บัลลังก์หมอยาเซียน

บทที่ 25 ข้าจะต้องตายแล้วใช่ไหม



บทที่ 25 ข้าจะต้องตายแล้วใช่ไหม

จริงอย่างที่คิด ฉู่หมิงซุ่ยเมื่อเห็นใบหน้าของไท่ซางหวงหนัก หน่วงไป

ฉู่หมิงซุ่ยเห็นดังนั้นเข้าใจได้ทันที ไท่ซางหวงเอ็นดูและ โปรดปรานพระชายา ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงให้หยวนชิงหลิงมา ดูแลในตำหนัก แต่น่าเสียดาย หยวนชิงหลิงเป็นคนงี่เง่าอหังการ มักจะโอ้อวดแต่ไม่มีความสามารถในการทำสิ่งต่างๆ

หมอหลวงที่เห็นสีหน้าที่ไม่มีของพระองค์ ก็รีบยกขาออกไป

แต่ไท่ซางหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “ยังไม่รีบยกยามา? ไม่ ได้ยินที่พระชายาบอกให้ต้องกินยาหรือไง? ”

ทุกคนถึงกับอึ้ง ทุกสายตาจับจ้องไปที่หยวนชิงหลิง

โดยเฉพาะหมิงชุ่ยที่สีหน้าเปลี่ยนไป นางไม่อยากเชื่อหูของ ตัวเองเมื่อครู่

หยวนชิงหลิงได้แต่ก้มหน้า ที่จริงนางเองก็ไม่อยากจะพูดแบบ นี้เท่าไหร่ แต่ทว่า หากไม่ช่างหวงไม่ยอมกินยา แต่อาการหายดี ขึ้น สิ่งที่ทำให้ผู้คนสงสัยแน่

สีหน้าของฮ่องเต้หมิงหยวนก็รู้สึกยินดีมีความสุข “ยังไม่รีบยก ยามา? ”

ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงช่วงเวลานี้ ฮ่องเต้หมิงหยวนเองก็แลตามองดูหยวนชิงหลิงบ้างเสียที แถมเขายังมีความชื่นชมในตัวนาง อยู่ไม่น้อย

ใช่างหวงฮับหนึ่งก็กินยาไปจนหมด เห็นได้ชัดเจนว่าพระองค์ ไม่ชอบรสขมจริงๆ พอกินยาเสร็จ ใบหน้าบูดเบี้ยว ไทเฮารับน้ำ ผลไม้แช่อิ่มส่งให้พระองค์จึงรู้สึกดีขึ้นจากการกินยา

หมู่เหวินเท้าแลมองหยวนชิงหลิงด้วยความซับซ้อนคราหนึ่ง ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ได้ทำให้เขาสบายใจได้เลย เพียงแต่ ทําให้จิตใจเขาระส่ำระสายเสียมากกว่า ไม่คาดว่าเสด็จปู่จะฟัง ค่านาง หรือกระไม่ แผนร้ายของนางจะสำเร็จแล้วอย่างนั้น

ฮองเฮาแม้ว่าพระนางจะทรงยิ้ม แต่ในรอยยิ้มนั้นเปี่ยมไปด้วย ความกังวล ดูเหมือนว่า การที่หญิงชุ่ยพูดมาก็น่าคิดอยู่

ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่ได้ปฏิบัติพระราชกิจ และมาที่นี่เพื่อดูแล

พระองค์โดยเฉพาะ แม้ว่าอาการของไท่ซางหวงจดดีขึ้นมากแล้ว แต่เขาก็ไม่วางใจอยู่ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนหมอหลวงเองบอก ว่าไม่ช่างหวงจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกไม่นาน แต่ตอนนี้ไม่ช่างหวงเองที่ไม่ยินยอมให้พวกเขามาดูแล มี

รับสั่งให้ฮ่องเต้หมิงหยวนและอ๋องซินลุยเสร็จกลับไป

ก่อนที่ฮ่องเต้หยวนหมิงจะเดินออกไป พูดกับหยวนชิงหลิงว่า “ตอนนี้ถือว่ามีคนเยอะ เจ้าใช้โอกาสนี้ไปนอนก่อนเถอะ”

“เพคะ! ” หยวนชิงหลิงทำความเคารพพร้อมกับก้มหัวลงต่ำ นางออกจากตำหนักด้านใน เพื่อจะรีบนอนครู่หนึ่ง ฉางกงกงมาบอกกับนางว่าจัดที่พักให้กับนางแล้วไปพักที่ตำหนักตะวันตก และให้นางกำนัลนำเสื้อผ้ามาให้นางเปลี่ยน รวมถึงยาภายนอก ที่บรรเทาอาการปวด และเตรียมน้ำอุ่นให้กับนาง

หยวนซึ่งหลิงรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย

ฉางกงกงกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “เป็นพระประสงค์ของไท ช่างหวง เดี๋ยวแม่นมสี่จะนำยามาให้ แม่นมสี่ดูแลไม่ห่างหวงมา หลายปีและซื่อสัตย์ต่อ นางไม่ปากมาก พระชายาวางพระทัย เถอะ”

แม้ว่าท่าทางของฉางกงกงดูธรรมดาๆ แต่หยวนชิงหลิงกลับมี ความรู้สึกซาบซึ้งมาก

เมื่อถึงตำหนักอุ่นตะวันตกแล้ว เวลาผ่านไปไม่นาน สาวรับใช้ ในวังก็ยกน้ำอุ่นเข้ามา ผู้ที่ตามมาด้วยเป็นแม่นมที่มีอายุราวๆห้า สิบปี นางได้สวมใส่เสื้อผ้ายาวสีเทา และเกล้ามวยผม มุมคิ้ว และมุมปากมีการหย่อนย้อย มีความสง่าผ่าเผย

“แม่นม! ” หยวนชิงหลิงแสดงความเคารพ

“เจ้าออกไปเถอะ!” แม่นมสั่งให้นางกำนัลออกไป

“เจ้าค่ะ” นางกำนัลทำความเคารพพร้อมกับก้มหัวลงต่ำ

แม่นมสี่ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงบอกให้หยวนชิงหลิงด้วยน้ำ เสียงเป็นมิตร ข้าน้อยช่วยพระนางเปลี่ยนเสื้อผ้า

นางพลางเอ่ย ละหยิบยาขวดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ และ วางลงเตียงไม้แกะ(แบบยกซุ้ม)
คนป่วยไม่ได้มีท่าทางวาจาอะไร หยวนซึ่งหนึ่ง ให้นางถอดเสื้อ

จนเสร็จเรียบร้อย แล้วขึ้นไปนอนคว่ำอยู่บนเตียง

นางได้ยินเสียงการถอนหายใจของแม่นมอย่างเป็นกังวล

มีเสียงจากการใช้กรรไกร แม่นมสี่กำลังตัดผ้าที่พันแผลนาง ออก แผลของร่างบางมันทั้งร้อนทั้งแสบไปหมดร่างบางร้องโอด ครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดมหาศาล นางกำมือแน่นอย่าง ทนไม่ได้

“พระชายาหากทนความเจ็บปวดไม่ไหว ให้กดผ้าไว้นะเพคะ เสียงของแม่นมสี่ปะปนไปด้วยความเวทนาอย่างเศร้าสลด

“อืม” หยวนชิงหลิงกัดไปที่มือของตัวเอง

เจ็บ มันเจ็บปวดมากจริงๆ ทั้งชีวิตของข้ายังไม่เคยได้รับ อะไรที่มันเจ็บปวดราวกับใจจะขาดเช่นนี้มาก่อนเลย

ความรู้สึกน้อยใจเสียใจทำให้น้ำตานางไหลออกมา

บานประตูถูกปิดขึ้น เหมือนมีคนที่เดินมาด้วยท่าที่เร่งรีบ

หยวนชิงหลิงผงะไป เมื่อนางได้ยินเสียงฝีเท้านี่ก็รู้ว่าเป็นใคร นางเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่าอยู่ แม่นมสี่จับ มือของนางไว้ พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “คนที่มาคืออ๋อง อย่าขยับ ตัวเพคะ!

เพราะเป็นอ๋องไงนางถึงอยากปิดไว้ หมู่เหวินเท้าไม่รู้มาก่อนว่าแม่นมอยู่ที่นี่ด้วย เขาเองรู้สึกอึดอัด อยากคุยกับนางให้รู้เรื่อง แต่พอเห็นแม่นม รักษาอาการ บาดเจ็บให้นาง

ทันใดนั้นความโกรธและความสงสัยของเขาก็จุกอยู่ที่คอ

สัมผัสลูบร่างที่เต็มไปด้วยรอยแผลเต็มตัว แววตาของเขาดู หนักหน่วงขึ้นมา

ในส่วนของหลัง ต้นขา สะโพก และส่วนที่ได้ใช้กรรไกรตัดผ้า ออก ล้วนมีแผลเหวอะหวะอักเสบบวมแดง

แผลของนางยังไม่ได้รักษาจริงๆ

เดิมทีหยวนชิงหลิงที่กั้นน้ำตาอยู่นั้น แต่ เพราะเขามัวจับจ้อง มองนางไปทั้งร่างกายเช่นนี้ พลันนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับตนเอง ทำให้นางไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป นางร้องไห้ออกมาทันที

น้ำตาหยดทีละหยด นางเจ็บปวดจนถึงขั้นต้องกัดฝ่ามือของ ตนเอง ไม่กล้าร้องเสียงดัง แต่ฉันไม่สามารถควบคุมการกระตุก ของไหล่ได้

ความโกรธของหมู่เหวินเท้ามีต่อนางค่อยๆหายไปในตอนนี้ ณ ขณะนี้ สิ่งที่เขาคิดไม่ใช่เรื่องที่นางใส่ร้ายเขาตอนที่ในจวนเจ้า หญิง กลับนึกถึงสิ่งที่เธอพูดเมื่อวานด้วยความโกรธตอนที่อยู่ใน กําหนักด้านข้าง

ในตอนนั้นนางร้ายกาจและดุร้ายมาก แต่พอมาในวันนี้นาง กับดูอ่อนแอและร้องไห้ มันช่างดูแตกต่างเปลี่ยนไปมาก
แม่นม เมื่อได้ตัดแผลที่พันแผลออกจนหมด พูดด้วยน้ำเสียง นั่งเรียบกับอ๋อง ข้าน้อยรับกวนพระองค์ช่วยนำผ้าชุบน้ำอุ่นให้ หม่อมฉันหน่อยเพคะ”

หมู่เหวินเท้าหันไป และเห็นว่ามีน้ำอุ่นอยู่ เขานำผ้าลงไปชุบใน น้ำอุ่น และบิดน้ำหมาดๆ

“เช็ดเเพคะ!

“แม่นมสี่กล่าว

หมู่เหวินเท้าไม่มีทีท่าว่าจะทำ ขมวดคิ้วเข้าหากัน บาดแผลนั้น มันไม่ได้ยากลำบากเลยหากเขาอยากช่วยเช็ด แต่ที่ยากกว่านั้น คือ เขาไม่อยากแตะต้องผู้หญิงคนนี้

แม่นม ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง หยิบผ้ามาแทนใจคนเรามี ความรู้สึกนะ ท่านอ๋อง! ”

หมู่เหวินเท้าเป็นเด็กที่แม่นมสี่เลี้ยงดูมา เขาไม่กล้าเถียงอะไร

ใบหน้าของเขาดูซีดเซียว และร้อนแผ่นบนใบหน้า

ผ้าค่อยๆเช็ดลงไปร่างนาง หยินชิงหลิงรู้สึกปวดแสบปวดร้อน ตัวนางสั่นเทา นางส่งเสียงร้องอึกอักอยู่ในลำคอ เสียงนี้ มันยิ่ง กว่าคนที่ร้องไห้ออกมาช่างน่าสงสาร

“แผลเหล่านี้ หลายวันมานี้พระนางทนพิษบาดแผลมาได้ อย่างไรกัน”แม่นมสี่สงสารนางจับใจ นางเงยหน้าไปมองที่หมู่เห วินเท้า พระองค์ไม่อยากช่วยเช็ดบาดแผลนี้ ช่วยเอายามาให้ หน่อยคงได้นะเพคะ? ”

หยู่เหวินเท้าเดินไปหยิบยามา โรยลงบนแผลขนาดใหญ่ของหยวนชิงหลิง เดิมทีเนื้อแผลยังชื้นแฉะอยู่ พอโรยผงยา ทำให้ดู แห้งไปมาก แต่ทว่า วงแผลที่ถูกแต้มด้วงยาผงสีขาว ก็ทำให้เห็นรอยต่าง

ดวงน่ากลังมากยิ่งขึ้น

หยวนชิงหลิงเริ่มมีอาการไอ ในตอนนั้นเอง นางไอๆ ไอจน ตัวนาง โค้งงอ น้ำตารินไหลออกมาด้วย ท่ามกลางความตกใจ นางเองก็ไม่ลืมที่จะนำผ้าขึ้นมาคลุมที่หน้าอกของตัวเอง นางรู้สึก อายและน่าสมเพชตัวเอง

อาเจียนออกมาเป็นเลือด เลือดเต็มปากพุ่งออกจากปาก

เลือดสีแดงพุ่งลงไปในหมอนสีขาว เหมือนดอกโบตั๋นสีแดงที่ เต็มไปด้วยเลือด

สีหน้าของแม่นมสี่เปลี่ยนไปเป็นห่วงนางมาก นางเงยหน้า

จ้องมองไปที่หมู่เหวินเห่า “เจ้า….….….……

แม่นมสีน้ำท่วมปาก เป็นเพราะนางรักและเอ็นดูอ๋องฉู่มาก จึง ไม่อยากแม้แต่ว่าตำหนิเขา เพียงแค่ส่ายหัว “พระเจ้าเอ๋ย พระ ชายาทําสิ่งใดผิดใหญ่หลวงหรือกระไร? เหตุใดจึงได้รับโทษ หนักขนาดนี้ ?

“ฉันจะตายแล้ว ใช่ไหม? ” หยวนชิงหลิงรู้ว่าเป็นเพราะน้ำจื่อ จิน นางไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ที่นางอาเจียนออกมาเป็นเลือด หลายครานี้สาเหตุต้องเกิดจากน้ำจือจินนี้แน่ ตอนที่แม่นมณีและ ลู่หยาให้นางกิน นางรู้สึกว่าน้ำจื่อจินมีสารที่ทำมาจากยาพิษ
นางดึงแขนเสื้อของหมู่เหวินเท้า ใบหน้าซีดเงยขึ้นเล็กน้อย มุมปากของนางแดง การที่ออกแรงเยอะขนาดนี้ ทำให้นาง รู้สึกเจ็บปวดจนถึงกับต้องกัดริมฝีปากตัวเอง นางจ้องไปที่หมู่เห วินเท้า แววตาที่เปี่ยมไปด้วยความโกรธเคือง “ข้าขอร้องเจ้า หนึ่งเรื่อง ก่อนข้าจะตาย เจ้าช่วยหย่ากับข้า ขายอมตายก็ไม่ อยากเป็นพระชายานี้อีกต่อไป!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ