บทที่ 57 ไม่เชื่อก็ช่าง
หลังจากที่มหรูกงกงเข้าไปด้านใน หยวนชิงหลิงก็ตามเข้าไปด้วย
หมู่เหวินเท้าค่อยๆ ลุกขึ้นมา พลันถามขึ้น “กงกง ทำไมเสด็จ พ่อจะเอาไข่มุกหนันคืน
มูหรูกงกงเห็นว่าเขาถามขึ้นมาตรงๆ แบบนี้ จึงพูดความจริง ให้เขาฟัง “ในเมื่อท่านอ๋องถาม อย่างนั้นข้าก็จะพูดสักสองสาม ประโยค ท่านอ๋องก็อย่าโทษที่ข้าไม่มีมารยาทเลยนะ ถ้าหากว่า ท่านอ๋องต้องการจะแทนคุณฮองเฮา มันก็มีโอกาสอยู่ แต่ทำไม ถึงรีบส่งไข่มุกหนันที่พระชายาพึ่งได้รับพระราชทานไปให้เร็ว ขนาดนั้นล่ะพ่ะย่ะค่ะ?
สายตาของหมู่เหวินเท้าตอนนี้ดั่งมีดที่หันไปจ้องหน้าหยวนชิง หลิง
หยวนชิงหลิงก้มหน้าลง ไม่พูดอะไร ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
หยู่เหวินเท้าจึงค่อยๆ หันมามองหรูกงกง รบกวนกงกงกลับ ไปก่อนเถอะ ข้าอยากจะหารือกับพระชายาสองสามความ
“พระชายา ไข่มุกหนันที่เหลือกับกระดาษติดค้างนั่น เอาคืนมา เถอะ ตอนนี้ฝ่าบาททรงกริ้วอย่างมาก” มู่หรูกงกงพูด
หยวนชิงหลิงจึงตอบว่า “กงกง ไข่มุกหนันหายไปเส้นหนึ่ง ข้าจะไปรับโทษกับฝ่าบาทเอง ท่านกลับไปก่อนเถอะ”
มู่หรูกงกงอดไม่ได้จึงพูดขึ้นอย่างโมโห “เรื่องมาถึงขนาดนี้ แล้ว พระชายาไม่จำเป็นต้องพูดแบบนี้ เพราะจะยิ่งทำให้ฝ่าบาท ทรงกริ้วมากกว่าเดิม
หมู่เหวินเท้าจ้องนาง “ส่งให้กงกง
หยวนชิงหลิงหันมามองตาเขาที่ดูโมโหมากแล้ว พลางสาย หน้า “ไม่ ข้าทำหาย ข้าจะไปรับโทษด้วยตนเอง”
มู่หรูกงกงจึงพูดเสียงแข็ง “พระชายา ถ้าหากว่าท่านยังจะปาก แข็งบอกว่ามันหายไป อย่างนั้นข้าน้อยก็ช่วยอะไรท่านไม่ได้ แต่ ว่าไข่มุกหนันที่ท่านบอกว่าทำหายนั้น แม่นมเป่าของตำหนักจง คุนได้นำมาให้ฝ่าบาทแล้ว ถ้าหากว่าท่านทำหายจริง งั้นก็ หมายความว่าท่านกล่าวหาคนของตำหนักจงคุน มันจะร้ายแรง นะ ท่านโปรดคิดให้ดี! ”
เขาพูดจบ ก็หันมามองหมู่เหวินเท้า “ท่านอ๋อง ข้าน้อยขอตัว ถ้าหากว่าพระชายายังจะไปรับโทษกับฝ่าบาทด้วยตนเอง อย่า บอกว่ามันหายจะดีที่สุด ยอมรับผิดไปก็จะไม่เป็นอะไร
“ขอบใจกงกงที่เตือน” หมู่เหวินเท้าพูดเสียงหนักแน่น
มู่หรูกงกงเหลือบมองหยวนชิงหลิงครั้งหนึ่ง พลางถอนหายใจ ออกมา บุตรสาวของเจ้าพระยาจิ้ง สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถไต่ ขึ้นมาได้
หลังจากกงกงไปแล้ว หมู่เหวินเท้าก็หันไปถึงกรรไกรที่อยู่บน หัวเตียง พลางขวางมาตรงหน้าหยวนชิงหลิง กรรไกรอันนั้นเป็น สิ่งที่หยวนชิงหลิง ใช้ตัดผ้าเวลาทำแผลให้เขา เพราะว่าใช้งานตลอด จึงเก็บเอาไว้บนหัวเตียง
เดิมทีที่มือของหมู่เหวินเท้านั้นมีแผล แต่ว่าในสถานการณ์ แบบนี้เขาไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด เขาขว้างออกไปอย่างแรง หยวน ชิงหลิงไม่ได้หลบออก กรรไกรจึงบาดหูของนาง จนเกิดแผลและ มีเลือดไหลออกมา
“ท่านอ๋อง โปรดระงับโทสะเพคะ ระวังบาดแผล! ” ทั้งหยาง
รีบพูดขึ้น
สวีอีเองก็ตกใจจนสติแตก ถ้าหากว่าแม่นกว่านี้อีกนิด พระ ชายาต้องเสียตาไปอย่างแน่นอน
แต่ว่าพระชายาเองก็ช่วยไม่ได้ เห็นว่ากำลังจะเปลี่ยนไป อยู่ ดีๆ กลับกลายมาเป็นคนเดิม ก่อนหน้านี้นางก็ประจบสอพอ ฮองเฮา
หยวนชิงหลังค่อยๆ ก้มเก็บกรรไกรขึ้นมา ตอนแรกนางคิดว่า
ตัวเองจะโกรธ แต่กลับไม่มีความรู้สึกนั้นเลย นางนิ่งมาก
เพราะเหมือนกับว่านางรู้แต่แรกแล้ว และผลลัพธ์นี้ คือสิ่งที่ ควรจะเกิดอยู่แล้ว
เขาไม่ให้นางได้แก้ตัวเลยสักคำ เพราะว่าเขาไม่คิดจะเชื่อนาง
“ถ้าข้าไม่จัดการเจ้า ข้าก็ไม่ใช่คนแล้ว! “หมู่เหวินเท้าโมโห อย่างมาก ทั้งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แววตานั้นเต็มไปด้วยความ เกลียดชัง เหมือนกับตอนที่หยวนชิงหลิงพึ่งย้อนเวลามา
หยวนชิงหลิงวางกรรไกรไว้บนเตียง พร้อมกับเงยหน้ามองหเหวินเท้าช้าๆ แล้วพูดเสียงเบา “ได้”
ทั้งหยางเห็นหน้านางแบบนั้น ก็โมโหแล้วพูดต่อ “พระชายา ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านทำแบบนี้ฝ่าบาทจะมองท่านอ๋องอย่างไร? ท่านทำร้ายท่านอ๋องไปแล้วรอบหนึ่ง ข้าขอร้องท่านล่ะ หยุดเถอะ นะเพคะ? ”
หยวนชิงหลิงหันไปมองทั้งหยาง แล้วหันมามองที่หนูเหวินเท้า เขาดูโหดร้ายมาก รู้สึกถึงความน่ากลัวจริงๆ
นางพยักหน้า พร้อมกับแววตานิ่งๆ แล้วพูดขึ้น “วางใจเถอะ ข้าจะไปอธิบายกับฝ่าบาทอย่างละเอียด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับ ท่าน ถ้าฝ่าบาทจะประหาร ข้าจะรับไว้คนเดียว”
“ไสหัวไป! ” หยู่เหวินเท้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรังเกียจ
หยวนชิงหลิงหยิบเอาไข่มุกหนันแล้วหมุนตัวออกมาทันที นาง เดินมาได้สองก้าว ก็พลันหันกลับไปมองหมู่เหวินเท้า แล้วพูดขึ้น เสียงนิ่งๆ “เมื่อครูท่านอ๋องบอกว่า ถ้าไม่จัดการข้า ก็ไม่ใช่คน อย่างนั้นใช่ไหม ? ”
“ข้าแทบอยากจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้” หยู่เหวินเท้าพูดเสียงแข็ง
“ฆ่าข้า มือท่านจะสกปรกเปล่า ขอให้ท่านอ๋องทำตามที่พูด ด้วย หลังจากที่เรื่องนี้ผ่านไปแล้วก็จัดการข้าได้เลย! ” นางพูด จบ ก็หมุนตัวแล้วเดินออกไป
“ท่านอ๋อง! ” ทั้งหยางรู้สึกกังวลพลันหันไปหาหมู่เหวินเท้า “พระชายาไปครั้งนี้ เกรงว่าจะยิ่งทำให้ฝ่าบาททรงกริ้วมากขึ้นนะเพคะ”
หมู่เหวินเท้าค่อยๆ ก้มหน้าลง คำพูดของนางก่อนจะไปนั้นดัง ก้องอยู่ในหูเขา และความรู้สึกต่างๆ มากมายก็ผุดขึ้นมา จน ทำให้เขาปวดหัวยังไงบอกไม่ถูก
“ปล่อยนางไปเถอะ เสด็จพ่อผิดหวังกับข้าไปแล้ว ถ้าจะมีอีก รอบข้าก็ไม่เป็นไรหรอก” หยู่เหวินเท้าพูดเสียงนิ่งๆ
“ทำไมพระชายาถึงมอบไข่มุกหนัน ให้ฮองเฮา? ” สวีที่เป็น คนไม่ชอบใช้สมอง คิดยังไงก็คิดไม่ออกในสิ่งที่หยวนชิงหลิงทำ ไปในครั้งนี้
“ทำไมน่ะหรือ? ก็เพื่อต้องการประจบฮองเฮาไง” หยู่เหวินเท้า พูดขึ้น
“ประจบฮองเฮาแล้วได้ประโยชน์อะไรเพคะ?”
สวีอีพูดขึ้นมา “เจ้าพระยาจิ้ง ตาเฒ่าเหลี่ยมจัดนั่น ช่างหน้า หนาเกินไปแล้ว ตอนที่ท่านอ๋องเป็นคนโปรดของฝ่าบาท เขาก็ วางแผนให้บุตรสาวแต่งเข้ามาในจวนอ๋อง พอตอนนี้ท่านอ๋อง ตกอับ เขากลับหันไปประจบตระกูล ยังมีศักดิ์ศรีเหลืออยู่บ้าง หรือไม่? ”
ทั้งหยางเห็นสีหน้าหมู่เหวินเท้าเริ่มไม่ดี จึงหันไปต่อว่าสวี “พร่ำเพ้ออะไรของเจ้า? หุบปาก”
สวี หลุดปากออกมา พลางเหลือบไปมองหมู่เหวินเท้า จึงรีบปิดปากตนเองทันที
หมู่เหวินเท้าหลับตาลง ในใจเขาก็รู้สึกเย็นวูบวาบยังไงบอก ไม่ถูก ไม่มีใครรู้เลยว่าในใจเขานั้นอยากให้หยวนชิงหลิงเปลี่ยน ไปมากแค่ไหน แต่ว่านางก็ยังเหมือนเดิม
เขาบอกไม่ถูกว่าตัวเองโกรธมากขนาดไหน
หยวนชิงหลิงออกมาแล้ว ลมก็พัดมาที่หูของนาง นางจึงเอามือ ไปลูบ พลอยมีเลือดติดมือออกมา
นางฝืนยิ้ม แล้วเดินต่อไป ปล่อยให้เลือดไหลออกมา รอยแผล แค่นั้นไม่ตายหรอก เดี๋ยวเลือดก็หยุดไหลเอง
ตำหนักข้างกับห้องสมุดหลวง ห่างกันไม่มาก แต่นางก็ใช้เวลา นานพอสมควร
พอมาถึงหน้าประตูห้องสมุดหลวง มหรูกงกงก็เข้าไปรายงาน ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดเสียงแข็ง ให้นางรอต่อไป
หยวนชิงหลิงจึงยืนอยู่ด้านนอก ไม่ขยับไปไหน
จิตใจของนางนั้นสงบมากไม่มีความกังวลใดๆ เลยสักนิด นี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่นางย้อนเวลามา แล้วสงบใจได้ขนาด
เหมือนกับว่าสิ่งที่ยุ่งเหยิงในหัวของเจ้าของร่างเดิมนั้น ได้หาย
ไปจนหมด
นางยืนอยู่ตรงนั้นครึ่งชั่วยามเต็มๆ ฮ่องเต้หมิงหยวนก็ยังไม่ ยอมพบนาง นางขยับไข่มุกหนันในมือนาง เหมือนกับกำลังนับไข่มุก
“ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่? ” มีเสียงดังขึ้นจากด้านข้าง และฟังดู ท่าทางประหลาดใจ
หยวนชิงหลิงเงยหน้ามอง คนนั้นก็คือ อ๋องซุน
เสื้อคลุมตัวใหญ่สีครามถูกลมพัดจนกางออก เหมือนกับนก ในตำนานที่กำลังขยายตัวเต็มที่ ใบหน้ากลมๆ ของเขามองมา ด้วยความสงสัย เขาเดินเข้ามา พร้อมกับกลิ่นของผัดเนื้อ มุม ปากยังมีเศษเนื้อติดอยู่ ที่พอจะรู้ว่ารีบกินจนเช็ดออกไม่ทัน
“ฝ่าบาท! “หยวนชิงหลิงหันไปยิ้มให้เขา
“เจ้าต้องการจะเข้าพบเสด็จพ่อหรือ? เดี๋ยวข้าจะไปพูดให้ อ๋องซุนพูดขึ้นด้วยความหวังดี
“ไม่เป็นไรเพคะ เสด็จพ่อยุ่งอยู่ รอให้พระองค์จัดการเรียบร้อย
แล้วยังไงก็ให้พบเองแหละเพคะ” หยวนชิงหลิงพูด
“เสด็จพ่อยุ่งอยู่หรือ? ” เสียงอ๋องซุนฟังดูดีใจอย่างเห็นได้ชัด “งั้นข้าไม่รอแล้ว”
เขาพูดจบก็พลันหมุนตัวเพื่อจะออกไป แต่หรูกงกงกลับออก มาเรียกไว้ “ท่านอ๋อง ฝ่าบาทรับสั่งให้เข้าเฝ้าพะยะค่ะ
อ๋องซุนดูรำคาญใจนิดหน่อย จึงค่อยๆ หันมา “เข้าใจแล้ว”
อ๋องซุนเข้าไปได้ไม่นาน หยวนชิงหลิงก็ได้ยินเสียงขว้างข้าว ของดึงออกมา พร้อมกับเสียงพูดที่ฟังดูโมโห ผ่านไปครู่หนึ่งอ๋องยก็เดินออกมา ด้วยสีหน้าไม่ดี พลางมองมาที่นาง “เจ้าอย่า เข้าไปเลย เสด็จกำลังกริ้วอยู่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ