บัลลังก์หมอยาเซียน

บทที่ 84 ใครเปลี่ยนไปแล้ว



บทที่ 84 ใครเปลี่ยนไปแล้ว

ฮ่องเต้หมิงหยวนกำลังอ่านฎีกาอยู่ ก่อนที่เขาจะมานั้นบัณฑิต ซุนจึงออกไป ซึ่งบัณฑิตซุนผู้นี้ปากไวยิ่งนัก ถ้าหากเขาเห็นหมู่เห วินเท้าทําความสะอาดหอทรงพระอักษร เกรงว่าแค่เพียงวันเดียว ทั้งราชสำนักคงรู้กันหมดแน่

“เงยหน้าขึ้น! “เสียงฮ่องเต้หมิงหยวนพูดดักเขาจากทางซ้าย

หมู่เหวินเท้าถือผ้าเช็ดขึ้น แล้วค่อยๆ หันกลับมา พลางค่อย ยิ้มออกมาอย่างเขินอาย “เสด็จพ่อ! ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนขยับปากหนึ่ง พลางนับในใจ พอแน่ใจว่าตัว เองสามารถกลั้นหัวเราะได้แล้ว จึงถามขึ้น “คนอัปลักษณ์ชอบ ทําตัวประหลาด

หมู่เหวินเท้ายืนอยู่ด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่ นี่มันเกี่ยวกับคน

อัปลักษณ์ชอบทำตัวประหลาดตรงไหน?

“มหรู ไปหยิบยาทาต้านพิษมาทาให้หน่อย! “ฮ่องเต้หญิง หยวนรับสั่ง

“ยาทาต้านพิษ? “มหรูกงกงอึ้งไปชั่วขณะ “นี่มี

“มัวพูดมากอะไรอยู่? ” ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดเสียงแข็ง

มู่หรูกงกงตอบรับ พลางไปหยิบกล่องกระดองเต่าเล็กๆ ออก มาจากลิ้นซัก แล้วก็เดินมาตรงหน้าหมู่เหวินเท้า พร้อมยิ้มให้“ท่านอ๋องทนหน่อยนะ ยานี่เวลาทาค่อนข้างแสบร้อน

“ไม่เป็นไร ข้าไม่กลัวเจ็บ” หยู่เหวินเท้ารู้สึกซาบซึ้งใจที่เสด็จ พ่อทรงเมตตา

แต่ว่า ทำไมสายตามหรูกงกงถึงได้ดูเหมือนสงสาร

ในจังหวะนั้นเอง เขาก็ไม่มีสติแล้ว พอทายานเข้าไป ไหนบอก ว่าแค่แสบร้อน? แต่นี่มันแสบไปถึงทรวงใน เหมือนกับว่ามีเข็ม ทิ่มเข้าไปในเนื้อ จนเข้าไปถึงหัวใจ เขาหายใจเหนื่อยหอบ “เบา หน่อย เบาหน่อย! ”

“เจ็บแค่นี้ยังทนไม่ได้ เจ้าจะมีอนาคตได้อย่างไร? ” ฮ่องเต้ห มิงหยวนพูดขึ้นอย่างโมโห

หมู่เหวินเท้าเก็บความเจ็บปวดทุกอย่างกลืนเข้าไปทันที แต่ว่า มันแสนจะเจ็บปวด และนี่ถึงทำให้เขารู้ว่าทำไมหรูกงกงถึงทำ สายตาสงสารแบบนั้นออกมา

หลังจากทายาเสร็จ เขารู้สึกว่าตั้งแต่คอขึ้นไปไม่ใช่ของเขา แล้ว มันเจ็บปวดจนซาไปหมด

และก็ เขารู้สึกว่าผิวหนังของเขายิ่งบวมมากกว่าเดิม เมื่อครู่ ยังพอลืมตาได้ครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับมองเห็นแค่แสงเล็กๆ และ แทบจะเป็นรางๆ

“ออกไป!” ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดเสียงดัง เขาจะได้ไม่ก่อเรื่อง

อะไรอีก

“พ่ะย่ะค่ะ ลูกขอทูลลา!

” หยู่เหวินเท้ารีบเอามือแนบข้างตัวแล้วถอยหลังไป เขามองเห็นไม่ชัด ขนาดประตูยังไม่หลบเลย แล้วพยายามใช้แรงดึงกลอนประตู

มหรูกงกงหัวเราะและเปิดประตูให้ “ท่านอ๋องทางนี้!

พอแสงสะท้อนเข้ามา หมู่เหวินเท้าถึงมองเห็น เขาพุ่งพรวด ออกไปตรงกับประตูพอดี เขาเจ็บจนต้องกัดฟันแน่น แล้วจึงเดิน ออกไปอย่าง โชเซ

หรูกงกงกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวจึงหลุดหัวเราะออกมา พอหัน มาเห็นสีหน้าจริงจังของฮ่องเต้หมิงหยวน เขาพลันหยุดหัวเราะ ทันที แล้วพูดขึ้น “หน้าท่านอ๋องบวมรุนแรงมาพะยะค่ะ

ด้านนอก ก็พลันได้ยินเสียงบางอย่างกลิ้งลงบันได ฮ่องเต้หญิง หยวนจึงพูดขึ้นอย่างไร้เยื่อใย “สมควร”

หรูกงกงจึงหันไปมอง เป็นท่านอ๋องที่กลิ้งลงตามบันได

มหาดเล็กจึงเข้ามาพยุงเขาแล้วพาเดินออกไป ช่างน่าสงสาร

จริงๆ

“ฝ่าบาท มียาดอกขาวอยู่ แต่ทำไมพระองค์ถึงให้ทายาทา ต้านพิษล่ะพ่ะย่ะค่ะ? มันต้องเจ็บปวดขนาดไหน! “มหรูกงกง เคยใช้ยายาทาต้านพิษมาก่อน ความเจ็บปวดนั้นไม่ใช่ธรรมดา เลย และยาทาต้านพิษก็ใช้สำหรับผิวหนังบวมเป่ง แต่ถ้าหากว่า มีบาดแผลด้วย ก็จะยิ่งเจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ได้

“ไม่เจ็บจะจำได้อย่างไร? ” ฮ่องเต้หมิงหยวนทำหน้าบึ้งตึง “พอแล้ว เอายาดอกขาวไปมอบให้เขาด้วย”
หยู่เหวินเท้าเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส และให้มหาดเล็กพยุง เข้ามาในตำหนักฉันคนแล้วจึงไปพักที่ตำหนักอุ่น

หยวนชิงหลิงกำลังกวาดใบไม้อยู่ด้านนอกตำหนักอุ่น พลัน มองเห็นหน้าเขาบวมมาก จนตาแทบจะลืมไม่ขึ้น จึงอดถามไม่ได้ “ท่านทายาอะไรที่หน้าของท่าน? ทําไมถึงได้บวมเป่งขนาดนี้?

หมู่เหวินเท้าที่โมโหสุดขีดอยู่นั้น จึงไม่สนใจนาง พลางหันไป มองมหาดเล็กแล้วพูดขึ้น “พาข้าเข้าไป ข้าไม่อยากเห็นคนน่า รังเกียจ”

หยวนชิงหลิงไม่เคยเห็นใครใจแคบเท่าเขามาก่อน พอนึกได้ ว่าเขาเป็นคนคิดจะทำร้ายนาง ถึงได้โดนผึ้งต่อยแบบนั้น ตอนนี้ กลับมาทำให้นางเหมือนเป็นต้นเหตุ นางจึงพูดขึ้นอย่างไม่สนใจ “พูดอย่างกับว่าท่านอยากเจอแล้วจะได้เจออย่างนั้นแหละ ช่าง ไม่ดูตาสองข้างของตัวเองที่บวมอย่างกับตูดลิงเลย จะน่าเกลียด ขนาดไหนไม่ต้องพูดถึง”

“หยวนชิงหลิง! ” หยู่เหวินเท้าแทบอยากจะระเบิดออกมา “เจ้าหุบปาก”

หยวนชิงหลิงเอาไม้กวาดพิงว่า “ทำไมขาต้องหุบปากด้วย? ข้ายังเดินได้อยู่ ฉางกงกงบอกว่าเตรียมของหวานถั่วเขียวเอาไว้ แล้วเข้าไปกินของหวานดีกว่า ท่านบ้าไปคนเดียวเถอะ ”

พวกเขาสองคนนั้นไม่อาจจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขจริงๆ ก่อนหน้าต่างคนต่างใสซื่อจริงๆ

มหาดเล็กพยุงหยู่เหวินเท้าเข้ามา แล้วเอานอนลง แต่เขาก็ยังพูดไม่จบ

มหาดเล็กทนฟังต่อไปไม่ไหวจึงพูดขึ้น ท่านอ๋อง ตกลงท่าน เป็นอะไรกันแน่? ทำไมถึงชอบหาเรื่องทะเลาะกับพระชายาไม่จบ ไม่สิ้น?

“กู้ซือ” หยู่เหวินเห้าตบลงไปที่เตียงด้วยความโมโห “หรือเจ้า ไม่ได้ยินว่านางปากคอเราะรายขนาดไหน? นางบอกว่าตาสอง

ข้างของข้าบวมอย่างกับตูดลิง”

“ท่านอ๋องข้าขอถามท่านหน่อย ท่านเกลียดพระชายาคนก่อน หน้านี้หรือว่าเกลียดพระชายาตอนนี้? ” มหาดเล็กยกมือแล้ว ถามขึ้น

หญ่เหวินเท้าไม่คิดอะไรเลย “เกลียดทั้งสอง

“เมื่อก่อนถ้าทะเลาะนิดหน่อย ท่านไม่เห็นสนใจนาง ทำไม ตอนนี้นางพูดแค่ประโยคเดียว ท่านกลับโมโหขนาดนี้? นาง เปลี่ยนไปหรือว่าท่านที่เปลี่ยนไป? ” มหาดเล็กถามกลับ

หมู่เหวินเท้านิ่งไปทันที

ใช่ ทำไมตอนนี้เขาถึงได้สนใจคำพูดแค่ประโยคเดียวของนาง ขนาดนี้? เมื่อก่อนนางสร้างเรื่องไว้ คิดว่าเขาไม่เกลียดหรือ? ทำไมจะไม่เกลียด? ที่จริงคือเคียดแค้นและรังเกียจต่างหาก

ตอนนี้ล่ะ?

เขาสูดลมหายใจเข้าออก พลันนึกถึงเรื่องที่นางทำช่วงนี้ บาง ครั้งก็เกลียดมาก บางครั้งก็ดูฉลาด บางครั้งก็ดูน่ารัก อย่างเช่นตอนทีนางดวงมีดหั่นผักเข้ามาตอนนางเมา

เขาเองก็อดยอมรับไม่ได้ ว่าพอนึกถึง หยวนชิงหลิง สามคำนี้ มันก็ทําให้เขาหายใจไม่ออก สมองก็เหมือนจะระเบิด แต่ว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?

กู้ซือจึงพูดขึ้น “ท่านอ๋องลองคิดดีๆ พูดจบ เขาก็หมุนตัวแล้วออกไปทันที

หมู่เหวินเท้าเอามือประคองที่หัว แล้วก็พลันหรี่ตาลงเอง สัก พักก็เริ่มเลือนราง จนไม่อยากหรี่ตา และก็มองไม่เห็นอะไร

ก่อนหน้านี้ คนอย่างเขาทำเรื่องเด็กแบบนี้ด้วยหรือ? พอเจอ รังผึ้ง กลับคิดอยากจะเอาไปแกล้งคนขี้เหร่อย่างนาง เรื่องพรรค์ นี้ หลังจากเขาอายุสิบปีก็ไม่ทำแล้วนะ

ทำไมวันนี้ถึงทำเรื่องนี้ขึ้น แถมยังทำลายชื่อเสียงตัวเองใน

ตำหนักฉินคุนด้วย? เพียงแค่ต้องการกลั่นแกล้งหยวนชิงหลิงอ

ย่างนั้นหรือ?

ดูแล้ว ต้องเว้นระยะห่างจากนางแล้ว ไม่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าหลัง จากนี้ตัวเขาเองจะทําเรื่องบ้าบอแบบนี้อีกหรือไม่

หยวนชิงหลิงกลับมาที่ตำหนักฉันคน ในใจก็ยังคุกรุ่นอยู่

ไท่ซางหวงมองนาง “เจ้าช่วยกินเบาๆ ได้หรือไม่? รำคาญหู หยวนชิงหลิงวางซ้อนลง “หม่อมฉันไม่กินแล้ว”

“โมโหแล้วหรือ?” ไท่ซางหวงถามขึ้น
“ไม่ได้โกรธเพคะ” หยวนชิงหลิงคิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าไม่ จําเป็นต้องปกปิดความรู้สึกตัวเอง จึงพูดขึ้นเสียงด้วยความ ฉุนเฉียว “ที่ไม่โกรธเพราะโกหก ไม่เคยเห็นใครใจแคบแบบนี้ เลย ตอนแรกหม่อมฉันคิดว่าเขาเป็นคนดีคิดอยากจะช่วย ทำความสะอาดหอทรงพระอักษร ในใจก็รู้สึกซึ้งใจมาก แต่ใคร จะรู้ว่าเขาจงใจให้ผึ้งมาต่อยหม่อมฉัน

“แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่เขาทำร้ายตัวเองหรือ? ” ไท่ซางหวง

พูด

“ไม่ใช่เรื่องนี้เพคะ เป็นเพราะในใจหม่อมฉันรู้สึกผิดหวัง เดิมทีหม่อมฉันคิดว่าจะอยู่กับเขาอย่างสันติ เข้าวังวันนี้ พวกเรา หารือกันสำเร็จ พระองค์คิดว่าทำไมคนคนนี้ถึงไม่รู้จักหยุด? หม่อมฉันน่ารังเกียจขนาดนั้นหรือ? ต้องให้เขาทำร้ายหม่อมฉัน จนพอใจเลยหรือ? ” หยวนชิงหลิงยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

ไท่ซางหวงส่ายหน้า “ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะทำแบบนั้น เจ้าเข้าใจ เข้าผิดแล้ว”

“ไม่ผิดเพคะ เขาเองก็ยอมรับแล้ว” หยวนชิงหลิงพูดด้วยน้ำ เสียงไม่ค่อยพอใจ

“เขาเป็นคนทําอะไรหนักแน่นมาตลอด พ่อของเขาก็พึ่งรับสั่ง ให้เขาไปรับตำแหน่งที่กรมพระนคร เขาจะมาก่อเรื่องในวัง ทำไม? “ไท่ซางหวงไม่เชื่อจริงๆ แต่ว่าถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริง อย่างงั้นหลานคนนี้ก็มีทางรอดแล้ว อย่างน้อยก็ยังมีความรู้สึก เหมือนมนุษย์มนา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ