแตกต่างกับตอนที่เย็นชามาก

โล่หวินหลานหันหลังกลับมายิ้มให้เขา มือนุ่มละเอียดลูบ ไปที่หน้าอกเขา กดเขาลงบนเตียง พูดยิ้มๆ “รักษาเสร็จแล้ว !” หากเจ้าออกไปไหนข้าขอสั่งให้เจ้าใช้ผ้าปิดหน้า

ผลักเขาลงบนเตียง นางตื่นแล้ว เย่หวินที่อยู่ข้างนอก ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวข้างใน รีบใช้ให้คนรับใช้ไปเอาน้ำอุ่น มา ให้นางล้างหน้าแต่งตัว

หาสามารถฟังเสียงนกร้องอย่างสงบ ต้องรับแสงแรงของ พระอาทิตย์ตอนเช้าตรู่ ข้างกายมีคนที่รักนอนเคียงข้าง จะ ดีขนาดไหนเชียว แต่น่าเสียดาย ในชีวิตคนเราไม่มีอะไรดั่ง หวังตลอด ชีวิตเงียบสงบอย่างนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ใครหลายคนเฝ้าตามหา

นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เย่หวินช่วยนางหวีผม เป็น เหมือนดั่งเช่นทุกวันเขาชอบแค่ทรงผมที่เรียบง่าย และไม่ ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับทรงผมของคนสมัยนี้ ได้แต่อะไรที่ง่าย ที่สุดก็ทำอันนั้น

มีบางครั้งที่นางอยากแค่มัดหางม้า แต่ว่าความคิดแบบนี้ก็ ถูกเย่หวินจัดการย่างเรียบร้อย บอกว่าผู้หญิงที่นี่จำเป็นต้อง หวีให้สวยงาม

จะหวีก็หวีเลย ถึงยังไงก็ไม่ต้องทำเอง ดูเหมือนจะทำกัน ง่ายๆมีทั้งเปียทั้งกิ๊บ ขั้นตอนสุดท้ายคือให้โล่หวินหลานเม้ม ปากกับชาดทาปากสีแดงสด

ในกระจกไม่เหมือนกับนางเลย ที่แท้ก็สามารถทำให้สวย ขนาดนี้ได้นางลองสังเกตใหล้ๆดูอีกครั้ง ใบไม้มีสีแดงอ่อนๆ ระเรื่อ ในความขาวยังมีเลือดฝาดอยู่บ้าง ดวงตายิ่งมีความ สดใสเพิ่มขึ้น

“สวินโม่ล่ะ?” พอทำเสร็จแล้วทุกอย่าง โล่หวินหลานก็ถาม

ขึ้น

เย่หวินพับเก็บกล่องเครื่องสำอาง พลางตอบ “คุณชายส วินออกจากจวนตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนนี้อยู่ในสวน

โล่หวินหลานพยักหน้า “ให้เขามาพบข้าหน่อย
เมื่อวานเขาช่วยงานได้อย่างดีเยี่ยม สมกับที่เป็นหมอผี โบราณ ใช้อุปกรณ์ที่ไม่เคยได้สัมผัสเรียนรู้อย่างว่องไว เมื่อ วานที่สั่งให้เขาหยิบอะไรไม่มีผิดเลยสักนิด เปรียบเทียบกับ พยาบาลแล้วแทบไม่แตกต่างกันเลย

ไม่นาน สวินโม่ก้าวเท้าเข้ามาอย่างเงียบๆเข้ามาในห้อง ลับ เขาใส่ชุดคลุมสีม่วงทั้งชุด ที่เอวมีผ้าคาดเอวสีดำขาด อยู่ ดูไปแล้วเหมือนดังลมหวน

ในมือเขาถือกล่องใบหนางเข้ามา วางไว้บนโต๊ะ เขา จัดการเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม แค่เวลาสองวัน ก็สามารถหา ผิวหนังที่จะใช้งานได้อย่างสมบูรณ์

โล่หวินหลานเปิดกล่องขึ้นมาดู พยักหน้าอย่างพึงพอใจ มี ของพวกนี้แล้ว ก็สามารถรักษาบาดแผลที่ถูกไฟไหม้ได้แล้ว อีกทั้งให้เขาได้กลับไปใช้ชีวิตปกติที่ควรจะเป็น

“ดี ทำได้ไม่เลว” โล่หวินหลานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

สวินโม่ยิ้มอย่างเบื่อหน่าย มีเพียงแค่สวินโม่เท่านั้นที่รู้ เขา ไปบังคับคนในหวอินโหลวถอดกางเกงยังไง ไปกรีดผิวหนัง ของพวกเขาจากน่องมา

ทำตามที่โล่หวินหลานเคยสอน ใช้มีดกรีดยาว กรีดให้บาง ที่สุด ใช้ไม้สองชิ้น ใช้ของพวกนี้เขาถึงกรีดผิวหนังลงมาได้ หวังว่าชิ้นส่วนพวกนี้จะสามารถใช้รักษาโม่ฉีหมิงได้

“พระราชา ขอแค่เพียงรักษาท่านอ๋องให้หายได้ ท่านจงบอกมาว่าต้องการสิ่งใดอีก” สวินโม่มองดูห้องที่ปิดเงียบ สนิท หากรักษาใบหน้าของโม่ฉีหมิงให้หายได้จริงๆ น่าจะ เป็นเรื่องมหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งเลยก็ได้

“สิ่งที่ควรมีก็มีแล้ว เดี๋ยวก็เริ่มการผ่าตัดได้แล้วล่ะ” โล่หวิน หลานยกกล่องเข้าไปข้างในห้อง นำไปวางข้างกล่องด้วย กัน

โม่ฉีหมิงนอนอยู่บนเตียงค่อยๆขยับร่างกาย มีบ้างที่ค่อยๆ ฝึกใช้ขาที่พึ่งเชื่อมเส้นเอ็นเสร็จ แต่เพียงแค่ขยับนิดเดียวก็ ปวดร้าวจนทนไม่ไหว เขาขมวดคิ้ว นัยน์ตาไม่มีแม้แต่ความ เจ็บปวด นัยน์ตาเย็นชาไม่มีแม้แต่ความรู้สึกใดๆ เพียงแต่ เหงื่อบนร่างกายเขาบ่งบอกทุกอย่างหมดแล้ว

“เจ็บมากไหม?” โล่หวินหลานวางยาลงแล้วรีบวิ่งไปข้าง หน้าเขา รีบดูแผลผ่าตัดของเขาทันที

“ไม่เจ็บ” โม่ฉีหมิงพูดอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้า เพื่อไม่ ให้โล่หวินหลานเป็นห่วง อดกลั้นความรู้สึกเจ็บไม่ให้ แสดงออกไป

ทั้งๆที่รู้ว่าเจ็บ แต่ก็ไม่ยอมรับ โล่หวินหลานรู้ว่าเขาไม่ อยากให้ตัวเองเป็นห่วง นัยน์ตาที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวด นางดูออก

นางค่อยๆกดรอบๆผ้าพันแผลเบาๆ ยิ้มชั่วร้ายมองเขา “ไม่ เจ็บจริงๆหรอ?
ถึงแม้มีอนางไม่ได้แตะโดนบาดแผลของเขา แต่นางได้ แตะไปรอบๆกล้ามเนื้อที่ทําให้รู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ไหว

ความเจ็บมากะทันหันมาก ไม่มีแม้แต่เสียงเดือน เขา ขมวดคิ้วบน เขาลุกขึ้นแล้วรีบจับมือโล่หวินหลาน จูบหนักๆ ลวไปที่ริมฝีปากนาง ลมหายใจและริมฝีปากเย็นทำให้นาง หายใจไม่ออกชั่วขณะ

ผ่านไปครู่หนึ่ง บรรยากาศภายในห้องก็อบอวลไปด้วย ความรัก ได้ยินแต่เสียงริมฝีปาก ฟันและเสียงลิ้นที่เกี่ยวพัน กัน

จูบของเขาลึกซึ้งมาก หนักมาก เหมือนกับจะหลอมเป็น ร่างเดียวกับนาง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ