บทที่ 43 สมควรให้ท่านไปตาย
อ๋องซินสู่ยอดรนทนรอไม่ไหวแล้ว ได้หยิบเอายาเม็ดหนึ่งออก มาจากแขนเสื้อของตน ส่งเข้าปากของหมู่เหวินเท้าไป จากนั้นก็ หมุนตัวคุกเข่าลงข้างเดียว “ฮ่องเต้ น้องไม่เชื่อว่าเจ้าหาจะหา เรื่องเจ็บตัวเอง บาดแผลพวกนี้ เกรงว่าแม้แต่หมอหลวงยังรักษา ยาก หากเป็นแค่การแสดงละครให้ท่านดู ไม่จําเป็นต้องเจ็บ ขนาดนี้”
หยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกตกใจ ฮ่องเต้สงสัยว่าเขา สร้างเรื่องเจ็บตัวเอง
กู้ซือที่เดิมทีคอยสังเกตหยวนชิงหลิงอยู่ก็ขอร้องเช่นกัน
“ฮ่องเต้ ข้าน้อยก็รู้สึกว่าไม่เหมือนการแสดง เดิมทีหมอหลวงเคย
บอกแล้วว่าบาดแผลของท่านอ๋องสาหัสนัก ให้เตรียมตัวจัดการ
เรื่องงานศพเลย เป็นไท่ซางหวงที่สั่งให้พระชายาออกจากวัง จึง
ได้ช่วยท่านอ๋องเอาไว้ได้ ข้าน้อยเป็นคนฝึกวิชายุทธ์ รู้ว่ามีดดาบ
ทําร้ายคนสาหัสนัก ไม่จำเป็นต้องเตรียมการให้ตัวเองต้องบาด
เจ็บสาหัสจนถึงแก่ชีวิตก็ได้
ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ยเสียงเรียบ “ทั้งหมดลุกขึ้นมาเถอะ
สายตาของผู้ซื้อมีความขุ่นมัวอยู่บ้าง ฮ่องเต้ยังคงแสดงสีหน้า
ใดๆ
หมอหลวงเร่งรุดมาถึง เป็นข้ารับใช้ในวัง รักษาอาการโรค หัวใจของไท่ าหวงมาก็หลายปี เขาได้ฝึกฝนตนเองจนชำนาญแล้ว เรื่องที่พลางต้องเดินพลางต้องคุกเข่าค่านับ เพราะ สถานการณ์อันตราย พอคุกเข่าแล้วก็ได้รับการอนุญาตให้ไม่ ต้องพิธีรีตองรีบรุดมาทันที
แต่ว่า ครั้งนี้ หลังจากที่เขาคุกเข่าลงทุกคนต่างก็ลุกขึ้นทั้งที่ยัง ไม่ได้รับคําสั่งจากฮ่องเต้
ตอนที่สมองได้ยินเสียงสั่งการทุกคนต่างก็ได้ก้าวเท้าเดินไป แล้ว ทุกคนต่างหยุดลงแล้วคุกเข่าลงอีกครั้ง ขาเกิดสะดุด กล่อง ยาคว่ำลง คนก็ล้มลงด้วย
หยวนชิงหลิงไม่ทันสนใจว่าฮ่องเต้จะพูดอย่างไร ยื่นมือไปคว้า กล่องยาของหมอหลวงมาเปิดออก เอากรรไกรออกมาตัดเสื้อผ้า ออก จากนั้นก็ใช้ผ้าตาข่ายพันรอบๆแผลที่กำลังมีเลือดออกของ หมู่เหวินเท้า ใช้แรงกดเพื่อห้ามเลือด
การเคลื่อนไหวของหยวนชิงหลิงรวดเร็วมาก พื้นที่หน้าท้อง เสร็จ ก็รีบถอดรองเท้าให้เขาทันที แล้วก็ตัดกางเกงของเขาออก บาดแผลทั้งหมด ก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าฮ่องเต้หมิงหยวน
เห็นบาดแผลตรงด้านในของต้นขา แววตาของฮ่องเต้หมิง หยวนขรึมลง เอ่ยเสียงเย็นกับหมอหลวง “ยังไม่รีบไปห้ามเลือด อีก”
หมอหลวงรีบลุกขึ้นมา เข้าไปช่วยเหลือ
เลือดได้ค่อยๆหยุดลงหลังจากกินยาเม็ดจื่อจินของอ๋องชินลุย แต่ว่าบาดแผล ปริแตก ต้องจัดการให้ดี
ฮ่องเต้หมิงหยวนนั่งลง มองหยวนชิงหลิงที่จัดการกับแผล อย่างเชี่ยวชาญ สายตาของนางไม่มีแววตื่นตกใจเลยสักนิด ท่าที่ไม่มีความลังเลสั่นเท่า ใบหน้าของนางเปื้อนเลือด ก็ไม่มี เวลาจะมาเช็ดทิ้ง
หลังจากจัดการบาดแผลเสร็จแล้ว นางยังคงตบไปที่ใบหน้า ของหมู่เหวินเท้า “ตื่น อย่าหลับนะ”หมู่เหวินเท้าไม่มีปฏิกิริยา อะไรทั้งสิ้น
หมอหลวงเดินเข้าไปเอานิ้วจ่อที่จมูก แล้วก็ถอยหลังอย่างอื่น ตกใจ “ฮ่องเต้…….
ฮ่องเต้หมิงหยวนลุกขึ้นอย่างกะทันหัน นิ้วของเขาวางไว้ที่ใต้ จมูกของหมู่เหวินเท้า ไม่มีลมหายใจ
สีหน้าเขาเปลี่ยนไป ถามอ๋องซินลุย “เมื่อครู่เจ้าให้เขากินยา จื่อจินแล้วไม่ใช่หรือ
“เดิมทีท่านอ๋องเคยกินไปแล้วหนึ่งเม็ด”กู้ซือพูด
ยาเม็ดจื่อจินเม็ดแรกจะได้ผลดีที่สุด แต่ว่าการกินเม็ดที่สองใน เวลาอันสั้นนั้น ผลที่ได้จะลดลงอย่างมาก หากบาดแผลสาหัสเกิน ไป เช่นนั้นก็ไร้ผล
ฮ่องเต้หมิงหยวนตกใจ ยิ่งกว่าถูกโจมตี
หยวนชิงหลิงรีบคุกเข่าลงข้างร่างหมู่เหวินเท้า สองมือทับกัน วางบนหน้าอกของหมู่เหวินเท้า ใช้แรงกดลงไป ทุบตี “หมู่เหวิน เท้า อย่าหลับนะ ตื่นสิ”
*พระชายา “กู้ออยากจะยื่นมือออกไปถึงนางเอาไว้ แต่ชาย หญิงไม่ควรสัมผัสใกล้ชิด ฮ่องเต้ก็ยังอยู่ที่นี่
ผมเผ้าของหยวนชิงหลิงยุ่งเหยิง หน้าผากมีเหงื่อผุดออกมา มากกว่านั้นคือร้อนใจ เขาจะตายแล้วหรือ
ชีวิตหนึ่งต้องตายไปต่อหน้า ชีวิตนี้เคยเป็นคนไข้ของนาง
ในใจรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก
“ลากตัวพระชายาออกไป”ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียง เจ็บปวด เขาไม่เคยคิดเลยว่า เจ้าห้าจะบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ วันที่หมอหลวงกลับมารายงาน บอกว่าบาดแผลนั้นสาหัสมาก แต่ไม่รู้ว่าทางเสด็จพ่อรู้ได้อย่างไร ก็ได้ให้ฉางกงกงมารายงาน ว่าไม่ต้องกังวล ไปไต่ถามอาการแล้วว่ายังดีอยู่ ฉะนั้น เขาก็นึก มาตลอดว่า ไม่ได้บาดเจ็บมากขนาดนั้น
หรูกงกงไปดึงตัวหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงโมโหมาก อย่า แตะต้องข้า “พูดจบ มือหนึ่งก็เอาหมอนโยนไปทางหรูกงกง
มู่หรูกงกงมองหยวนชิงหลิงอย่างตะลึง ไม่คิดว่านางจะบ้าคลั่ง ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
แต่หยวนชิงหลิงยังคงทำการช่วยกระตุ้นหัวใจ หวังว่าเขาแค่ ช็อกไป
ในใจของฮ่องเต้หมิงหยวนมีความเจ็บปวดหนึ่งแล่นเข้ามา ลูกชายคนนี้เคยเป็นคนที่เขาชื่นชมมากที่สุด แม้ว่าท้ายที่สุดจะ ทำให้เขาผิดหวัง แต่ว่า ความสัมพันธ์พ่อลูกนั้นตัดกันไม่ขาด
เขาไม่กล้ามองตรงๆ หมุนตัวเซไปหนึ่งก้าว เป็นอ๋องซินลุยที่ ประคองตัวเขาเอาไว้
“ลากนางออกไป ฮ่องเต้หมิงหยวนกลืนเลือดเขาไปคำหนึ่ง เกิดอาการเวียนหัว “ไปรายงานพระชายาเสียนให้มาดูเขาครั้ง สุดท้าย”
กู้ซื้อกำลังจะเดินเข้าไปเอาตัวหยวนชิงหลิงออกมาก แต่ได้ยิน หมอหลวงร้องขึ้นข้างๆ ท่านอ๋องมีลมหายใจแล้ว มีลมหายใจ แล้ว”
ฮ่องเต้หมิงหยวนหันศีรษะมาทันที เขามองหน้าอกที่กระเพื่อม
ขึ้นลงเบาเบาของหมู่เหวินเท้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เขายื่นมือไปทดสอบลมหายใจด้วยตนเอง
หยวนชิงหลิงใช้แรงกายทั้งหมดไปแล้ว เลื่อนตัวลงไปหน้า เตียง หายใจแรง ไม่รู้ว่าทำไมน้ำตาต้องไหลออกมาด้วย ในใจมี ความอัดอั้น อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ
ที่จริงแล้ว นางก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ
นางรู้ว่าตัวเองเสียมารยาทมาก นางกึ่งคุกเข่าลง พลางร้องไห้ พลางขออภัยเสด็จพ่อ ลูกรู้ตัวว่าเสียมารยาทไปแล้ว แต่ข้า อยากจะร้องไห้จริงๆ เสด็จพ่อโปรดเมตตาให้ข้าได้ร้องด้วย เถอะ”
คำพูดของนาง ฟังดูพิลึก ร้องไห้ได้ไม่น่าดูเอาเสียเลย ตากับ จมูกก็เกือบจะกองรวมกันแล้ว
แต่ว่า ฮ่องเต้ที่เพิ่งจะได้ลูกชายที่เหมือนจะสูญเสียไปแล้วไม่ ใส่ใจเลยสักนิด ตรงกันข้าม ลูกสะใภ้ที่ปกติดูแล้วไม่ได้อยู่ใน สายตาคนนี้ มีความน่ารักอยู่บ้าง
หลังจากหมอหลวงให้การตรวจชีพจรแล้ว ก็ตะโกนขึ้นติดๆกัน “อัศจรรย์ อัศจรรย์จริงๆ สวรรค์คุ้มครองจริงๆ”
อ๋องขนลุยมองหมอหลวงด้วยสายตาเรียบๆ พูดว่า “เพราะ
อ๋องฉีดวงยังไม่ถึงฆาต
หมอหลวงรีบแก้คำ” ใช่แล้ว เพราะท่านอ๋องดวงยังไม่ถึงฆาต
เป็นอย่างไรบ้าง”ฮ่องเต้หมิงหยวนถามหมอหลวง
หมอหลวงยกมือขึ้นคำนับพูดว่า “เรียนฮ่องเต้ อาการของอ๋อง ค่อยๆนิ่งแล้ว เห็นทีจะเป็นผลจากยาเม็ดจื่อจิน ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนก็วางใจ พูดว่า “เฝ้าดูให้ดี
“พ่ะย่ะค่ะ”หมอหลวงตอบรับ
ฮ่องเต้หมิงหยวนหมุนตัวยืนอย่างมั่นคง กำมือของอ๋องซินลุย เอาไว้ “ออกไปกันเถอะ”
อ๋องชินลุยคือหนึ่งเสียง ประคองฮ่องเต้หมิงหยวนที่เหมือน ร่างกายจะหนักอึ้ง รู้ว่าเขาตกในกับเหตุการณ์เมื่อครู่มากไป หน่อย ทําให้ขาสองข้างอ่อนก้าวไม่ค่อยออก
ออกไปนอกห้องหนังสือ ฮ่องเต้หมิงหยวนค่อยๆนั่งลง มองไป ยังอ๋องชินลุย “เมื่อครู่ข้าลองวัดลมหายใจเจ้าห้าแล้ว เขาขาดใจแล้วจริงๆ
“ฮ่องเต้ เกรงว่าเรื่องนักฆ่า ยังจะต้องระวังเป็นอย่างมาก”อ๋อง ชินลุยฉวยโอกาสนี้พูดขึ้น
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองเขาเรียบๆแวบหนึ่ง หรือว่าข้าจะยัง สงสัยเขาไม่ได้ แต่ว่าก็ต้องดูปฏิกิริยาของแต่ละฝ่ายด้วย”
อ๋องซินลุยหัวเราะในใจ ท่านพี่ น้องคนนี้ไม่รู้ใจท่านพี่หรือไง
แม้ว่าท่านจะสงสัย
แต่ว่า ใบหน้ากลับเหมือนคิดขึ้นได้กะทันหัน “ฮ่องเต้ทรงพระ ปรีชามาก”
เหมือนฮ่องเต้หมิงหยวนจะคิดอะไรได้ “แต่ว่า พระชายาคนนี้ ดูแล้วก็มีความอดทนอยู่หลายส่วน คนที่ขาดใจแล้วนางยัง สามารถช่วยกลับมาได้
อ๋องชินหลุ่ยพูดว่า “ช่วยชีวิตอะไรกัน ที่นางทั้งกดทับทั้งเนี่ย
นะเรียกช่วยชีวิต เจ้าห้าเกรงว่าจะแค่สลบไปก็เท่านั้น ”
มีความสามารถแต่ก็ถูกทำร้าย อ๋องในลุ่ยเข้าใจเหตุผลนี้ดี หลานสะใภ้คนนี้มีพรสวรรค์อยู่บ้าง จะให้ถูกฆ่าได้อย่างไร
ฮ่องเต้หมิงหยวนพยักหน้า ถือว่ายอมรับในคำพูดของอ๋องชินลุ่ย
ในตำาหนักรับรอง หยวนชิงหลิงร้องไห้เสร็จแล้ว แต่ยังคงสะอื้น
มือหนึ่งทิ้งลงมาจากบนเตียง ร่วงลงบนหน้าของนาง ลูบไป ตามหน้า มีคราบน้ำตาน้ำมูกเปื้อนเต็มมือ คนที่เพิ่งตื่นรังเกียจ เสียเต็มประดา “เจ้าสกปรกจริงๆ
หยวนชิงหลิง ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดสักครู่ เงยหน้ามองคนที่ได้ เรี่ยวแรงแต่สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ อยากร้องไห้ แต่ก็ หัวเราะออกมา “สมควรให้ท่านตายไปซะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ