บทที่ 67 ไม่ค่อยจะสนใจแล้ว
เพียงแต่ หยวนชิงหลิงทานแค่ข้าวต้ม ไม่ได้ทานขนมกุ้ยชาว
ตอนเช้า โดยปกตินางจะไม่ทานของที่มีรสหวาน ขนมกุ้ยฮาวก็ถูกยกมาวางบนโต๊ะวางเย็นอยู่ตรงนั้นไม่ได้แตะ
มันเลย
หลังจากทานข้าวต้มเสร็จ หยวนชิงหลิงก็ลุกขึ้นกล่าว “ฮูหยิน รอง ข้าขอตัวก่อน!!
ฮูหยินรองกล่าวอย่างอ่อนโยน “รีบไปเถอะ พ่อเจ้ารอเจ้าอยู่
หยวนชิงหลิงพยักหน้า ก็ออกไปโดยตรง
คนแค่ออกจากประตู ก็ได้ยินนางหลวนพูดกระแนะกระแหน “วางมาดอะไรกัน ไม่ใช่จะไม่รู้สึกหน่อยว่านางอยู่ในจวนอ๋องมี สถานการณ์ยังไง ไม่มีความช่วยเหลือจากจวนเจ้าพระยา นางคง ไม่มีแม้กระทั่งข้าวต้มกิน ข้าได้ยินมาว่า ท่านอ๋องทั้งด่าทั้งทำร้าย นาง พวกเจ้าเห็นหน้าผากของนางมั้ย? ยังมีแผลอยู่เลย ต้องเป็น ฝีมือของท่านอ๋องแน่เลย แต่งไปปีกว่าแล้ว ยังไม่มีความสัมพันธ์ กัน ก็ไม่กลัวคนหัวเราะหรืออย่างไร”
ภรรยาของหยวนหมุนเหวินนางชัยกล่าว “แต่ข้าได้ยินมาว่า เขามีสัมพันธ์กันแล้ว เพียงแต่ ได้ยินมาว่าถูกไทเฮาบังคับ อ๋อง กินยาแล้วถึงยอมมีสัมพันธ์ ก็แสดงได้เห็นว่าอ๋องนั้นไม่ชอบ นางเลยจริงๆ”
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว คนนอกพูดก็พอแล้ว พวกเรายังไปพูด ตามทำไมอีก? แยกย้ายกันเถอะ” ฮูหยินรองกล่าวอย่างยุติธรรม เพียงแต่ ใบหน้าของนางนั้นก็มีความสะใจไม่น้อย ต้องกินยาถึง จะมีความสัมพันธ์กัน เห็นได้ชัดว่าอ๋องนั้นไม่ชอบนางมากแค่ ไหน
สิ่งที่น่าก็คือนางนึกว่ามีความสัมพันธ์กับอ๋องแล้ว อ๋องก็ จะเหลียวแลนาง กลับมาที่จวนก็มาวางมาดพระชายาแล้ว
อ่อนต่อโลก โง่และหยาบคาย
หยวนชิงผิงที่เพิ่งจะเป็นสาว สำหรับเรื่องมีความสัมพันธ์ก็รู้ เพียงเล็กๆน้อยๆ ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้น จากนั้น ก็รีบ ตามไป
นางกว้าตัวหยวนชิงหลิงเอาไว้ กระชากแขนเสื้อของนางอย่าง หยาบคาย “ทำไมเจ้าถึงไร้ประโยชน์นัก? เป็นถึงพระชายาแล้ว ยังไม่สามารถทำให้ท่านอ๋องชอบ คนอื่นต่างก็หัวเราะพี่แล้ว
หยวนชิงหลิงสะบัดมือนางออก แววตาเรียบเฉย “หัวเราะข้า แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า?”
“ก็ต้องเกี่ยวสิ ทุกคนต่างก็รู้ว่าพี่ใหญ่ไม่ได้เรื่องขนาดไหน หัวเราะท่านก็เหมือนหัวเราะข้า พี่ใจสู้หน่อยได้มั้ย?” หยวนชิงผิง กล่าว
หยวนชิงหลิงมองเด็กสาวที่อายุเพิ่งจะสิบห้า นางยังไม่รู้ว่าสิ่ง ต่างๆ ในโลกไม่ได้เป็นไปเพื่อตัวนางเองทั้งหมด ใจสู้แล้วก็จะได้ ในสิ่งที่ตัวเองต้องการมั้ย?
เขาไม่ได้พูดจา เดินผ่านตัวนางไปโดยตรง
หยวนซึ่งยิ่งโกรธจนกระทืบเท้า ไม่เคยเห็นคนที่ไม่เอาไหนเช่น นี้จริงๆ
หยวนชิงหลิงมาถึงหน้าประตูห้องหนังสือ ข้ารับใช้ข้างกาย ของเจ้าพระยาจึงได้รออยู่แล้ว เมื่อเห็นนาง ก็โค้งคำนับกล่าว “เจ้าพระยาจิ้งรอพระชายาอยู่ข้างในแล้ว เชิญพระชายาเข้าไปเถอะ”
หยวนชิงหลิงพยักหน้า กำชับลู่หยาเฝ้ารออยู่ข้างนอก ตัวเอง ผลักประตูเข้าไป
แสงไฟในห้องหนังสือไม่ค่อยสว่างนัก ชั้นหนังสือทั้งแถวตั้งอยู่ ทางทิศตะวันออกของกำแพง ชายวัยกลางคนในชุดผ้าแพรสีดำ ยืนอยู่ตรงหน้าชั้นหนังสือ ในมือได้ถือหนังสือไว้หนึ่งเล่ม แต่ สีหน้าของเขาดูจะไม่ค่อยอดทนเอาเสียเลย
แววตาคมกริบ เผยให้เห็นถึงความดุร้าย ขมวดคิ้วไว้อย่าง แน่นๆ ยกค้างขึ้นเล็กน้อย ส่วนโค้งบนใบหน้าของเขานั้นชัดเจน และเฉียบคมมาก และถุงใต้ตาก็หย่อนยานไปมาก คนทั้งคนดู แล้วแก่และเย็นชา
เมื่อเห็นนางเข้ามา เขาก็รีบเก็บหนังสือไปในชั้นวางหนังสือ กล่าวอย่างเย็นชา “ทำไมนานจัง?”
เขารีบเดินไปที่เก้าอี้ไม้แล้วนั่งลง วางสองมือไว้บนโต๊ะ ดู เหมือนว่าเขากำลังถามหาเรื่องความผิด
“เมื่อกี้ทานข้าวต้มอยู่ข้างนอก!” หยวนซึ่งหลังกล่าว ค่อยๆ เดินเข้าไปดูแล้ว ตั้งแต่นางเข้ามาในจาน เขาก็รอให้นางมาพบ เขาเอง
เจ้าพระยาจิ้งสีหน้ารำคาญ ทานข้าวต้มอะไรกัน? ไม่รู้ว่าข้า หาเจ้าเพราะมีธุระด่วนหรือไง? ข้าถามเจ้า เจ้าเข้าไปในวังมาใช้ หรือไม่?”
หยวจชิงหลิงไม่ชอบน้ำเสียงแบบนี้เลย คิ้วค่อยๆขมวดขึ้น แต่ ก็ตอบด้วยความใจเย็น “ใช่”
“ใครเรียกให้เจ้าเข้าวัง?” เจ้าพระยาจิ้งถาม เขารู้ว่า ในวังไม่มี คนชอบหยวนชิงหลิง แม้กระทั่งไทเฮาก็เพราะเห็นแก่หน้าของ อ๋อง จึงไม่ได้ทำสีหน้าเย็นชาใส่นาง โดยปกติไม่น่าจะมีคน เรียกนางเข้าไปพบโดยเฉพาะ
“ไอ้ช่างหวง!” หยวนชิงหลิงกล่าว
เจ้าพระยาจึงลุกขึ้นมาทันที “ไท่ซางหวง?”
การแสดงออกของเขาค่อนข้างประหลาดใจ นี่เป็นคนที่ไม่น่า จะเป็นไปได้มากที่สุดที่จะเรียกนางเข้าเฝ้า ไม่ช่างหวงปกติก็ไม่ ค่อยจะยุ่งเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว
“พระองค์เรียกเจ้าไปเฝ้าด้วยเหตุอันใด?”
“ไปปรนนิบัติ!”
สีหน้าของเจ้าพระยาจึงค่อยๆเปลี่ยนไป กลายเป็นอ่อนโยน เล็กน้อย “ไท่ซางหวงเรียกเจ้าไปปรนนิบัติ? งั้นเจ้าก็ต้องรักษาโอกาสนี้ไว้ดีๆ อยู่ต่อหน้าไท่ซางหวงต้องทําตัวเรียบร้อย ทำให้ พระองค์พอพระทัย
หยวนชิงหลิงไม่สบายใจที่เห็นความโกรธของเขาหายไปจาก นั้นเขาก็เริ่มคิดวางแผนทันที จึงกล่าวขึ้น “รักษาไว้ไม่ได้ ข้าได้ ล่วงเกินไท่ซางหวงไปแล้ว ไท่ซางหวงไล่ข้าออกจากวัง
เจ้าะพระยาจิ้งทุบโต๊ะ กล่าวอย่างโกรธเคือง “เจ้าทำไมไม่ได้ เรื่องเช่นนี้? โอกาสที่หายากแบบนี้ก็ถูกเจ้าทำลายไปแล้ว เจ้า ลองพูดมาซิว่าเจ้ายังมีประโยชน์อะไรอีก? ทำไมเจ้าต้องล่วงเกิน ไท่ซางหวง? เพราะเจ้าว่าร้ายพระชายานี้ต่อหน้าไท่ซางหวงใช้ หรือเปล่า?”
“อาจจะใช่!” หยวนชิงหลิงไม่อยากจะอธิบาย ใจนั้นออกห่าง จากบ้านหลังนี้แล้ว ไม่มีที่ไหนที่ไม่หนาวเย็น ไม่มีที่ไหนที่ไม่ ลำบาก ไม่อยากที่จะอยู่ตรงนี้นานๆ
เจ้าพระยาจิ้งกล่าวด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว “เจ้ากินดีหมีดีเสื้อ เข้าไปเหรอ จึงกล้าเป็นปรปักษ์กับพระชายา ข้าเชื่อเจ้าผิดไป จริงๆ ตอนแรกไม่ใช่เพราะเจ้าบอกว่าสามารถที่จะทำให้ต้องรัก เจ้า ข้าทำไมต้องวางแผนให้เจ้าได้แต่งเข้าจวนอ๋อง ยังต้อง ผิดใจกับตระกูลฉี่ยังรุนแรง
หยวนชิงหลิงกล่าวเตือน “ข้าพาลู่หยากลับมา ลู่หยาได้รับคำ สั่งจากท่านอ๋อง ทุกคำพูดและการกระทำของข้าที่อยู่ในบ้านนี้ หรือว่าทุกการกระทำและคำพูดของคนในบ้านนี้ ล้วนต้อง รายงานท่านอ๋อง เวลาท่านพ่อพูดจาก็ควรจะระวังหน่อย นางก็อยู่ข้างนอก”
“เจ้า………. เจ้าพระยาจิ้งโมโหจนอยากจะกระอักเลือด ใส่ หน้านาง การลงทุนที่ผิดพลาด สายเกินไปที่จะเสียใจ บัดนี้นางที่ อยู่ในวังล่วงเกินพระชายา ตระกูลยังเห็นเขาเป็นหนามยอก อก?
เขาบอกว่าตัวเองเป็นเลขานุการในกรมทหาร จริงๆแล้วเขา เข้าใจดี วันนี้สามารถรักษาตำแหน่งเสนาบดีทหารนี้เอาไว้ก็ไม่ เลวแล้ว บัดนี้ดูแล้ว เหมือนจะรักษาไม่อยู่แล้ว
“พรุ่งนี้เจ้ารีบไปขอโทษพระชายาที่จวนอ๋องฉี” เจ้าพระยา งออกคำสั่ง เพราะลู่หยาอยู่ข้างนอก เขาจึงลดระดับเสียงลงมา นิดหน่อย
หยวจชิงหลิงส่ายหัว “ข้าไม่สามารถไปขอโทษนางได้”
ความโกรธของเจ้าพระยาจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แววตาคู่นั้น เกือบจะพ่นไฟออกมาแล้ว “เจ้าอยากที่จะมีชีวิตต่อหรือไม่? เจ้า ไม่รู้จุดจบของการที่ล่วงเกินตระกูล? อย่ามาบอกว่าตอนนี้เจ้า เป็นเพียงพระชายาที่ท่านอ๋องหมดรัก ต่อให้ได้ความรักจากอ๋อง อู่ ตระกูลก็ไม่ใช่คนที่เจ้าจะล่วงเกินได้
หยวนชิงหลิงไม่อยากที่จะฟัง ก้มตัวแล้วกล่าว “ข้าไปดูท่านย่า ก่อน ครั้งนี้ที่ออกมา ข้าบอกกับท่านอ๋องว่าข้ามาเยี่ยมอาการ ของท่านย่า”
พูดจบ นางก็หันหลังออกไป
เจ้าพระยาจิ้งครามด้วยความโกรธ “เจ้าหยุดอยู่ตรงนั้น!
หยวนชิงหลิงทำเหมือนไม่ได้ยิน ออกไปนอกประตูก็กล่าวกับ หยา “ไปเถอะ ไปเยี่ยมท่านย่ากัน
หยามองไปข้างใน เสียงคำรามเมื่อกี้ทำให้คนฟังกลัวจนตัว สั่น มองสีหน้าของพระชายา เหมือนกับว่าไม่ได้ใส่ใจเลย
ลู่หยากลับมาจวนกับหยวนชิงหลิงหลายครั้งแล้ว รู้ว่านาง ปฏิบัติต่อคนในจวนอย่างสุภาพมาก เพราะจวนเจ้าพระยาช่วย เหลือนาง ให้เงินทองกับนางไปเกื้อหนุนตำแหน่งของนางในจวน อ๋อง เพื่อซื้อใจคน
แต่ทำไมพระชายาวันนี้ดูไม่ค่อยจะสนใจแล้ว?
หยวนชิงหลิงมาตามความทรงจําของเจ้าของร่าง จนมาถึง เรือนหลังที่ฮูหยินใหญ่พักอยู่ ตรงนี้ เป็นหลังบ้านที่ติดกำแพง ทั้งจวน ตรงนี้เป็นที่ที่เงียบ
สงบที่สุด และก็ไกลสุด
เสี้ยนจู่ที่เคยมีชาติตระกูลที่มีอำนาจ ฮูหยินใหญ่ที่มีความ คล่องแคล่วเด็ดขาด บัดนี้ทำได้แค่พักอาศัยอยู่เรือนหลังบ้าน รอ ความตายอย่างเงียบๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ