บัลลังก์หมอยาเซียน

บทที่ 3 การปรากฏขึ้นของกล่องยา



บทที่ 3 การปรากฏขึ้นของกล่องยา

ร่างกายของเจ้าของร่างเดิมนั้นอ่อนแออย่างยิ่ง นางรู้สึกมึนงง สะลึมสะลือได้ไม่นาน ก็เผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น

นางฝันไป ฝันว่าได้กลับไปยังห้องวิจัยของตัวเองอีกครั้ง

ห้องวิจัยที่บริษัทจัดให้นางนั้น ถือเป็นความลับอย่างมาก นอก เหนือจากประธานบริษัท และผู้ช่วยของนางแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ ตำแหน่งที่ตั้งของห้องวิจัยนี้อีกเลย

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย นางแตะไปที่โต๊ะ คอมพิวเตอร์ กล้องจุลทรรศน์ และเข็มฉีดยาที่นาง ใช้ฉีด ซึ่งถูก ทิ้งไว้ข้างๆ หลอดทดลอง

คอมพิวเตอร์ยังคงเปิดอยู่ บนคอมพิวเตอร์ของนาง มีการ แสดงสัญลักษณ์สีเขียวว่ากำลังเข้าสู่ระบบวีแซท มีข้อความ มากมายเด้งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด โดยทั้งหมดนั้นมาจาก คนในครอบครัวที่ส่งมาถามว่านางอยู่ที่ไหน?

นางแตะแป้นพิมพ์ ในใจบังเกิดความรู้สึกโศกเศร้าจากการที่ ตัวเองได้ตายไปจากยุคปัจจุบันนี้ขึ้นมา

นับจากนี้ นางจะไม่ได้พบพ่อแม่และคนครอบครัวของนางอีก ต่อไปแล้ว

นางหวั่นไหวหวาดกลัวอยู่ชั่วขณะ สายตาพลันไปเห็นขวดยา เบตาดีนขวดหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งนางได้นำมาเตรียมไว้ก่อนที่จะฉีดยาให้ตัวเอง เป็นเพราะนางอยู่ในสถาบันแห่งนี้มานาน ดัง นั้นจึงมักจะมียาต่างๆอยู่ในสถาบันไม่น้อย

นางเปิดกล่องยาออก ยาเหล่านั้นแทบจะไม่เคยถูกแตะต้องมา

ก่อน

ถ้านางมียาเหล่านี้ ไม่แน่ว่าเด็กคนนั้น ก็อาจจะพอมีทางช่วย

ได้อยู่

นางไม่รู้ว่านางหลับไปนานแค่ไหน เมื่อได้ยินเสียงประตูถูก ผลักเปิดออก ทันใดนั้นนางก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝันทันที

สาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับตะเกียง ในมือถือเข่ง ใส่ หมั่นโถว นางวางมันลงบนโต๊ะแรงๆ แล้วเอ๋ยอย่างเย็นชาว่า “พระชายา เชิญทานอาหาร!!

หลังจากพูดจบ ก็วางตะเกียงลงบนโต๊ะแล้วเดินออกไปทันที

หยวนชิงหลิงรู้สึกสูญเสียเคว้งคว้าง มันเป็นแค่ความฝันเอง หรอกเหรอ!

นางรู้สึกหิวมากจริงๆ จึงลุกจากเตียงไปช้าๆแล้วออกเดิน แต่ จู่ๆเท้าของนางก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง นางก้มลงมอง ก็ เห็นว่ามีกล่องยากล่องหนึ่งวางนิ่งอยู่บนพื้น

ชั่วเวลานั้น ราวกับว่าเลือดในร่างกายของนางเกิดแข็งตัวขึ้น มาชั่วขณะ

กล่องยากล่องนี้ ช่างดูเหมือนกับกล่องยาในสถาบันวิจัยของ นางไม่มีผิด
นางรีบยกกล่องยาขึ้นไปบนโต๊ะ แล้วเปิดมันออก มือที่สั่นเทา ค่อยๆไล่สัมผัสบรรดายาที่บรรจุอยู่ในกล่องยา ซึ่งเหมือนกันทุก ประการกับกล่องยาในสถาบันวิจัยของนาง เหมือนกันทุก ประการชนิดไม่มีผิดเพี้ยน

นางถึงกับกลั้นหายใจ ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตานางมองเห็น

แค่เรื่องวิญญาณทะลุมิติข้ามเวลามาเรื่องเดียวก็เหลือเชื่อเป็น จะเอ่ยแล้ว นี่กล่องยาถึงกับตามมาได้ด้วยอีกเหรอเนี่ย?

ไม่ ไม่! ดูเหมือนตอนแรกจะไม่มีอยู่จริง ๆ หลังจากที่นางหลับ ไปแล้วฝันต่างหาก กล่องยานี้ถึงค่อยมาปรากฏขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

นางรีบโยนเรื่องแปลก ๆ ที่สุดแสนจะเหนือธรรมชาติ ออกไป จากหัวของนางก่อนเป็นอันดับแรก แล้วพยายามอธิบายเรื่องนี้ จากมุมมองทางวิทยาศาสตร์

ถ้าถือว่าที่นี่เป็นพื้นที่ในโลกคู่ขนาน……….

ไม่ไม่! คำอธิบายนี้ก็ยังไม่สมเหตุสมผลอยู่ดี ต่อให้มีพื้นที่ใน โลกคู่ขนานจริงๆ จะด้วยวาสนา โชคชะตาอะไรก็แล้วแต่ ที่ลิขิต ให้นางหลุดเข้ามาสู่โลกคู่ขนานได้ สมองและความทรงจำนั้น เป็นของนาง ส่วนร่างกายนี้กลับไม่ใช่ ในจุดนี้จะคิดให้ตายยังไง ก็ยังหาคำอธิบายให้กับเรื่องนี้ไม่ได้

ผ่านไปครู่ใหญ่ นางจึงค่อยๆสงบจิตสงบใจลงมาได้ในที่สุด นางซ่อนกล่องยา ให้เรียบร้อย กินหมั่นโถวเข้าไปหลายลูกอย่างตะกละตะกลาม แล้วกลับไปเอนหลังนอนบนเตียงต่อ นาง อยากลองดูว่า ตนจะสามารถหลับฝันให้ตัวเองกลับไปที่ สถาบันวิจัยอีกครั้งได้หรือไม่

แต่ทว่า ในใจนางมันพลุ่งพล่านสะท้านสะเทือนไปหมด ตื่น ตระหนกตกอย่างประหลาด พลิกตัวไปมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ทำอย่างไรก็ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้

ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงสองวันต่อมา นางก็ไม่สามารถนอน หลับได้ลงเช่นกัน แม้ว่าร่างทั้งร่างของนางจะเหนื่อยล้าจนได้ เรี่ยวแรง กระทั่งจะฝืนลืมตาก็ยังลืมไม่ขึ้น แต่สมองของนางกลับ ยังคงทำงานต่อไปด้วยความเร็วสูง ทั้งไม่สามารถหยุดยั้งได้อีก ด้วย

ในวันที่สาม นางก็ยังคงหลับไม่ลง ขณะที่นั่งอยู่หน้ากระจก นางก็เห็นสภาพตัวเองที่ดูแล้ว ช่าง เหมือนผีซีดเซียวตัวหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

ด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง เบ้าตาคล้ำเป็น สีหน้าซีด เซียวเขียวอ๋อ ทั้งยังมีรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ที่กึ่งกลางหว่างคิ้วอีก บาดแผลที่ข้อมือตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก เว้นแต่อาการที่ เกิดเป็นตะคริวขึ้นมาบ้างเป็นครั้งคราว

นี่คืออาการของบาดแผลที่เริ่มสมานตัวนั่นเอง

ไม่รู้ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างแล้ว

นางค่อยๆปรับระบบความคิด รู้สึกว่าต่อให้ตัวเองรีบร้อนไปก็คงไม่มีประโยชน์ ไม่สู้ลองปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่เป็นอยู่ตรง หน้านางตอนนี้เสียก่อน มันคงจะดีกว่า

ดังนั้นเมื่อสาวใช้นำอาหารมาส่งให้อีกครั้ง นางจึงเอ่ยถาม ออกไปว่า “ลู่หยา หลานชายของแม่นมณีเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” สาวใช้มีชื่อว่าลู่หยา ในเวลานี้นางมีความทรงจำของเจ้าของ ร่างเดิมอยู่

หยาเอ่ยตอบอย่างเย็นชาว่า “ใกล้จะตายแล้วล่ะ เจ้าคงมี ความสุขมากล่ะ?”

ทำไมนางถึงต้องมีความสุขด้วยล่ะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ