ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์

ตอนที่ 95 ความอบอุ่นที่ละหยดจวบจนแยกจาก



ตอนที่ 95 ความอบอุ่นที่ละหยดจวบจนแยกจาก

“ไม่รับเหรอ?” เสียงเตือนดังมาจากหูฟัง ขออภัยค่ะ เลข หมายที่คุณเรียก สายไม่ว่างในขณะนี้ กรุณากรอีกครั้ง ในภายหลัง พิมพ์ลดาวางโทรศัพท์มือถือลงวางสาย บ่อ อยู่หรือ?” คิดแล้วเธอยังคงหยิบโทรศัพท์มือถือใส่กลับ เข้าไปในกระเป๋า

ในห้องประชุมของเทศบาลเมืองกำลังจัดการประชุมการ ก่อสร้างเมือง เมื่อโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสั้นขึ้นมาจา ไม่ได้ดูเลยเขาก็กดล็อคหน้าจอวางสายโดยตรง

ปกติเขามักจะเข้าร่วมประชุมโดยไม่มีโทรศัพท์มือถือ เข้ามา วันนี้กลับลืมเอามันออกมา

การประชุมการก่อสร้างเมืองรอบหนึ่งเปิดจนถึงเที่ยงวัน กว่าจึงเสร็จสิ้น ออกจากห้องประชุม เขาเอาโทรศัพท์มือ ออกมาเปิดมันจึงพบว่าพิมพ์ลดาโทรหาเขาเอง

นี่เป็นครั้งแรกที่พิมพ์ลดาริเริ่มโทรหาเขา

มองดูคำบนหน้าจอ จิรฐาริมฝีปากประดับรอยยิ้มโดยไม่รู้

ตัว

ปรัณตามหลังจิรฐาออกจากห้องประชุม เขาสามาร จะกินอาหารกลางวันที่ร้านอาหารของโรงอาหารเทศบาล ไหม งุนงงว่าถามเขากี่ครั้ง เขาก็ไม่ตอบ โรฐานรับโทรศัพท มือถือขึ้นมาโทรหมายเลขออกไปเท้าเดินไปข้างหน้าทิ้งปรัณซึ่งกำลังยุ่งเหยิงราวกับอยู่ในหมอกเมฆลมพายุฝน เต็มหัวไปหมดไว้ข้างหลัง

เมื่อจิรฐาโทรมา พิมพ์ลดากำลังกดกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อ รูดซิป ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น พิมพ์ลดาพาดบน กระเป๋า ทำให้มองแล้วไม่น่าดูเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือ ถือที่วางไว้ข้าง ๆที่นอนขึ้นมากดรับสาย

“ฮัลโหล” เมื่อเธอกำลังยุ่งอยู่กับการทำสิ่งต่าง ๆ พิมพ์ ลดามีนิสัยที่ไม่ดีนั่นคือเธอจะไม่ได้ดูโทรศัพท์ก่อนที่จะรับ สาย แต่จะกดรับโดยตรง หนีบไว้ระหว่างช่วงศีรษะกับไหล่ มือทั้งสองข้างยังคงยุ่งกับสิ่งที่ทำอยู่ในมือ

“พิมพ์ลดา คุณโทรหาผมเมื่อเช้านี้?” ได้ยินเสียงชายหนุ่ม ที่คุ้นเคยอันอบอุ่นแฝงแรงดึงดูดดังมา พิมพ์ลดาก็ชะงัก หยุดการเคลื่อนไหวในมือ

“อืมอืม” เธอตอบเอ่อ แต่คิดว่าดูเหมือนเสียงจะไม่ดังพอ จึงตอบไปอีกเสียง ลุกขึ้นจากกระเป๋า เธอหมุนตัวนั่งลงที่ เตียง กระซิบถามว่า “นั่น คุณกินข้าวแล้วยัง?”

เห็นนายกจิเดินเข้ามา บางคนที่ได้กินอาหารเสร็จเดิน ออกจากโรงอาหารทักทายกับเขาเซ็งแซ่ เห็นรอยยิ้มหวาน บนใบหน้าของท่านผู้ใหญ่ น้องสาวหลายคนต่างอดไม่ได้ รู้สึกว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ท่านผู้ใหญ่คนนี้ยิ่งมายิ่งหล่อหรือ? ”

พยักหน้ากับชนิศายังมีสะปันที่กำลังเดินสวนกันมา จิรฐา ตอบเธอกลับไปว่า “ยังไม่น่ะ เพิ่งประชุมเสร็จออกมา กำลังไปร้านอาหาร แล้วคุณล่ะ?”

“โอ้” พิมพ์ลดาพบว่าขณะที่เธอเองและจิรฐาคุยโทรศัพท์ กัน ดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษที่จะพูด เอาล่ะ เนื่องจากไม่มี เรื่องสัพเพสาระที่จะคุย นั่นก็ได้แต่ต้องพุ่งประเด็นหลักแล้ว “นั่น ฉัน ฉันต้องไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ตอนบ่าย ตอน เย็นไม่สามารถทำอาหารให้คุณแล้ว คุณกินอาหารเย็นแล้ว จึงกลับมา

ครั้งที่แล้วขณะที่พิมพ์ลดาร่างอนุสัญญาว่าด้วยชีวิตคู่ จิรฐาได้เสนอความต้องการสามประการ ข้อที่สองคือถ้าไม่มี สถานการณ์พิเศษ ต้องกินข้าวเย็นที่บ้านด้วยกัน แม้ว่าใน ที่สุดเขาก็ไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยชีวิตคู่ของพิมพ์ ลดา แต่พิมพ์ลดากลับตอบตกลงต่อความต้องการทั้งสาม ข้อของเขาอย่างเซ่อ ๆ

“คุณจะไปปฏิบัติงานนอกสถานที่เหรอ?” ทันทีที่ได้ยิน พิมพ์ลดากล่าวว่าเธอต้องไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ จิรฐา หยุดเดินทันที “เครื่องบินเวลาไหนไปที่ไหน?

“เมื่อเช้าเพิ่งรับแจ้งให้ทราบอย่างกะทันหัน เที่ยวบิน บ่ายสองครึ่งไปเมือง B” คิดแล้วคิดเล่า พิมพ์ลดาเพิ่มอีก ประโยคว่า “ไม่รู้ว่าต้องอยู่ที่นั่นกี่วัน ถ้าคุณไม่ชินกับอาหาร ข้างนอก ก็ไปกินข้าวกับพ่อแม่ของฉันที่นั่น ฉันบอกพวกเขา สักคำ ยังไง ๆ ก็ไม่ได้ไกลเกินไป คุณเลิกงานก็ตรงไปเลย พิมพ์ลดาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอเอง กลับคิดมอบหมาย เรื่องเขากินข้าวเย็นอย่างไรขึ้นมา
คำพูดนี้ทันทีที่พูดออกมา เธอก็เสียใจอีกครั้ง

เจ้าโง่ เจ้าลืมไปแล้วหรือ? ก่อนที่จะแต่งงานกับคุณ เขา ก็กินอาหารนอกบ้านมาทั้งหมดจะไม่ชินได้อย่างไร!

“แล้วตอนนี้คุณอยู่ไหน?” ได้ยินคำพูดร้อยเรียงชุดนั้นของ

พิมพ์ลดา ที่จิรฐาใส่ใจมากที่สุดคือตอนนี้เธออยู่ที่ไหน หลัง

จากที่เขาได้ยินเสียงพิมพ์ลดาตอบเขาว่าที่บ้าน ก็รีบหมุนตัว

วิ่งไปที่ทางทิศลานจอดรถ

เห็นท่านผู้ใหญ่มาถึงหน้าประตูโรงอาหารแต่กลับหมุนตัว วิ่งออกไปทันที ปรัณก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอีกครั้ง

“ได้โปรด ท่านจิ!ถ้าคุณไม่กินคุณก็บอกผมสักคำเถอะ!” ปรัณรู้สึกว่าเขาเองไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างผิดวิสัย เขา ยังเดินตามหลังท่านผู้ใหญ่มาถึงที่นี่อย่างช้า ๆนะ!

พิมพ์ลดาได้ยินเพียงจิรฐาพูดกับเธอเองว่า “ดี คุณรอผม อยู่ที่บ้าน แล้วมีเสียงตุ๊ดตุ๊ดตูดดังมาจากปลายสาย

ชายหนุ่มคนนี้ มักจะวางสายโดยไม่ให้โอกาสเธอพูดจบ

น่ารำคาญ!

โยนโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง พิมพ์ลดาลุกขึ้นจัด เสื้อผ้าต่อ จัดไปจัดไป พลันเธอได้คิดเมื่อครู่จิรฐาบอกให้ เธอรอเขาอยู่ที่บ้าน
“เอ๋อ? เขาจะกลับมาไหม? คิดพลางหมดอา โทรศัพท์มือถือมาดู เป็นเวลาเที่ยงครั้งแล้ว เขาบอกว่าเขา ยังไม่ได้กินข้าว พูดกับตัวเอง พิมพ์ลดารีบคว้าโทรศัพท์มือ ถือจากพื้นขึ้นมา หมุนตัววิ่งออกไปจากห้องนอน

ปกติพิมพ์ลาบ่ายเลิกงานแล้วค่อยไปซื้อผักนำกลับ บ้าน ดังนั้นตอนเที่ยงในตู้เย็นผักที่สามารถใช้ปรุงอาหารมี ไม่มาก มีเพียงเนื้อสันที่ยังใช้ไม่หมดบ้าง แครอทสองหัว

ผักกาดขาวหนึ่งหัว และยังมีไข่สองสามห้อง เมื่อจิรฐาขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วที่ใกล้ความเร็วเกิน กำหนด อีกทั้งรีบวิ่งออกจากลิฟต์ พอเปิดประตูห้องนั่งเล่น

ก็สุดได้กลิ่นหอมของอาหารโชยมา

เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู พิมพ์ลดากำลังแบ่งตะเกียบ

วางตะเกียบเรียบร้อย พอเธอหมุนตัวก็ถูกดึงเข้าไปใน อ้อมแขนกอดไว้แน่น พลังนั้นทำให้พิมพ์ลดารู้สึกราวกับจิร ราจะนวดเธอเข้าไปในร่างของเขาบ้านนั้น

“ยังดี คุณรอผมดี ๆ ฝังศีรษะลงในผมยาวที่ปล่อยสบาย

ของพิมพ์ลดา จิรฐาจูบผมของเธอ ในใจรู้สึกถูกเติมเต็มล้น โดยพลัน

พิงไหล่ของเขา พิมพ์ลายิ้ม กล่าวว่า “ไม่มีอาหารมาก ในบ้านฉันเพียงแต่นัดสองจานและต้มซุปหนึ่งที่ถ้าไม่ อร่อย คุณห้ามรังเกียจ”
เธอคิดไม่ถึงว่าพอจิรฐาได้ยินว่าเธอกำลังจะเดินทางไป ปฏิบัติงานนอกสถานที่ก็วิ่งกลับมาบ้าน ตอนนี้ได้เห็นเขา อิง ในอ้อมอกของเขา จมูกก็รู้สึกแสบขึ้นมาบ้าง

ถ้าไม่ใช่ในใจมีคนตัวเล็กคอยเตือนเธอตลอดว่า “พิมพ์ ลดา คุณห้ามร้องไห้อา! มิฉะนั้นจะน่าอายผู้คนเกินไปแล้ว! พิมพ์ลดารู้สึกว่าเธอเองต้องร้องไห้ฟูมฟายไปนานแล้วแน่ๆ

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันอย่างง่าย ๆ จิรฐาก็ได้ ขนย้ายกระเป๋าเดินทางของพิมพ์ลดาไปขึ้นรถ ส่งเธอไปที่ สนามบิน

ในรถ เธอมองดูเวลา เดือนเขาว่า “ยังคงอย่าส่งฉันไปเลย คุณจะเข้างานสายนะ!

“ไม่เป็นไร กลับมาผมจะทำงานล่วงเวลาเสริมก็ได้แล้ว จิร ฐาแทบจะไม่คิดก็ตอบเธอกลับประโยคนี้แล้ว

สายแล้วทำงานล่วงเวลาเสริมกลับมาก็ได้แล้วหรือ? พิมพ์ ลดาถามติดตลกว่า “ท่านผู้ใหญ่มีสิทธิพิเศษหรือ?” เธอไม่ ได้หวังว่าเพราะความสัมพันธ์ของเธอ จนเป็นเหตุทำให้ร ฐากลายเป็นคนที่ไม่ตรงต่อเวลาในสายตาของผู้อื่น

หันไปมองเธอครั้งหนึ่ง จิรฐายิ้ม ตอบว่า “ท่านผู้ใหญ่ ไม่มีสิทธิพิเศษ แต่วันนี้ท่านผู้ใหญ่คิดจะใช้สิทธิพิเศษสัก ครั้งเพื่อคุณผู้หญิงที่บ้านของเขา

คุณผู้หญิงที่บ้านของเขา
คุณผู้หญิงคำนี้ พูดออกจากปากของคนอื่น พิมพ์ลดามัก ไม่ได้รู้สึกเหมือนเขากำลังพูดกับเธอเอง แต่ออกจากปากจิร ฐา เธอฟังแล้วหน้าก็แดง

ฮิฮิฮิ พิมพ์ลดาแอบหัวเราะในใจ เธอเป็นคุณผู้หญิงของ ครอบครัวเขา

พิมพ์ลดาไม่ชอบให้ผู้คนมาส่งเธอขึ้นเครื่องบินที่สุด เธอรับความรู้สึกของการแยกจากครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่ สนามบินไม่ได้ ดังนั้นเมื่อจิรฐาจอดอยู่หน้าประตูสนามบิน เอากระเป๋าเดินทางของเธอลงขณะเตรียมที่จะไปจอดรถ แล้วมาส่งเธอ ก็ถูกพิมพ์ลดาปฏิเสธ

ดึงจิรฐาไว้ เธอมองเขาด้วยรอยยิ้มพลางกล่าวว่า “อย่า ส่งฉันแล้ว รีบกลับไปเถอะ เกือบบ่ายสองแล้ว ต้องใช้เวลา หนึ่งชั่วโมงจากที่นี่ไปยังเทศบาลเมือง

หมุนตัวไป จิรฐาคว้ามือคู่น้อยของเธอไว้ในอุ้งมือ แล้ว ดึงมาชิดริมฝีปากของเขาเองเป่าลมร้อนไปคำ เขามอง เข้าไปในตาของเธอ ถามว่า “ไปเองคนเดียวไหวไหม?”

“อืม!” พิมพ์ลดาพยักหน้าอย่างจริงจัง

ภายใต้การยืนยันของเธอจิรฐาไปแล้ว แต่พิมพ์ลดาไม่ เข้าใจว่าถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ส่งเธอขึ้นเครื่องบินแต่เธอไป ถึงเมือง B กลับได้นำใจของจิรฐาขึ้นเครื่องบินไปด้วย

เมื่อพิมพ์ลดามาถึงเมือง B ฟ้าก็ได้มืดแล้ว
ตนัสจัดคนมารับเธอและพาเธอไปที่โรงแรมซึ่งได้จอง ห้องพักไว้แล้วเช็คอิน

วางกระเป๋าลง ขอบคุณคนที่พามาส่ง มองดูเขาจากไป พิมพ์ลดาจึงได้ปิดประตู

หันเดินกลับเข้าไปในห้อง เธอมองห้องของโรงแรมอัน ไม่คุ้นเคยตรงหน้า อ้าปากเป่าลมออกคำ

พิมพ์ลดายังไม่ทันเป่าลมคำนี้ได้เสร็จสิ้น ก็มีเสียงติ้ง ต่องดังมาจากนอกประตู เธอตกใจเกือบจะสำลัก ไอเบา ๆ สองครั้ง ผ่อนลม เธอหันเดินไปทางประตูอีกครั้ง

เธอเพิ่งมาถึงเมือง B น่ะ ใครอยากเจอเธอจนอดทนรอ ไม่ได้เลยอ่า? พิมพ์ลดามือน้อยคว้าลูกบิดหมุนที่เปิดประตู ออก

เมื่อเห็นตนัสยืนเอียงคออยู่ข้างนอกประตู พิมพ์ลดา เพียงรู้สึกว่าลมหายใจของเธอเองยิ่งผ่อนยิ่งอึดอัดมากขึ้น

เขารีบร้อนขนาดนี้เชียวหรือ เธอเพิ่งมาถึงก็จะลากเธอ ไปทำงานล่ะ? เวลานี้พนักงานของผู้คนฝ่ายที่ร่วมงานก็ควร จะเลิกงานแล้วอา

มองดูหญิงสาวตรงหน้าที่หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง เหมือนจะเพิ่งไอมา ตนัสขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามว่า “เพิ่งมา ถึง? หรือว่าทันทีที่มาถึงที่นี่คุณก็เป็นหวัดแล้ว? ในน้ำเสียง

ของเขาไร้ความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น เฉกเช่นความเย็นชาตามปกติที่เขาเข้างานในบริษัทเช่นนั้น

พิมพ์ลดาพยักหน้า ตอบว่า “อืม ผู้ตรวจการใหญ่มีเรื่อง อะไรไหมค่ะ”

ซุกมือทั้งสองข้างใส่ในกระเป๋า ตนัสเลื่อนสายตาของ เขาเองที่มองร่างพิมพ์ลดาเบนไปเล็กน้อย กล่าวว่า “อืม ไป เปลี่ยนเสื้อผ้าหนาอีกนิดแล้วไปกินข้าวด้วยกัน ผมจะรอคุณ ที่ร้านกาแฟชั้นล่าง” กล่าวเสร็จแล้วเขาก็ไม่รอพิมพ์ลดา ตอบ หันเดินไปทางลิฟต์

ทันทีที่ก้าวออกมาจากประตูหนึ่งก้าว พิมพ์ลดาได้เห็น เงาหลังของตนัสจากไป กระพริบตา ยังไม่ทันได้คิดถึงคำ พูดเปลี่ยนเสื้อผ้าหนาอีกนิดประโยคนั้นของเขาว่าหมายถึง อะไร ไปกินข้าวด้วยกัน? ร่วมกับลูกค้าหรือ?

“ควรจะเป็นอย่างนั้น! ” พูดกับตัวเอง พิมพ์ลดาเข้าไปใน ห้องปิดประตู ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

พิมพ์ลดาเป็นน้องที่กลัวหนาวมากที่สุด ในเมืองนี้ที่ อุณหภูมิต่ำกว่าเมือง S อย่างน้อยเจ็ดหรือแปดองศา เธอ หวังว่าเธอจะห่อตัวเธอเองเหมือนลูกบอลก่อนที่จะออกไป แต่เมื่อคิดว่าอีกครู่เธอเองกำลังจะไปกินข้าวกับลูกค้า การ สวมใส่เช่นนั้นไม่สุภาพไม่เหมาะสมดังนั้นจึงต้องสละเสื้อ โค้ทผ้าฝ้ายขนาดใหญ่และใส่เสื้อโค้ทกันลมแทน

พิมพ์ลดาคิดว่าจิรฐาเตือนให้เธอสวมใส่เสื้อผ้าที่หนา เป็นพิเศษ ในความเป็นจริงควรจะเป็นกำลังเตือนให้เธอสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมและอบอุ่น!

คิดได้ดังนี้ น้องพิมพ์ลดาส่องกระจกส่องแล้วส่องเล่า จัดแต่งทรงผมอย่างสวยงามแล้วออกประตูไป

ในร้านกาแฟ นล่างของโรงแรม ดนัสหยิบซ้อนเล็กขึ้น คนผสมน้ำตาลที่เขาเองเพิ่งใส่เข้าไปในถ้วยกาแฟแล้ววาง

ช้อนเล็กลงถือถ้วยกาแฟขึ้น ชิมอย่างสง่างาม

พิมพ์ลดาเดินเข้าไปในร้านกาแฟมองไปรอบ ๆ ในที่สุดก็ เห็นตนัสซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งริมหน้าต่าง เธอกำลังจะก้าวเท้าเดิน ไปหาเขา แต่ได้เห็นผู้ชายแต่งตัวดีเดินเข้าไปในที่นั่งตรง ข้ามถนัส นั่งลง

ห่างไกลไปหน่อย พิมพ์ลดาไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลัง พูด แต่ดูสีหน้าของตนัส ขณะที่เขาได้เห็นผู้ชายคนนั้นดู เหมือนจะงงงันประหลาดใจบ้าง

“ด้านข้างผู้ชายคนนี้ทำไมดูคุ้นตาเช่นนี้อ่า?” มองผู้ชาย คนนั้น พิมพ์ลดาก็นึกถึงคนที่ได้พบในคืนนั้นที่งานสมาพันธ์ การเมืองและธุรกิจ

“อ้า? นั่นเขาเหรอ? นิธูร?” ผู้ชายที่ตนัสเคยเตือนเธออย่า ได้คบค้าสมาคมด้วยเด็ดขาด? “เขามาที่นี่ทำไม?” คิ้วขมวด เล็กน้อย พิมพ์ลดาได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เปิดกระเป๋าซื้อหา โทรศัพท์มือถือออกมา โทรกดหมายเลขของตนัส

ก็ให้เขาคิดว่าเธอไม่เห็นเขา แม้แต่ตนัสกล่าวว่านิธูรคนนี้แตะต้องไม่ได้ พิมพ์ลดาคิดว่าเธอยังคงหลีกเลี่ยงการเจอ หน้ากับบุคคลอันตรายเช่นนี้ดีกว่า

ตนัสและนิธูรเป็นนักเรียนโรงเรียนชั้นมัธยมศึกษาด้วย กัน นิธรนายน้อยที่สองคนนี้มักจะรักที่จะติดสนิทกับเขา แต่ นัสกลับไม่ชอบสไตล์ของเขามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่ เขาทำงานหรือพฤติกรรมที่เขาใช้ชีวิต เขาไม่ชอบทั้งหมด

โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสั่น หนัสขอโทษยิ้มครั้งหนึ่ง แล้วหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมารับฟัง “ฮัลโหล

เมื่อโทรศัพท์ติดต่อได้แล้ว พิมพ์ลดารีบเลื่อนสายตาไป มองทอื่นในร้านกาแฟ ไม่มองตนัสพวกเขา เพียงกล่าวว่า “ฉันมาถึงแล้ว คุณอยู่ไหน?”

ได้ยินพิมพ์ลดาถามเช่นนี้ ตนัสรีบมองไปที่ประตูร้าน กาแฟทันที เมื่อเขาเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย เขาพูดกับเธอว่า “คุณยืนอยู่ตรงนั้นรอผม ผมมาหาคุณเอง” แล้วเขาก็วางสาย

มองตามสายตาของตนัส นิธุรก็ได้สังเกตเห็นพิมพ์ลดา ที่ยืนอยู่ตรงประตู ถึงแม้ว่าพิมพ์ลดาโตมาสวยงามใจกว้าง ปกติสามารถเปลี่ยนเป็นไม่เป็นที่ดึงดูดความสนใจของนิธูร ยิ่งไม่เป็นที่ให้เขาจดจำได้

แต่ เธอดันเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ตนัสพาไปออกงาน เลี้ยงอาหารค่ำด้วย และท่านผู้นำคนใหม่ประกาศว่าเธอเป็น หญิงสาวซึ่งเป็นคุณผู้หญิงของเขา
ผู้หญิงแบบนี้คนนี้ทำให้เขานายน้อยคนที่สองรู้สึกอยาก รู้อยากเห็นแล้วจริง ๆ

เมื่อตนัสกล่าวว่า “ขอโทษฉันนัดคนไว้แล้ว ต้องไปก่อน แล้ว” นิธูรหัวเราะและตะโกนรั้งเขาซึ่งเตรียมจะลุกขึ้น

“ตนัสรูปหล่อ!” นิธูรมองตนัสแล้ว ย้ายสายตาไปมองพิมพ์ ลดาที่ประตูร้านกาแฟ ยิ้ม ใช้เสียงที่น่ากลัวนั้นของเขาถาม ว่า “ที่แท้คุณไม่เพียงแต่พาคุณผู้หญิงไปงานเลี้ยง กระทั่ง เดินทางไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ก็ยังพาไปด้วยอ่า?” กล่าว พลางเขาดูเหมือนจะยิ้มอย่างสดใสมากขึ้น ใกล้ตนัสเข้าไป อีกนิด เขากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “คุณเดาซิ ถ้าท่านนายก จิรู้ว่าน้องชายของเขามักจะหยิบยืมใช้ชื่องานพาคุณผู้หญิง ของเขาไปในทุกหนทุกแห่ง จะมีปฏิกิริยาใดน่ะ?”

ดูแววตาที่แฝงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นิด ๆ ของนิธูร ตนัสหน้า สงบ เขาตอบกลับมาด้วยเสียงเย็นชาว่า “ผมว่านิธูรคุณ คิดมากไปแล้ว ผมพาพิมพ์ลดาออกมาเพื่อทำงาน อย่า พยายามที่จะคาดเดามั่วไปเอง ขอบคุณมากครับ!”กล่าวจบ แล้วตนัสลุกขึ้นและจากไปทันที

เห็นตนัสจากไป นิธูรแลบลิ้นออกมาเลียมุมปาก เพียง หัวเราะบอกว่า “แม้แต่คำพี่สะใภ้ยังไม่เรียก เรียกพิมพ์ลดา พิมพ์ลดาโดยตรง คิดให้คนไม่คิดเดาก็เป็นเรื่องยากน่ะ! ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ