ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์

ตอนที่ 85 ประเด็นเรื่องทารก



ตอนที่ 85 ประเด็นเรื่องทารก

พ่อแม่ของสามีภรรยาพบหน้ากัน มีความสุขมากเหนือ ธรรมดา อาหารมื้อนี้กินเสร็จออกจากโรงแรมเจเอส ก็เกือบ จะสามทมแล้ว

ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงเพื่อกลับจากในเมืองไปที่หมู่ หอพักทหาร การเดินทางค่อนข้างไกลและพรุ่งนี้ก็เป็นวัน หยุด ญาณัทและคุณอรัญญาคิดจะเชิญครอบครัวของจิรฐา มาพักที่บ้าน แต่ว่าตาเฒ่าณิรวิทย์คนนี้คุ้นเคยกับการใช้ชีวิต ในเขตทหารไม่คุ้นเคยกับการอยู่บ้านในเมือง นอกจากนี้ พวกเขามีคนขับรถรอ จึงได้ขอบคุณและปฏิเสธ

ระหว่างทางกลับบ้านจิรฐานั่งข้างหน้าขับรถ พิมพ์ลดา และหนูนานั่งอยู่ข้างหลัง เมื่อถึงบ้าน หนูนาก็พิงอ้อมอก พิมพ์ลดาหลับไปแล้ว

จอดรถเรียบร้อย จิรฐาลงจากรถไปก่อนแล้วส่งกระเป๋า เอกสารให้พิมพ์ลดา อุ้มหนูนาขึ้นมาแล้วมุ่งเดินไปที่ลิฟต์ พิมพ์ลดาเดินตามหลังเขา เห็นลักษณะที่เขาอุ้มเจ้าเด็กน้อย อย่างจริงจังและระมัดระวัง ริมฝีปากอดไม่ได้ที่จะปรากฏรอย ยิ้มออกมา

บางทีจิรฐาอาจเป็นพ่อที่ดีจริง ๆ พิมพ์ลดาคิดในใจก้าว อย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับพวกเขา

ปกติที่บ้าน หนูนานอนคนเดียวในห้องเล็ก แต่จิรฐามี เพียงหนึ่งห้องนอนในที่นี่ ดังนั้นคืนนี้ หนูนาต้องนอนบนเตียงใหญ่กับพวกเขาแน่นอน

เมื่อพิมพ์ลดาถอดเสื้อผ้าให้หนูนาแล้วคลุมผ้าห่มให้เธอ เธอลุกขึ้นยืนเตรียมออกจากห้องนอน เมื่อหมุนตัวไปก็ได้ เห็นจิรฐา เขายกมือกอดอก พิงประตู ยิ้มให้เธอ

พิมพ์ลดาเดินเข้าไป ถามว่า “คุณยิ้มอะไร?”

จิรฐายิ้ม ตอบว่า “ผมกำลังคิดว่าถ้าเรามีลูกของเราเอง คุณต้องเป็นแม่ที่ดีคนหนึ่งแน่ๆ”

ลูกเหรอ? ต้องการจะพูดคุยถกกันในประเด็นนี้จริง ๆ หรือ?

จริง ๆ แล้วพิมพ์ลดาไม่ได้ไม่ชอบเด็ก ถ้าเธอไม่ชอบเด็ก เธอจะไม่รักหนูนามากขนาดนี้ เพียงแต่…สามปีก่อน ฉากที่ สะปันคลอดหนูนาทำให้เธอยากที่จะลืมและกลัว

ตอนนั้นทินพลยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ ยัง เป็นแค่พนักงานขายของเล็ก ๆ พิมพ์ลดาจำได้อย่างชัดเจน ว่าวันนั้นสะปันปวดท้องเข้าโรงพยาบาล ทินพลยังออก ปฏิบัติหน้าที่นอกสถานที่ในเมือง H ตอนนั้นเธออยู่ในโรง พยาบาลกับพ่อแม่ของสะปันและยังมีพ่อของทินพลอยู่ด้วย กันเป็นเพื่อนเธอ ได้ยินว่าเด็กที่ได้รับการผ่าตัดคลอดจะไม่ แข็งแรงสะปันยืนยันว่าเธอจะคลอดเอง

หนูนาคลอดในฤดูร้อน เวลานั้นสวมใส่เสื้อผ้าน้อย สะปัน ปวดจนจับแขนของพิมพ์ลดาไว้แน่น เมื่อเธอเข้าไปในห้องผ่าตัด พิมพ์ลดาจึงพบว่าแขนของเธอถูกข่วนจนถลอกไป

แล้ว

เมื่อคิดสภาพของสะปันก่อนคลอดหนูนาปวดปางตายขึ้น มาได้ พิมพ์ลดาก็ขยาดกลัวมากในการคลอดลูก

แต่ตอนนี้เธอต้องเผชิญกับปัญหาของการมีลูกแล้วหรือ?

“พิมพ์ลดา?” เห็นพิมพ์ลดาดูเหมือนจะเหม่อลอยไปแล้ว ดวงตาว่างเปล่ามองเธอเอง จิรฐายกมือขึ้นชูห้านิ้วโบกไป มาต่อหน้าเธอถามว่า “เป็นอะไรไปแล้ว?

ผ่านการเตือนสติจากเขา พิมพ์ลดาเก็บเอาความคิดที่ ลอยไปไกลของเธอเองกลับมา คว้ามือใหญ่ที่เขาโบกต่อ หน้าเธอเองไว้ พิมพ์ลดาถามอย่างจริงจังว่า “จิรฐาวันนี้ที่ โต๊ะกินข้าว สิ่งที่คุณพูดคุณรักษาคำไหม?”

“ผมพูดอะไรหรือ?” จิรฐาถามกลับอย่างไม่เข้าใจ

หือ? คำพูดอะไร? พิมพ์ลดาขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่รู้ จะตอบยังไงไปชั่วขณะ หรือว่าเธอเองต้องบอกเขาว่าไม่ ต้องการลูกหรือ?

คืนนี้ระหว่างพิมพ์ลดาและจิรฐาคั่นไว้ด้วยหนูนาคนหนึ่ง เธอไม่สามารถมดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาซึมซับความ อบอุ่นเหมือนที่เคย ไม่มีอ้อมกอดของจิรฐา อีกทั้งในสมอง ยังสุมเต็มไปด้วยปัญหาเรื่องจะมีลูกไหม วันสุดท้ายของปี นี้หนึ่งปี พิมพ์ลดากลับต้องผ่านด้วยการนอนไม่หลับ เพื่อต้อนรับการมาถึงของปีใหม่ด้วยการนอนไม่หลับอีก

ในตอนเช้าเมื่อพิมพ์ลดาตื่นขึ้นมา เจ้าเด็กน้อยข้าง ๆ ยัง คงหลับสนิทอย่างเงียบ ๆ แต่จราไม่ได้อยู่แล้ว อยู่ด้วยกัน มานานขนาดนี้พิมพ์ลตาก็รู้ว่าเขาจะตื่นเข้ามากไปวิ่งในตอน เช้า

คิดถึงวันหยุดที่ผ่านมา เธอเองมักจะตื่นสายมาก อาหาร เช้าเป็นรฐาเตรียมไว้ให้ พิมพ์ลดาตัดสินใจที่เธอเองจะ เตรียมอาหารเช้าที่ยอดเยี่ยมบริบูรณ์สำหรับเขาและหนูนา ในวันแรกของปีใหม่นี้

เมื่อจิรฐากลับมาจากการวิ่งในตอนเช้า เขาได้กลิ่นไข่ เจียวทันทีที่เขาเข้าบ้านมา

เมื่อคนที่อยู่ข้างหลังโอบเธอเองไว้ในอ้อมแขน พิมพ์ ลดากำลังใช้ตะหลิวพลิกไข่เจียว ก็ถูกจิรฐาทำให้ตกใจ ตะหลิวในมือของเธอเกือบจะหล่นลงพื้น โชคดีที่เขาไว ที เดียวรับไว้ได้เลย

เอาตะหลิวกลับมาจากในมือของจิรฐา พิมพ์ลดาก็ไม่ได้ ผลักเขาออกไป แต่เธอเองก็ยังคงสนใจทอดไข่ต่อไป

เอากางเกยไว้กลางกระหม่อมของพิมพ์ลดา จิรฐายิ้มดู เธอทําอาหารเช้า ถามว่า “วันนี้ทำไมยอมลุกขึ้นตื่นมาแต่เช้า เลย

ความจริง พิมพ์ลดาอยากตอบเขาจริง ๆ ว่า “เป็นเพราะคุณไม่มีโอกาสก่อกวนฉันเมื่อคืน! ” แต่เธอกังวลว่าถ้าเธอพูดไป แบบนี้ปุ๊บ ต่อมาเป็นไปได้ที่จะถูกก่อกวน จึงตอบเขาอย่าง ใจเย็น เพราะอีกครู่หนูนาตื่นแล้ว คิดจะกินอาหารเช้าแน่ ๆ “ พูดพลางเธอช้อนไข่เจียวออกมาวางไว้ในจานสีขาวใส สะอาด หันกลับไปมองจิรฐาข้างหลังแวบหนึ่ง “ฉันไม่อาจ ปล่อยให้หนูนาหิว!”

พิมพ์ลดารู้สึกว่าคำตอบนี้ไม่มีปัญหา แต่เธอไม่ได้คาด คิดว่าท่านผู้ใหญ่ยังหาช่องว่างที่จะมุดเข้ามาได้

แขนที่มีประสิทธิภาพของเขาโอบล้อมหว่างเอวเธอ แน่นมาอีกครั้ง จิรฐาเองกอดเธอไว้ในอ้อมแขน ไม่ให้เธอ ได้เคลื่อนไหวมือต่อ ถามว่า “หญิงโง่ ถ้างั้นเจ้าทนได้ที่จะ ปล่อยให้ข้าหิวหรือ?”

ชายคนนี้ หึงหวงกระทั่งน้ำส้มสายชูของเด็กผู้หญิงอายุ สามขวบก็ยังจะกินหรือ?”

พิงในอ้อมแขนของเขา พิมพ์ลดาหันศีรษะกลับไปมอง เขาอย่างยากลำบาก ชั่วครู่ไม่รู้จะตอบยังไง วินาทีต่อมา ท่านผู้ใหญ่ก็ก้มศีรษะลงจูบบนริมฝีปากของเธอ

เม้มริมฝีปากของเธอไว้ เขาค่อยๆบดเบา ๆ หมุนตัวของ พิมพ์ลดาในอ้อมแขนของเขาเอง จิรฐายึดตัวเองยื่นมือไป ปิดไฟ

เมื่อจิรฐายื่นมือมาหยิบตะหลิวในมือของเธอเอง พิมพ์ลดา รีบยกมือทั้งคู่ยันไว้ที่หน้าอกของเขา ผลักเขาออกไปเล็กน้อย ชิงเอาลมหายใจของเธอเองกลับมา “อย่าก่อกวนแล้ว หนูนายังอยู่น่ะ! ”

ริมฝีปากของจิรฐาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเองฉวยตะหลิว ของเธอแผล็บเดียววางใส่ไว้ในกระทะแล้ว หลังจากนั้นดึง พิมพ์ลดาเข้าไปในห้องน้ำ

“เอ่อ คุณ…” พิมพ์ลดาเพิ่งคิดอยากจะหนี แต่จิรฐากลับปิด ประตูห้องน้ำไปเบาๆ แล้วโน้มไปหาตัวเธอ

“จิรฐาคุณอย่าก่อกวน หนูนายังอยู่ในห้องนอนน่ะ” ฉวย โอกาสในขณะที่ท่านผู้ใหญ่ยังไม่ได้ใช้มาตรการต่อไปกับ เธอเอง พิมพ์ลดาย่อเบี่ยงร่างแซกไปหว่างช่องว่างข้างตัว เขา ยังคิดจะออกไป

หยิบยืมข้อดีที่มือและเท้าของตนเองยาว มือจิรฐาเกี่ยว ดึงเธอกลับมาอีกครั้ง โอบกอดไว้ในอ้อมแขน มองดูพิมพ์ ลดาที่ตาโตทั้งคู่ ท่านผู้ใหญ่ทำหน้าไร้เดียงสากระซิบว่า “ภรรยา เมื่อคืนผมนอนไม่หลับแล้ว

เอ๋อ? ฟังสิ่งที่เขาพูด พิมพ์ลดางงงัน เธอได้ยินเสียง เขาหลับไปแล้วชัด ๆ เมื่อคืนนี้น่ะ!

แต่เมื่อจูบของใครบางคนแนบลงบนริมฝีปาก หลัง หู ไหลลื่นไปถึงคอ กระดูกไหปลาร้าอีก พิมพ์ลดาจึงค่อย สะท้อนกลับมาว่าเธอเองถูกคนหลอกอีกครั้งแล้ว

หมุนตัวไปครั้งหนึ่ง จิรฐาผลักจนพิมพ์ลดาไปพิงผนังห้องน้ำ

ท่าเคลื่อนไหวที่ยากมากเช่นนี้ทำให้พิมพ์ลดาอายจน หน้าแดง เธอพยายามจะผลักเขาออกไป แต่เมื่อชักมือทั้ง คู่ของเธอเองที่โอบรอบคอของเขากลับมา เธอก็ยืนได้ไม่ มั่นคง

“จิรฐา!” พิมพ์ลดาระงับความปรารถนาในร่างกายที่ถูก เขากระตุ้นออกมา กัดริมฝีปาก กระซิบว่า “เราอย่าเอะอะกัน แล้ว ดีไหม? ถ้า หากหนูนาตื่นขึ้นมาและไม่เห็นใคร เธอจะ ร้องไห้ได้”

ได้ยินเรื่องที่พิมพ์ลดาเป็นกังวล จิรฐาเข้าใกล้เธอ อ้า ปากเป่าลมใส่ใบหูของเธอ เขาหัวเราะแบบเกเร ตอบว่า “คุณวางใจ ขณะที่ผมกลับมาเมื่อครู่ ได้ไปดูที่ห้องนอนก่อน แล้ว หนูนากำลังหลับสบาย ตอนนี้ยังเช้ามากแบบนี้ เธอจะ ไม่ตื่นหรอก” พูดจบ แล้วเขาก็เม้มติ่งหูของเธอเข้าไปใน ปากของเขาและกัดเบาๆ

สถานที่ที่น่าอายเช่นนี้ ท่าทางที่น่าอายผู้คนเช่นนี้ แสง สว่างที่กระจ่างแจ้งเช่นนี้ พิมพ์ลดาลืมตาปุ๊บก็เห็นใบหน้ารูป ไข่ที่แดงก่ำของเธอเองและแผ่นหลังอันแข็งแรงของจิรฐา ในกระจกบนผนังตรงข้าม

ได้แต่กอดเขาไว้แน่น เกยคางไว้บนไหล่ของเขา อ้า ปากกัดไหล่ของเขาไว้ ปิดเสียงที่กำลังจะซี้ดปากจากในลำ คอของเธอเองไว้ในอ้อมแขนของเขา
พิมพ์ลดาคิดว่าบางทีล้วนสัมพันธ์กับที่จิรฐาได้ยืนหยัด ในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมาตลอด สมรรถภาพ พลังของท่านผู้ใหญ่จึงแข็งแกร่งผิดปกติ แน่นอนพิมพ์ลดา ก็ยังไม่ได้ลองความสามารถของผู้ชายคนอื่นมาก่อน แต่ ทว่าแค่ท่านผู้ใหญ่คนเดียว เธอก็รู้สึกว่าเธอใกล้จะรับมือไม่ ไหวแล้ว

โชคดีที่ท่านผู้ใหญ่ยังคำนึงถึงว่าอีกสักครู่พิมพ์ลดาต้อง ดูแลหนูนาและยังพิจารณาว่าเธอยังทำอาหารเช้าไม่เสร็จ จึงได้แก้ไขปัญหาความต้องการและความปรารถนาของเขา เองอย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนก่อน ๆ ที่ผ่านมาจะทำให้พิมพ์ ลดาขี่เมฆพลิ้วขึ้นสูงหลายต่อหลายครั้งก่อน แล้วถึงจะยอม ปล่อยผ่านเธอ

หลังจากอาบน้ำด้วยกันแล้ว ถูกจิรฐาจ้องแบบนี้ พิมพ์ ลดาเขินอายที่จะใส่เสื้อผ้า ต้องรีบหยิบเสื้อผ้าของเธอเอง และซ่อนตัวอยู่หลังม่านในห้องนำ

ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดแบบนี้กี่ครั้ง พิมพ์ลดาก็ยังมักเขินอายแบบนั้น มองดูเธอ จิรฐาแค่หัวเราะ แล้วเขาก็ใส่เสื้อผ้าของเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะออก ไปจากห้องน้ำ เขายังได้ดีดผ้าม่านบาง ๆ นั้น ลูบจมูก กล่าว ว่า “ผมออกไปก่อน คุณไม่ต้องรีบ! ”

เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดแล้วปิดอีกครั้ง ดวงใจ ดวงน้อย ของพิมพ์ลดาจึงได้สงบลงบ้าง

“ผู้ชายเลว!” ทางหนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าคลุมร่างกาย อีกทางหนึ่งพิมพ์ลดาต่อว่าท่านผู้ใหญ่อย่างลับๆ “ทำไมแต่เช้า จึงมักมีสปิริตขนาดนั้นน่ะ!” ก้มศีรษะไปมองดูร่องรอยที่ถูก ผู้ชายบางคนขบกัดบนกระดูกไหปลาร้าของเธอเองซึ่งยัง ไม่ทันหายดีหมดแต่กลับยิ่งชัดเจนมากขึ้น แก้มที่เดิมแดง ยังไม่จางไปของพิมพ์ลดา ก็ยิ่งร้อนผ่าวขึ้นแล้ว

ถูกท่านผู้ใหญ่ก่อกวนเช่นนี้อีก ไข่เจียวที่พิมพ์ลดาทำไว้ ก่อนกว่าครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ก็เย็นชืดไปหมดแล้ว ต้องทำใหม่ อีก

เมื่อพิมพ์ลดาทําอาหารเช้ารอบใหม่เสร็จ เธอปรบมือของ เธอ แล้วถอดผ้ากันเปื้อนออก เดินไปที่ห้องนอน เธคิดจะดู ว่า หนูนาตื่น หรือยัง แต่เมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้ เธอก็ได้ยิน เสียงหัวเราะสองเสียงดังออกมาจากห้องนอน

แง้มประตูที่งับไว้นั้นเปิดออก เธอเห็นสองคนหนึ่งใหญ่ หนึ่งเล็กบนเตียงกำลังเล่นจั๊กจี้ทันที

จิรฐาได้เปลี่ยนใส่ชุดลำลองแล้ว และ ไม่รู้ว่าหนูนาตื่น ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร พิมพ์ลดาเห็นจิรฐาได้ช่วยแต่งตัวให้ เธอเสร็จแล้ว

หนูนาเด็กคนนี้ แม้ว่าปกติจะเป็นเด็กดีน่ารัก แต่พิมพ์ลดา ไม่ได้ดูแลเธอเป็นครั้งแรก เธอรู้ว่าเจ้าเด็กน้อยคนนี้จะเจ้า อารมณ์เวลาตื่นนอน น้อยคนนักที่จะทำให้เธอหัวเราะออก มาได้ยามที่เธอเพิ่งตื่นนอน แต่ในวันนี้ จิรฐากลับทำได้

แล้ว
ผู้ชายคนนี้ ดูเหมือนจะเหมาะกับการเป็นพ่อจริง ๆ เมื่อ คิดถึงคำว่าพ่อคำ ๆ นี้ พิมพ์ลดาจึงจำขึ้นมาได้ว่าเมื่อครู่ใน ห้องน้ำ จิรฐาไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยอีกแล้ว

อืม พิมพ์ลดาทำปากจู๋ คิดว่าคราวหน้าเธอเองต้องจำให้ ได้ต้องซื้อยาแน่นอน

ดูสองคนในห้องที่หัวเราะทั้งคู่นอนกลิ้งโค่โล่กันอยู่บน เตียง พิมพ์ลดาเดินไป ยับยั้งกรงเล็บน้อยของหนูนาที่จะ จู่โจมท่านผู้ใหญ่เอาไว้

หนูนาตะลึง หันศีรษะไปมองพิมพ์ลดาแล้วตะโกนอย่าง มีความสุข “แม่น้อย! ” พุ่งเข้าไปในอ้อมอกของพิมพ์ลดา ทันที เจ้าเด็กน้อยก็หอมคำโตบนหน้าเธอ แล้วถามเสียง ออดอ้อนว่า “แม่น้อย หนูเล่นจั๊กจี้กับพ่อน้อย แม่มาเล่นด้วย กันไหม? แม่ช่วยหนูเกาจั๊กจี้พ่อเขาด้วยกัน!

หนูนาพูดจบ เห็นว่าจะมุดออกจากอ้อมอกของพิมพ์ลดา ไปเกาจิรฐาอีก พิมพ์ลดารีบคว้าเธอกอดไว้ในอ้อมแขน พูด กับเธอว่า “หนูนา เราไปกินข้าวเช้าดี ๆ ก่อน กินอิ่มแล้ว ค่อย ไปเกาพ่อน้อยด้วยกัน ดีไหม?”

ได้ยินพิมพ์ลดาพูดถึงข้าวเช้า หนูนาก็รู้สึกว่าตนเองหิว แล้ว ตาทั้งคู่สว่างขึ้น รีบตอบทันทีว่า “ตกลง กินให้อิ่ม ๆ ก่อน”

“เอาล่ะ ลุกจากเตียงและใส่รองเท้าน้อย ๆ ของหนูเอง ” หนูนาทําตามคําแนะนำของพิมพ์ลดาอย่างว่านอนสอนง่ายแล้ววิ่งตื้อพุ่งปราดออกไปจากห้องนอนก่อนราวกับหญิง สาวดุจสายลมหอบหนึ่งเช่นนั้น

พิมพ์ลดาไม่สนใจท่านผู้ใหญ่ เดินตามหลังหนูนาออก ไปเอง แต่เมื่อเธอเดินไปที่ประตูห้องนอน เท้าข้างหนึ่งของ เธอก้าวออกไปปุ๊บ ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังก็เอื้อมมือมาดึงเธอ ไปกอดไว้ในอ้อมแขน

เลียนแบบวิธีของหนูนา จิรฐาก็หอมฟอดใหญ่ไปบนหน้า ของพิมพ์ลดาแล้วเขาก็ยิ้มอย่างอันธพาล กล่าวว่า “ภรรยา ผมก็มีความอยากอาหารฉับพลัน!”

รับมือกับท่านผู้ใหญ่ที่มีความปรารถนาไม่รู้จักพอ แถม เป็นนักเลงโตอันธพาลแบบนี้ พิมพ์ลดาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป แล้ว ยกข้อศอกของเธอกระทุ้งไปที่ร่างเขาอย่างแรงแล้วทิ้ง ท่านผู้ใหญ่ที่ยังไอ เดินออกไป

วันหยุดนี้ เพราะมีหนูนา วันเวลาของท่านผู้ใหญ่และ น้องพิมพ์ลดาดูเหมือนว่าจะมีความสุขและความชุ่มชื้นมาก

สะปันและทนพลกลับถึงเมือง S ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ พวกเขากลับมาถึงเมืองก็รีบมารับหนูนาก่อน เดิมพิมพ์ลดา คิดจะรั้งสะปันให้อยู่กินข้าว แต่เธอยืนยันที่จะนำหนูนาไป หลังจากนั้นเธอส่งข้อความกลับมาให้พิมพ์ลดาว่า เธอเอง ไม่กล้ากินข้าวโต๊ะเดียวกันกับท่านผู้ใหญ่ มักจะรู้สึกว่ากินไม่ อิ่มและอาหารไม่ย่อย
พิมพ์ลดาถูกข้อความนี้ของสะปันยังจนทำให้หัวเราะ ทั้งคืน ในช่วงพักกลางคืน เธอยังเคยนอนฟุบไปบนหน้าอก ของจิรฐาถามว่า “จิรฐา ปกติที่คุณทำงานจะดุมากหรือ?”

บผมยาวนุ่มสลวยของเธอ เขาหัวเราะเบา ๆ ถามกลับ ว่า “ใครบอกคุณหรือ?”

พิมพ์ลดาเงยหน้าขึ้น เลียนแบบลักษณะที่เขาทําบน ร่างกายเธอ กัดไปบนหน้าอกผิวสีแทนเล็กน้อยนั้นของเขา หนึ่งคำแล้วยิ้มอย่างเกเร “เฮ้อ! ฉันไม่บอกคุณหรอก! อ๊ะ!”

พิมพ์ลดายังพูดไม่จบก็ถูกคนทับร่างท่อนล่างไว้ราว พลิกภูผาคว่ำมหาสมุทร

จิรฐาพบว่าผู้หญิงโง่ของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็น ฉลาดขึ้นและยังเปลี่ยนเป็นเกเรขึ้นแล้ว เขาชอบที่เธอทำไม่ ดีกับเขาเองแบบนี้แต่เขาก็รู้ว่าถ้าไม่มีการแนะนำสอนเพิ่ม เติม เกรงว่ายิ่งมาจะยิ่งแย่ลง!

คืนนี้ ดูเหมือนดวงจันทร์นอกหน้าต่างจะอายจนซ่อนตัว

ไปอยู่หลังเมฆแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ