หัวใจอสุเรศ

ตอนที่ 31 ยา



ตอนที่ 31 ยา

นางหน้าแดงแล้วรีบดึงเสื้อขึ้น หลังจากจัดระเบียบแล้วก็ หาย ข้าจะไปนอนแล้ว”

รีบลุกขึ้นนั่ง แล้วพูดเสียงเบาว่า “ไม่เป็นอะไรจริงๆ พรุ่งนี้ก็

พูดจบ นางไม่รอโม่ฉีหมิงตอบกลับ ก็รีบวิ่งไปที่เตียงของ ตัวเอง แล้วเอาผ้าห่มมาห่อตัวไว้แน่น อุณหภูมิความร้อน เพิ่มสูงมากขึ้น นางนอนโดยไม่ขยับตัวเลย ในหัวของนาง ตอนนี้มีแต่ภาพที่โม่ฉีหมิงดึงเสื้อนางลงเมื่อครูนี้

นางก็ไม่ใช่ผู้หญิงไร้เดียงสา เรื่องความใกล้ชิดของผู้ หญิงนางเองก็เข้าใจดี แต่ว่าพอมาเจอกับตัว ทำไมนางถึง ได้อายขนาดนี้ก็ไม่รู้?

นางพยายามเอียงหูฟังอยู่นานถึงได้ยินเสียงรถเข็น ทุก ครั้งที่เสียงล้อเคลื่อนมันเคลื่อนเอาหัวใจของนางไปด้วย ทุกครั้ง เสียงนั้นมันเข้าใกล้มาเรื่อยๆ สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่ เตียง

โล่หวินหลานกลั้นหายใจ ทันใดนั้นเองก็มีมือจับมาที่ ผ้าห่มของนาง แล้วดึงผ้าห่มของนางลงอย่างแรง ดวงตา ของนางประสานกับสายตาที่เย็นชาของโม่ฉีหมิงพอดี

“อย่าห่มแน่นเช่นนั้น เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกหรอก” โม่ฉีห มิงพูดจบ ก็ยื่นมือไปจับผมของนาง จากนั้นก็จูบหน้าผาก ของนาง “ข้าจะไปแล้ว เจ้ารีบพักผ่อนซะ”
เขาไถ่รถเข็นค่อยๆออกจากห้องไป แสงจันทร์ด้านนอก ส่องมาที่ตัวเขา เงาของเขามันสาดเข้ามาในห้อง จากนั้นไม่ นานก็ค่อยๆหายไปจากเรือนนอนของนาง

โล่หวินหลานมองอยู่พักหนึ่ง ใช้มือปิดตาของตัวเอง ไม่ นานนัก เย่หวินก็เดินเข้ามา เป่าเทียนให้ดับ เหลือเพียง เทียนด้านนอกสองเล่มเท่านั้น

หลังจากนั้นสามวัน สวินโม่ไปนั่งรอกู่หวยที่ร้านน้ำชา นั่ง ดื่มชาอยู่ได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง

หวยเอาอุปกรณ์ฉีดยาที่ทำเสร็จแล้วมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เอาแบบออกมาเทียบกับอุปกรณ์ฉีดยา ทั้งสอง อย่างนอกจากขนาดที่แตกต่างกันแล้ว อย่างอื่นก็เหมือนกัน หมด

ของเล็กๆแบบนี้กลับทำให้เขาเสียเวลาไปถึงสามวัน แถม ยังเป็นครั้งแรกที่ทำให้กู่หวยต้องทำผิดกฎ เขาดูแบบก็ปา เข้าไปสองวันเต็มๆ เขาศึกษาลงไปในทุกๆรายละเอียด

เมื่อทำเสร็จก็ปาเข้าไปเที่ยงของวันที่สามแล้ว นึกได้ว่ามี นัดกับสวินโม่ตอนค่ำ ก็ขี่ม้ามาที่ร้านน้ำชาโดยไม่พักเลย

“หากข้าเดาไม่ผิด คู่หวย ของสิ่งนี้คงเป็นของที่เจ้าใช้วิชา ทั้งหมดที่เจ้ามีทำมันออกมาแน่นอน ดูท่าทางข้ามาหาคนไม่

ผิดจริงๆ” สวินโม่ทั้งตะลึงแล้วก็ชื่นชมกูหวยมาก

เขาเอาอุปกรณ์ฉีดยาขึ้นมาคจผ่านจะเจียด ไม่ร้ว่ากำจังชื่นชมกู่หวยหรือว่าชมของสิ่งนี้กัน เขาดึงมันออกมาแล้วก็ ดันมันกลับเข้าไปใหม่ ทำอย่างนี้อยู่พักหนึ่ง

กู่หวยเช็ดเหงื่อ แล้วพูดอย่างถ่อมตัวว่า “ไม่หรอก ข้าก็ แค่ทำมันเต็มที่แค่นั้น ไม่กล้ารับคำชมจากท่านสวินโม่หรอก แต่ว่าข้าแค่ไม่เคยเห็นของแบบนี้มาก่อน ไม่ทราบว่าท่านจะ เอาไปใช้อะไรหรอ?”

สวินโม่เก็บอุปกรณ์ฉีดยา แล้ววางไว้ข้างๆตัว แล้วหยิบเอา ค่าตอบแทนที่เตรียมมาให้กู่หวย

“ข้าได้ใช้ประโยชน์แน่นอน เรื่องที่เจ้าทำของสิ่งนี้ขึ้นมา ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด ไม่งั้นเจ้าต้องรับผิดชอบ” สวินโม่พูด ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง จากนั้นเขาก็ขึ้นม้าไป

เห็นกู่หวยนั่งนับเงินอยู่ เขาก็ควบม้าจากไป

ม้าเร็ววิ่งจนฝุ่นตลบ ไม่นานนักสภาพถนนก็กลับสู่ปกติ

กู่หวยเปิดกล่องที่สวินโม่ทั้งเอาไว้ เมื่อเปิดออกแสงของ ทองคำระยิบระยับเข้าตา เขารีบปิดกล่องลงอย่างรวดเร็ว

ค่าตอบแทนนี้มันมากกว่าที่ตกลงกันเอาไว้อีก นี่ก็เป็น เหตุผลที่คนในยุทธภพชอบที่จะทำงานให้กับสวินโม่

หากทำงานสำเร็จ ค่าตอบแทนที่สวินโม่จะให้ไม่ต้องไป ต่อรองเลย หากเมื่อกี้เขาไม่สามารถทำของสิ่งนั้นออกมาได้ เกรงว่าของที่เขาจะได้รับวา ไม่ใช่กว่าง1จะเป็นดาบก็ได้

กู่หวยเช็ดเหงื่ออีกครั้ง จากนั้นก็อุ้มกล่องทองคำ กลับไป

เมื่อสวินโม่เข้ามาจวนหมิงอ๋องก็ตรงไปที่ห้องยาทันที เขา รู้ว่าโล่หวินหลานกับโม่ฉีหมิงจะต้องรออยู่ที่ห้องยาแน่ๆ

ทั้งสองคนไม่ได้ทำการศึกษาเรื่องยาอยู่ แต่กำลังรอสวิน โม่ เมื่อเขาเข้าไปถึง ก็รีบเอาอุปกรณ์ฉีดยาให้โล่หวินหลาน

ดู

โล่หวินหลานเปิดออกดูอุปกรณ์ฉีดยา นางก็นึกภาพเข็ม จากนั้นก็ทดสอบใช้มันดู นอกจากสีกับขนาดที่ต่างกับของ ในปัจจุบันแล้ว อย่างอื่นก็เหมือนทุกอย่าง

นางพอใจมาก “ทำได้ไม่เลวเลยเหมือนกับที่ข้าวาดภาพ เอาไว้เลย”

ก็ต้องเป็นอย่างนั้นสิ สวินโม่ยิ้ม คนที่เขาหามาต้องไม่ ทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว ฝีมือของกู่หวยถือว่าดีที่สุดในยุทธภพ อยากจะหาคนสลักของอะไรที่มีฝีมือหน่อย คนๆนั้นก็ต้อง เป็นกู่หวย

โม่ฉีหมิงหยิบอุปกรณ์ฉีดยามาจากโล่หวินหลานเขาเอา มันมาดู เขาลองใช้มันแต่ไม่ได้คล่องมือเหมือนกับโล่หวิน หลาน เพียงแต่ว่าของสิ่งนี้มันดูแปลก ไม่รู้ว่ามันใช้งานยัง

ไง
“หลอดฉีดเล็กๆนี่มันเอามารักษาโรคให้รัชทายาทได้ หรอ?” ไม่ฉีหมิงมองไปที่หัวเข็ม แล้วถามด้วยความสงสัย

ไม่เพียงแค่เขา สวินโม่เองก็ไม่อยากจะเชื่อ เขาเองก็มอง ไปที่โล่หวินหลาน

สายตาของทั้งสองมีความสงสัย โล่หวินหลานยิ้ม แล้วพูด ว่า “แค่หลอดฉีดนี้รักษารัชทายาทไม่ได้หรอก หากใช้ร่วม กับยา ฉีดยาเข้าไปในร่างกายของรัชทายาทแล้วล่ะก็ โรค ของรัชทายาทก็จะดีขึ้น”

สวินโม่จูๆก็นึกถึงสัมสองลูกบนชั้นวางของขึ้นมา มันถูก วางจนชิ้น เขาพูดว่า “อย่าบอกนะว่าสัมนั่นก็คือยา?”

โล่หวินหลานยิ้ม สายตาของนางมองไปที่โม่ฉีหมิง ใน สายตาของเขามันมีคำว่าเชื่อมั่นอยู่ ไม่ว่านางจะตัดสินใจทำ อะไร เขาก็เชื่อทั้งนั้น

“ถูกต้อง คิดว่าสัมนั่นก็น่าจะขึ้นราแล้ว เดี๋ยวข้าจะดึงเอา เชื้อมันออกมา แล้วใส่เข้าไปในยา”

โล่หวินหลานพูดจบ พวกเขาก็คิดจะเดินไปดูสภาพของ สัม ยังไม่ทันจะออกจากห้อง เสียงของเย่หวินก็ดังมา

“พระชายา พระชายา ส้มขึ้นราแล้ว” เย่หวินเดินตะโกน เข้ามาในห้องยา

บางจิ่งนา ส่วนอินทยิ่นก็คือสั้นสวงอกั้นรามันโชยเข้าจมูกของทุกคน

ฉินหยื่นวางส้มสองลูกลงจากนั้นก็เปิดผ้าที่คลุมสัมออก กลิ่นราแรงมาก ส้มแต่ละลูกมันเริ่มมีขนสีเขียวอ่อนๆ กลิ่น เหม็นเปรี้ยวฟังไปทั่ว

โล่หวินหลานหยิบมันขึ้นมาดู จากนั้นก็บีบ แล้วก็เอามาดม นางพยักหน้าด้วยความพอใจ รามากขนาดนี้ เชื้อที่จะได้ก็มี มาก แต่ว่านางคำนวณไว้แล้ว มันก็มากพอที่จะรักษาอาการ รัชทายาทได้

“ดีมาก ขึ้นราได้เยอะดี สีขนสวยมาก ระดับความอ่อน ใช้ได้ เย่หวินฉิน หยิ่น ลำบากพวกเจ้าแล้วนะ” โล่หวิน หลานชมด้วยความพอใจ

พวกเขาสองคนถูกชมจนเขินไปหมด จริงๆพวกเขาก็ไม่ได้ ทำอะไรเลย ก็แค่เฝ้าอยู่สามวันเต็มๆ หลังจากนั้นสามวันพอ เข้าไปดู มันก็เน่าจนเป็นสภาพนี้แล้ว

หากไม่ใช่ว่าสัมเน่าพวกนี้มันได้ใช้ประโยชน์ พวกเขาฟัง คำชมของโล่หวินหลานแล้ว อาจจะไม่ชอบใจนัก

“พระชายา ส้มขึ้นราพวกนี้จะเอาไปรักษารัชทายาทยัง ไง?” สวินโมถาม เขายังไม่เคยเห็นใครเอาสัมขึ้นราไป รักษาโรคเลย

“ข้าจะดึงเชื้อมันออกมา จากนั้นจะสกัดมันออกมาเป็น ของเอา อากนั้นก็วีดเอ้าไป
โดหวินหลานพูดอย่าง มั่นใจ คิดว่าพวกเขานาจะดีใจไปกับ ผลที่ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขากลับไม่เข้าใจ แล้วมองมาที่

ทุกคนมองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าคำว่าของเหลว หรือว่านาง ไปอ่านมาจากตำราโบราณเล่มไหนอีก?

โล่หวินหลานเพิ่งรู้สึกตัวว่าคำว่าของเหลวมันเป็นศัพท์ สมัยใหม่ คนโบราณไม่รู้จัก นางถอนหายใจ แล้วก็อธิบายว่า “ก็คือเอาเชื้อพวกนี้มาทำเป็นน้ำ แล้วก็ฉีดเข้าไปในตัวของ รัชทายาท ช่วยรักษาอาการให้เขา”

จากนั้นทุกคนถึงได้เข้าใจ พวกเขารู้สึกแปลกใหม่กับวิธี การรักษาของโล่หวินหลานมาก แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยนางทำยา ได้ยังไง หลายวันมานี่พวกเขาเห็นนางยุ่งอยู่แต่ในห้องยา เพื่อคิดวิธีรักษาอาการของรัชทายาท แต่พวกเขาช่วยอะไร ไม่ได้เลย

โดยเฉพาะโม่ฉีหมิง ในใจของเขามันรู้สึกว่าเขาไม่มี ประโยชน์ ทุกครั้งที่โล่หวินหลานพูดอะไรแปลกๆออกมา เขาไม่รู้แล้วก็สงสัย เขาอยากจะช่วยแต่ก็ทำไม่ได้

ไม่ฉีหมิงหยิบสัมขึ้นมาดู แล้วบีบมันเบาๆ น้ำเหม็นเปรี้ยว ของสัมไหลออกมา เขาหยิบส้มวางลง แล้วพูดว่า “พวก เจ้าออกไปให้หมด เหลือสวินโม่ไว้”

พอทุกคนออกไปจนหมดแล้ว เขาถึงมองไปที่โล่หวินอะไรให้ข้ากับสวินโม่ช่วยไหม?”

โล่หวินหลานรู้ว่าโม่ฉีหมิงอยากจะช่วยนาง แต่ว่าการแยก เชื้อราออกมาไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาทำได้ นางคิดแล้วก็สาย หัว

เห็นสภาพพวกเขาแบบนี้ หากโล่หวินหลานไม่หางานให้ พวกเขาทำคงไม่ได้ ก็เลยเดินเข้าไปมอบหมายภารกิจให้ กับพวกเขา

หลังจากทั้งสองคนฟังโล่หวินหลานพูดจบแล้ว ก็เหมือน อยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูด จากนั้นก็ออกไปจากห้องยา อย่างผู้พ่ายแพ้ แล้วนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตู

“ท่านอ๋อง ท่านว่าพระชายาดูถูกเราเกินไปหรือเปล่า? ทำไมถึงให้เรามานั่งเฝ้าประตูล่ะ? จวนนี้เป็นของท่าน ท่าน แค่สั่งคำเดียว ใครจะกล้าเข้าไปอีกล่ะ?” สวินโม่นั่งอยู่หน้า ประตูอยากจนปัญญา เขาเหมือนจะสงสัยในไอคิวของโล่ห วินหลาน

“นางให้เราเฝ้าเราก็เฝ้าให้ดี จะพูดมากทำไม?” โม่ฉีหมิง จ้องไปที่สวินโม่

เขารีบหยุดพูด แล้วมองไปด้านหน้า ทั้งสองคนนั่งอยู่หน้า ประตูเหมือนรูปปั้น แล้วฟังแต่เสียงเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างใน

สวินโม่เหลือบไปมองโม่ฉีหมิง นี่มันหมิงอ๋องที่ใครได้ยิน

ชื่อก็กลัวซะที่ไหนกับ2 เขาก็เป็นแค่ถ้านเนื้อเดินได้ที่ฉกย้หญิงคนหนึ่งข่มซะวิญญาณกระเจิง เขายอมมานั่งเฝ้าประตู ให้โล่หวินหลานโดยไม่สนใจฐานะของตัวเองแบบนี้

โล่หวินหลานใช้เวลาอยู่ครึ่งวันในการทำยาชิงเหมย เชื้อ ราที่ดึงออกมาจากผลส้มมันบริสุทธิ์มาก แต่ว่านั่นมันก็แค่ ส่วนหนึ่งของยาชิงเหมย มันจะยังต้องใส่ส่วนผสมอื่นๆลง ไปด้วยถึงจะออกมาเป็นยาชิงเหมย

ในความเป็นจริงเวลามันมีไม่มากพอ ส่วนผสมเดิมก็ไม่รู้ ว่าต้องไปหาที่ไหน นางทำได้แค่นึกสูตรยาตามแบบแผน ปัจจุบันแล้วทำเท่านั้น

เวลาผ่านไป โล่หวินหลานคิดค้นยาชิงเหมยอยู่ในห้องยา จนถึงกลางดึก นางถึงบิดขี้เกียจ แล้วตะโกนออกไปว่า “ใน ที่สุดก็สำเร็จแล้ว”

โม่ฉีหมิงที่กับสวินโม่ที่นั่งอยู่ด้านนอกรีบเข้ามาในห้อง ทั้งสองเห็นขวดยาน้ำที่วางอยู่ที่โต๊ะ สวินโม่หยิบมันขึ้นมา แกว่งดู น้ำใสๆนี่สามารถรักษาอาการของรัชทายาทให้หาย ได้หรอ?

ท่าทางของโม่ฉีหมิงเชื่อมั่นในตัวนางมาก แค่มองผ่านๆ แล้วก็ไม่มองแล้ว

“พรุ่งนี้เราก็ไปจวนรัชทายาทกันได้แล้ว รักษาอาการของ รัชทายาทแล้ว เรากับเขาจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก” โม่ ฉีหมิงพูด
“ใช่ พอเรารักษาเขาหายแล้ว ต่อไปก็ไม่มีอะไรติดค้างกับ เขาอีก” โล่หวินหลานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่เมื่อมัน เข้าไปในหูของเขา มันกลับทำให้เขารู้สึกอบอุ่น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ