ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์

ตอนที่ 5อายเขาตายแล้ว



ตอนที่ 5อายเขาตายแล้ว

ในพจนานุกรมของพิมพ์ลดา เช้าวันอาทิตย์ถูกกำหนดไว้ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการนอนหลับ โดยเฉพาะเหมือนวัน แบบวันนี้ แม่แก่เธอไม่อยู่ จึงไม่มีใครร้องตะโกนให้เธอตื่นนอน แน่นอน

แต่ทำไมจู่ๆร่างกายเย็นเยือกทีหนึ่ง? ทำไมรู้สึกเหมือนมี อะไรมาเกาอยู่ข้างหู คันมาก?

ฮีๆสองเสียง พิมพ์ลดางัวเงียลืมตาขึ้นมา ตาคู่หนึ่งปรากฏขึ้น เบื้องหน้าในทันใด ทำให้เธอร้องกรีดอย่างอดไม่ได้

“น้าอ้อย น้าทำอะไรน่ะ? ทำฉันตกใจแทบตาย!” ร้องกรีด เสร็จ พิมพ์ลดาตื่นเต็มที่ คนที่มากวนฝันดีของเธอแต่เช้าไม่ใช่ ใครอื่น คือน้าอ้อยที่อยู่ตรงข้ามบ้านพวกเขา

มองดูทรงผมอันยุ่งเหยิงของพิมพ์ลดาทรงนั้น น้าอ้อยขมวด คิ้ว โยนสิ่งของที่อยู่ในมือไปตรงหน้าเธอ กล่าวว่า “พิมพ์เอ๋ย นี่ เป็นแม่เธอให้ฉันเอามาให้เธอ เธอให้ฉันบอกว่าถ้าวันนี้เธอ ไม่ไปนัดบอดก็ไม่ต้องกลับมาอีกแล้ว นำทะเบียนบ้านของเธอ ติดตัวไปด้วย วันหน้าจะได้ไม่เกิดปัญหา”

เมื่อพิมพ์ลดาเพิ่งเกิดมา ทะเบียนของพ่อแม่ไม่ได้อยู่ใน เมืองร เพื่อเอื้อความสะดวกในการเข้าเรียนของเธอแล้ว จึงได้ ย้ายทะเบียนของเธอมาคนเดียวก่อน ดังนั้นตอนนี้ทะเบียน ของพิมพ์ลดาจึงแยกไว้ในเล่มแดงเข้มเล่มหนึ่ง เมื่อก่อนแม่เธอ จะช่วยเก็บรักษาเล่มทะเบียนให้เธอ กล่าวว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ เธอขโมยเล่มทะเบียนไปทำเรื่องไม่ดี นี่ดีแล้ว มอบมันให้เธอ โดยตรง ยังให้พิมพ์ลดาสองทาง หนึ่ง กล้าก้าวไปนัดบอดสองเก็บของไสหัวไปจากบ้าน

เดิมพิมพ์ลดายังคิดลบข้อความทิ้งไปแล้วเธอจะได้บอก แม่เธอว่าเธอไม่ได้รับการแจ้งเตือน แต่ใครจะรู้ว่าแม่เธอยัง ได้เตรียมรับมือไว้ ก่อนน้าอ้อยจะออกบ้านไปได้ส่งกระดาษ บันทึกแถบหนึ่งให้พิมพ์ลดา ด้านบนก็เขียนเนื้อหาที่แม่ของเธอ ได้กล่าวไว้ในข้อความ

ลงจากรถแท็กซี่ พิมพ์ลดาหยิบกระดาษบันทึกที่น้าจังกึมให้ มา มองดูที่อยู่

“เช้าสิบโมง ร้านโอเก้อกาแฟ ถนนอาทิตย์ โต๊ะที่ยี่สิบสอง จิล ถ้า วิศวกร” ดูสาระบนแผ่นกระดาษ พิมพ์ลดาทวนอีกรอบ “โต๊ะ ที่ยี่สิบสอง?” เห็นหมายเลขนี้ เธอชะงัก “ทำไมฉันจำว่าที่ฉัน เห็นในข้อความคือโต๊ะสิบสองนา?”

“โอ๊ย! ไม่สนล่ะ ยี่สิบสองก็ยี่สิบสองหล่ะ” เก็บแผ่นบันทึก ใส่กระเป๋าตามความสะดวก พิมพ์ลดาพ่นลมออกจากปากแล้ว ผลักประตูเดินเข้าไปในร้านโอเก้อกาแฟ

ร้านโอเก้อกาแฟเป็นร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองs ร้านมีชื่อเสียงเป็นเพราะที่นี่ของทุกอย่างแพงมากอย่างอัศจรรย์ แม้ว่าพิมพ์ลดามีรายได้ที่ไม่เลว แต่ถ้าให้เธอมาที่นี่ประจำ เธอ จะต้องปวดใจแทบตายแน่นอน ที่กินและดื่มล้วนเป็นหยาด เหงื่อโลหิตของเธอนะ!

พอพิมพ์ลดาเข้าประตูก็มีพนักงานมาต้อนรับ “สวัสดีค่ะ คุณมี

นัดล่วงหน้าไหมค่ะ?”

“โอ้ สวัสดี! ฉันมีเพื่อนอยู่ที่โต๊ะยี่สิบสองค่ะ” พิมพ์ลดาตอบ
บริกรยืมผายมือแสดงอาการเช่อเชิญ เชิญทางนคะ”

โต๊ะหมายเลขยี่สิบสองเป็นที่นั่งข้างหน้าต่าง ในปลาย ฤดูใบไม้ร่วงช่วงเช้านี้ มีแสงแดดรำไรสาดส่องเข้ามาทาง หน้าต่างกระจกตกสู่พื้น พิมพ์ลดามองแต่ไกล ก็เห็นชายคน ที่นั่งอยู่โต๊ะยี่สิบสอง ทางหนึ่งกัมหน้าดูเอกสาร ทางหนึ่งกำลัง โทรศัพท์

“ครั้งนี้สายตาแม่มีความคืบหน้าแฮะ!” กำลังคิดอยู่ พิมพ์ลดา ยักมุมปากขึ้น

แม้ว่าไม่เห็นหน้าชัด แต่จากรสนิยมในการแต่งตัวของเขา และเมื่อเทียบกับลุงข้าราชการคนนั้นครั้งที่อยู่รีสอร์ทริมทะเล ช่างดีกว่ามากเหลือเกิน!

โอเค พิมพ์ลดายอมรับว่าบางครั้งเธอก็เป็นคนเจ้าชู้และก็มี ความอ่อนไหวในจิตใจราวกับสาวรุ่น ๆ

ภายใต้การนำของบริกร พิมพ์ลดาย่างทีละก้าวเข้าใกล้โต๊ะ

ยี่สิบสอง

“ท่านค่ะ มีหญิงสาวคนหนึ่งมาพบท่านค่ะ” ขณะก่อนเชิญพิมพ์ ลดานั่งลง บริกรได้เข้าไปทักทายกับชายคนที่นั่งอยู่ก่อน

ได้ยินคำพูดของบริกร เขาเงยหน้าขึ้นมองพิมพ์ลดาที่อยู่ ข้างๆบริกร

จิตใจพิมพ์ลดารอคอยเต็มเปี่ยมรอเขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ แสร้งยกมือขึ้นเสยแต่งทรงผม แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าหล่อ เหลาจนแทบทำให้คนหยุดกลั้นลมหายใจได้ของอีกฝ่าย กลับสำลักน้ำลายตัวเองที่หนึ่ง

“อะแฮ่ม…

“คุณค่ะ ท่านเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ?” เห็นพิมพ์ลดาไอไม่หยุด บริ กรรีบถามเธอ

พิมพ์ลดาโบกมือใส่เขาแล้วหันหลังวิ่งไปที่ห้องน้ำ

ตรงหน้ากระจก พิมพ์ลดามองใบหน้าที่ไอจนแดงก่ำ ผิดหวัง ไม่สบายใจกัดฟันแน่น

“อายเขาตายแล้ว!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ