บัลลังก์หมอยาเซียน

บทที่ 64 งั้นช้าก็จะฆ่านาง



บทที่ 64 งั้นช้าก็จะฆ่านาง

เสียนเฟยจิตใจร้อนรุ่มกระสับกระส่าย “เจ้าไปล่วงเกินผู้ใดกัน แน่? ทำไมจึงได้ลงมือหนักขนาดนี้?”

“ลูกไม่ได้ล่วงเกินผู้ใด” หยู่เหวินเท้าปลอบประโลม “เอาละ ไม่เป็นไรแล้ว มือสังหารถูกฆ่าล้างหมดแล้ว ลูกจะไม่มีอันตราย ใดๆอีก”

“แม่ไม่ได้โง่นะ ” นางเงยหน้ามองหยวนชิงหลิงแวบหนึ่ง อารมณ์โกรธมาอีกแล้ว “เจ้ามัวอึ้งอยู่ทำไม? ไม่รู้จักสั่งข้ารับใช้ ไปตุ๋นน้ำแกงให้ท่านอ๋องหรือไง? มีใครที่ปรนนิบัติคนอื่นเช่นเจ้า บ้าง?”

หยวนชิงหลิงมองหมู่เหวินเท้า “ท่านอ๋องอยากทานอะไร?”

เสียนเฟยกล่าวอย่างโมโห “เจ้าก็ไปส่งคนไปทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่เหรอ? แม้แต่คนบาดเจ็บควรจะทานอะไรเจ้ายังต้องถาม เรื่องเล็กน้อยก็จัดการได้ไม่ดี ดูแล้ว เรื่อง ในจวน เจ้าก็คงดูแลไม่ ไหว งั้นก็หาคนมาช่วยเจ้าแบ่งเบาภาระหน่อย

หยวนชิงหลิงยิ้มในใจ มาเพราะเรื่องแต่งชายารองใช่มั้ยละ? กลัวข้าจะโวยวาย? มองข้าสูงเกินไปแล้ว ข้าไม่กล้าหรอก

เสียนเฟยค่อยๆนั่งตัวตรง ทำหน้าจริงจัง “ครั้งนี้ที่แม่มา นอก จะมาดูอาการบาดเจ็บของเจ้าแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่ต้องการหารือ กับลูก”
หมู่เหวินเท้ารู้ว่านางจะพูดอะไร แล้วกล่าว เอาไว้ก่อนเถอะ “วันนี้อาการบาดเจ็บของลูกยังไม่หายดี ยังไม่สะดวกที่จะพูด ตอนนี้”

“จําเป็นต้องพูด” เสียนเฟยกล่าวอย่างแข็งกร้าว “แม่ได้เอ่ย เรื่องนี้กับเสด็จพ่อของเจ้าแล้ว เสด็จพ่อของเจ้าไม่ได้คัดค้าน รอ เพียงแค่ให้คนไปถามตระกูล หากตระกูลอู่ตกลง เรื่องก็จัดการ ตามนี้เลย อีกอย่าง หากเสด็จพ่อเจ้าพูดแทนเจ้า ตระกูลไม่มี ทางที่จะไม่ตกลง เจ้าเพียงแค่รักษาอาการบาดเจ็บให้ดี เมื่อหาย ดีแล้ว ก็สามารถจัดงานได้เลย

“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว” ใจของหมู่เหวินเท้านั้นว้าวุ่นมาก ไม่ อยากที่จะเอ่ยเรื่องนี้ในเวลาที่สำคัญแบบนี้

เสียนเฟยกล่าวอย่างจริงจัง “ตรงนี้ไม่มีคนนอก มีอะไรที่พูดไม่ ได้? หากไม่มีเรื่องจวนเจ้าหญิงเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว เจ้าก็แต่งกับชุ่ย เอ๋อไปนานแล้ว ก็คงไม่ต้องมาเป็นเช่นนี้มั้ง? ถูกเสด็จพ่อเจ้าเย็น ชารังเกียจก็ยังพอทน ยังต้องมาถูกคนลอบทำร้าย สังหารตาม อำเภอใจอีก ใครก็ตามที่มีจิตสำนึก ก็คงไม่คัดค้านเจ้าแต่ง ชายารอง เพื่อความมั่งคงของตำแหน่ง

คำพูดนี้ เห็นได้ชัดว่าเสียนเฟยเจาะจงที่จะพูดให้หยวนชิงหลิง ฟัง

ความเกลียดชังที่เสียนเฟยมีต่อหยวนชิงหลิงนั้นไม่ใช่น้อยๆ ความหวังที่มีมาหลายปี พังทลายไปในพริบตา ไม่ทันตั้งรับ ทำให้นางปล่อยวางไม่ได้เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม
ปีนี้ทั้งปี นางสุขภาพไม่แข็งแรง ก็เพราะเกิดจากความเครียด สะสม

นางเหลือบมองหยวนชิงหลิงอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ไม่นึกว่า นางกลับทำเป็นไม่ได้ยิน สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิด เดียว ขณะนั้นก็โมโหขึ้นมาทันที “ข้าขอเตือนเจ้า เรื่องนี้เจ้าต้อง ยินยอม ไม่ยอมก็ต้องยอม หากกล้าเล่นตุกติกละก็ ข้าคนแรกที่ จะไม่ยอมปล่อยเจ้า

หยวนชิงหลงกล่าวอย่างเรียบเฉย “ต่อให้ต้องจะหย่า ข้าก็ ไม่มีความคิดเห็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องแต่งชายารองเลย เรื่องนี้ ข้าได้แสดงความคิดเห็นต่อหน้าฮ่องเต้แล้ว พวกท่านคุยกันเถอะ ข้าขอตัวก่อน!”

พูดจบ นางก็หันกายเดินออกไป

เสียนเฟยคิดไม่ถึงว่าหยวนชิงหลิงจะใช้ท่าทีแบบนี้ปฏิบัติต่อ นาง นี่ไม่ใช่ท่าทีที่จะประนีประนอม ดูท่าทางแล้วเหมือนอยากจะ ก่อเรื่อง ดูแล้ว นางคงคัดค้านเจ้าห้าแต่งชายารองแล้ว

เสียนเฟยสีหน้ามืดมน เหลือบมองหมู่เหวินเท้าอย่างเย็นชา แวบหนึ่ง “ปกติเจ้าก็ตามใจนางเช่นนี้?”

หมู่เหวินเท้าเงยหน้าขึ้น “ชีวิตของลูก นางเป็นคนช่วยเอาไว้ ตอนนั้นหมอหลวงยังยอมแพ้เลย

เสียนเฟยตกใจ “นาง นางมีทักษะการแพทย์?” จากนั้น ก็กล่าว “ดูท่าทางที่ไม่เอาไหนของเจ้า ตอนแรกเจ้าไม่ยอมที่จะแต่งกับนางเลย บัดนี้กลับเอานางมาเป็นข้ออ้าง นี่แค่ อยู่ด้วยกันหนึ่งปีเอง ก็มีความผูกพันแล้วเหรอ? เจ้าอย่าลืมนะ นางกับเจ้าพระยาจิ้งวางแผนยังไงกับลูก อีกอย่าง คนอย่างเจ้า พระยาจิ้ง ใช้ไม่ได้จริงๆ เจ้าต้องหาวิธีให้ตระกูลสนับสนุนเจ้า จึงจะมีโอกาสพลิกผัน

หมู่เหวินเท้าเอือมระอาเล็กน้อย “ท่านแม่ เรื่องพวกนี้ค่อยคุย กันวันหลังได้มั้ย? ตอนนี้ข้าไม่มีกะจิตกะใจที่จะมาคิดเรื่องวุ่นวาย เหล่านี้”

เสียนเฟยถอนหายใจ “ แม่หวังดีต่อเจ้า ตำแหน่งนี้ลูกไม่แย่ง ชิง คนอื่นเขาก็ไม่ปล่อยลูก แล้วทำไมไม่พยายามดูสักตั้งล่ะ? ตอนแรกหากไม่ใช่ตระกูลเข้ามาสอดแทรก แม่ของเจ้าก็ได้เป็น ฮ่องเฮาไปแล้ว เจ้าก็เป็นองค์ชายที่กำเนิด โดยฮองเฮา ยังจะต้อง มาแย่งชิงอีก?”

หมู่เหวินเท้าหลับตาลง แย่งชิง? ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ เขา ไม่เคยคิดที่จะแย่งชิง

เสด็จพ่อยังหนุ่มอยู่ ต่อให้แต่ตั้งรัชทายาทแล้ว ตำแหน่ง รัชทายาทนี้จะมั่นคงได้นานแค่ไหน? ตั้งแต่วันที่เขาเข้าสู่ สนามรบ สิ่งที่คิดในใจก็คือปกป้องชายแดนของเปยถังให้อยู่

แต่ความพยายามของเขา ทุกคนต่างคิดว่าเขานั้นทำเพื่อ

ตำแหน่งรัชทายาท

เสียนเฟยเห็นเขาเหม่อลอย ดูเหมือนจะสูญเสียจิตวิญญาณใน การต่อสู้ไปแล้ว อดไม่ได้ที่โกรธ “เจ้าดูท่าทางของเจ้าตอนนี้?หากเจ้ายังขาดพลังเช่นนี้ ไม่ช้าเสด็จพ่อของเจ้าก็คงจะถอดยศ อ๋องของเจ้าออก เจ้าจะสู้เพื่อแม่สักครั้งไม่ได้เลยเหรอ?”

หมู่เหวินเท้าก็ลืมตาขึ้นมาทันที แววตามีความโกรธเกลียด “สู้? เสด็จแม่จะให้ลูกต่อสู้อะไร? ให้ลุกไปแย่งชิงตำแหน่งรัชทา ยาทรี?”

“เจ้าเสียงดังขนาดนี้ทำไม? กลัวคนอื่นไม่ได้ยินเหรอ?” เสีย นเฟยลุกขึ้น มองเขาอย่างเย็นชา “ตำแหน่งรัชทายาทนี้มันเป็น สิ่งที่เจ้าควรจะได้ บัดนี้ถึงขั้นต้องมาแย่งชิงกัน มันก็ไม่ยุติธรรม ต่อแม่แล้ว ตระกูลของแม่เพื่อลูกแล้ว ต้องเสียสละไปตั้งเท่าไหร่ เจ้ารู้หรือไม่? เจ้าจะทำให้พวกเขาผิดหวังได้อย่างไร?

หมู่เหวินเท้าได้ยินคำพูดนี้แล้ว ไม่โกรธแต่หัวเราะ “เสียสละ ไปตั้งเท่าไหร่? แล้วพวกเขาเอาไปจากข้าอีกเท่าไหร่? ข้าไม่เคย บอกให้พวกเขาเสียสละ พวกเขาเป็นอำมาตย์ของเสด็จพ่อ ภักดี ต่อเสด็จพ่อและราชสำนักก็พอ เสด็จพ่อยังหนุ่มอยู่ มาคิดเรื่อง พวกนี้ทําไม?”

“เจ้าช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!” เสียนเฟยโกรธจนสั่นไปทั้งตัว “ดู เหมือนวันนี้ข้าจะมาผิดแล้ว เจ้าเป็นคนดื้อรั้น ไม่สนใจความหวัง ดีของแม่ สักวันเจ้าต้องลำบาก

ทั้งหยางที่ฟังอยู่ด้านข้าง รีบเข้ามาคลายสถานการณ์ “ท่าน หญิงเสียนเฟย บัดนี้ท่านอ๋องอาการบาดเจ็บสาหัส ไม่เหมาะที่จะ คุยเรื่องเหล่านี้จริงๆ ไม่ดีเท่า รอให้ท่านอ๋องหายดีแล้วค่อย วางแผนกันใหม่”
“ไม่มีอะไรน่าวางแผนแล้ว เรื่องชายารอง ตอนที่มีอำนาจต้อง จัดการเลย มันยากที่เสด็จพ่อเจ้าจะเห็นด้วย หากเจ้ากลัวหยวน ชิงหลิงคัดค้านไม่กล้าแต่ง ข้าก็จะฆ่านางก่อน”

หมู่เหวินเท้าไม่มีกะจิตกะใจที่จะพูดเรื่องนี้กับนาง กล่าวอย่าง เฉยเมย “ฆ่าเถอะ ท่านแม่พอใจก็พอแล้ว”

เสียนเฟยแววตาเย็นชา “เจ้าอย่าพูดไปเรื่อยนะ เมื่อถึงเวลา

แม่ลงมือจริงๆ เจ้าก็จะโกรธแม่

ถังหยางยิ้มเจื่อนๆอยู่ด้านข้าง “ท่านหญิงอย่าโกรธเลย ท่าน อ๋องเจ็บแผล ไม่มีใจคิดเรื่องอื่นจริงๆ เชิญท่านหญิงไปทานของ ว่าง แม่นมณีรู้ว่าท่านหญิงจะมา ก็ได้เตรียมของว่างที่ท่านหญิง ชอบแต่เช้าเลย”

เสียนเฟยที่ยังโกรธอยู่ ก็กล่าวอย่างเย็นชา “ข้าไม่ทานข้ามา ที่จวนของลูกชายตัวเองยังต้องลำบากใจ จะทานทำไม? เจ้าก็ ปรนนิบัติท่านอ๋องดีๆ ข้าไปก่อนละ?”

เสียนเฟเหลือบมองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของหมู่เหวินเท้าแวบ หนึ่ง ยิ่งรู้สึกหมดอารมณ์ ท้อแท้ผิดหวัง หันหลังจากไป

ทั้งหยางรีบออกไปส่งนาง พอดีแม่นมฉีกำลังยกของว่างเข้า มา “ท่านหญิง ข้าน้อยได้เตรียม………….

เสียนเฟยไม่แม้แต่จะแลมันเลย ยื่นมือไปปัด ของว่างก็ร่วง หล่นบนพื้น แม่นมฉีตกใจจนรีบคุกเข่าลง “ข้าน้อยผิดไปแล้ว!”

เสียนเฟยไม่ได้หยุดเดิน กวาดชายกระโปรงไปตามขั้นบันไดหิน และจากไปอย่างเย็นชา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ