วิวาห์ร้อน รักหวานซึ้ง

ตอนที่11



ตอนที่11

เมื่อเห็นแววตาของฐิติพรที่จ้องมองมายังปาณีอย่างไม่วางตาจัน วิภาจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้แนะนำปาณีกับท่านทั้งสองอย่างเป็น

ทางการเลย

จึงพูดว่า”แม่คะนี่ปาณีค่ะ”

ฐิติพรหัวเราะชอบใจพร้อมกับพูดว่า”หน้าตาน่ารักสดใสเชียวมิน่า

ล่ะลูกธามของเราจึงชอบขนาดนี้”

ปาณีหน้าแดงเพราะความเขินอายรีบกล่าวว่า”สวัสดีค่ะคุณป้า”

“ยังจะเรียกป้าอะไรอีกไหนๆก็แต่งงานกับลูกธามแล้วก็เรียกแม่สี”

“…”ปาณีเขินอายเล็กน้อยรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถพูดคำนี้ออก

ไปได้

เมื่อเห็นเธอมีความตื่นเต้นธามนิธิจึงยื่นมือออกไปกำมือเธอไว้พูด ด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นว่า”เรียกพ่อแม่สิ”

ปาณีรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ไหลเข้ามาในมือของเธอดั่งสายน้ำ ความตื่นเต้นก็ค่อยๆหายไป

เธอพูดอย่างเขินอายว่า”คุณพ่อคุณแม่”

“จ้า!”คุณชัยพรและคุณฐิติพรหัวเราะอย่างชอบใจ
เมื่อเรียกพ่อแม่แล้วก็ถือว่าท่านทั้งสองได้ยอมรับลูกสะใภ้คนนี้

แล้ว

บนโต๊ะอาหารคนทั้งครอบครัวพูดคุยกันอย่างสนุกสนานทั้งเรื่องที่ มีสาระและไร้สาระ

ฐิติพรมีความแปลกใจในตัวปาณีมากจึงถามเธอว่า”ปาณีลูกอายุ เท่าไหร่แล้วจะ?”

ใจจริงของปาณีอยากตอบว่า18แต่กลัวทำให้คนในบ้านวิสิทธิ์เวช นี้ตกใจเธอจึงบอกอายุตามบัตรประชาชนของเธอไป “อีกไม่กี่เดือน ก็จะครบ20ปีแล้วค่ะ”

“อายุยังน้อยอยู่เลย”ฐิติพรอมยิ้มเธอเด็กว่าลูกชายตัวเองถึง8,9ปี

เชียว

“ยังเรียนอยู่ใช่ไหมจ้ะ?”

“ใช่ค่ะกำลังจะเข้ามหาลัยค่ะ”

“แล้วสอบติดมหาลัยไหนล่ะจ้ะ?”

“มหาวิทยาลัยชยุตค่ะ”

มหาวิทยาลัยชยุต!แม้จะไม่ใช่มหาลัยที่ได้ท็อป1,2แต่นั่นก็เป็น

มหา

ลัยที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆของประเทศเลยเชียวนะ
ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คนรอบข้างชอบเธอ เท่านั้นยังเป็นเด็กฉลาดหัวไวอีกด้วยสินะ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ฐิติพรก็ยิ่งชอบเธอเข้าไปอีก

จันวิภาที่นั่งข้างๆได้ยินถึงขั้นทำตาเป็นประกาย “ดีจังเลยเวทัสก็ สอบเข้ามหาวิทยาลัยชยุตเหมือนกันแบบนี้ก็ดีสิเธอสองคนจะได้ ช่วยกันดูแลได้

ปาณีนั่งอึ้งไป

เธอยังจำได้ว่าตอนนั้นที่ตัดสินใจสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย ชยุตนั่นเป็นเพราะว่าเธอกับเวทัสได้สัญญากันไว้ว่าจะไปเรียนที่ มหาวิทยาลัยนี้ด้วยกัน

แต่ตอนนี้

“ละปาณีจบมัธยมที่โรงเรียนไหนจ้ะ?”

ปาณีได้สติจึงตอบว่า “หนูจบจากโรงเรียนมัธยมชญตว์ค่ะ”

“ห้ะจบจากโรงเรียนเดียวกันกับเวทัสหรอกหรองั้นหนูรู้จักกับเวทั

สไหมจ๊ะ”

ปาณีโดนถามคำถามแล้วคำถามเล่าจนเหงื่อที่เริ่มแห้งก็ไหลลงมา

อีก

เธอกับเวทัสไม่เพียงแต่รู้จักกันแต่ยังเคยคบกันอีกด้วย!
แต่เรื่องพวกนี้จะให้คนในบ้านวิสิทธิ์ เวชรู้ได้ยังไงกันล่ะ?เธอจึง ต้องโกหกออกไปอย่างระมัดระฆัง”ไม่รู้จักค่ะปกติก็ไม่ค่อยได้สนใจ เท่าไหร่

“ก็ใช่นะปาณีเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่อง ปกติ”จันวิภาพยักหน้า”ได้ข่าวว่าตอนอยู่โรงเรียนเว

ทัสเคยคบผู้หญิงคนหนึ่งเห้อเด็กสมัยนี้แก่แดดจริงๆ”

ปาณียิ้มแห้งๆอย่าอึดอัดไม่สามารถรับคำพูดนี้ได้จริงๆ

ธามนิธิขมวดคิ้วพูดว่า “ยังไม่กินข้าวอีกหรอ?”

ความหมายโดยนัยของประโยคนี้คือกินข้าวเยอะๆแล้วอย่าพูด มากอย่าคิดหาเรื่องเมียของเขา!

จันวิภาพูดอย่างรู้ทันว่า “เห้อน้องชายโตแล้วสิพี่สาวอย่างฉันก็ยุ่ง

ไม่ได้ละเดี่ยวนี้ยังรู้จักหวงเมียตัวเองอีก”

เธอพูดจนปาณีหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ

หลังจากรับประทานอาหารปาณีก็ขึ้นไปชั้นบนกับธามนิธิ

หลังจากเข้าไปในห้องเธอก็รีบเอาอังเปาซองใหญ่3ซองออกจาก กระเป๋าของเธอให้กับธามนิธิ

“คุณอานี่คืออั่งเปาที่คุณพ่อคุณแม่ละก็พี่สาวให้มาหนูดูแล้วจำนวนเงินค่อนข้างมากหนูไม่เก็บไว้จะดีกว่า”

ธามนิธิมองเธอแวบหนึ่งไม่ได้รับซองมา”พวกเขาให้เธอก็รับไว้

เถอะ”

“อย่างนี้จะดีหรอคะ?”

“ไม่มีอะไรที่ไม่ดีหรอก”ธามนิธิพูด”ในเมื่อเธอก็แต่งงานกับฉันแล้ว นี่เป็นสิ่งที่เธอสมควรจะได้รับ

คำพูดที่บอกว่าเธอสมควรจะได้รับหากปาณีไม่รับไว้ก็แสดงว่าเธอ ไม่ได้มองว่าเขาเป็นสามีของเธอ

ปาณีจึงรับอั่งเปานี้ไว้

ขณะที่เธอกำลังเก็บอั่งเปาเข้ากระเป๋านั้นธามนิธิถามด้วยน้ำเสียง เรียบนิ่งว่า”เธอกับเวทัสรู้จักกันใช่ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ