บัลลังก์หมอยาเซียน

บทที่ 35 เช่นนั้นก็ฟังข้า



บทที่ 35 เช่นนั้นก็ฟังข้า

หยวนชิงหลิงมองนาง “เจ้าหมายถึงไม่สบายอย่างไร

ตอนนี้ร่างกายนางไม่สบายหลายอย่าง เพียงแต่ภายใต้แรง กดดันมหาศาลนี้ ทำให้นางไม่มีเวลาไปรับรู้ได้ แต่ว่าตอนที่นั่งลง หรือหมอบลงไป นางยังรู้สึกว่าตับไตไส้พุงเหมือนจะม้วนเข้าด้วย กัน ทรมานยิ่งกว่าบาดแผลภายนอก

แม่นม ส่ายหน้า “ที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก บางที ใต้เท้าทั้งกับองครักษ์สวีอาจจะรู้มากกว่านี้ก็เป็นได้ ข้าเพียงแต่รู้ ว่าหลังจากที่ดื่มน้ำจื่อจีนแล้ว จะทำลายอวัยวะภายใน แรกเริ่ม จะมีอาการกระอักเลือด อาการไอ แล้วก็ฝันร้ายเป็นต้น ก่อนหน้า นี้มีข้ารีบใช้คนหนึ่งแอบขโมยเอาของเก่าในจวนไปขาย เป็น ตายอย่างไรก็ไม่ยอมรับสารภาพ

ทั้งยังจะเอาหัวโขกกำแพงฆ่าตัวตาย ใต้เท้าทั้งจึงได้ให้เขาดื่ม น้ำจื่อจิน สุดท้ายเขาก็รับสารภาพ ประมาณครึ่งเดือนเขาก็ตาย

หยวนชิงหลิงฟังแล้วก็รู้สึกกลัวจนใจเต้นระทึก “ครึ่งเดือนก็

ตายแล้ว เพราะน้ำจื่อจินหรือ”

“ใต้เท้าทั้งบอกว่า หลังจากดื่มน้ำจือจินแล้ว ต้องมียาในการ ปรับสมดุลเป็นเวลาประมาณหนึ่งปีครึ่ง จึงจะกลับสู่ภาวะปกติได้ แต่เจ้าเด็กรับใช้คนนั้นมันก็น่านัก ใต้เท้ายังไม่ได้ปรับสมดุลให้ เขา ฉะนั้นเขาก็เลยตาย ก่อนตาย ยังกระอักเลือด ปวดท้อง ไอ รุนแรงมาก พอไอก็หยุดไม่ได้เลย ตอนที่ตาย หน้าก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ”

ไอจนขาดอากาศหายใจ

แม่นมลังเลอยู่สักพัก พูดว่า “อีกอย่าง ก่อนเขาจะตาย ก็พูด ตลอดว่ามองเห็นวิญญาณผีมากมาย จะมาจับตัวเขาไปพิจารณา คดีในนรก เขากลัวมาก ฉะนั้น น้ำจือจินก็มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่ง ว่าน้ำฝันถึงนรก”

หยวนชิงหลิงมองแม่นมณีอย่างนิ่งอึ้ง จากนั้นก็ค่อยๆเต้นยิ้ม ขม หมู่เหวินเท้า ท่านเกลียดหยวนชิงหลิงมากแค่ไหนกันนะ และ ที่น่าขันก็คือ ตัวเองที่เป็นแค่ตัวแทนของหยวนชิงหลิง ยังต้อง ทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อช่วยชีวิตของเขา

หากมีการเวียนว่ายตายเกิดจริง เช่นนั้นนางกับหยวนชิงหลิง คงเคยทำเวรทำกรรมกับตระกูลหยู่เหวินสินะ จึงได้รับผลกรรม เช่นนี้

นางค่อยๆ รวบรวมความคิด ที่ว่ามองเห็นวิญญาณผี น่าจะเป็น ภาพหลอน เพราะสมองขาดออกซิเจนทำให้เกิดภาพหลอน ฉะนั้น น้ำจือจินนี้จะทําให้คนขาดอากาศและทำให้เกิดภาพ หลอนตามมา

ที่นางได้ยินที่เป่าพูด ใช่ภาพหลอนหรือไม่

หยวนชิงหลิงก็เริ่มแยกแยะไม่ออกแล้ว

แม่นมมองสีหน้าของนาง รู้สึกนางน่าสงสารอยู่หลายส่วน แต่นางก็แค่คนรับใช้เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์จะไปสงสารเห็นใจเจ้านาย
หยวนชิงหลิงกลับไปที่ตำหนักเขียวเยว่ ยังคงเป็นอ๋องฉีกับทั้ง หยางที่เฝ้าอยู่ด้านใน เห็นหยวนซึ่งหลังกลับมาแล้ว ทั้งหยางก็ รีบพูดขึ้นว่า “เมื่อครู่ท่านอ๋องตื่นมา พระชายาคิดว่าควรเรียกตัว หมอหลวงมาดูอาการหรือไม่ ”

“ยังไม่ต้อง”หยวนชิงหลิงจะเดินเข้าไปดู ฮ่องก็เข้ามาขวาง หน้าไว้

หยวนชิงหลิงมองคนที่ยืนขวางอยู่ รู้สึกระอาใจขึ้นมาบ้างแล้ว “อ๋อง ท่านต้องการอะไรกันแน่

“อาศัยช่วงที่พี่หาอาการกำลังดีขึ้น เจ้าอธิบายที ทำไมต้องใส่ ความหมิงชุ่ยด้วย “อ๋องฉีจ้องนางเขม็ง

หยวนชิงหลิงหย่อนมือทั้งคู่ลง “ท่านคิดว่าคุยเรื่องพวกนี้ตอน นี้มันเหมาะสมแล้วหรือ

“เหมาะสม สักพักหมิงชุ่ยจะมาดูอาการที่ห้า ข้าหวังว่าเจ้าจะ

ไม่ทำให้นางไม่สบายใจอีก

หยวนชิงหลิงหัวเราะ “หัวใจของท่านช่างกว้างเสียจริง นี่ท่าน ไม่รู้จริงๆหรือว่าเดิมทีคนที่หมู่เหวินเท้าต้องการจะแต่งงานด้วย คือนาง นี่ท่านถึงขนาดวางใจให้ภรรยาของตัวเองเป็นห่วงเป็น ใยชายอีกคนเลยหรือ

อ๋องฉีโมโห “หมิงซุยกับพี่หาไม่ได้ทำตัวแปดเปื้อนเหมือนที่ เจ้าคิด พวกเขาไปมาหาสู่อย่างเปิดเผย ”

หยวนชิงหลิงได้ยินคำนี้ ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ
ในใจของหมู่เหวินเท้าคิดอย่างไร นางไม่รู้ แต่ว่าหมิงซุยคิด อะไรและทำอะไรบ้าง

นางรู้ดีทุกอย่าง

เป็นถึงท่านอ๋อง แต่ช่างไร้เดียงสาได้ขนาดนี้ เชื่อมั่นใน คุณธรรม ที่จริงก็เป็นเรื่องที่น่ายกย่องเรื่องหนึ่ง

ฉะนั้น เดิมทีควรเป็นเวลาที่ต้องโมโห หยวนซึ่งหลังกลับอ่อน ลง พูดว่า “วางใจเถอะ หากนางมา ข้าไม่ทำให้นางต้องลำบาก ใจ นอกเสียจาก นางจะหาเรื่องเอง”

อ๋องฉือึ้งไป เดิมทีเขาได้เตรียมรับมือกับการโต้กลับที่แสบ ทรวงของหยวนชิงหลิงหลังจากพูดประโยคนั้นออกไป แต่ตอนนี้ กลับไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

ได้แต่เอ่ยเบาๆว่า “นางคงไม่หาเรื่องให้ตัวเองแน่นอน เจ้าไม่รู้ นิสัยใจคอนาง นางดีมาก”

หยวนชิงหลิงอืมหนึ่งเสียง เดินไปข้างเตียง กลับเห็นว่าหมู่เห วินเท้าได้ตื่นขึ้นมาแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เบิกตากว้างมองมาที่ พวกเขา

เขาค่อยๆเก็บสายตากลับมา จ้องไปที่บาดแผลบนหน้าผาก ของหยวนชิงหลิง

หยวนชิงหลิงยื่นมือออกไปลูบสักพัก แผลแห้งไปแล้ว รอย เลือดยังไม่ทันได้เช็ดออก

“ท่านอ๋องรู้สึกอย่างไรบ้าง”หยวนชิงหลิงถูกเขาจ้องจนอึดอัด
“ยังตายตอนนี้ไม่ได้เสียงเขาแหบแห้ง สายตาหลุบลง อ๋องเบียดตัวเข้ามา เอยอย่างยินดีว่า “พี่ห้า ท่านตื่นแล้ว” หมู่เหวินเท้าค่อยๆพยักหน้ารับ มองไปที่อ๋อง “เพราะยาเม็ด จื่อจินของเจ้าแท้ๆ”

อ๋องโบกมืออย่างใจกว้าง “ยาจื่อจินเรื่องเล็ก น้องไม่ได้ไป สนามรบเสียหน่อย ไม่จำเป็นต้องใช้ยาจื่อจิน ”

หมู่เหวินเท้ายิ้มอ่อน แววตาขรึมลง

ชั่วครู่ เขาก็เอ่ยว่า “น้องเจ็ด ทั้งหยาง พวกเจ้าออกไปพักผ่อน ก่อนเถอะ”

อ๋องเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไรข้าไม่เหนื่อย ข้าพักแล้ว” หมู่เหวินเท้าถอนหายใจเบาๆ มองไปยังทั้งหยาง

ทั้งหยางดึงมือของอ๋อง “ใช่แล้ว ท่านอ๋อง ข้าน้อยมีเรื่อง อยากจะขอคําปรึกษาจากท่านพอดี โปรดตามข้าน้อยออกไปสัก

“มีเรื่องอะไรพูดที่นี่ก็ได้”อ๋องฉีพูด แต่กลับถูกทั้งหยางลากตัว ออกไป

เดิมทีในใจของหยวนชิงหลิงนั้นรู้สึกหนักอึ้ง แต่พอเห็นฉากนี้ กลับทำให้กลั้นหัวเราะไม่อยู่ หมู่เหวินเห้าส่งสัญญาณ “เจ้าขยับเข้ามาหน่อย”

น้ำเสียงของเขาอ่อนแอมาก ไม่มีวี่แววของพลังปราณเลยสักนิดเดียว ขาข้างหนึ่งของเขา ยังก้าวอยู่ระหว่างโลกแห่งความ ตาย แต่ว่า แม้จะเป็นเช่นนี้ สีหน้าท่าทีของเขายังคงแข็งกระด้าง กว่า

หยวนชิงหลิงใกล้เข้าไปอีกนิด พยายามให้เขาไม่ต้องลำบาก มากในการพูด “ท่านพูดเถอะ”

“อาการของเสด็จเป็นอย่างไรบ้าง “หมู่เหวินเท้าถาม

หยวนชิงหลิง กว่าเขาจะถามถึงอาการบาดเจ็บของตนเอง คิดไม่ถึงว่ายังจะห่วงใยไท่ซางหวงอยู่ เห็นคนคนนี้แม้ว่าจะมี นิสัยโหดร้ายดุดัน แต่ก็มีใจที่กตัญญูอยู่

“อาการป่วยที่เป็นมานาน จะให้หายภายในวันสองวันคงเป็น ไปไม่ได้”

“ถ้าเช่นนั้นเจ้ากลับเข้าวังไปรักษาต่อเถอะ ที่นี่ไม่ต้องการเจ้า

แล้ว”หยู่เหวินเห้าพูด

หยุนชิงหลิงมองเขาอย่างประหลาดใจ “ท่านยังไม่พ้นขีด อันตราย หากข้าไปแล้ว ท่านจะมีโอกาสตายถึงครึ่งเชียวนะ”

“ข้ารู้ดีแก่ใจ ด่านนี้ ถือว่าข้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว”หมู่เหวินเท้า เอ่ยขึ้น

ช่างมั่นใจในตัวเองไม่ลืมหูลืมตาเลยนะ

หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ข้าจะอยู่ที่นี่อีกสักพัก รอให้อาการของท่านอ๋องทรงตัวอีกสักหน่อย ข้าค่อยกลับเข้าวัง”

ให้เจ้าไปก็ไปสิ”หมู่เหวินเท้าสีหน้าเย็นชา หญิงคนนี้ ได้ หนทางที่จะปั้นหน้าดีๆ ให้นางเลย

“ข้าเองก็รู้ดีแก่ใจ”หยวนชิงหลิงเอ่ยเสียงเรียบ

“เจ้า”แววตาเขาโกรธเคือง เขาใช้มือทุบไปที่เตียง เขาคงนึก ว่าจะมีแรงมหาศาลสั่นสะเทือนราวฟ้าผ่า แต่แท้ที่จริงแล้วแม้แต่ ผ้าห่มยังไม่สะทกสะท้าน ก็เพียงแค่หย่อนแขนลงอย่างอ่อนแรง เท่านั้น

หยวนชิงหลังควบคุมความยินดีที่เห็นผู้อื่นโชคร้ายไม่ได้ ใน ที่สุดท่านก็มีวันนี้

แม้จะไม่รู้ว่าคนที่ลอบทำร้ายเขาเป็นใคร แต่ว่าหยวนชิงหลิง รู้สึกขอบคุณคนคนนี้มาก

“ข้าจะฆ่าเจ้า”รับรู้ได้ถึงแววเย้ยหยันในสายตาของนาง เขา

โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

หยวนชิงหลิงหมุนตัวไปหยิบเอากรรไกรเล่มหนึ่งโยนไปตรง หน้าเตียงของเขา “มาสิ”

หมู่เหวินเท้ามองนางอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ในสมองมี เสียงปังดังขึ้น ดูถูก นี่มันดูถูกกันชัดๆ

“มีความสามารถก็มาฆ่าข้าง หากฆ่าไม่ได้ ก็ยังต้องฟังข้าอยู่ดี ยื่นมือมา ต้องให้ยาแล้ว”หยวนชิงหลิงพูดด้วยสีหน้าไร้ความ รู้สึก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ