บัลลังก์หมอยาเซียน

บทที่ 39 มู่หรูกงกงมา



บทที่ 39 มู่หรูกงกงมา

ระหว่างที่อารมณ์เสีย ก็มองเห็นหยวนชิงหลิงชูมีดโกนขึ้น เขา เอ่ยถามอย่างโมโห “เจ้าคิดจะทําอะไรอีก

“โกนขนน่ะสิ ไม่โกนขนออกแล้วจะฆ่าเชื้อรักษาแผลได้ อย่างไร”หยวนชิงหลิงตบไปที่ขาของเขาหนึ่งที่

“รู้ตัวก็แยกขาออกหน่อย

หญ่เหวินเท้ารู้สึกเพียงว่าเลือดทั้งร่างได้พุ่งไปที่สมองหมดแล้ว ในหูมีเสียงอื้ออึงดังขึ้น เกือบจะระเบิดแล้ว

ได้ยินเสียงมีดโกนที่ไถผ่านผิวหนัง เส้นขนปุกปุยร่วงหล่น ผ่านขาไป ทุกๆที่ที่ถูกสัมผัสล้วน ให้ความรู้สึกอับอาย

ที่จริงในใจของหยวนชิงหลิงก็รู้สึกใจ

นางอยากจะดูหรืออย่างไร ยินดีที่จะโกนขนให้เขาหรือ ยินดีที่ จะช่วยเขาทําแผลหรืออย่างไร

แต่ถ้าหากเกิดติดเชื้อขึ้นมา เขาตายไป นางเองก็ไม่รู้จะพูดกับ

ไท่ซางหวงและคนอื่นๆ อย่างไร

แม้ว่าเขาจะตายไปจริงๆ ก็เพราะเขามันหาเรื่องใส่ตัวเอง

แต่ยังพอโชคดีอยู่ ที่บาดแผลเบี่ยงออกไปจากเส้นเลือดใหญ่ ที่ต้นขา ตรวจดูจากด้านข้างแล้ว บาดแผลลึกมาก ไม่รู้ว่าใช้วิธี อะไรในการห้ามเลือด น่าจะเป็นการเทผงห้ามเลือดลงไปด้วยตนเอง เพราะข้างๆมีผงเหนียวๆ ติดอยู่

อีกอย่าง ถ้าหากเคลื่อนไปตรงกลางอีกนิด คงจะเฉือนเอาน้อง ชายของเขาออกไปจริงๆ

ถ้าหากเฉือนลงมาจริงๆ นั่นคงเป็นเรื่องดีมาก นี่มันต้นกำเนิด แห่งความหายนะเลยนะ

ขณะนางกำลังคิด ค่อยๆแอบเงยหน้ามองหมู่เหวินเท้า

หมู่เหวินเท้าชกหมดออกไป หยวนชิงหลิงรีบหดหัวกลับไป ชั่ว ขณะนั้นเห็นหน้าเขาแดงเหมือนลูกประทัด

“ยังต้องเย็บแผลหลังจากหยวนชิงหลิงฆ่าเชื้อ เอ่ยอย่าง

จริงจัง

“ไม่”หยู่เหวินเท้าปฏิเสธเสียงแข็ง ค่อยๆหุบสองขาลง แต่ หยวนชิงหลิงได้ใช้สองมือเอาไว้ก่อนแล้ว ไม่ให้สองขาหุบลง

หมู่เหวินเท้ารู้สึกว่าเส้นผมของตัวเองก็ลุกชันขึ้นมาหมดแล้ว

อีกทั้งผมทุกเส้นกำลังถูกไฟโมโหแผดเผาอยู่

“เอาอย่างนี้”หยวนชิงหลิงเอากล่องยาขึ้นมา หายาชาที่ใช้ สําหรับทา พูดว่า “ข้าจะทายาห้ามเลือดให้ท่าน จะทำให้ บาดแผลหายสมานกันเร็วขึ้น

“ทำให้เร็วหน่อย”หมู่เหวินเท้าจ้องเขม็ง

หลังจากทายา หยวนชิงหลิงเงยหน้าถาม “รู้สึกว่าบาดแผลไม่ ได้เจ็บขนาดนั้นแล้วใช่หรือไม่”
หมู่เหวินเท้ารู้สึกอยู่บ้าง ไม่เจ็บจริงๆแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะ ยอมรับ ยังคงปากแข็ง “ใครว่าไม่เจ็บ เจ้าคิดว่ายาของเจ้ามัน อัศจรรย์ขนาดนั้นเลยหรือ

หยวนซึ่งหลังรู้ว่าเขาปากแข็ง ก็ไม่สนใจเขา หยิบเอาเข็มมา ร้อยด้าย พูดว่า “ข้าทายาชาแล้ว จะเริ่มเย็บล่ะนะ”

“หยวนชิงหลิง”หมู่เหวินเท้าครามคำหนึ่ง มารดาเขาเถอะ

เจ้าหญิงอัปลักษณ์คนนี้ยังกล้าโกหกคนอื่นด้วย

วันนั้นที่เย็บแผล เจ็บจนเขากัดฟันเกือบจะหักหมดปาก ตอนนี้ ที่ที่จะเย็บ เป็นจุดที่เจ็บที่สุดในร่างกายก็ว่าได้ นางคิดอยากจะ เอาชีวิตเขาหรืออย่างไร

“ก็ได้ ไม่เย็บ แต่ต้องกรีดเอาหนองออก อย่างนี้คงได้กระมัง หยวนชิงหลิงพูด

หมู่เหวินเท้าถึงค่อยๆยับยั้งความโกรธลง เห็นนางก้มหน้าก้ม ตาลงไป คิดว่าหากอีกประเดี๋ยวเกิดรู้สึกเจ็บขึ้นมา ก็เตะนางได้ ตรงๆเลย

ที่จริงหยวนชิงหลิงกำลังเย็บแผลแล้ว

นอกจากยาชาแล้ว หากมือไว สามารถทำแผลให้เรียบร้อย ก่อนยาชาหมดฤทธิ์

เสียงประตูเปิดออกดัง ปัง

สวีเดินเข้ามาอย่างกับพายุหมุน
เลิกม่านขึ้น เหลือบตาไปมอง เขาก็ต้องยืนนิ่งอยู่กับที่นั่ง เหมือนถูกแช่แข็ง

ราวกับถูกฟ้าผ่าอย่างไรอย่างนั้น

ใต้เท้าทั้งบอกว่าตอนกลางคืนท่านอ๋องต้องการคนดูแล อ่านวยความสะดวก ฉะนั้น เขาจึงมาเฝ้าช่วงกลางคืน คิดจะเข้า มารายงานก่อน ก็มองเห็นพระชายาก้มหน้าก้มตาอยู่ที่ช่วงล่าง ของท่านอ๋อง

“ยังไม่ไสหัวไปอีก”หมู่เหวินเท้าก็เหมือนถูกฟ้าผ่า นิ่งไปหลาย วินาทีก่อนจะคำรามขึ้น

สวี วิ่งออกไปอย่างเร็วราวกับเจอผี ครู่เดียว ก็วิ่งกลับมาปิด ประตู

ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องไห้อย่างบ้างคลั่งในใจของเขา หญิง

คนนั้นฉวยโอกาสที่ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บเอาเปรียบท่านอ๋อง

ในสถานการณ์ทั้งหมดนี้หยวนชิงหลิงนิ่งที่สุด

นิ่งจนเย็บแผลเสร็จ แล้วพูดว่า “ดี เย็บเสร็จแล้ว เย็บเสร็จแล้ว นี่นางเย็บแผลอีกแล้วหรือ

มือสองข้างของเขาหย่อนลงอย่างไร้เรี่ยวแรง ไม่อยากจะพูด

อะไรอีกแล้ว

หยวนชิงหลิงเก็บกวาดทำความสะอาดรอบๆ เขาหันไปด้าน ข้าง มองหยวนชิงหลิงสาดบางอย่างลงที่พื้น เป็นกระจุกกระจุกนั้น ขนสีดำา มันชน………

เขาคงต้องฆ่าคนอีกหลายคน เพื่อที่จะระบายความแค้นในใจ

แต่ว่า ตอนนี้ทำได้เพียงอดทน ไม่อดทนต่อเรื่องเล็กจะทำให้ เสียการใหญ่

จากนั้น ก็ไม่มีใครพูดอะไร

หยวนชิงหลิงหมอบลงไปนอนหลับแล้ว

ในฝัน นางถูกไล่ฆ่า ถูกมีดดาบไล่ฟันตลอดทาง นางวิ่งหาที่ หลบซ่อน สุดท้ายก็ถูกต้อนจนจนมุม มีเล่มใหญ่แทงเข้ามา นาง มองคมดาบที่พุ่งเข้ามา ก็เห็นหมู่เหวินเท้าที่มีหน้าดุร้าย

ดาบแทงลงไป เลือดสาดเต็มหน้านาง นางกรีดร้องหนึ่งเสียง ตื่นขึ้นมา

ใบหน้ามีความรู้สึกเปียกชื้น ยื่นมือไปจับ เป็นน้ำ

นางเงยหน้า เห็นมือของหมู่เหวินเท้ามีถ้วยใบหนึ่งถ้วยคว ลง และว่างเปล่า

ใบหน้าของเขานั้นได้ใจและชั่วร้าย

ที่หัวเตียงมีน้ำวางอยู่ถ้วยหนึ่งเสมอ เพื่อให้เขาสามารถเอื้อม

ไปเอามาดื่มได้เมื่อกระหาย

หยวนชิงหลิงโมโห นางทุ่มเทกายใจในการดูแลรักษาเขา ไม่ ได้รับการขอบคุณ ยังจะถูกเขากลั่นแกล้งอีก
แต่ว่า นางก็ไม่ได้แสดงทีท่าโมโหออกไป กลับกัน นางมอง เขาด้วยความเมตตา ช่างน่าสงสารจริงๆ เป็นถึงท่านอ๋อง เคย ฆ่าฟันศัตรูมาก็ไม่น้อย แต่ตอนนี้กลับทำกับหญิงสาวตัวเล็กๆ อย่างข้า ได้เพียงแค่ใช้น้ำในการแก้แค้นเท่านั้น”

หมู่เหวินเท้าสีหน้าโกรธเคือง ยกมือขึ้น เอาถ้วยทุบลงไปที่นาง ถ้วยนั้นไม่ได้โดนตัวหยวนชิงหลิง แต่กลับทุบลงไปที่ศีรษะ ของตัวเอง

ถ้วยเลื่อนหลุด แรงของเขาไม่พอ มองดูเหมือนทุบลงไป แต่ที่ จริงคือปล่อยมือเท่านั้น

ถ้วยเลื่อนลงไปถูกจมูกเขา เจ็บจนเขาน้ำตาเล็ดทันที น่าอนาถและน่าอาย

มุมปากของหยวนชิงหลิงกระตุก หยิบเอาถ้วยขึ้นมา เดินออก

ไป

“ฮ่าๆๆๆ นอกประตู หยวนชิงหลิงหัวเราะจนแผลเกือบจะปริ ออกมาแล้ว

ข้างใน หมู่เหวินเท้านวดที่จมูกของตัวเอง สั่นไปทั้งตัว “ข้า อยากจะบ้าตาย ”

แสงอรุณแรกสาดส่อง ขอบฟ้ามีแสงสีแดงส้มบางๆเผยออก มา กลุ่มเมฆค่อยๆถูกย้อมสี

สวี นั่งอยู่ข้างนอกตั้งแต่เมื่อคืน หลับไปอย่างไม่รู้ตัว
ถูกเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของหยวนชิงหลิงทำให้ตื่นขึ้นมา เขาขยี้ตา มองใบหน้าที่หัวเราะจนเปลี่ยนรูปไปของหยวนซึ่งหลัง “พระชายา ท่านเป็นอะไรหรือไม่ ”

หยวนชิงหลิงหัวเราะจนใบหน้าแดงก่ำ รีบหยุดหัวเราะ คิ้วก็ เลิกขึ้น ตบไปที่บ่าของสวี “สวี เข้าไปดูแลท่านอ๋องเถอะ เขา ชีวิตขมขื่นอยู่สักหน่อย

สวี มองนางที่พูดจบแล้ว ก็หัวเราะขึ้นอย่างชั่วร้ายและบ้าคลั่ง ทําเอาเขาตกใจจนต้องรีบกระโดดเข้าไปในห้อง

“ไสหัวไป”

เขารีบวิ่งออกมา สีหน้าดำคล้ำ

หยวนชิงหลิงไม่ได้เข้าไป เดินออกไป ถึงข้างทะเลสาบ มอง พระอาทิตย์ที่ค่อยๆเคลื่อนขึ้นจากขอบฟ้า

มองพระอาทิตย์ขึ้น ทำให้คนรับรู้ถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วย

ชีวิตชีวา และอากาศสดชื่นในยามเช้า

ตายแล้วทะลุมิติ ความเศร้าใจที่ต้องจากบ้าน ถูกภาพ พระอาทิตย์ขึ้นค่อยๆกดลง กดจนไปอยู่ในที่ที่มองเห็นได้ไม่ชัด นัก เกือบจะสัมผัสไม่ถึง

บางทีอาจเป็นเพราะพระอาทิตย์ขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะการ หัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่ ที่สุดก็ทำให้นางได้ใช้ชีวิตอย่างคน ปกติได้หลายนาที

ใต้แสงแดด มีเรื่องอะไรที่จะต้องกลัวอีก
นางยืนอยู่ข้างทะเลสาบ น่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า จนรู้สึกว่าแสดงแดดแยงตาแล้ว นางจึงค่อยๆเก็บสายตา ทั้งหยางเดินมาถึงอย่างรวดเร็ว เอ่ยเสียงขรึม “พระชายา หรู กงกงมาแล้ว”

หยวนชิงหลิงหันกลับไป มองทั้งหยางด้วยใบหน้านิ่งขรึมหนัก แน่น “มู่หรูกงกง”

“มหรูกงกงเป็นหัวหน้าผู้ดูแลข้างกายฮ่องเต้

“มีเรื่องอะไร “หยวนชิงหลิงรู้ว่าแต่ไหนแต่ไรเขานั้นนิ่งมาก แต่ ตอนนี้เขามีสีหน้าตกใจ แสดงว่ามหรูกงกงที่มานั้นคงไม่ได้มาดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ