บัลลังก์หมอยาเซียน

บทที่ 23 จริงๆแล้วหิวจนไส้กว



บทที่ 23 จริงๆแล้วหิวจนไส้กว

ในพระตำหนักฉินคุน

ไท่ซางหวงพูดคุยกับฮ่องเต้หมิงหยวนและอ๋อง เลยอยู่ครู่ หนึ่ง ก็เริ่มง่วงแล้ว สั่งให้พวกเขา และหมอหลวงออกจาก กําหนักไป

ในตำหนักเหลือเพียงแค่หยวนซึ่งหลัง

ตอนที่ฮ่องเต้หมิงหยวนเดินออกไป จ้องมองไปที่หยวนชิงหลิ งอย่างตราตรึงใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ตำหนักด้านในเงียบสงบ ม่านหนาทึบ แม้แต่ผมก็ไม่สามารถ

พัดผ่านเข้ามาได้

หยวนชิงหลิงยืนอยู่ข้างเตียง นางเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำตัว

อย่างไร

เดิมทีไท่ซางหวงหลับตาลงแล้ว แต่ไม่รู้คิดอะไรขึ้นมาพระองค์ ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเขากวาดมองไปอย่างเย็นชา กล่าว ด้วยน้ำเสียงดุดัน คุกเข่าลง! ”

หยวนชิงหลิงค่อยๆทิ้งตัวลงคุกเข่า สำหรับนางแล้วท่าทีการ คุกเข่าลงนั่นดีกว่าต้องนั่ง ในเมื่อน้ำจือจินที่ดื่มไปนั้นไม่ได้ บรรเทาแล้ว

นางขนลุกไปทั้งตัวเป็นเพราะอาการเจ็บตัวจากแผลที่ได้รับ
“เจ้ารู้ไหมว่าทำผิดอะไร? “ไม่ช่างหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ

หยวนชิงหลิงรู้ดีว่าไท่ซางหวงไม่มีทางที่จะลงโทษนางอย่าง แน่นอน อย่างน้อย ตอนนี้จะไม่ลงโทษนาง ถ้าพระองค์ยังมีความ รู้สึกผูกพันกับโลกมนุษย์ ตัวนางเองก็เป็นคนที่สามารถรอดชีวิต พระองค์ได้เพียงคนเดียว

ดังนั้น นางเงยหน้าขึ้น กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “หม่อมฉัน รู้เพคะ”

“เจ้าพูดความผิดนั่นคืออะไร? ”

“หม่อมฉันไม่ได้รอบรู้ทักษะการแพทย์แต่กับกล้าทำสิ่งนั้น หยวนชิงหลิงพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องบางอย่าง

ไท่ซางหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เจ้าพูดว่าตัวเองไม่ได้

มีทักษะการแพทย์ ก็หมายความว่าหมอหลวในโรงหมองทั้งหมด

นี่เป็นพวกต้มตุ๋น”

หยวนชิงหลิงเมื่อได้ฟังดังนั้น ยิ่งทำให้นางมั่นใจในตัวเอง มากขึ้นอีก ไท่ซางหวงไว้ใจและเห็นทักษะการแพทย์ของนาง หากเป็นเช่นนี้เรื่องทุกอย่างก็ไม่จำเป็นต้องกังวลใจ

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ไท่ซางหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่ง เรียบ เจ้าลุกขึ้นมานั่งเถอะ อาการของข้าตอนนี้เป็นอย่างไร อยู่ ได้อีกนานไหม จะตายเมื่อไหร ? ”

หยวนชิงหลิงค่อยๆลุกขึ้น กล่าวว่า “เรื่องนี้หม่อมฉันเองยังไม่กล้าที่จะตัดสิน พระองค์ให้หม่อมฉันดูอาการอีกรอบนะเพคะ”

“งั้นอย่ามัวยืนนิ่งอยู่ เข้ามาดูอาการข้าได้แล้ว”

ไท่ซางหวงเมื่อเห็นหยวนชิงหลิงบางอย่างขึ้นมาพระองค์ รู้สึกว่าสิ่งนั้นมันแปลกประหลาดอยู่ไม่น้อย สวมใส่อยู่ที่ใบหูนั้น นางยิ้มและพลางพูดขึ้น “ตอนนี้ ให้หม่อมฉันได้ฟังเคลื่อนหัวใจ ของท่าน……

ในตอนนั้น ไท่ซางหวงมีท่าทีไม่ค่อยพอใจ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียง โมโห เจ้านของสิ่งใดมาเล่น อยากแช่แข็งข้าง ? ”

หยวนชิงหลิง หูฟังของแพทย์ ลง และใส่ไปในหูของไท่ซาง หวง พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ชูววว พระองค์ลองฟังเสียงนั่นดู”

จากใบหน้าที่โมโหอยู่ไท่ซางหวงก็มีใบหน้าที่ค่อยๆสงบลง แววตาที่อึ้งและเต็มไปด้วยความสงสัย พระองค์เงียบสงครู หนึ่ง” นี่เป็นเสียงเต้นของหัวใจข้าใช่รึไม่! ”

หยวนชิงหลิงพยักหน้า “ใช่เพคะ จังหวะการเต้นของหัวใจไม่ ค่อยปกติเท่าไหร่นัก แต่ทว่า เวลานี้ ยมโลกยังไม่ต้องการ ตัวพระองค์”

“บังอาจ! “ไท่ซางหวงขมวดคิ้วแล้วจ้องไปที่นาง

หยวนชิงหลิงรีบคุกเข่าลงทันที “ขออภัยเพคะ! ”

“ช่างมันเถอะ รีบลุกขึ้น? นั่งลง! “ไม่ช่างหวงแอบคิดในใจว่าต้องขออภัยอะไรกัน
หยวนชิงหลิงฝืนยิ้มแล้วตอบว่า”ไม่กล้านั่งเพคะ”

ไท่ซางหวงกล่าวและมองไปที่นาง แผลบนเนื้อตัวเจ้าเกิดขึ้น จากเหตุใด? ”

หยวนชิงหลิงตกใจอยู่ครู่หนึ่ง

พระองค์ทรงรู้ว่านางมีแผลงั้นหรอ?

“การหายใจที่ดูเหน็ดเหนื่อยและดูเจ็บปวดของเจ้า คิดว่าข้า เป็นเจ้าโง่? ตอนที่เจ้านำฝ่ามือมาไว้บนหัวช้ามือนั่นมันร้อน มาก เหมือนคนมีไข้ เกิดอะไรขึ้น? “ไท่ซางหวงกล่าว

หยวนชิงหลิงคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนอ๋อง ก็รู้สึกโศกเศร้า

อาดูรเป็นอย่างมาก แต่สุดท้าย นางเพียงพูดด้วยน้ำเสียง อ่อนเพลียว่า เป็นแผลของการหกล้ม อาการอักเสบของแผล กำเริบขึ้น จึงทำให้ไข้ขึ้น

“เจ้ารักษาตัวเองไม่ได้? “น้ำเสียงของไท่ซางหวงไม่ได้ดุกว่า

เมื่อก่อนแล้ว

หยวนชิงหลิงพยักหน้า “ข้ามียา

ข้าโน่นข้าน ไท่ซางหวงฟังแล้วถึงกับขมวดคิ้ว ทำไมลูกสาว ของเจ้าพระยาจิ้งไม่รู้กฎระเบียบของวังหลวงเลย?

แต่ก็ช่างเถอะ ในวังนี้ คนที่รู้กฎระเบียบมีมากพอแล้ว

“เจ้ากินยาแล้วไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะนอนแล้ว! ” ไก่ช่างหวง หลับตาลง นําหูฟังของแพทย์วางลง
หยวนชิงหลิงนำไปเก็บ พลางเปิดกล่องยา และพอเปิดกล่อง ยาน นางถึงกับตกใจงุนงง ……….ไมถึงได้มีขวดน้ำเกลือหลง มาด้วย?

นางยิ้มอย่างเงื่อนๆ แต่ก็ไม่ใช่เวลามาคิดแล้ว นางรีบเอายา ลดไข้และยาแก้อักเสบกินลงไป และได้หยิบขวดน้ำเกลือออกมา

ไท่ซางหวงเองก็ใกล้จะหลับแล้ว แต่ได้ยินเสียงฝีท้าวที่เดินเข้า มาใกล้ทำให้พระองค์ตื่นขึ้น ขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์เท่า ไหร่”ทำไมยังไม่ออกไป? ข้าบอกให้เจ้าไปพักผ่อนไม่ใช่

“เดี๋ยวข้าให้น้ำเกลือพระองค์ก่อน แล้วค่อยนอนหยวนชิง หลิงน่าขวดน้ำเกลือออกมาอย่างเบาไม้เบามือ กลัวก็แต่ว่าไม่ ช่างหวงเห็นขวดน้ำเกลือนแล้วรู้สึกว่ามันแปลกพระองค์จะไม่ ยอมให้นางเสียบสายน้ำเกลือ

ไท่ซางหวงก็สึกแปลกใจ แต่ พระองค์ไม่ทรงถามอะไร มองไป ทีนางด้วยแววตานิ่งคิด พลางกล่าว เร่งมือหน่อย

การให้น้ำเกลือ เป็นสิ่งที่หยวนชิงหลิงไม่ค่อยถนัด แต่ทว่า การเจาะหาเส้นเลือดของไท่ซางหวงไม่เป็นปัญหา เพียงไม่กี่ วินาทีก็เจาะหาเส้นเลือดได้สำเร็จ

หลังจากให้น้ำเกลือเสร็จ หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้น เห็นไม่ช่าง หวงกำลังจ้องไปที่นาง

นางหัวเราะขึ้น “รอพระองค์หายดีแล้ว หม่อมฉันจะอธิบายให้ ฟัง”
ตอนนี้ถึงให้นางหาข้ออ้างมาแก้ตัว ก็คงจะหาอะไรมาแก้ตัวไม่

ได้

ไท่ซางหวงกล่าว “ถึงตอนนั้นต้องหาข้ออธิบายมาดีๆละ หยวนชิงหลิงยิ้มเจื่อนๆ จะพยายามละกันค่ะ หลังจากให้น้ำเกลือได้ครู่หนึ่ง หยวนชิงหลิงกลัวเดี่ยวมีใคร มาเห็นเข้า ดังนั้น หากให้น้ำเกลือหมดขวดนี้ นางเองก็จะออกไป

ไท่ซางหวงกรมออกมาเบาๆ พระองค์ทรงหลับแล้ว

หยวนชิงหลิงเองก็ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งปวดนิ่งก็ไม่ได้ นอนก็ ไม่ได้ ข้าวก็ยังไม่ได้กิน แม้แต่น้ำหยดเดียวก็ยังไม่ได้ดื่ม

นางกวาดสายตามองไปรอบๆ ในตำหนักไม่มีคนอยู่ ไม่ช่าง หวงก็คงจะไม่ตื่นมาง่ายๆ นางยืนอยู่ด้านหน้าของโต๊ะเอนตัวไป ข้างหน้าโต๊ะ ใช้มือทั้งสองหนุนศีรษะ เหมือนกับกระรอกที่กำลัง มุดรู นางต้องการนอนลงแบบนี้เพื่อคลายความเมื่อยล้าและ ความเจ็บปวด ทำให้นางเคลิ้มไป หลับลงไปด้วยท่าน

ฉางกงกงได้พักผ่อนไปเพียงครู่หนึ่ง อดเป็นห่วงไท่ซางหวงไม่ ได้ และได้ยินมาว่ามีเพียงพระชายาอู่คนเดียวที่ดูแลไก่ช่างหวง อยู่ เขาจึงรีบไปเข้าเฝ้าทันที

ทันทีที่เขาเข้ามาเห็นหยวนชิงหลิงนอนคว่ำด้วยท่าทางแปลกๆ นี้ เขาขมวดคิ้วขึ้นอย่างอารมณ์เสีย เดี๋ยวนี้การดูแลปรนนิบัติเป็น เช่นนี้แล้วหรือ? พระชายานี่ก็พึ่งไม่ได้จริงๆ และการนอนด้วย ท่าทางเช่นนี้น่าเกลียดมาก
เขากำลังจะเอ่ยขึ้น แต่ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของไทางหวงกล่าว “อย่าเสียงดง”

ฉางกงกงค่อยๆย่องเข้าไปหาไม่ช่างหวง และช่วยยกหมอนที่ ไท่ซางหวงนอนจัดให้อยู่ทรงด้วยความสงสัย

ไท่ซางหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเจ้าไปหาอะไรให้นาง กินหน่อย”

ฉางกงกงยิ่งรู้สึกแปลกเข้าไปอีก พระชายาดูแลพระองค์ไม่ ดี ไท่ซางหวงไม่เพียงไม่โกรธ แต่ยังให้เขาไปหาอะไรให้เด็กคน นี้กินอีก?

เขาไม่ได้ถามอะไร และเดินออกไปอย่างเงียบๆ

หยวนชิงหลิงรู้สึกแขนชาไปหมด จึงค่อยๆตื่นขึ้น พอรู้ตัวว่าตัวเองเผลอหลับลงไป รู้สึกถึงอากาศที่เย็นวาบๆ ด้านหลัง นางมองไปที่ด้านหลัง เห็นว่าไม่ช่างหวงยังคงหลับนิ่ง อยู่ จึงทำให้นางโล่งอกไป

นางนำกล่องยาออกมา และหยิบเครื่องวัดอุณหภูมิอมที่ปาก เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้น ด้วยความตกใจนางได้หยิบกล่องยาซ่อนไว้ ในแขนเสื้อ หันกลับไป เห็นฉางกงกงยกสำรับอาหารเข้ามา

ฉางกงกงชำเลืองมองไปที่หยวนชิงหลิงพลางพูดว่าสิ่งของ เขาผงะไปครู่หนึ่ง พระชายา…….

หยวนชิงหลิงไม่รู้ต้องอธิบายอย่างไรดี จะเอาออกมาก็ไม่ใช่ หรือจะไม่เอาออกมาก็ไม่ใช่นางทำได้เพียงมองฉางกงกงอย่างกระอักกระอ่วน

ไทางหวงที่

อาหารมา? ข้าอีกนิด นางคงกินรองเท้าของข้าแล้ว โอ้”ฉางกงกงหัวเราะขึ้น อาหารวาง

พระชายาเสวยเถอพ่ะค่ะ

หยวนชิงหลิงเท่านั้น ยังกระหายมาก คอนั้นจะควันออกอยู่แล้ว

ซุปที่ฉางกงกงนำมานางไม่ได้ใส่ใจกับลักษณะท่าทางที่ แสดงคล่องคอ น้ำแกงนั้นนางกินลงท้อง ปากนั้นรสร้อนมาจากปาก และไปกินอาหารทันที

ฉางกงกงอย่างถึงขมวดคิ้ว หิวจริงแต่ควรสำรวม มากกว่า? ขนาดอยู่ต่อหน้าต่อหน้าพระพักตร์ไท่ซางหวง อีกด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ