ตอนที่ 83 ช่วยฉันดูแลหนูนา
เมื่อหน้าต่างด้านข้างของที่นั่งคนขับถูกไขลง พิมพ์ลดา เห็นผู้คนในรถแวบหนึ่งและผู้คนในรถก็เห็นเธอแล้ว
สาวเซ็กซี่ที่เพิ่งตามตนัสออกมาจากบริษัทโฆษณายี่เซ งกรุ๊ปจํากัดหันศีรษะไปเหลือบมองพิมพ์ลดาแวบหนึ่ง แล้ว อิงแนบข้างกายตนัสอย่างสนิทสนม ถามเสียงออดอ้อนว่า “ตนัสรูปหล่อ คุณจอดรถทำอะไรน่ะ?”
ไม่สนใจปัญหาของเธอ ตนัสมือหนึ่งโอบไหล่สาว เซ็กซี่ กดเธอไว้ ชะโงกหันหน้าออกมาจากที่นั่งคนขับ เรียก พิมพ์ลดาที่ยืนอยู่ข้างนอกอย่างไม่ลดละ “เฮ้ย นักวางแผน ออกแบบพิมพ์ลดา?”
เดิมที่ได้เห็นรถจอดลงชั่ววินาทีนั้น พิมพ์ลดาก็อยาก ขยับไปด้านข้างแล้ว แต่มันเป็นช่วงเวลาเลิกงานพอดี ชาน ชลารถบัสเต็มไปด้วยผู้โดยสารที่กำลังรอรถประจำทาง เธอ ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย
ทุกคนต่างกำลังรอรถ รถสปอร์ตของตนัสจอดขวางอยู่ ที่นี่ แม้ว่าชายหนุ่มหล่อเหลาเป็นอาหารตา แต่หนุ่มหลอไม่ ได้หาตนเอง คนอื่นจึงมองอย่างรำคาญหมดเป็นธรรมดา
เดิมพิมพ์ลดาไม่ได้คิดจะสนใจเขา แต่ถ้าเธอไม่ตอบ ดู เหมือนตนัสจะไม่คิดอยากจากไป รู้สึกว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ ได้ ยิงระเบิดตาขาวมาที่เธอเองแล้ว เธอได้แต่ถามเขากลับ ประโยคหนึ่งว่า “จะทำอะไร?”
ตนัสหัวเราะ เพิ่มเสียงให้ดังขึ้น ถามว่า “ตามเส้นทางให้ ผมพาคุณกลับบ้านไหม?”
เขาจงใจ พิมพ์ลดารู้ ชานชลานี้ไม่ไกลนักยังมีกลุ่ม พนักงานสองสามคนที่ทำงานด้วยกันในบริษัทโฆษณายี่เซ งกรุ๊ปจำกัดยืนอยู่ เขาเพิ่มความดังของระดับเสียง ก็เพื่อให้ พวกเขาได้ยิน ทําให้เธอทนไม่ได้
หลับตาลง พิมพ์ลดาข่มเพลิงโกรธในใจลง ปฏิเสธอย่าง เด็ดขาด “ขอบคุณค่ะ! ไม่ต้องค่ะ! ”
ส่งฉันกลับบ้าน? ส่งน้องคุณอ่า! คุณนี่เป็นรถสปอร์ตมี เพียงสองที่นั่ง คุณเองก็ครอบครองไปแล้วหนึ่ง ผู้หญิงอก ใหญ่ก้นเบ้อเร่อคนนั้นข้างคุณก็ครอบครองไปแล้วหนึ่ง คุณ คิดจะให้ฉันยัดเข้าไปตรงไหน? ในใจโกรธขึงผู้ตรวจการ ใหญ่ที่เวลาทำงานก็ปั้นสีหน้าบึ้งตึงราวกับยมบาล เวลาเลิก งานก็แปลงกายเป็นคุณชาย สวดยับจากหัวจรดเท้าครั้งหนึ่ง พิมพ์ลดาจึงรู้สึกมีความสุขในใจขึ้นมาเล็กน้อย
ยามโพล้เพล้เหลือบไปไม่ไกลนักเห็นพนักงานสอง สามคนที่ร่วมงานในบริษัทโฆษณายี่เซงกรุ๊ปจำกัดนั้นกำลัง ซุบซิบนินทามองมาที่เธอเองด้านนี้ ตนัสยิ่งหัวเราะอย่างมี ความสุขอารมณ์ดีมาก “นักวางแผนออกแบบพิมพ์ลดา วันนี้ ผมช่วยคุณ อย่าลืมตอบแทนผมด้วยน่ะ!” ทั้งประโยคแบบ นี้ไว้ ตนัสยังไม่รอพิมพ์ลดามีปฏิกิริยาและตอบกลับ รีบถอย กลับไปที่ที่นั่งคนขับอย่างรวดเร็ว สตาร์ทรถทิ้งฝุ่นตลบไป
“ช่วยฉันหรือ?” ดูรถสปอร์ตที่วิ่งฉิวประเดี๋ยวก็เลี้ยวโค้งไปจนไม่เห็นแม้แต่เงาอีก พิมพ์ลดาแค้นจนขบเคี้ยวฟัน! เมื่อ ครู่เธอต้องสมองเป็นสนิมไปหมดแน่ ๆ จึงบอกว่าเขานัส เป็นคนฉลาดเหลือเกิน เดิมเธอยังคิดว่าไม่ว่าจะใช้วิธีใด เขา ก็ยังนับว่าแก้ปัญหาเรื่องความรักในที่ทำงานเรื่องนี้แล้ว ถ้า งั้นเธอพิมพ์ลดาก็ยังสามารถเป็นผู้ใหญ่ไม่จดจําความผิด ของผู้น้อย ปล่อยให้เรื่องผ่านไปเถอะ แต่ตามสถานการณ์ ปัจจุบันเท่าที่มองดูแล้ว เขาและเธอก็ยังนับว่าได้เพาะปม ความแค้นบาดหมางนี้แล้ว
บนรถบัส พิมพ์ลดานั่งอยู่ในแถวสุดท้าย ดูอาคารเป็นแถว ๆ ที่ย้อนหลังมา สาบานอย่างลับ ๆ “ตนัส ฉันจะไม่ทนกับคุณ ในเวลาทํางานอีก!” แต่น่าเสียดายที่พูดจบยังไม่ถึงสองนาที ในใจพิมพ์ลดานี้ก็รู้สึกผิด จากข้อมูลที่เธอได้ตรวจสอบครั้ง สุดท้าย อาโรน ตนัสคนนี้มีบทบาทสำคัญในวงการโฆษณา ถ้าเธอทนเขาไม่ได้จริง ๆ ถ้าเธอแข็งต่อแข็งชนกันทำให้เขา โกรธแล้ว ถ้างั้น…เขาไล่เธอออกและส่งข้อความไปยัง วงใน เธอพิมพ์ลดาก็จะไม่มีที่ทำมาหากินแล้ว!
“อ้าว! ไม่ไม่! ฉันไม่คิดจะเป็นหนอนข้าวชั่วคราว” พิมพ์ ลดาก็ไม่ได้รู้สึกว่าท่านนายกเทศมนตรีที่บ้านเธอจะเลี้ยงดู เธอไม่ไหว เพียงแต่พิมพ์ลดาตั้งใจจะเป็นผู้หญิงวัยฉกรรจ์ ที่มีปณิธานมุ่งมั่นตั้งแต่วัยเด็ก ไม่ได้คาดหวังเป็นภริยา ผู้รับราชการอย่างสมบูรณ์ ถ้าเลิกจ้างออกจากงานอยู่บ้าน เหมือนคุณอรัญญาในครอบครัวเธอแบบนั้น เธอรู้สึกว่าเธอ ต้องบ้าตายแน่ ๆ
คุณอรัญญาในครอบครัวเธอดีร้ายอย่างไรเวลาว่างยัง สามารถแกล้งหยอกเธอเล่น เหมือนเมื่อก่อน ไม่มีอะไรก็จะจัดนัดบอดให้เธอเหมือนตอนนี้อีก ไม่มีอะไรก็จะโทรเรียก เธอให้รีบผลิตลูก แต่พิมพ์ลดาไหวน่ะ เธอไม่ได้มีลูกสาว ยี่สิบเจ็ดแปดคนหนึ่งมาหยอกเย้าเล่นได้
หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบตลบหนึ่ง ในที่สุด พิมพ์ ลดาก็ตัดสินใจ “ช่างเถอะ ผู้ตรวจการใหญ่ปีศาจ ฉันแหย่ คุณไม่ได้ ฉันหลบยังไม่ได้หรือ?”
วันเวลาผ่านไปวัน ๆ ยังนับว่าผ่านไปอย่างมั่นคง ใกล้สิ้น ปีแต่ละแผนกต่างยุ่งกว่าเดิม ผู้ตรวจการใหญ่ก็ยิ่งยุ่ง พอยุ่ง มาแบบนี้ ทุกคนดูเหมือนจะลืมเรื่องไร้สาระของพิมพ์ลดา และผู้ตรวจการใหญ่เรื่องจิ๊บจ๊อยนั้นไปเลย ไม่มีเวลาว่างไป ซุบซิบกันอีก นี่สําหรับพิมพ์ลดาแล้ว เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ
วันนี้เป็นวันที่สามสิบเอ็ดนเดือนธันวาคมแล้ว พรุ่งนี้เป็น วันหยุดขึ้นปีใหม่ พิมพ์ลดาคิดจะเร่งกรณีวางแผนออกแบบ อันหนึ่งให้เสร็จก่อนเลิกงาน
ขณะที่เธอกำลังยุ่งกับการเขียนแผนงาน โทรศัพท์มือถือ บนโต๊ะก็ดังขึ้น เธอไม่ได้มองหน้าจอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดรับสาย แล้วหนีบไว้ระหว่างไหล่กับศีรษะของเธอรับฟัง “ฮัลโล”
“เจ้าพิมพ์น้อย!” ในโทรศัพท์เสียงของสะปันดังมา กระเทือนจนพิมพ์ลดารู้สึกเจ็บหู แต่ตอนนี้อุปสรรคคือมือทั้ง คู่ของเธอกำลังยุ่ง เธอได้แต่ต้องอดทน แค่พูดกับคนที่ด้าน นั้นในโทรศัพท์ว่า “เธอพูดเบาหน่อย ฉันเพิ่งยี่สิบแปด ไม่ใช่ หกสิบแปด หูยังไม่ตึงน่ะ!”
” ในโทรศัพท์ ดูเหมือนสะปันมีความสุขเป็น พิเศษ ถูกพิมพ์ลดาปฏิเสธแล้วก็ไม่ได้ใช้น้ำเสียงที่อำมหิต ตอบเธอกลับไป แต่กลับส่งเสียงหัวเราะระลอกหนึ่งที่ทำให้ พิมพ์ลดาขนลุกเกรียว กล่าวต่อไปว่า “เจ้าพิมพ์น้อย ฉัน ต้องการให้เจ้าดูแลหนูนาสองวัน
ดูแลหนูนา? พิมพ์ลดาถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ฉันนดูแลหนู นา แล้วเธอกับทินพลไปทำอะไรกัน?”
พรุ่งนี้เป็นวันระลึกถึงครบรอบสี่ปีการแต่งงานของฉัน กับทินพล!” สะปันสะกิดนิดหนึ่งแบบนี้ พิมพ์ลดาก็จำขึ้นมา ได้ พี่น้องที่ดีคนนี้ของเธอ เมื่อวันขึ้นปีใหม่สี่ปีก่อนได้สมรส กับทินพลบุตรชายครอบครัวเขา แน่นอนที่ทำให้พิมพ์ลดา จดจำยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น คือจากวันนั้นคุณอรัญญาก็เริ่มที่จะ ปลูกฝังความคิดที่ว่ากลายเป็นสาวโสดไม่ดีอย่างไม่หยุดยั้ง ให้เธอ ไม่หยุดที่จะจัดนัดบอดให้เธอ!
หนีบโทรศัพท์มือถือไว้ซอกคอข้างหนึ่งมาโดยตลอด พิมพ์ลดารู้สึกเมื่อยเล็กน้อย จึงย้ายโทรศัพท์มือถือมาหนีบ ไว้อีกข้าง ถามว่า “ก็ได้ พวกเธอสองสามีภรรยาคิดจะไป พลอดรักอย่างอิสระเสรีกันที่ไหนล่ะ?
ทันทีที่พิมพ์ลดาถามจบ เสียงของสะปันสาวน้อยดีใจ ลิงโลดก็ดังมาในโทรศัพท์ “ก็ไม่ได้ไปไกลมาก เป็นสมาคม บ่อน้ำพุร้อนเขาสีมิ้งที่นอกเมือง เดิมฉันคิดว่าทินพลลืมวัน ครบรอบของเราไปแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาได้ปิดบังฉันแอบจอง ห้องไว้แล้ว คุณก็รู้ พ่อแม่ของฉันได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ ยูนนาน ยังไม่ได้กลับมา ท่านพ่อของทินพลดูแลหนูนาไม่ไหว ดังนั้นฉันได้แต่ต้องหาเจ้าคุณแม่ตัวน้อยแหละ!
หนูนาไม่ได้เป็นเด็กซน นับว่าเป็นสาวน้อยที่เชื่อฟัง เหลือเกิน เป็นคุณแม่ตัวน้อยของเธอ พิมพ์ลดาก็ได้รักเธอ มากเสมอมา ไหน ๆ วันขึ้นปีใหม่เป็นวันหยุด เธอไม่รังเกียจ ที่จะดูแลเธอสองวัน เพียงแต่กระทั่งเธอพิมพ์ลดาวางสาย โทรศัพท์แล้วจึงคิดขึ้นมาได้ ตอนนี้เธอแตกต่างจากเมื่อ ก่อน ในอดีตเธออาศัยอยู่ในบ้านของตัวเอง จะพาหนูนาก ลับบ้านเมื่อไรก็ได้ ยังไง ๆ พ่อแม่ที่บ้านก็รักหนูนาเหมือน กัน แต่ตอนนี้…
“แย่แล้ว ฉันลืมจิรฐาไปได้อย่างไรนี่น่ะ! ถ้าเขาไม่ชอบเด็ก จะทำอย่างไรดี?” คิดถึงจุดนี้ พิมพ์ลดาอดไม่ได้กลืนน้ำลาย เอื้อก คิดแล้วคิดอีก เธอตัดสินใจยังคงเขียนแผนงานก่อน
ปัญหาทุกอย่างมีทางออก รถถึงหน้าภูเขาต้องมีถนน ผ่าน เรือถึงท่าย่อมคัดตรงจอดได้ ไม่เห็นจะเป็นไร พิมพ์ ลดาพาหนูนากลับบ้านพ่อแม่ของเธอพักอาศัยสองวัน แน่นอนถ้าท่านนายกเทศมนตรีไม่ชอบหนูนา พิมพ์ลดา ต้องใช้มาตรการบางอย่าง
ใกล้เวลาเลิกงาน บริษัทก็มีคนทยอยกลับอย่างต่อเนื่อง ก่อนบุปผาจะจากไปเธอยังพูดกับพิมพ์ลดา “พี่พิมพ์ลดา สุขสันต์วันขึ้นปีใหม่! แล้วเจอกันปีหน้า พี่ก็เลิกงานไวขึ้น ค่ะ”
“โอเค บายบาย! ฉันเขียนนี้อีกนิดหน่อยให้เสร็จแล้วจะ เลิกงาน พิมพ์ลดาตอบเธอกลับหนึ่งประโยค หลังจากนั้นก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
เมื่อพิมพ์ลดาได้เขียนแผนเสร็จเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็ผ่าน ไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ยืดเส้นยืดสาย ชั่วขณะที่พิมพ์ลดา เงยหน้าขึ้น สายตากวาดผ่านจอคอมพิวเตอร์ที่เวลา มุมขวา ด้านล่าง
“โอ้พระเจ้า ห้าโมงกว่าแล้ว! แย่แล้ว หนูนา… ” ทันทีที่ได้ เห็นเวลานั้น พิมพ์ลดารีบทิ้งปากกาในมือลง จัดสิ่งของ บนโต๊ะ ปิดคอมพิวเตอร์ หยิบกระเป๋าแล้ววิ่งออกไปจาก ออฟฟิศ
เธอจำได้ว่า หนูนาควรจะเลิกเรียนตอนสี่โมงสิบนาที นับ ถึงตอนนี้ เธอก็สายไปห้าสิบนาทีแล้ว
วิ่งออกมาจากประตูใหญ่ของบริษัท พิมพ์ลดากระโดด ถึงบนถนน ก็เริ่มโบกรถอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ ณ เวลา นี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วนเลิกงาน และเป็นเวลาเปลี่ยนกะของ แท็กซี่ เธอไม่เห็นกระทั่งเงาแท็กซี่สักคัน แม้ว่ายากมากที่จะ เห็นสักคัน ผู้คนก็ไม่ได้เปิดป้ายไฟรถว่างเลย
ในขณะที่พิมพ์ลดากระทืบเท้าอย่างรีบเร่ง รถคันหนึ่งได้ แล่นฉิวจอดลงที่ข้างกายเธอ พิมพ์ลดาตกใจสะดุดก้าวเท้า กลับไม่กี่ก้าวโดยไม่รู้ตัว
อีกครั้งที่คนในรถไขหน้าต่างด้านข้างของที่นั่งคนขับลง ทอดสายตามองออกมา “นักวางแผนออกแบบพิมพ์ลดา วัน นี้ในรถผมมีที่นั่งว่างออกมาแล้ว ให้ผมไปส่งคุณไหม?
พิมพ์ลดาจำได้ชัดว่าตนัสเลิกงานกลับไปแล้วตั้งนาน ทำไมยังอยู่ที่นี่ตอนนี้?
ยืนเขย่งเท้า พิมพ์ลดายังไม่เห็นแท็กซี่สักคัน เกือบห้า โมงครึ่งแล้ว กัดฟัน เธอเปิดประตูฝั่งที่นั่งด้านข้างคนขับ รถของรถสปอร์ตสีฟ้าคันนั้นออก
“กรุณาส่งฉันไปโรงเรียนอนุบาลเด็กดี” เมื่อได้ยินพิมพ์ ลดาพูดประโยคนี้กับตนเอง ตนัสหยุดการเคลื่อนไหว เปลี่ยนเกียร์
หันศีรษะมองไปที่พิมพ์ลดา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามว่า “คุณ แม้แต่ลูกก็มีแล้ว?
“ฉัน…” พิมพ์ลดาเพิ่งคิดจะตอบเขา ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ มือถือในกระเป๋าดังขึ้น ทางหนึ่งเปิดกระเป๋าค้นหา โทรศัพท์มือถือ อีกทางหนึ่งเธอถามเขาว่า “คุณจะส่งฉัน ไหม? ถ้า ไม่ส่งฉันไปแท็กซี่เอง” พูดพลาง เธอก็คิดจะเปิด ประตูลงจากรถอีกครั้ง
“ไม่เอาน่า คุณจะไปเรียกแท็กซี่ที่ไหนตอนนี้น่ะ ! รถแท็กซี่ ในเมือง S เรียกยากแค่ไหน คุณไม่รู้ชัดเจนเหรอ?” ฉวย โอกาสก่อนที่พิมพ์ลดาจะลงจากรถ ตนัสยังคงสตาร์ทแล้ว ขับรถเข้าไปในกระแสจราจรภายใต้โคมไฟถนน
เดิมพิมพ์ลดาคิดว่าโทรศัพท์อาจเป็นครูอนุบาลโทรมา แต่ เมื่อหยิบออกมาดูแวบหนึ่งจึงรู้ว่าเป็นจิรฐาโทรมา
“ฮัลโหล” เธอมองตนัสที่ข้างกาย เห็นเขาตั้งใจขับรถ จึง รับสายอย่างระมัดระวัง
เมื่อพิมพ์ลดารับสายโทรศัพท์ รถของจิรฐาเจอไฟแดง พอดี จึงได้จอดลง “พิมพ์ลดา” เขาใส่หูฟังบลูทูธเข้าไปใน หูเรียบร้อย ถามว่า “คุณมาถึงโรงแรมเจเอสแล้วยัง?”
โรงแรมเจเอส? ได้ยินศัพท์คำนี้ พิมพ์ลดาก็งงงัน ทันใด ก็จำได้ว่าวันนี้เป็นวันที่พ่อแม่ครอบครัวตนและปู่ครอบครัวจิ ยังมีพ่อแม่สามีพบหน้ากันกินข้าว!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ