บทที่ 32 ถูกลอบโจมตี
จนกระทั่งแสงสายัณห์ตกกระทบส่องสว่างเต็มลานบ้าน ก็ยัง ไม่เห็นหมู่เหวินเท้าเข้าวัง
หยวนชิงหลิงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง วันนี้ผ่านไปได้อย่าง
ราบรื่นมาก ตั้งแต่ทะลุมิติมาอยู่ที่นี่ ยังไม่เคยสงบเช่นนี้มาก่อน
กลางคืนหลังจากที่ช่วยเป่าล้างแผลแล้ว ฉางกงกงก็ให้นาง กลับไปพักผ่อนที่ตำหนักอุ่นตะวันตก
หยวนชิงหลิงออกมานอกพระตำหนัก มองเห็นเกี้ยวของฮ่องเต้ หมิงหยวนมาถึงประตูพระตำหนักพอดี นางกำลังลังเลว่าจะรีบไป จากที่นี่เสียหรือว่ารอคำนับเขาก่อนค่อยจากไป แต่กลับมองเห็น คนผู้หนึ่งที่แต่งกายคล้ายองครักษ์เดินหน้าเข้าไปพูดอยู่สองสาม ค่า สีหน้าของฮ่องเต้หมิงหยวนก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน หมุน ตัวจากไปทันที
มาถึงนอกพระตำหนักแล้วยังหมุนตัวจากไป เกิดเรื่องใหญ่ อะไรขึ้นกันแน่
หยวนชิงหลิงกลับไปยังตำหนักอุ่นตะวันตกด้วยจิตใจล่องลอย แม่นมสี่มาเปลี่ยนยาให้กับนาง หยวนชิงหลิงใช้น้ำร้อนเช็ดตัว ล้างหน้า ทําให้ร่างกายผ่อนคลายขึ้นมาก
กินยาแก้อักเสบแล้ว นางก็ขึ้นไปนอนบนเตียง หลายวันมานี้ก็กินแต่ยาแก้อักเสบ ทำให้นางรู้สึกมึนๆ ง่วงนอนทั้งวัน พอร่างเตะกับที่นอน หนังตาก็หย่อนลงมาปิดทันที กระทั่ง ไม่มีเวลาที่จะคิดด้วยซ้ำไปว่าทำไมฮ่องเต้หมิงหยวน มาแล้วก็จากไป
กลางดึก แม่นมก็เข้ามาปลุกนางตื่น
หยวนชิงหลิงขยี้ตา มองไปยังแม่นมสี่ที่ถือตะเกียงยืนอยู่อีกฝั่ง ท่าทีของนางมีความเจ็บปวดบางอย่างที่ปิดบังอยู่ หยวนชิงหลิง เกือบจะเป็นการดีดตัวขึ้นมา ถามเสียงแหบว่า “ไท่ซางหวง……
“ไม่ใช่ ไม่ใช่เพคะ”แม่นม รีบตัดบทของนางทันที “พระสนม รีบลุกขึ้นเถอะ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากวังกัน กู้ซื้อรอท่านอยู่ ข้างนอกเพคะ”
“ออกจากวง “หยวนชิงหลิงมึนงง ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้ ออกนอก
วังไปทําไมกัน
“อย่าถามเลย รีบลุกขึ้นเถอะเพคะ” แม่นมสี่ยื่นมือไปเลิกผ้าห่ม ของนางออก จากนั้นก็หันไปสั่งการว่า “ดูแลเปลี่ยนชุดให้พระ สนมด้วย”
หยวนชิงหลิงเพิ่งจะเห็นว่า ในตำหนักไม่ได้มีแค่แม่นมเพียง คนเดียว ยังมีสาวรับใช้ในวังอีกสองคน
ผ้าเช็ดหน้าเย็นเหยียบผืนหนึ่งพาดอยู่ที่ใบหน้าของนาง แม่นมสี่พูดว่า : “พระสนมต้องสดชื่นสักหน่อย
ไอเย็นทำให้หยวนชิงหลิงตื่นตัวทันที นางเองก็ไม่ได้ถาม แม่นมสี่เป็นคนของไท่ซางหวง นางออกวัง น่าจะเป็นคำสั่งของไทช่างหวงแน่
ไทางหวง โกรธนางหรือ
ฉะนั้นจึงได้ไล่นางไปกลางดึกเช่นนี้
เมื่อออกไปข้างนอก ก็มองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุด เกราะสีเงินที่เอามีดาบคาดเอาไว้ยืนอยู่ตรงระเบียง เห็นนางเดิน ออกมา องครักษ์ก็ยกมือขึ้นคำนับ “กู้ซื้อรับบัญชาส่งพระชายา ออกนอกวัง”
หยวนซึ่งหลิงรู้จักเขา เขาคนนี้คือรองผู้บัญชาการมหาดเล็ก
วันก่อนเขารับผิดชอบในการตรวจสอบคดีที่เป่าตกตึก
ใจนางกระตุกไปวูบหนึ่ง ชื่อคุ้มครองนางออกจากวัง ไม่ช่าง หวงจะไล่นางออกไป
ให้ใครก็ได้ส่งนางออกไปก็พอแล้ว แต่นี่กลับรบกวนรองผู้ บัญชาการมหาดเล็ก
นางก็ไม่ได้ถามออกไป เดินตามกู้ซื้อออกไป
ฝีเท้าของชื่อเร็วมาก หยวนชิงหลิงเร่งตามเต็มฝีเท้า แต่ก็ยัง ห่างกันระยะหนึ่งอยู่ดี
พอมาถึงนอกประตูวัง หยวนชิงหลิงก็หอบหายใจแรง
นอกวังมีรถม้าคันหนึ่งจอดรออยู่ หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้นดู คนที่ขับรถม้ากลับเป็นขุนนางในจวนใต้เท้าทั้ง
ทั้งหยางลงจากม้า วางเก้าอี้เล็กสำหรับเหยียบ ก้มตัวพูดว่า
“เชิญพระชายาขึ้นรถม้า
หยวนชิงหลิงไม่ไต่ถาม เหยียบเก้าอี้ขึ้นไปบนรถม้า
กู้ซื้อลงเส้ไปที่ม้าที่อยู่ด้านหน้า ทั้งหยางควบคุมรถม้า ไปตาม ทางที่มืดสนิท ไปยังจวนอ๋อง
รถม้าวิ่งได้เร็วมาก โคลงเคลงกระแทกตลอดทาง หยวนซึ่ง หลิงรู้สึกเจ็บที่แผล แต่ว่า ก็ไม่ได้ใส่ใจกับความเจ็บปวด เพราะ ในใจถูกความหวาดกลัวที่พูดไม่ออกเกาะกุมไปแล้ว
รถม้ามาถึงจวนอ๋อง และหยุดลง ทั้งหยางลงจากรถม้าเลิก ผ้าม่านให้หยวนชิงหลิงลงจากรถม้า
นอกประตูจวนอ๋องมีโคมไฟดวงใหญ่สองดวงแขวนอยู่ ไอ หมอกปกคลุม แสงระยิบราไร
หยวนชิงหลิงจิตใจไม่สงบ ก้าวขาพลาดไปข้างหนึ่ง สะดุดไป
นิดหน่อย กู้ซื้อรีบเข้าไปประคองไว้
เอ่ยเสียงเบาว่า “พระชายาโปรดระวังด้วย
“ขอบใจ”หยวนซิงหลิงเงยหน้า สบไปยังดวงตาที่เยือกเย็นขอ
งกู้ซือ
“เดินต่อได้หรือไม่”กู้ซือปล่อยนาง และถามขึ้น
หยวนชิงหลิงหมุนข้อเท้า เจ็บมาก แต่นางก็ไม่ได้ให้กู้ซื้อช่วยพยุง เดินกะเผลกเข้าไปเอง
เมื่อเข้าไปในจวน ก็เดินตรงไปข้างหน้า ทั้งหยางจึงพูดขึ้นว่า “คืนวันก่อน ตอนที่ท่านอ๋องออกจากวังได้ถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้ง ตัว บาดเจ็บสาหัสมาก
“สาหัสมากแค่ไหน”ถึงว่าเมื่อวานเขาไม่เข้าวัง ที่แท้ก็ถูกลอบ ทําร้าย
“หยุดหายใจไปชั่วครู่ หลังจากนั้นอ๋องได้ส่งยาจื่อจินมาให้ จึงค่อยๆดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ฟื้น อีกทั้ง ตั้งแต่ยามใหญ่ ว(น.17:00-19:00)ของเมื่อวาน ก็มีไข้สูงอยู่ตลอด ลมหายใจ แผ่วเบา ยังกระอักเลือดไปสองครั้งอีกด้วย ทั้งหยางเอ่ยเสียง
“ทำไมจึงเพิ่งมาหาข้า”หยวนชิงหลิงเอยอย่างร้อนรน
ทั้งหยางยังคงเดินด้วยฝีเท้าเร็ว พูดว่า “ท่านอ๋องห้ามไม่ให้ รายงานในวัง เพราะสถานการณ์เมื่อคืนนี้อันตรายมาก นี่ก็เพิ่งจะ ไปรายงานฮ่องเต้มา แต่คิดไม่ถึงว่า พอไท่ซางหวงรู้เรื่องนี้เข้า ก็ สั่งให้คนไปไต่ถามอาการ จากนั้นก็ให้ฉางกงกงและคนรับใช้เข้า วังไปรับตัวพระชายามา
ทั้งหยางเองก็ไม่รู้ว่าไท่ซางหวงให้เรียกตัวพระชายามาทำไม ฉางกงกงเพียงแต่พูดว่า พระชายาเป็นคนเดียวที่จะช่วยชีวิตท่าน อ๋องได้
หยวนชิงหลิงไม่มีเวลามาครุ่นคิดว่าไท่ซางหวงรู้ได้อย่างไร นึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ฮ่องเต้ไปถึงพระตำหนักฉันคนแล้วก็จากไป คิดว่าคงเพราะคนของจวนอ๋องเข้าไปรายงานเรื่องนี้เป็นแน่
กู้ซือเดินตามหลังอยู่ตลอด ได้ยินที่ทั้งหยางพูด ก็อดไม่ได้ที่จะ ถามหยวนชิงหลิง “พระชายา ความคิดของไท่ซางหวงหรือไม่ค่ะ
“ไม่รู้ เข้าไปดูก่อนเถอะ”หยวนชิงหลิงรู้สึกปวดที่เท้าเป็นอย่าง มาก ในใจก็ร้อนรน
อาจจะเป็นเพราะเจ้าของร่างเดิมนี้ได้หลงเหลือจิตในการ
ควบคุมอารมณ์ไว้
พอมาถึงตำหนักเขียวเยวของหมู่เหวินเท้า สวีหัวหน้า องครักษ์จวนอ๋องพอได้ยินเสียงฝีเท้าก็เปิดประตูทันที ในห้อง แสงไฟสลัว กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง ไอแห่งความตายปกคลุม อย่างหนาแน่น
หยวนชิงหลิงถูกกลิ่นคาวเลือดนรมจนทำให้เข่าอ่อน นางอื่น มือคิดจะจับประตูเอาไว้
แต่ประตูกลับเลื่อนถอยออกไปตามแรงของนาง ตัวนางล้มลง ไปข้างหน้า
สาวใช้ของอ๋องนามว่าหลอรีบเข้ามาประคองนางเอา
ไว้ พระชายาระวังด้วย ”
หน้าผากของหยวนชิงหลิง โขกกับพื้นจนผิวถลอก มีเลือดซิบ
ออกมาก ศีรษะยิ่งรู้สึกหนักยิ่งขึ้นอีกหลายส่วน
นางรู้สึกอารมณ์เสีย ในใจ นี่ตัวเองเป็นอะไรไป ใช่ว่าจะไม่เคย จัดการกับคนที่มีอาการหนักเสียหน่อย ทำไมต้องลุกลี้ลุกลนขนาดนี
ไม่ง่ายเลย กว่าจะเดินไปถึงหน้าเตียง พอเห็นคนที่นอนอยู่บน เตียง นางสูดลมหายใจเย็นเข้าหนึ่งเชือก
เขา……. คือองหมู่เหวินเท้า
บาดแผลขนาดใหญ่จากข้างหูซ้ายไปจนถึงโหนกคิ้ว ด้วย ความลึกของบาดแผล สามารถมองเห็นกระดูกได้ ทั้งสี่ด้านของ บาดแผลบวมขึ้น ศีรษะถูกพันเอาไว้ ดูแล้ว ก็คงจะมีบาดแผลเช่น
ดวงตาของเขาปิดสนิท สีหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ ริมฝีปาก ไร้สีเลือด ราวกับไม่มีลมหายใจ เหมือนคนที่ตายแล้ว
“บาดแผลสิบแปดจุด ช่วงท้องได้รับสองแผล ไหล่สองข้าง เท้า สองข้าง ด้านหลัง ล้วนมีบาดแผล ”
ในมุมหนึ่ง มีคนพูดขึ้นอย่างสงบ
หยวนชิงหลิงเงยหน้ามองไป อ๋องฉียืนอยู่ข้างฉากกั้น น้ำเสียง ตกใจระคนปวดร้าว
หยวนชิงหลิงสูดลมหายใจเข้าอีกครั้ง สิบแปดแผลดาบ เขา
ยังมีชีวิตรอดอยู่
“หมอหลวงเล่า”หยวนชิงหลิงถามเสียงแหบพร่า “ทำไมไม่
เชิญหมอหลวง”
“หมอหลวงกลับวังไปแล้วทั้งหยางเอ่ยเสียงขรึม เป็นเขาที่ส่งหมอหลวงกลับเข้าวังไปเอง หมอหลวงพูดว่า แม้แต่เทวดาก็ช่วย ไม่ได้ เหลือเพียงลมหายใจเดียวเท่านั้นแล้ว
“เปิดผ้าห่มขื่น ข้าจะดูบาดแผล หยวนชิงหลิงรีบพูดขึ้นทันที
ทั้งหยางเดินไปข้างหน้าเลิกผ้าห่มขึ้น ถอดเสื้อผ้าเขาออก เหลือเพียงบริเวณช่วงท้องกับขาอ่อนที่ถูกปิดเอาไว้ด้วยผ้าบางๆ บาดแผลได้ถูกทำความสะอาดแล้ว แต่ว่า ผิวหนังของบาดแผล เปิดออกมา มีเลือดไหลซึม สถานการณ์ไม่ดีเอาเสียเลย
หยวนชิงหลิง โน้มตัวลงไป ฟังเสียงการเต้นของหัวใจ การ หายใจ หัวใจเต้นอ่อนมาก หยุดบ้างเต้นบ้าง เสียเลือดไปมาก ไม่สามารถให้เลือดได้ มีอาการของหัวใจล้มเหลวเกิดขึ้นแล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ