ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์

ตอนที่ 97 โปรดอย่ารบกวน



ตอนที่ 97 โปรดอย่ารบกวน

เอ? พิมพ์ลดาตกใจหันไปมองผู้ชายบนเตียง

#นัสเพียงหลับตาพักผ่อนยังไม่ตื่น

เลื่อนสายตาไปมองมือของเขาที่จับเธอไว้ พิมพ์ลดายิ้ม

เบา ๆ ดึงมือออกจากฝ่ามือของเขาแล้ววางมือของเขาใส่ใน ผ้าห่ม

พิมพ์ลดาไม่ได้รู้ว่าขณะที่เธอออกไปจากห้องนอนแล้วปิด ประตูลงในเวลานั้น ตนัสในห้อง ขมวดคิ้วแน่น

แต่เช้า เดิมพิมพ์ลดายังคิดว่าหลังจากที่เธอเองตื่นขึ้น แล้ว อาจควรเตรียมยาแก้เมาค้างให้ตนัส แด่เธอไม่คิดว่า เมื่อเธอลืมตาขึ้น เปลี่ยนเสื้อผ้าเดินออกจากห้องนอนที่เดิม เป็นของตนัสก็ได้เห็นเขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้ว

เขาพิงโซฟาตามสบายเช่นนี้ ในมือถือไอแพด ราวกับว่า กำลังพูดคุยกับผู้คนในวิดีโอปรึกษาการงาน เมื่อเห็นพิมพ์ ดออกมา เขาเงยหน้าขึ้นกวาดสายตาไปมองเธอ ไม่ถึง สามวินาทีก็กลับมาที่หน้าจอแบน

พิมพ์ลดาไม่เข้าใจว่าเขาตื่นมาจากเหล่านี้ได้อย่างไร หลังจากดื่มเหล้าครึ่งขวด ยังลุกขึ้นทำงานได้แต่เช้า?

ไม่ถูกต้องไม่ถูกต้อง! ทันใดพิมพ์ลดาพบว่าเสื้อผ้าบน ร่างหนัสได้เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว เขานอนในห้องของเธอเมื่อคืน เธอนอนในห้องของเขา กระเป๋าเดินทางของเขาอยู่ ในห้องนอนของเธอและกระเป๋าเดินทางของเธออยู่ในห้อง

นอนของเขา

นั่น…เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อไร

วินาทีนั้นพิมพ์ลดายุ่งเหยิงแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจที่ จะยอมรับนัก เธอก็ต้องตระหนักเรื่องหนึ่งว่าในขณะที่เธอ กำลังหลับสนิทอยู่ ผู้ชายคนนี้ได้เข้ามาในห้องนอน และเอา เสื้อผ้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว!

“ฮ่าฮ่า…” หัวเราะแห้งไปเสียงหนึ่ง พิมพ์ลดารีบหมุนตัว สวบสวบวิ่งออกไปจากห้องทันที

เธอต้องรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ไปทำงาน!

มองดูพิมพ์ลดาวิ่งเร็วเป็นร้อยเมตรออกไป ตนัสเพียงยิ้ม เบา ๆ แล้วถอนสายตากลับไปยังวิดีโอมอบหมายงานวันนี้ แก่เลขาถิรพลที่ปลายสายนั้น

รอจนพิมพ์ลดากินอาหารเช้าแล้ว พวกเขาก็ออกเดิน ทางไปบริษัทที่เข้าร่วมในครั้งนี้ นี่เป็นบริษัทเสื้อผ้าแบรนด์ที่ มีชื่อเสียงระหว่างประเทศบริษัทหนึ่ง คราวนี้พิมพ์ลดาต้อง ออกแบบโฆษณาเป็นรูปแบบใหม่ของฤดูใบไม้ผลิของพวก เขา

พิมพ์ลดาไม่เคยทำโฆษณาออกแบบเสื้อผ้ามาก่อน ครั้ง นี้เป็นความท้าทายใหม่และการสะสมประสบการณ์สำหรับเธอ หลังจากที่เธอได้รับการยืนยันเนื้อหาของงานแล้ว เธอ ต้องเริ่มทำความเข้าใจในเนื้อหาอีกมากมาย ในวันธรรมดา พิมพ์ลดาไม่ได้เป็นน้องสาวที่วิ่งตามแสวงหาแบรนด์ต่าง ประเทศและสินค้าหรูหรา ดังนั้นเธอต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยว กับแบรนด์นี้ก่อน รวมทั้งการก่อตั้ง ภูมิหลังและชุดที่มีชื่อ เสียงมากที่สุด เป็นตัวแทนของความหมายมากที่สุดและ อื่นๆ

ก่อนที่จะออกแบบโฆษณาสร้างสรรค์ เธอต้องรู้ทุกอย่าง เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ในชุดฤดูใบไม้ผลิของพวกเขา เพื่อ ที่จะสามารถสื่อสารกับตัวแทนของลูกค้าในเวลาใด ๆ ได้ ตนัสจึงให้เธออยู่เมือง B ต่อ เขาเองกลับไปที่เมือง S

เวลาผ่านไปวันต่อวันแบบนี้โดยไม่รู้ตัว

แต่คนเหล่านี้ในเมือง S ต่างไม่ได้หยุด

ในหมู่หอพักทหาร พฤกษารอยยิ้มทั่วหน้าวางสาย โทรศัพท์ เธอเพิ่งนัดกินข้าวกับแม่ของลูกสะใภ้เธอ ครั้งที่ แล้วสองครอบครัวเจอกัน ไม่ได้กำหนดวันสำหรับงานแต่ง ของจิรฐาและพิมพ์ลดา งานสมรสนี้ถ้าไม่จัด ไม่แจ้งเรื่อง สามีภรรยาของพวกเขาให้ใต้หล้าทราบถ้วนหน้าสักวัน ใน ใจเธอจะไม่มีวันสงบลงได้

แบบนี้ไม่ได้ เธอและอรัญญาตกลงกันว่ารอจนพิมพ์ลดา กลับมาจากการเดินทางไปปฏิบัติงานนอกสถานที่แล้ว มา กินข้าวด้วยกันในหมู่หอพักทหาร จะได้กำหนดวันที่สำคัญ นั้นไปด้วยเลย
ขณะที่พฤกษาคิดว่าจะโทรหาจิรฐาอีกครั้งเพื่อถามดูว่า พิมพ์ลดากำหนดวันกลับมาหรือยัง ป้าอินถือโทรศัพท์มือถือ ส่วนตัวของเธอเข้ามา “คุณนายมีโทรศัพท์จากโรงพยาบาล ค่ะ”

ทันทีที่ได้ยินป้าอินกล่าวถึงโรงพยาบาล หน้าที่เดิมมี รอยยิ้มสดใสของพฤกษาก็ค่อยๆจางไป หลายปีมานี้สิ่งที่ เธอกลัวที่สุดคือโทรศัพท์จากโรงพยาบาล

เอื้อมมือมารับโทรศัพท์มือถือที่ยังดังอยู่จากมือของป้า อิน พฤกษาตั้งสติแล้ว รับขึ้นมา “สวัสดีครับ คุณพฤกษา” โทรศัพท์เป็นท่านคณบดีปาลของโรงพยาบาลหมู่ทหาร เขา ได้กล่าวสวัสดีกับพฤกษาก่อนแล้วเขาก็พูดต่อด้วยเสียงที่ แข็งแกร่ง “คุณพฤกษา คุณจันวิภา ช่วงนี้อาการไม่ค่อยดีนัก ผมเกรงว่าจะไม่มีเวลามากนัก ผมคิดจะเตือนคุณไว้ก่อน ให้ เตรียมพร้อมครับ

เมื่อได้ยินท่านคณบดีปาลแจ้งข่าวนี้แก่เธอเอง พฤกษา รู้สึกหดหู่มากทันที ยกมือขึ้นกุมหน้าอกซ้ายไว้ เธอถามว่า “ประมาณ” เสียงของเธอสั่นเกินไปที่จะพูดต่อได้ พฤกษา หลับตาลงเพื่อรักษาเสถียรภาพของอารมณ์ก่อนที่จะถาม ต่อว่า “ประมาณ มีเวลาอีกเท่าไหร่?”

“ตามสถานการณ์ปัจจุบัน เพียงยืนหยัดถึงหลังจากปีหน้า อีกสองเดือนครับ”

เมื่อได้ยินคำตอบของท่านคณบดีปาล พฤกษาหลับตา ลง ขมวดคิ้ว ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเธอยังคงมีความสุขกับเรื่องการแต่งงานของลูกชาย ทําไมไม่กี่นาทีต่อมาก็มีข่าวร้าย เช่นนี้แพร่มา

ถึงแม้ว่าเธอเคยใช้ชีวิตของหญิงสาวคนนั้นไปบีบคั้นให้ จิรฐาแต่งงาน แต่เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะจากไปสักวันจริง ๆ สำหรับพฤกษาแล้ว จันวิภายังเป็นลูกสาว แม้ว่าจะไม่ได้ เป็นผู้ให้กําเนิด แม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับ ครอบครัวของพวกเขาแต่อย่างใด แต่เธอได้ปฏิบัติต่อเธอ ดุจลูกสาวแท้ ๆ ของเธอเอง ตั้งแต่เด็กจนโต เธอให้ความรัก กับเธอไม่น้อยไปกว่าที่ให้แก่อิงนราและจิรฐา

หลังจากที่เธอเกิดอุบัติเหตุในปีนั้น เธอเคยนําหนิเธอ เองอย่างปวดใจ ตำหนิที่เธอเองไม่ได้ดูแลเธออย่างดี

แต่ตอนนี้เธอหลับลึกมาเก้าปีเต็ม ๆ เธอจะหลับไปเช่นนี้ จากโลกนี้ไป ทิ้งพวกเขาไปจริง ๆแล้วหรือ?

อดทนกับความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกเล่าซึ่งกลิ้งขึ้น มาในลําคอ พฤกษากระซิบวิงวอนเสียงเบาว่า “ท่านคณบดี ปาล เรื่องนี้โปรดอย่าให้จิรฐาพวกเขารู้ ยกเว้นฉัน เรื่องนี้ อย่าให้พวกเขาใครสักคนรู้ชั่วคราว”

“ได้ครับ คณวางใจได้” ท่านคณบดีบาลตอบตกลง

วางสายโทรศัพท์ มือทั้งคู่ของพฤกษากดที่ตำแหน่ง หัวใจไว้นิ่ง พยายามที่กดดันไม่ให้เธอเองร้องไห้ส่งเสียง ออกมา เห็นเธอ แบบนี้ ป้าอินรีบเข้ามาพยุงเธอไว้ “คุณนาย คุณนายท่านเป็นอะไรแล้วค่ะ?”
จับมือป้าอินไว้แน่น พฤกษาหันมองเธอสักพักแล้วพูด มอบหมายอย่างเงียบ ๆว่า “ป้าอิน เรื่องที่โรงพยาบาลโทร มาวันนี้ อย่าให้ใครรู้สักคน รวมทั้งคุณพ่อและชาตพล โดย เฉพาะอย่างยิ่งจิรฐา อย่าให้เขารู้เด็ดขาด”

“ค่ะ ค่ะ คุณนาย

พฤกษาไม่อาจให้จิรฐารู้ข่าวว่าจันวิภาจะจากโลกนี้ไป เธอไม่อาจให้ใครเรื่องใดมาทำลายงานสมรสของจิรฐาและ พิมพ์ลดาได้

ในที่สุด กระดาษห่อไฟไม่มิด พฤกษารู้ว่าวิธีแก้ไขที่เร็ว ที่สุดคือให้จิรฐาและพิมพ์ลดาจัดงานสมรสขึ้นโดยเร็วที่สุด

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อสะดวกในการเข้าใจข้อมูลเรื่องเสื้อผ้า คู่ ค้าได้จัดที่นั่งในบริษัทของพวกเขาให้พิมพ์ลดา เมื่อเธอเลิก งานเดินออกจากบริษัท พอดีสะปันส่งข้อความเข้ามา

“พิมพ์น้อย เจ้าจะกลับมาเมือง S อันยิ่งใหญ่ของเราได้ เมื่อไรอ่า?”

เห็นข้อความที่สะปันส่งมา ริมฝีปากพิมพ์ลดาประดับรอย

ยิ้ม ตอบกลับเธอไปว่า พรุ่งนี้

งานที่นี่ของเธอจบแล้วจริง ๆ การออกแบบโฆษณาเบื้อง ต้นออกมาแล้ว และคู่ค้าก็ยังพอใจ ดังนั้นงานส่วนที่เหลือ เธอสามารถกลับมาดำเนินการต่อที่เมือง S ได้
ตอบข้อความกลับเสร็จ เธอเอาโทรศัพท์มือถือใส่ไว้ใน กระเป๋า พ่นลมหายใจคำหนึ่ง ทำคอย่นแล้วจึงเตรียมพร้อม ที่จะเดิน ออกจากประตูใหญ่ของบริษัท เมือง B ที่ข้างนอก เย็นจนเสียดกระดูก เธอยังไม่ได้ปรับตัวให้ดีมากเลย

เมื่อพิมพ์ลดาเดินออกมาจากประตู เห็นผู้ชายที่กำลัง เดินสวนมาในหมอกหนาทึบ อดที่จะหยุดฝีก้าวลงไม่ได้

หมอกหนาเกินไป ทําให้เธอมองไม่ชัดเจน ไม่แน่ชัด แต่ รูปร่างนั้น ใบหน้านั้น ช่างคุ้นเคยแบบนั้น

เมื่อเขาก้าวด้วยฝีก้าวที่แข็งแกร่งออกมาจากหมอก ปรากฏต่อหน้าเธอในวินาทีนั้น พิมพ์ลดานิ่งงันไปแล้ว

เมื่อคืนจิรฐาบอกเธอว่าเขาจะเดินทางไปปฏิบัติงานนอก สถานที่ ตอนนั้นในใจพิมพ์ลดายังอึดอัดนิด ๆ เธอเศร้าที่เธอ เองกลับไปที่เมือง S ไม่มีเขามารับเครื่องบินไม่สามารถเห็น เขาได้ทันที

แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น เขาไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ ไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้มาปรากฏอยู่ที่นี่ตอนนี้?

เห็นดวงหน้าใบน้อยของพิมพ์ลดางนงงตะลึงไป ตาคู่โต จ้องเขาไว้ไม่กระพริบ จิรฐาเดินมาตรงหน้าเธอ อ้าวงแขน อันแข็งแรงของเขา ดึงสาวน้อยตรงหน้าเข้าไปในอ้อมแขน ของเขาทีเดียว

เธอยืนอยู่บนบันไดที่สูงกว่าเขาขั้นหนึ่ง จึงได้มองเขาอย่างเท่าเทียมกันพอดี

ดินออกจากอ้อมแขนของเขา พิมพ์ลดายังคงทำหน้าไม่ เชื่อ มองดูจิรฐา “คุณ” เธอเป็นหวัดแล้ว พอเปิดปากพูดแฝง เสียงขึ้นจมูกอย่างหนัก “คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”

แน่นอนพิมพ์ลดาไม่รู้ว่าในช่วงบ่ายที่เธอออกจากเมือง S นั้น จิรฐากลับไปเทศบาลเมืองแล้ว สิ่งแรกที่ทำ ไม่ใช่รีบ ทํางาน แต่พูดกับปรัณว่า “ในช่วงบ่ายวันศุกร์ช่วยผมลา หยุดครึ่งวันแล้วจองตั๋วเครื่องบินไปเมือง B ในช่วงบ่ายวัน ศุกร์”

ตอนนั้นปรัณงงไปค่อนวันไม่ได้ตอบสนองต่อสิ่งที่เขา ได้ยิน นึกว่าเขาเองฟังผิดไปแล้วหรือฟังพลาดอะไรไป

เป็นที่รู้จักกันว่าเขาเป็นคนบ้างานมาตลอด ท่านผู้ใหญ่ นายกเทศมนตรีที่ดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับการทำงานล่วง เวลา ตอนนี้ไม่เพียงแต่เข้างานสายไปเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ ยังจะลาหยุดในวันทำงานอีกด้วย

จบแล้วโลกนี้มันบ้าไปแล้วหรือ? พรุ่งนี้ยังมีดวงอาทิตย์ อีกไหม? คำทำนายของมายันไม่แน่ ครั้งนี้จึงเป็นวันสิ้นโลก ที่แท้จริงแล้ว?” ตอนนั้นเขาซึ่งมีอารมณ์ซับซ้อนและสับสน ก็ได้ช่วยจองตั๋วเครื่องบินให้จิรฐาเรียบร้อย

ได้ยินคำถามของพิมพ์ลดา จิรฐาหัวเราะ ริมฝีปากตาม ด้วยหยักโค้งขึ้นอย่างสวยงาม ค่อย ๆ ขูดปลายจมูกของเธอ ที่แดงไปบ้าง ดุเธอว่า “ไม่เชื่อฟังสักนิด บอกให้อย่าป่วยท้ายสุดยังคงป่วยแล้ว”

พระเจ้าช่วย! ไม่สนแล้วไม่สนแล้ว พิมพ์ลดาไม่คิดสนใจ ว่าทำไมจิรฐาจึงมาที่นี่ได้ เธอเพียงเข้าใจว่าตอนนี้ผู้ชาย ของเธออยู่ที่นี่ ผู้ที่เธอไม่ได้เจอมาห้าวันแล้ว เธอจะนึกถึง เมื่อเธอหยุดทำงานทันทีอยู่ที่นี่

กระโจนกลับเข้าไปในอ้อมแขนของเขาใหม่ พิมพ์ลดา ยิ้มอย่างมีความส

วินาทีนั้น พิมพ์ลดาดูเหมือนจะเข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่าวัน เดียวไม่เจอราวกับห่างหายสามฤดูใบไม้ร่วงแล้ว พวกเขาไม่ เจอกันห้าวัน นั่นควรจะพูดว่าห่างหายจากกันสามปีกับสาม เดือนแล้วซิ?

ฮ่าฮ่าฮ่า อืม พิมพ์ลดายอมรับว่าเธอเองไม่เคยเรียนรู้ คณิตศาสตร์ได้เป็นอย่างดี

ในความเป็นจริงเรื่องที่จิรฐามาถึงเมือง B นี้ นอกจาก เซอร์ไพรส์แล้ว พิมพ์ลดาก็รู้สึกนอกเหนือความคาดหมาย จริง ๆ เธอไม่เคยถึงว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้มาถึง ขั้นราวกับกาวที่ติดหนึบหนับกันเช่นนี้

พิมพ์ลดาไม่ได้คิดถึงว่ามาถึงเมือง B จิรฐายังขับรถ เขา หัวเราะ บอกว่าเขายืมมา ตอนนั้นพิมพ์ลดาไม่รู้ว่าคำพูดของ เขาเป็นจริงหรือเท็จ

แต่เมื่อเขาพาเธอเองลดเลี้ยวเคี้ยวคดอย่างคุ้นเคยไปถึงร้านขนมข้างนอกมหาวิทยาลัย Q พิมพ์ลดาถึงได้รู้ว่าเขา จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Q

ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงรู้จักเมือง Bได้ขนาดนี้

พิมพ์ลดายังคิดจะบอกว่าต้องพึ่งพาเธอเองที่ดีร้าย อย่างไรก็ได้อยู่ที่นี่มาห้าวันเป็นทุนรอนพาเขาไปเที่ยวเล่น นี่กลับดีแล้ว ความคิดอันน้อยนิดนี้ของเธอ นับว่าสูญเปล่า หมดแล้ว ร่วมมือกับคนอื่นจึงเป็นพี่ใหญ่

จิรฐาและพิมพ์ลดากลับไปที่โรงแรมด้วยกันในตอนเย็น ทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง จิรฐาดึงพิมพ์ลดาที่เดินนำหน้าเขา ไป ดันไว้ที่หลังประตู แล้วควานหาริมฝีปากของเธอ จูบเธอ อย่างหนักหน่วง

เมื่อเขาเห็นเธอที่ประตูของบริษัทวันนี้เขาก็อยากจูบเธอ ได้เห็นท่าทีงงงวยที่น่ารักนั้นของเธอ เขาคิดอยากจูบเธอ มากแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเวลานั้นมีคนไป ๆ มา ๆ มากเกินไป เขาจะไม่ลังเลที่จะซึมซับความงามของเธอ

อดทนจนถึงตอนนี้จึงได้รับสมใจอยาก จิรฐาเพียงคิดจะ เชยชมความหอมหวานที่วันเหล่านี้ไม่ได้เพลิดเพลินกลับมา รวบทั้งต้นและดอก

จิรฐาจูบค่อนข้างเร่งด่วน หนักไปบ้าง พลังนั้น ราวกับว่า

จะดูดพิมพ์ลดาเข้าไปในร่างกายเช่นนั้น

ในขณะที่จิรฐาคว้าเธอไว้ เริ่มแรกในสมองของพิมพ์ลดาก็งงงวย แล้วจากนั้นก็ละลายไปในจบของเขาจูบของเขา มักจะรุนแรงเช่นนั้น ให้เธอไม่อาจรับไหวไปบ้าง ออกซิเจน ของเธอที่นี่เกือบจะถูกปล้นไปหมดสิ้น แต่เธอกลับไม่มีพลัง ที่จะผลักเขาออกไป เพียงแต่ส่งเสียงมอับออกมาบ้าง อย่างรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

ในที่สุด จิรฐาปล่อยเธอออกหน้ามากขัดเธอไว้ริมฝีปาก ประดับรอยยิ้มที่น่าพอใจ แต่ที่นี่พิมพ์ลดายังไม่ทันสูดลม หายใจสักสองสามคำ เขากลับจบไปบนริมฝีปากเธออีกครั้ง

จู่ๆ ร่างท่อนล่างก็ว่างเปล่า เธอถูกคนรั่งเอากันขึ้นมา

แล้ว

มือคู่น้อยโอบรอบคอของจรจาด้วยความกลัว พิมพ์ลดา ทั้งอายทั้งอึดอัดจนฝังใบหน้าดวงน้อยเข้าไปในอีกอันกว้าง หนาอบอุ่นของเขา

ผ่านห้องนั่งเล่นเดินเข้าไปในห้องนอน จิรฐาวางพิมพ์ ลาลงบนเตียงเบาๆ แล้วก้มลงจูบริมฝีปากของเธออีกครั้ง คราวนี้เขาไม่รีบร้อนเช่นนั้นแต่ใช้ความอ่อนโยนจนหมดสิ้น สัมผัสแล้วปล่อยออก อีกครั้งและอีกครั้ง เพียงคิดกระดับ เล้าโลมความปรารถนาดั้งเดิมในกายของพิมพ์ลดาทีละเล็ก ทีละน้อยสะกิดขึ้นมาจนหมด

พิมพ์ลดาเพียงรู้สึกว่าเธอเองไม่สามารถเก็บรวมความ คิดแล้ว จึงริเริ่มโอบคล้องคอของเขา พิมพ์ลดาโน้มขึ้นไป หา คราวนี้เธอเริ่มเองแล้ว
จิรฐาพอใจมากกับปฏิกิริยาโต้ตอบของพิมพ์ลดา มือข้าง หนึ่งปลดกระดุมเสื้อด้านหน้าของเธอ บีบนวดส่วนอ่อนนุ่ม ด้านหน้าร่างเธอผ่านเสื้อผ้า มือข้างหนึ่งค่อย ๆ เลื่อนลงล่าง คิดจะจุดประกายความปรารถนาของเธอให้มากยิ่งขึ้น

ในขณะที่พิมพ์ลดาไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมร่างกาย และกระดุม เสื้อของจิรฐาก็ได้แกะออกถึงเม็ดที่สามแล้ว เสียงติ๊งต่องก็ ดังมาครั้งหนึ่ง

“อืม…” ผลักจิรฐาออกไปบ้าง พิมพ์ลดาหน้าแดงมองเขา กระซิบเบา ๆ ว่า “มีคนกดกริ่งประตู”

“บางทีอาจเป็นรูมเซอร์วิสของโรงแรม!” จิรฐาตอบสบาย ๆ ดูเหมือนจะละเลยไปว่าในเวลานี้จะไม่มีบริกรห้องพักเลย

ไฟตัณหาของเขาได้เผาไหม้ขึ้นมาจนไม่อาจจัดการได้ และเขาจะไม่มีวันปล่อยให้หญิงร่างเล็กใต้ร่างเขาหยิบยืม เสียงกริ่งหลบหนีไปแบบนี้

แต่เมื่อเขาจูบเธออีกครั้ง นอกประตูกลับมีเสียงติ๊งต่อง ดังมาอีกครั้ง

แล้วเสียงกริ่งประตูติ๊งต่องติ๊งต่องติ๊งต่องก็เริ่มดังมา อย่างต่อเนื่องไม่หยุด ดูเหมือนจะแสดงถึงความโกรธของ คนนั้นที่อยู่ข้างนอกประตู

เสียงกริ่งประตูที่ดังขึ้นมานั้นทำให้พิมพ์ลดาจิตใจ หวาดหวั่น หลบเลี่ยงจิรฐาจูบ เธอพูดเสียงอ่อนโยน “อย่ากวนแล้ว บางทีผู้คนอาจมีธุระน่ะ? ”

เลิกคิ้วอย่างหมดหนทาง ในที่สุดจิรฐาก็ปล่อยเธอออก

ลุกขึ้นนั่ง พิมพ์ลดามองเธอเองที่เสื้อผ้าเกือบจะถูกถอด เปลือยเปล่าแล้วโดยผู้ชายบางคน หน้าแดงด้วยความอาย กระโดดลงจากเตียง เธอรีบเข้าไปในห้องน้ำเอาเสื้อคลุม อาบนํามาสวมไว้ จัดแต่งตัวเองอย่างง่าย ๆ เปิดประตูแล้ว เดินออกไป

เป่าลมหายใจออกแรง ๆสองคำ จิรฐาก็ลุกจากเตียงแล้ว จัดแต่งเสื้อผ้าของเขาเอง

ยืนอยู่หน้าประตู พิมพ์ลดาจัดผมและเสื้อคลุมของเธอ เองอีกครั้ง แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น จึงเอื้อม มือไปเปิดประตู

ทันทีที่พิมพ์ลดาเห็นคนที่ข้างนอกประตูในวินาทีนั้น ดวงตาโตคู่นั้นของเธอเบิกกว้างจ้องกลมดำขลับ

“ผู้ ผู้ตรวจการใหญ่?” ข้างนอกประตู ผู้ชายถือไวน์แดง สองแก้วไว้ในมือข้างหนึ่งและมืออีกข้างถือขวดไวน์แดง ไม่ ใช่ตนัส ยังมีใคร?

แต่ทำไมเขาอยู่ที่นี่? เห็นได้ชัดว่าเขากลับไปที่เมือง S

ก่อนแล้วอ่า!

วันนั้นพิมพ์ลดาเห็นเขาคืนห้องแล้ว ขึ้นรถไป
แปลกใจเหรอ? แปลกใจมากเหรอ? มองสีหน้าพิมพ์ลดา ตนัสมุมปากประดับรอยยิ้ม ยกขวดด้วยมือขวาแกว่งไปมา ตรงหน้าเธอ กล่าวว่า “มา ดื่มสักแก้ว?”

ได้โปรดเถอะ ในใจพิมพ์ลดาแอบตะโกนว่า “ผู้ตรวจการ ใหญ่ คุณลืมแล้วหรือว่าฉันดื่มไม่เป็นหรือ?”

พิมพ์ลดาจำได้ว่าครั้งที่แล้วไปร่วมงานสมาพันธ์ การเมืองธุรกิจกับเขา เขาก็เคยถามเธอว่าการดื่มเหล้าของ เธอเป็นอย่างไร เวลานั้นเขายังได้ถือแก้วน้ำผลไม้ให้เธอ เองอา!

นี่คือผู้มีฐานะสูงลืมเรื่องราวได้ง่ายหรือ?

มองดูตนัสตรงหน้า พิมพ์ลดายิ้มอย่างอึดอัด “นั่น ฉัน ฉัน มเหล้าไม่ค่อยเป็น

“ไม่เป็นไร ถ้างั้นคุณดูผมดื่ม เป็นเพื่อนผมดื่มก็ได้แล้ว” เมื่อได้ยินประโยคนี้ของตนัส พิมพ์ลดาเกือบจะสำลักในลำ คอ หายใจไม่ออก

และเมื่อเขาฉวยโอกาสที่เธอเองไม่ได้สังเกตก็เข้ามาใน ห้อง สีหน้าของพิมพ์ลดาไม่สามารถอธิบายได้แล้ว

จิรฐายังอยู่ในห้องน่ะ

พิมพ์ลดารีบปิดประตูและไล่กวดตามเข้าไป แต่น่า เสียดาย วินาทีนั้นก็สายไปแล้ว
เมื่อตนัสวางขวดเหล้าและแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ จิรฐาเปิด ประตูห้องนอนของเขาและเดินออกมาพอดี

สายตาทั้งสี่ประสานกัน ในแววตาของทั้งสองคนมีแวว ประหลาดใจแวบผ่านไป

พิมพ์ลดาลากรองเท้าแตะไล่กวดตามเข้ามา ฝีเท้าหยุด ชะงักเมื่อได้ยินเสียงนั้น พี่ชายหยุดลงอย่างตกตะลึง

พี่ชาย?

เมื่อครู่ตนัสกำลังเรียกจิรฐาว่าพี่ชาย?

เขา พวกเขาเป็นพี่น้องกัน? ยืนอยู่ระหว่างคนทั้งสอง พิมพ์ลดาหันไปมองจิรฐา แล้วหันไปมองตนัสอีกครั้ง

คนหนึ่งเรียกจิรฐา อีกคนเรียกตนัส ไอ้เง่าพิมพ์ลดาเอ๋ย เจ้าไม่สังเกตว่าเค้าหน้าของสองคนนี้ช่างเหมือนกัน นัก?

ช่วงวินาทีนี้ พิมพ์ลดามองไปข้างหน้า รู้สึกเสียใจอย่าง บอกไม่ถูก เธอกลับเง่าจัดมาตลอดไม่ได้รู้ว่าเจ้านายของ เธอเป็นอาเล็กของเธอเอง

เมื่อจิรฐาปิดประตูห้องนอน เดินช้า ๆ ไปยืนข้างๆพิมพ์ ลดา โอบกอดไหล่ของเธอมาถึงตรงหน้าเขาเอง ตนัสก็ชมดู อย่างเงียบ ๆเช่นนี้ กลับรู้สึกว่าปวดในใจเป็นระลอก ๆ
“ตนัส คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เห็นได้ชัดว่าจิรฐาก็แปลกใจ เหมือนกัน เขาเคยได้ยินว่าตนัสกลับมาทำงานในประเทศ แล้ว แต่ไม่ได้ติดต่อมาตลอด ก็ไม่รู้ว่าเขาทำงานที่ไหนและ ยิ่งไม่รู้ว่าเขาและพิมพ์ลดารู้จักกัน

ได้ยินคำพูดของจิรฐา ตนัสเหลือบตาขึ้นมองเขา ยิ้ม พลางกล่าวว่า “ผมเป็นเจ้านายของพิมพ์ลดา เธอรับลูกค้า รายใหญ่ให้แก่บริษัทของเรา ดังนั้นผมจึงนำเหล้ามา ขอบคุณผู้มีความดีความชอบของเรา”

เจ้านาย? ที่แท้ เขาก็คือผู้ตรวจการใหญ่ซึ่งพิมพ์ลดาพูด ถึงในงานสมาพันธ์การเมืองธุกิจในครั้งที่แล้ว?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ