บทที่ 65 หย่ากับนาง
แม่นมณีมองดูขนมที่นางทำอย่างเต็มที่ปนเปื้อนไปด้วยฝุ่น ตื่น ตกใจไปชั่วขณะ สวีเดินออกมากล่าวกับนาง “แม่นมลุกขึ้นมา เถอะ ท่านหญิงเสียนเฟยไม่ได้โกรธเจ้า ท่านหญิงทะเลาะกับท่า นอ๋องน่ะ”
แม่นมไม่กล้าถาม เพียงแค่เก็บของว่างที่ตกอยู่บนพื้น แล้วก็ ถอยออกไป
ระหว่างทางที่เสียนเฟยกลับวัง ยิ่งคิดยิ่งโมโห เรียกแม่นมคน สนิทมาพบ แล้วกล่าว “เจ้าไปส่งข่าวให้พ่อของข้า บอกว่าเรื่อง แต่งชายารองมีอุปสรรค ให้เขาไปคุยกับเจ้าพระยาจิ้งหน่อย
“เพคะ!” แม่นมคนสนิทรับบัญชาแล้วไปจัดการ
ช่วงนี้เจ้าพระยาจิ้งในอกเต็มไปด้วยไฟโกรธ วันนั้นพระชายา ได้ให้คนมาส่งข่าว ให้เขาไปรอที่จวน สรุปรอไปสองวัน พระชา ยาฉีก็ไม่ยอมเจอเขา
เดิมเขาไม่อยากจะมาอีก แต่บัดนี้สถานการณ์ของตัวเองนั้นไม่ ดีเลย ทำได้เพียงรออยู่หน้าจวน นี่ก็รอไปครึ่งชั่วยามแล้ว เพิ่งจะ เห็นเกี้ยวของพระชายาฉีกลับมา
เขาเก็บอาการที่ไม่พอใจเอาไว้ ยิ้มแย้มเดินเข้าไปต้อนรับ “ค่านับพระชายาฉี!”
ฉู่หมิงชุ่ยเปิดม่านออก แล้วมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาแวบหนึ่ง “ท่านเจ้าพระยาเองเหรอ?”
“ใช่แล้ว !” เจ้าพระยาจึงเห็นท่าที่นางไม่อยากจะพูด ก็ไม่กล้า พูดมาก
หมิงชัยกล่าวอย่างเรียบเฉย “เชิญท่านเจ้าพระยากลับไป ก่อนเถอะ ประตูธรณีที่จวนอ๋องมันต่ำ กลัวจะทำให้ท่านลำบาก หากทำให้พระชายาไม่พอใจ พูดใส่ความข้าต่อหน้าฮ่องเต้ มัน
จะไม่ได้ดี ท่านไปเถอะ
พูดจบ ก็ปล่อยม่านลง เกี้ยวได้ถูกหามไปข้างหน้าอย่างต่อ เนื่อง ทิ้งเจ้าพระยาจิ้งไว้ตรงนั้น
ไม่ว่ายังไงเจ้าพระยาจิ้งก็เป็นคน ในจวนขุนนางยศชั้นพระยา มารอคอยสามวันแล้วกลับโดนไล่กลับไป มันเป็นความอัปยศ ครั้งใหญ่ สีหน้าดำคล้ำไปทันที จะถอยก็ไม่ใช่ จะเดินหน้าก็ไม่ เชิง
จนกระทั่งได้สบตากับสายตาที่เย้ยหยันตรงประตูจวน เขาจึง หันหลังกลับอย่างโกรธเคือง
“เจ้าพระยาจิ้ง!” เสียงเรียกได้ดังขึ้นจากด้านหลัง
เจ้าพระยาจิ้งหันกลับมาด้วยความโกรธ สาวใช้ของหมิงชัย เดินลงมา พร้อมรอยยิ้มที่เย็นชา “พระชายาบอกว่าเมื่อกี้เสีย มารยาทไปแล้ว ให้ข้าน้อยมาขอโทษกับท่าน
เจ้าพระยาจิ้งโกรธเล็กน้อย ให้สาวใช้มาขอโทษ? ไม่เท่ากับ ลดฐานะของเขาหรอกหรือ? พระชายาคนนี้ช่างดูถูกคนนัก
สาวใช้กล่าว “เจ้าพระยาจึงท่านอย่าโกรธเลย พระชายาตอน อยู่ที่วังได้รับความลำบากใจมา
ได้ฟังว่าเรื่องเกี่ยวกับในวัง เจ้าพระยาจิ้งก็ตกตะลึง ถามอย่าง ระมัดระวัง ไม่ทราบว่าพระชายาได้รับความลำบากใจอะไร?” สาวใช้กล่าวอย่างเรียบเฉย “ไม่สะดวกพูด เจ้าพระยาจึงกลับไป ถามพระชายาเถอะ ฮองเฮาทรงตรัสว่า เป็นคนต้องเหลือ หนทางไว้ให้กับตัวเองบ้าง ฮ่องเต้อาจจะไม่ได้ชอบนาง แต่ไม่ อาจจะทำให้ราชวงศ์ขายหน้าได้ เจ้าพระยาจิ้งก็พิจารณาเองแล้ว กัน อย่าให้ถึงเวลาแล้วถูกพระชายาทำลายอนาคต เฮ้ย น่าเสีย ดายจริงๆ พระชายาฉีเดิมอยากจะพาท่านเจ้าพระยาจึงไปพบ โสวฝูฉู่..….…..
สาวใช้พูดจบ ก็หันกายเดินเข้าไปในจวน
เจ้าพระยาจิ้งได้ฟังคำพูดเหล่านี้ ทั้งตกใจทั้งโกรธ หยวนชิง หลังนั้นทำอะไรลงไปบ้าง? จึงทำให้พระชายาโกรธเพียงนี้
เขาก็รู้ว่าที่พระชายาฉีเรียกเขามาที่จวนอ๋องฉี ก็เพราะจะดึง เขาเป็นพวกและสนับสนุนเขา ไม่คิดว่ามันกลับถูกหยวนชิงหลิง ทําพัง
ไอ้ลูกชั่วคนนี้ ไม่สามารถช่วยเหลือเขากลับทำเรื่องของเขา พัง มันน่าโมโหจริงๆ
คิดไปคิดมา จึงได้ให้คนไปส่งข่าวที่จวนอ๋อง ให้แจ้งว่า หยินใหญ่อาการแย่ลง เชิญพระชายากลับมาที่บ้าน
ฉู่หมิงชุ่ยเข้าไปในจวนแล้ว นั่งจิบชาอย่างสบายใจ เมื่อเห็นสาวใช้กลับมา ก็ถามอย่างเรียบเฉย “ได้บอกต่อไปแล้วใช่หรือ ไม่?”
สาวใช้กล่าว “พระชายาโปรดวางใจ ไม่ขาดตกแม้แต่ เดียว เจ้าพระยาจิ้งโกรธมาก
ฉู่หมิงชุ่ยรับคำไป ก็ไม่พูดอีกเลย
ครั้งนี้ก่อนออกจากวัง ฮ่องเต้ได้รับสั่งให้มหรูกงกงตักเตือน นาง ต่อไปเรื่องในวังยุ่งให้มันน้อยๆหน่อย
ท่านน้าก็ตำหนิติเตียนนางด้วย หากไม่เอาท่านมาอ้าง เกรง
ว่าท่านนาก็คงไม่ยอมปล่อยนางง่ายๆเช่นนี้
หยวนชิงหลิงมองทุกอย่างได้อย่างทะลุปรุโปร่ง? มันทำให้ นางคาดไม่ถึงจริงๆ
คนผู้นี้ไม่ระวังไม่ได้แล้ว คนที่ควบคุมนางได้ มีเพียงจวนเจ้า
พระยาจิ้งเท่านั้น หากจวนเจ้าพระยายังต้องการอนาคต หางของ
หยวนชิงหลิงก็ต้องหนีบเอาไว้
หยวนชิงหลิงอยู่ในจวนอ๋องไม่มีคนเอ็นดู ท่านพี่เค้าก็ไม่ได้ เห็นนางอยู่ในสายตาเลย นางจะไม่สามารถเสียการสนับสนุน จากบ้านแม่ ดังนั้น คำพูดของเจ้าพระยาจิ้ง ไม่ว่ายังไงนางก็ต้อง ฟัง และก็ต้องทำตาม
เพียงแต่จู่หมิงชุ่ยสงสัยอยู่ในใจ หยวนชิงหลิงมีทักษะการ แพทย์นั้นเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ อีกทั้งความคิดยังแจ่มแจ้ง เช่นนี้ นอกเสียจากเมื่อก่อนนางแกล้งโง่เพื่อหลอกคนอื่น?
ดูแล้ว หากเจ้าพระยาจิ้งเอานางไม่อยู่ หยวนชิงหญิงคนนี้ก็เก็บ ไว้ไม่ได้แล้ว
คนข้างกายของเจ้าพระยาจึงได้มาส่งข่าวที่จวนอ๋อง บอกว่า
ฮูหยินใหญ่อาการแย่ลง ให้หยวนชิงหลิงหาเวลากลับไปเยี่ยม หยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดนี้ หัวสมองก็เริ่มพยายามคิดถึง สถานการณ์ในจวนเจ้าพระยาจิ้ง
ฮูหยินใหญ่ของจวนเจ้าพระยาจึงคือนาง เกิดมาเป็นเสี้ยน ตอนเป็นสาว เป็นคนที่กระฉับกระเฉงว่องไว ตอนที่มาดูแลจวน จวนเจ้าพระยาจิ้งนั้นก็ราบรื่นมาโดยตลอด เจ้าพระยาจิ้งที่อยู่ ในกรมทหารตำแหน่งขุนนางนี้เขาเองเป็นคนที่สร้างมันกับมือ
แต่ว่าเมื่อแปดปีที่แล้ว ฮูหยินใหญ่ป่วยหนัก จากนั้นก็ล้ม หมอนนอนเสื่อมาโดยตลอด หมอบอกหลายครั้งแล้วว่านางจะไม่ รอด แต่นางก็ดื้อนัก อาศัยลมหายใจเฮือกสุดท้าย กัดฟันอดทน จนผ่านด่านแล้วด่านแล้ว
บัดนี้ฮูหยินใหญ่ไม่ได้กำกับดูแลเรื่องในบ้านแล้ว นางหวง มารดาเจ้าของร่างอย่างหยวนซึ่งหลังก็ไม่มีความคิดเห็นเป็นของ ตัวเอง เรื่อง ในจวนจึงได้มอบให้ฮูหยินรองนางโจวเป็นคน จัดการ
เมื่อเอ่ยถึงนางโจว นับว่าเป็นคนที่มีความสามารถมาก
นางเดิมเป็นบ่าวที่ส่งมาปรนนิบัติฮูหยินใหญ่ตอนแต่งงาน ตามเส้นทางทั่วไป สุดท้ายนางก็อาจจะได้เป็นคู่นอนของนาย ท่านใหญ่ แต่นางหน้าตาดี ฝีมือก็ดี ไม่รู้ว่าทำอีท่าไหนจึงท้องกับนายท่านรอง เดิมสถานการณ์แบบนี้ นายท่านรองรับนางเป็น นางบำเรอก็พอ แต่นางไม่ยอมเป็นนางป่าเรือ จะยอมตายท่า เดียว ยอมแขวนคอตายจนทําให้นายท่านรองเสียใจและซึ้งใจ เพราะอย่างไรเสียมีหญิงสาวยอมตายเพื่อเขา มันเติมเต็มความ รู้สึกจอมปลอมในใจของผู้ชาย
หลังจากที่ช่วยชีวิตไว้เอาไว้ ก็ยอมต่อต้านตระกูลเพื่อจะรับ นางเป็นเมียเอก
หลังจากที่ฮูหยินใหญ่ล้มป่วยลง หลักๆก็มีนางเป็นผู้ดูแล จัดการเรื่องในจวน ฮูหยินเจ้าพระยาจึงคนนั้น ก็คือมารดาของ หยวนชิงหลิงนางหวง ยังต้องฟังนาง
เจ้าพระยาจิ้งเคารพนับถือท่านป้าคนนี้อย่างมาก บัดนี้คนใน จวนไม่มีคนจําฮูหยินใหญ่ที่นอนป่วยอยู่บนเตียงได้แล้ว รู้จัก เพียงฮูหยินรอง นางมักจะออกไปสร้างสัมพันธไมตรี ทุกอย่าง ล้วนมีฮูหยินรองเป็นคนจัดการด้วยตัวเองทั้งหมด
ความรู้สึกของเจ้าของร่างที่มีต่อท่านย่าน่าจะค่อนข้างดี เพราะ หยวนชิงหลิงได้ยินอาการของท่านย่าแย่ลง ก็ตกใจก่อนเลย
นางได้สั่งการลงไป พรุ่งนี้จะกลับไปบ้านแม่เพื่อเยี่ยมท่านย่า แม่นมฉีก็ทำเหมือนเมื่อก่อน ได้รายงานความเคลื่อนไหวของ นางให้กับทั้งหยาง ทั้งหยางก็ไปรายงานหมู่เหวินเท้า
หมู่เหวินเท้ายิ้มอย่างเย็นชา “ดูแล้ว พ่อตาของข้าจะทนไม่ไหว แล้ว”
“อันที่จริงท่านอ๋องก็ไม่ต้องให้พระชายากลับไป” ทั้งหยางรู้สึก ว่าตอนนี้สถานการณ์กำลังขับขัน หากพระชายากลับไป ไม่รู้ว่า เจ้าพระยาจิ้งจะมาไม้ไหน อย่างไรเสีย พระชายานั้นเชื่อฟังเจ้า พระยาจิ้งมาก เมื่อก่อนความสัมพันธ์ของนางกับท่านอ๋องแย่ ขนาดนั้น เนื่องจากถูกเจ้าพระยาจิ้งกดดัน พระชายาก็จะใช้ทุกวิธี มาตอแยท่านอ๋อง
เรื่องราวเหล่านั้น ทั้งหยางคิดๆแล้วยังรู้สึกขยะแขยง
“ฮูหยินใหญ่อาการหนัก ยังไงนางต้องกลับไป เมื่อนางกลับ มาแล้ว หากนางยังทำเรื่องอีก ก็ทำเป็นมองไม่เห็น และก็ห้ามให้ นางมาหาข้า” หมู่เหวินเท้ากล่าวอย่างเย็นชา
“เพียงแต่กลัวว่าไม่รู้ว่าเจ้าพระยาจิ้งจะสอนอะไรนางอีก หาก จะมาผูกคอตายอีกครั้งมันก็ดูไม่ดี อย่างไรก็ตามวันนี้ไม่ช่างหวง ยังจับตามองนางอยู่ ยังได้ส่งแม่นมออกมาดูแล” ทั้งหยาง กล่าวอย่างเป็นห่วง
หมู่เหวินเท้าคิดถึงสิ่งที่นางทำก่อนหน้านี้ หนึ่งนางร้องไห้ สอง เอะอะโวยวาย สามผูกคอตาย “แววตาก็แฝงไว้ด้วยความ รังเกียจ หากนางยังทําเช่นนี้อีก ต่อให้ข้าจะถูกเสด็จพ่อตำหนิ ลงโทษ ก็จะหย่ากับนาง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ