หัวใจอสุเรศ

ตอนที่ 34 ลอบกัด



ตอนที่ 34 ลอบกัด

พวกเขาเกี่ยวผ้าขึ้นมาจากกะละมังอย่างระมัดระวัง จาก นั้นก็กางมันออกบนโต๊ะ แล้วค่อยๆสํารวจ บนผ้าเหมือนจะมี คราบผงสีขาวเหลืออยู่

โล่หวินหลานยื่นมือไปปาดเศษผงขึ้นมา แล้วมองมันอย่าง ละเอียด จากนั้นนางคิดจะเอาเข้าปากไปลองรสชาติ มือ ใหญ่ๆมือหนึ่งก็จับยั้งมือของนางไว้

“ห้ามลองนะ บนผ้ามันมีพิษแน่นอน” โม่ฉีหมิงจ้องไปที่ มือของโล่หวินหลาน เสียงของเขาหนักแน่นมาก

ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าพิษบนผ้ามันเป็นยังไง โล่หวิน หลานสะบัดมือของโม่ฉีหมิงออก แต่ว่าเขาจับแน่นมาก นาง โกรธจนหายใจแรง แต่ทํายังไงก็สะบัดมือของเขาไม่ออก สักที

“ปล่อยนะ ถ้าไม่ลอง แล้วจะถอนพิษให้ถูกได้ยังไงล่ะ?” โล่หวินหลานจ้องไปที่เขา เหมือนไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้ว

โม่ หมิงกวาดสายตามองไปยังผงสีขาวในมือของนาง เขาไม่อยากให้นางต้องเสี่ยงอันตราย หากต้องลองจริงๆ งั้นก็ให้เขาลองเอง

เขารีบเอานิ้วของโล่หวินหลานเข้าปากของตัวเอง เขาดูด เศษผงนั้นบนนิ้วของนางจนไม่เหลือเลย เขาใช้ลิ้นของเขา เลียมันจนเกลี้ยง
การกระทำของเขาทำให้โล่หวินหลานรู้สึกตกใจ ช่องปาก อันอบอุ่นทำให้นิ้วของนางเย็น วินาทีนั้นเอง ใบหน้าของ นางก็ร้อนเหมือนถูกไฟเผา วินาทีที่เขาก้มหน้าลงนางลืมไป เลยว่านางกำลังอยู่ท่ามกลางอันตราย นางรีบผลักเขาออก

“เจ้าเป็นยังไงบ้าง? อย่ากลืนมันลงไปนะ บ้วนมันออกมา โล่หวินหลานตื่นกลัวแบบไม่รู้ต้องทำอะไรต่อไป เมื่อได้สติ ก็รีบดึงนิ้วออกจากปากของโม่ฉีหมิง

นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางทำมันโง่ไหม โม่ฉีหมิงอดขำไม่ได้ จากนั้นเขาก็หันตัวไปข้างๆแล้วบ้วนพิษออกมา

“พิษนี้ไร้สีไร้กลิ่น ฤทธิ์ของมันแรงมาก” หลังจากโม่ฉีหมิ งบ้านพิษออกมาแล้ว ก็รู้สึกเวียนหัว เขารีบเดินกำลังภายใน คุมมันเอาไว้

“ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องรีบกำจัดผ้าผืนนี้ซะ” ในหัวของโลห วินหลานตอนนี้มีหน้าของสาวใช้ที่ยกกะละมังน้ำกับผ้าเข้า มา

โล่หวินหลานนึกขึ้นได้ว่า สาวใช้คนนั้นจะต้องเป็นคนวาง ยาแน่ๆ

ในตอนนี้ จู่ๆก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่นอกประตู หลังจาก นั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบร้อน โม่ฉีหมิงใช้สายตาจ้องไปที่ ฉินหยิ่นกับเย่หวิน ทั้งสองคนรีบตามไป

ที่นอกเรือนตกแต่งไปด้วยต้นไผ่ ต้นกุ้ยฮว๋าแน่นไปหมด มีเสียงเข้าหู

ทุกคนยืนอยู่กับที่ไม่กล้าวู่วาม ฉินหมิ่นชักกระบี่ที่ไม่ได้ใช้ มานานออกมาแล้วมองไปที่รอบๆ จากนั้นเขาก็รวบรวมกำลัง ภายใน แล้วก็ลอยตัวขึ้นไปที่กำแพง

หลังจากที่กำแพงถูกกระบี่พุ่งเข้าใส่ ไม่เกินสองวินาที มัน ก็ทลายลง หลังจากนั้นก็มีไม้ไผ่ปลายแหลมจำนวนมากพุ่ง เข้าใส่พวกเขา

ในตอนนี้เอง ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาว่า “มีกับดัก รีบถอย เร็ว”

โม่ หมิงรีบดึงตัวของโล่หวินหลานมาไว้ด้านหลังตัวเขา มีไม้ไผ่ปลายแหลม งผ่านแขนเขาไปทะลุไปยังกำแพง ห้อง

“หวินหลาน อันตราย เจ้ารีบหลบไปก่อน” เสียงของโม่ ฉีหมิงดังเข้าหูของเขาอย่างชัดเจน

ใครหลายคนบอกว่าจะรู้ว่าใครจริงใจยามที่เราลำบาก ท่ามกลางอันตรายโม่ฉีหมิงเห็นนางสำคัญเป็นคนแรก อย่า บอกนะว่าเขามีใจให้ตัวนางจริงๆ? โล่หวินหลานไม่มีเวลา คิดเยอะขนาดนั้น ตัวนางถูกโม่ฉีหมิงดันเข้าไปในห้อง จาก นั้นเขาก็ปิดประตู

ภายในห้องที่เงียบมองเห็นพวกเขาใช้กระบี่ปัดไม้ไผ่

ปลายแหลมทิ้ง โล่หวินหลานหมอบอยู่ข้างประตู สายตาของนางมองไปที่เงาของโม่ฉีหมิง

ไม้ไผ่ปลายแหลมพุ่งออกมาจากกำแพง ปัดอยู่นาน ใน ที่สุดก็หยุดลง

โม่ฉีหมิงกำกระบี่เอาไว้ในมือ บนพื้นเต็มไปด้วยไม้ไผ่ ปลายแหลม แสดงว่ามีคนจงใจวางกับดักไว้ลอบกัด

“ฉิงหมิ่น เย่หวิน อย่าวู่วาม มีกับดัก” โม่หมิงสั่งการพวก เขาสองคน สายตาจ้องไปรอบๆราวกับเหยี่ยวที่กำลังจะล่า เหยื่อ

ทันใดนั้นเอง เขาก็ยื่นมือไปเก็บไม้ไผ่ปลายแหลมขึ้นมา แล้วก็ซัดมันไปที่กลางเรือน เพราะมันเหมือนมีคนกำลังเดิน อยู่

ทันใดนั้นเองเสียงก็หยุดลง ภายในเรือนจู่ๆก็มีตาข่าย ขนาดใหญ่กางออกมาคลุมไม้ไผ่ปลายแหลมนั้นไว้ จากนั้น ก็ยกมันขึ้น

ฉินหยิ่นกับเย่หวินเห็นกับดักอันแล้วอันเล่า ในใจก็รู้สึก ตกใจ นี่มันยอดฝีมือคนไหนกันถึงได้วางกับดักได้อย่างแน่น หนาขนาดนี้

ลูกไม้ตื้นๆแบบนี้ โม่ฉีหมิงไม่ได้สนใจ เขายิ้ม แล้วยกกระบี่ ในมือ เล็งไปที่ตาข่ายนั่น แล้วก็ขวางมันออกไป

ตาข่ายหล่นลงมา แต่ว่าตอนนี้โม่ฉีหมิงเริ่มตาลาย เขาเวียนหัวมาก เขารู้สึกเหมือนว่าด้านหลังของเขาเหมือนมี มือเรียวๆมาจับหน้าเขาเอาไว้ ใบหน้าของคนที่คุ้นเคยกำลัง มองมาที่เขา

ท่ามกลางความมึนเขาได้ยินเสียงโล่หวินหลานพูด ด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า “หมิง เจ้าลืมตามองข้า อย่าหลับ

โม่ฉีหมิงพยายามลืมตาขึ้นมา แต่ว่ามือของเขามันยกไม่ ขึ้น เขาอยากจะจับมือของโล่หวินหลานเอาไว้ ไม่อยากให้ นางต้องเป็นห่วงแต่ว่าพอคิดจะพูดปากของเขาก็ดันกระอัก เลือดออกมา

โม่ หมิง เจ้าห้ามตายนะ ลืมตามองข้าง เสียงอัน คลุ้มคลั่งของโล่หวินหลานดังก้องเข้าไปในหูของทุกคน

วินาทีที่โม่ฉีหมิงหลับตาลง ในใจของนางเหมือนมีถูกค้อน อันใหญ่ทุบลงกลางใจ ทั่วทั้งตัวของนางมันไม่สบายใจ มัน ร้อนใจ มันหวาดกลัว วินาทีนั้นนางเช็ดเลือดที่ปากของโม่ ฉีหมิงด้วยมือที่สั่นไปหมด

ไม่มีใครตอบรับเสียงร้องตะโกนของนางเลย มีเพียง สายลมเท่านั้นที่ดังผ่านเข้ามาในหูของนาง เหงื่อบนหน้า ผากของนางไหลลงมา ในนาทีนั้น นางได้ยินเสียงแต่เสียง ของความสิ้นหวังที่น่ากลัว

ฉินหยิ่นกับเย่หวินไม่ทันได้อยู่ช่วยโม่ฉีหมิงพวกเขาตาม

คนที่แอบลอบกัดพวกเขาไป บนหลังคาพวกเขาตามคนชุดดำไป จากรูปร่างแล้วน่าจะเป็นผู้หญิง

ที่แท้คนที่แอบลอบกัดพวกเขาเป็นผู้หญิงนี่เอง คนๆนั้น ลอยตัววิ่งหนีอยู่บนหลังคา เย่หวินจ้องไป แล้วก็ดึงสายสี ขาวออกมาจากแขนเสื้อ จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ผู้หญิงคนนั้น แล้วก็ใช้สายสีขาวรัดตัวนางเอาไว้

ฉินหยิ่นเห็นผู้หญิงคนนั้นถูกรัดด้วยสายแล้ว ก็รีบใช้กระบี่ พุ่งไปใส่นาง เขาเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว พริบตาเดียวก็ตัด ไปที่เอ็นขาของผู้หญิงคนนั้น

นางหล่นลงมาจากหลังคา

“ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?” เหวินเหยียบไปที่หลังของนาง แล้วดึงแขนทั้งสองข้างของนางไขว้มาด้านหลัง

ผู้หญิงคนนั้นเหงื่อไหลออกมามากเพราะความเจ็บปวด แต่ว่านางไม่ยอมพูดอะไรเลย

เย่หวินยื่นมือไปดึงผ้าปิดหน้าของนาง นางคือสาวใช้ที่ยก น้ำเข้าไปเมื่อกี้นี้เอง นางชักกระบี่ออกมา แล้วชี้ไปที่หน้า ของนาง กำลังจะแทงเข้าไป ฉินหยิ่นก็ห้ามนางเอาไว้

“เย่หวิน เราพานางไปให้ท่านอ๋องสอบสวนดีกว่า ไม่แน่ นางอาจจะรู้ก็ได้ว่าใครบงการวางยาพิษรัชทายาท”

ฉินหมิ่นพูดมีเหตุผล หากตอนนี้ทำอะไรบุ่มบ่ามไป ไม่

แน่ว่าอาจจะจับตัวมาเสียเที่ยว อาการรัชทายาทยังไม่ดีขึ้นแม้แต่คนร้ายก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร

ทั้งสองคนคิดๆดูแล้ว ก็พาตัวของผู้หญิงคนนั้น กลับมาหา โม่ฉีหมิง

หลังจากที่พวกเขากลับไป มีชายคนหนึ่งสวมชุดสีดำ โผล่ หน้าออกมาดู เขายิ้มร้าย จากนั้นก็ไป

พวกเขาจับตัวสาวใช้กลับมาถึงที่เรือน แต่พวกเขาไม่เจอ โม่ฉีหมิงกับโล่หวินหลาน เห็นแต่เลือดที่อยู่ที่พื้น

“เกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องกับพระชายาไปไหน?” เย่หวิน ตกใจรีบตามหาไปทั่ว

ภายในห้องนอนมีเพียงรอยเลือดสีนําของรัชทายาท กับ ไม้ไผ่ปลายแหลมที่ตกอยู่ที่ห้อง รอบๆเงียบมาก

ทั้งสองแยกกันไปตามหา แต่ก็ไม่เห็นเงาของโม่ฉีหมิงกับ โล่หวินหลานเลย

ภายในห้องยาของจวนรัชทายาท มีเพียงเงาดำๆที่อยู่ที่ พื้น ไม่มีเทียน มีเพียงแสงสว่างจากแสงแดด

มีรถเข็นคันหนึ่งจอดอยู่ บนรถเข็นมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ริม ฝีปากของเขามีรอยเลือดที่แห้งแล้ว สายตาที่คมกริบตอนนี้ มีเพียงขนตาที่เหมือนลอยอยู่กลางอากาศเท่านั้น

ภายในห้องยา ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังค้นหายาไปทั่วห้องเปิดขวดแล้วขวดเล่า แต่ก็ไม่พบยาที่นางต้องการจะหาเลย

ขวดยาที่นางเปิดออกดูแล้ว ทุกคนถูกทิ้งลงบนพื้นหมด

“หวินหลาน ….. เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น มันเหมือนกับ ลมที่พัดผ่านเข้ามาในหูของโล่หวินหลาน

โล่หวินหลานหยุดค้นหายา

เสียงเรียกชื่อนางก็ดังมาจากด้านนอกอีกครั้ง “หวิน หลาน”

โล่หวินหลานน้ำตาคลอเบ้า นางทิ้งยาในมือ แล้วรีบพุ่ง ตรงไปหาคนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้รถเข็น

“เจ้าฟื้นแล้วหรอ ข้าคิดว่าเจ้า ” โล่หวินหลานนั่ง ยองๆมองไปที่หน้าของเขา แล้วจับมือของเขาเอาไว้ เสียง ของนางสั่นเครือ

โม่ หมิงจับมือของนางทั้งสองข้างเอาไว้ แล้วปลอบนาง ไปว่า “ข้าไม่เป็นไร แต่ว่าหลังจากลองยาพิษเมื่อกี้มันมี อาการนิดหน่อย แต่ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ขอโทษที่ทำให้ เจ้าต้องเป็นห่วง”

ตอนที่เขารู้ว่าตัวเองถูกพิษ ในใจของเขาไม่ได้หวาดกลัว เลย แต่ว่ารู้สึกว่าโชคดี โชคดีที่โล่หวินหลานไม่ได้ลองยา

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” โล่หวินหลานโล่งใจ
ทันใดนั้นเอง มือสองข้างของเขาก็จับไปที่ใบหน้าของ นาง ท่ามกลางความมืดมันเหมือนแสงไฟเล็กๆจากดวงตาที่ เป็นประกาย ใบหน้าของหน้าร้อนผ่าว นางจับไปที่มือของโม่ ฉีหมิงโดยไร้ความกลัว

“ท่าทางกังวลของเจ้าเมื่อกี้ ชาตินี้ข้าจะไม่ลืมเลย” คำพูด ของโม่ฉีหมิงแฝงไปด้วยการหยอก มือทั้งสองของเขาอยู่ บนใบหน้าของนาง

เสียงหายใจที่หอบแรงมันวนเวียนอยู่ที่หูของโล่หวิน หลาน ลมหายใจที่ร้อนผ่าวมันทำให้ตัวของนางร้อนรุ่มตาม ไปด้วย

ลมหายใจของเขามันเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากที่ร้อน ผ่าวของเขามันเข้าใกล้ปากของโล่หวินหลานเรื่อยๆ แต่ ทันใดนั้นเอง ประตูก็เหมือนจะถูกถีบออกอย่างแรง

“ท่านอ๋อง พระชายา พวกท่านอยู่ในนี้หรือเปล่า? ร้องตะโกนเข้ามาในห้องที่มืดมนอย่างร้อนใจ ” เย่หวิน

ฝีเท้าของนางกับฉินหยื่นร้อนรนมาก เมื่อพวกเขาเหยียบ เข้ามาถึง พวกเขาก็ถึงกลับอึ้งไป

โม่ฉีหมิงจ้องไปที่พวกเขา สายตาของเขาเหมือนจะไม่ พอใจ ส่วนโล่หวินหลานที่หน้าแดงอยู่ข้างๆเขานั้นก็รีบลุก ขึ้น มือไม้เหมือนทําอะไรไม่ถูกเลย

บรรยากาศแปลกๆแบบนี้ มันทำให้เย่หวินรู้สึกทำตัวไม่ถูกนางมองไปที่ฉินหยิ่น แล้วก้มหน้า ไม่กล้าพูดอะไร

ที่แท้ ท่านอ๋องกับพระชายาก็แอบมาพลอดรักกันนี่เอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ