บัลลังก์หมอยาเซียน

บทที่ 85 ไปเดินเล่น



บทที่ 85 ไปเดินเล่น

หยวนชิงหลิงถือเครื่องวัดหัวใจออกมา “ไม่พูดเรื่องเขาแล้ว ตรวจให้พระองค์ดีกว่า”

ไท่ซางหวงนอนลงไปอย่างเคยชิน พลันเปิดเสื้อออก แล้วรอ ให้ของเย็นๆ แนบลงไปบนตำแหน่งหัวใจ พร้อมกับหันหน้าไป มองหยวนชิงหลิงด้านข้าง

หยวนชิงหลิงห้อยเครื่องวัดหัวใจไว้ที่หูเขา พลันยัดที่ตรวจ

แล้วพูดขึ้น “ตั้งใจฟังแล้วนับจำนวนนะเพคะ” ไท่ซางหวงหายใจเข้า แล้วฟังเสียงหัวใจตัวเอง ช่างเป็นเสียง ที่เอาไว้กล่อมเด็กจริงๆ

“เท่าไหร่แล้วเพคะ? ” หยวนชิงหลิงถามขึ้นเพราะน่าจะถึง

หนึ่งนาทีแล้ว

“ห้าสิบหกสิบ” ไปช่างยิ้มออกมาจนเห็นฟันสีเหลือง

หยวนชิงหลิงจึงเอาไปฟัง “ไม่ถึงกับว่าได้มาตรฐาน แต่อาการ กดขน”

ฉางกงกงอยากรู้จึงขยับหัวเข้ามา “เจ้านี้สนุกหรือ? ให้ข้า น้อยลองบ้างได้หรือไม่? ”

หยวนชิงหลิงยิ้มแล้วยื่นให้เขา “ได้ ห้อยไว้ที่หู แล้วเอาส่วนนี้ แนบตรงหัวใจ ก็จะสามารถได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น
ฉางกงกงถามตามที่หยวนชิงหลิงบอก แล้วก็เอาแต่ขมวดคิ้ว พร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าดีใจ แปลกประหลาดมาก เหมือน เสียงตีกลองเลย ตึกตึก ตึกตึก”

เขาไม่อยากคืนเครื่องวัดหัวใจให้นาง “ของสิ่งที่ซื้อจาก ที่ไหน? ข้าน้อยก็อยากได้อันหนึ่ง

“ข้ากลับไปถามก่อน ถ้าหากว่ายังมีข้าจะเอามาให้ช่วยตรวจ

ให้ไท่ซางหวงทุกวัน” หยวนชิงหลิงพูด “ได้สิ!” ฉางกงกงตอบรับด้วยความยินดี

เป่าวิ่งเข้ามาด้านใน พร้อมกับหมอบลงที่เท้าของหยวนชิง หลิง

หยวนชิงหลิงก้มลงไปอุ้มมันขึ้นมา เป่าจึงแลบลิ้นเลียมือของ นาง ดูทะเล้นมาก หยวนชิงหลิงจึงจับลิ้นมันไว้ “ซุกซน

เป่าน้ำลายย้อยออกมา ดูแล้วชอบมากๆ เลย

“ยากมากที่เป่าจะใกล้ชิดคน” ฉางกงกงพูดขึ้น “สุนัขเองก็มีความฉลาด และแยกแยะได้” หยวนชิงหลิงลูบ

หัวมัน “ใช่หรือไม่เป่า? ”

เป่าร้องขึ้นสองครั้ง หมายถึงยอมรับแล้ว

“โอ้” ฉางกงกงมองฝูเป่าแล้วหัวเราะ “ทำไมเหมือนกับว่า เข้าใจคำพูดของพระชายา

“เข้าใจแน่นอน เป่าเป็นเด็กฉลาด” หยวนชิงหลิงวงมันลงไป ไปเอาเสื้อคลุมไม่ช่างหวงมา พวกเราจะออกไปเดินเล่นกับ ไทช่างหวง”

ฝูเป่าวิ่งไปพร้อมกับซูหาง

ฉางกงกงหัวเราะออกมาพลางพูดขึ้น “พระชายาท่าเหมือนมัน เป็นคนอย่างนั้นหรือ? มันจะรู้จักไปหยิบของได้อย่างไร? และยิ่ง ไม่น่ารู้จักเสื้อคลุม

หยวนชิงหลิงเพียงแค่ยิ้มออกมา

สักพัก ฝูเปาก็คาบเสื้อคลุมของไท่ซางหวงออกมา เสื้อคลุม ลากมาตามพื้น แต่เท้ามัน องไวมาก มันจึงไม่ได้เหยียบเสื้อ คลุม และลากมาตลอดทาง โชคดีที่ในตำหนักสะอาด ไม่มีฝุ่น อะไร

ไท่ซางหวงเบิกตากว้างทันที “ฟังภาษาคนออกจริงหรือ? ฉางกงกงเองก็นิ่งไปเลย “นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?” หยวนชิงหลิงหัวเราะออกมา พลางยื่นมือไปหาเป้า “มือ! ” เป่านั่งลง พลางยื่นมือมาให้หยวนชิงหลิง พร้อมกับแลบลิ้น อมยิ้ม

รอยยิ้มของสุนัขนั้นช่วยรักษาความรู้สึกได้อย่างรวดเร็ว รอย ยิ้มครั้งนี้ ทำให้ไม่ช่างหวงหัวใจเต้นแรงเลย

“อีกข้างหนึ่ง! ” หยวนชิงหลิงพูด ฝูเป่ารีบเอาลง และก็ยื่นอีกข้างไปตรงกลางมือของนาง
“ดีมาก! “หยวนชิงหลิงยิ้มแล้วลูบหัวมัน ผู้เป่ามีความสุขจน วิ่งอ้อมหยวนชิงหลิงไปมา

“เป่ามานี่! “ไท่ซางหวงเรียกมัน

เป่าจึงวิ่งเข้าไปหาเขา แล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนขาของไท ช่างหวง ไท่ซางหวงจึงอุ้มมันไว้ “โอ้ไม่นึกเลยว่าเจ้าตัวเล็กก็รู้จัก เอาใจคนด้วย สุดยอดมากเลย”

ในตำหนักฉินคุน มีเสียงหัวเราะดังออกมา จนได้ยินกันหมด

เรื่องในตำหนักฉันคนนั้น ทุกอย่างก็ได้เข้าหูฮ่องเต้หมิงหยวน “พระชายาหยอกล้อเป้า เป้าเองก็เชื่อฟัง ไท่ซางหวงก็ดูมี ความสุขมาก”

“พระชายาบอกว่าจะพาไปช่างหวงออกไปเดินเล่น ไท่ซางหวง ก็รับปากแล้ว”

ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ยินรายงาน ก็พลันรู้สึกสบาย ไท่ซางหวง ไม่ยอมออกมาเดินข้างนอกนานแล้ว ตอนกลับยอมออกมา ดี จริงๆ เลย

ดูแล้ว พระองค์คงจะพอใจกับหลานสะใภ้คนนี้มาก ลูกห้าเอง ไม่นึกเลยว่า จะได้ชายาที่ค่ามา

วันที่ท้องฟ้าโปร่งใส

หยวนชิงหลิงพยุงไท่ซางหวง เขายกมือขึ้นมาบังแดด พลาง พูดขึ้น “โลกนี้ ช่างสวยงามจริงๆ
หยวนชิงหลิงยิ้ม “พระองค์ต้องออกมาเดินเล่นบ่อยๆ นะเพคะ ร่างกายคนเราก็เหมือนเครื่องจักร ถ้าหากว่าไม่ให้ขยับบ้าง เครื่องมันก็จะแกลง

ไม่ช่างหวงได้ยินดังนั้น ก็พลันครุ่นคิด “คำพูดของเจ้า ข้าเคย ได้ยิน”

ตอนที่หยวนชิงหลิงพูดออกมาอย่างลืมตัว พอได้สติคำพูด

ก็ได้พูดออกไปแล้ว เอากลับมาไม่ทันแล้ว

ในจังหวะที่อารมณ์เสียอยู่นั้น ก็ได้ยินไม่ช่างหวงพูดแบบนี้ จึง ทำให้นางชะงักไป “ไท่ซางหวงเคยได้ยินหรือเพคะ? ”

“ใครเป็นคนพูดกันนะ? “ไท่ซางหวงหันไปถามฉางกงกง

ฉางกงกงส่ายหัว “ข้าน้อยไม่เคยได้ยิน

“ทำไมจะไม่เคยได้ยิน? ประโยคนี้คุ้นหูมาก” ไท่ซางหวงพูด ขึ้นเสียงแข็ง “ความจำเจ้านี่มันไม่ดีเลย

“ข้าน้อยแก่แล้ว ความจำเลยไม่ดีพ่ะย่ะค่ะ” นางกงกงถอน หายใจ

“ไท่ซางหวงลองนึกดูว่าใครเป็นคนพูดกันแน่เพคะ? ” หยวน ชิงหลิงถามอย่างเร่งเร้า

ไท่ซางหวงหยุดเดิน แล้วใช้ความคิด “อ๋อ จำได้แล้ว เซียว หยาวกงพูด”

“เซียวหยาวกงหรือ? ” ในสมองของหยวนชิงหลิงไม่มีคนชื่ออยู่เลย

“เจ้าไม่รู้จักเซียวหยาวกงหรอก เขาแก่แล้ว” ไปช่างหวงพูดขึ้น ด้วยท่าทางลั่นกลัว ราวกับว่านึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา นาน “เขาแก่กว่าข้าอีกแหนะ ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าป่วยหลายโรค ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ”

‘ไท่ซางหวงวางใจได้ เซียวหยาวกงยังแข็งแรงพ่ะย่ะค่ะ” ฉาง

กงกงพูดขึ้น

หยวนชิงหลิงอยากรู้ว่าเซียวหยาวกงเป็นใคร จึงถามขึ้น แล้ว เซียวหยาวกงท่านนี้อยู่ที่ไหนหรือ? เป็นคนที่ไหนกัน?

“อยู่ในเมืองหลวง และเป็นคนในเมืองหลวง ตอนที่ไม่ช่างหวง อยู่ในราชสำนัก เขาเป็นคู่ ต่อมาเกิดล้มป่วยจึงเกษียณออกไป และตั้งแต่เกษียณออกมาก็หลายปีแล้ว” ฉางกงกงพูด

หยวนซึ่งหลังค่อยๆ ว่า ถ้าหากว่ามีโอกาส ต้องได้เข้าไป

คารวะเซียวหยาวกงท่านนี้ให้ได้

วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง พระสนมต่างพากันออกมาเดินเล่น ข้างนอก ขนาดเสียนเฟยเองก็ยังทนไม่ไหว จึงพาแม่นมออกมา เดินรับแดดข้างนอก

ดอกกุ้ยฮวาบานเต็มสวนทั้งยังส่งกลิ่นหอม ฮองเฮาเองก็ยัง ออกมาเดิน และนั่งพูดคุยอยู่กับกุ้ยเฟยและเสียนเฟยที่ศาลา

ท่านพ่อของกุ้ยเฟยก็คือท่านแม่ทัพตี๋เว่ยหมิง กุ้ยเฟยมีบุตร ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง บุตรชายก็คือ หมู่เหวินยาน
กุ้ยเฟยเป็นสนมที่ได้รับการโปรดปรานอีกหนึ่งคน เกิดใน ตระกูลแม่ทัพ ในวังนี้ถ้าไม่เข้าร่วมก็เป็นไปไม่ได้

นางนั่งอยู่กับฮองเฮา และกำลังสำรวมอย่างสงบนิ่ง แต่ดูนาง ก็มีส่วนคล้ายฮองเฮาอยู่บ้าง

แต่ว่ากุ้ยเฟยไม่ค่อยคุยกับฮองเฮาและเรียนเฟยได้นานเท่า ไหร่ เพราะนางเป็นคนรักความสุข ไม่ค่อยสนใจบทสนทนาของผู้ หญิง วันนี้นางมาก่อนคนแรก เรียนเฟยจึงออกมา และตามมา ด้วยฮองเฮา นางจึงยากที่จะออกไปตอนนี้

นางมองออกไปรอบๆ แล้วอยู่ดีๆ ก็นิ่งไป พร้อมกับพูดขึ้นด้วย ความตกใจ “นั่นไม่ช่างหวงใช่หรือไม่? ทำไมวันนี้พระองค์ถึง ออกมาเดินเล่นข้างนอกได้? ”

ฮองเฮาและเสียนเฟยก็พลันมองตามนาง และก็เป็นไท่ซางหวง ที่เดินเล่นฝั่งแม่น้ำตรงโน้น

“คนที่พยุงไท่ซ่างหวง ใส่ชุดไม่เหมือนนางกำนัลในวังเลย กุ้ยเฟยพูดขึ้น

อยู่ห่างกันมาก จึงมองเห็นไม่ชัด เสียนเฟยพยายามมอง แต่ก็

ยังมองไม่ชัด

ฮองเฮานั้นรู้แล้วว่าใคร จึงพูดขึ้น “หยวนชิงหลิง”

เสียนเฟยชะงักไปทันที “เป็นนางหรือเพคะ? ” ฮองเฮายิ้มอ่อน พร้อมกับหันมามองเรียนเฟย “เสียนเฟย ขนาดลูกสะใภ้ตัวเองยังดูไม่ออกอีกหรือ? ”
เสียนเฟยได้ยินคำพูดประชด ก็พลันยิ้มออกมา “สายตาหม่อม ฉันไม่ค่อยดี ไม่ได้มีหูทิพย์ตาทิพย์เหมือนฮองเฮาเพคะ”

เอาอีกแล้ว! กุ้ยเฟยชักสีหน้าทันที นางไม่ชอบเวลาผู้หญิงอยู่ ด้วยกันแล้วพูดให้กัน แอบพูดให้ร้ายต่อกัน ทำไมถึงไม่พูดออก มาตรงๆ ?

นางจึงลุกขึ้น “หม่อมฉันจะไปคารวะไปช่างหวง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ