หมอยาเสน่ห์หา

ตอนที่ 57 พูดความจริงหลังเมามาย



ตอนที่ 57 พูดความจริงหลังเมามาย

ตอนที่ 57 พูดความจริงหลังเมามาย

‘ชูเซีย ชูเซีย… ในใจของหลี่เฉินเป็นพร่ำเรียกชื่อนี้ซ้ำแล้วซ้ำ เล่าอย่างเจ็บปวด เรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด นางมาอยู่ข้างกายของ เขาแล้วแท้ๆ นางคือของขวัญที่ดีที่สุดที่เบื้องบนส่งมาให้แก่ เขา แต่ทว่าเป็นเขาเองที่ทำเรื่องผิดพลาดอย่างไม่อาจให้อภัย ได้

ท่านอุปราชเอ่ยขึ้น “ข้ารู้สึกขอบคุณในตัวของหญิงสาวผู้นั้น เหลือเกิน ในชีวิตของหญิงหลง นางเป็นเด็กสาวที่เอาแต่ใจ และดื้อรั้น ภายในวังหลวงอันกว้างใหญ่เห็นจะมีก็แต่ฮองเฮา ที่รักและเอ็นดูนาง แต่ทว่าหญิงสาวคนนี้กลับใช้ชีวิตและความ สามารถของนางพิสูจน์และสร้างชื่อเสียงให้แก่หญิงหลงของ ข้า ยามนี้หากมีผู้ใดเอ่ยถึงชื่อหลิวหยิงหลงก็ล้วนนึกถึงคุณ งามความดีที่นางทำทั้งสิ้น

ไม่ว่าใครก็มองออกว่านางเป็นสตรีที่ดี ยกเว้นเขา

หลังจากที่ท่านอุปราชเดินทางกลับไปแล้วเขาก็กลับเข้าไป เก็บตัวในเรือนหรูอี้อีกสามวันสามคืน ย่างเข้าวันที่สี่ท่านอ๋อง ก็ยอมออกมาจากเรือนหรูอี้ในที่สุด ยามที่ชายหนุ่มออกมา ท้องฟ้าวันนั้นเป็นสีเทาไร้ชีวิตชีวา แสงแดดอบอุ่นในสาทรฤดู ไม่มีให้เห็นอีกต่อไป เหมันต์ฤดูใกล้เข้ามาแล้ว
เสี่ยวจี้และมามาร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่หลายวัน แต่ ทว่าก่อนชูเซี่ยตายเคยมอบหมายเรื่องบางเรื่องให้พวกนาง ไปจัดการ พวกนางไม่มีทางลืมโดยเด็ดขาด จึงจําเป็นต้องไป จัดการเรื่องพวกนั้นให้เรียบร้อยเสียก่อน

ทางด้านแม่ของเสี่ยวฉิง ชูเซี่ยได้สั่งให้หมอหลวงเข้าไปดู อาการนางตั้งแต่แรกแล้ว อีกทั้งยังมอบเงินให้แก่พวกนาง ก้อน

หนึ่ง ชูเซี่ยรู้สึกผิดต่อเสี่ยวฉิงมาโดยตลอดเพราะนางรู้สึกว่า สาเหตุที่เสี่ยวฉิงต้องตกงานมาจากตัวนางเอง ดังนั้นนางจึง บอกกับมามาว่าหากเสี่ยวฉิงยินดีจะกลับมาทำงานที่จวนก็ให้ พานางกลับมาด้วย

มามาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หลี่เฉินเย่นฟัง แรกเริ่มเดิมทีห เฉินเช่นก็ไม่เชื่อแม้แต่น้อย เขานึกมาตลอดว่าเสียวฉิง

และมีเหอร่วมมือกันใส่ร้ายชูเซีย ชูเซียสมควรรังเกียจและ เมินเฉยเสี่ยวฉิงจึงจะถูก แต่เมื่อลองส่งคนไปสืบเรื่องราว ให้กระจ่างเขาก็ได้ทราบว่าชูเซี่ยเคยส่งหมอหลวงไปตรวจ ดูอาการมารดาของเสี่ยวฉิงมาแล้วจริงๆ เนื่องจากเป็นความ ปรารถนาของชูเซีย เขาจึงไม่ลังเลที่จะรับเสี่ยวนิ่งกลับมา ทำงานรับใช้ในจวนอ๋อง ให้หญิงสาวเข้ามาทำงานในเรือนหรูอี้ ไม่จําเป็นต้องรับใช้ใครอื่นอีก
เมื่อเสี่ยวฉิงทราบว่าชูเซี่ยตายไปแล้วก็ร้องไห้ออกมา สาวใช้ ทุกคนในเรือนต่างก็รับรู้ถึงความดีงามและความทุ่มเทของ

นายหญิงของพวกตน แต่ทว่าเป็นหญิงสาวในนามหลิวหยิง หลงเท่านั้น ไม่ใช่เซี่ย

ราวกับว่าในครั้งหนึ่งในจวนไม่เคยมีหญิงสาวชื่อชูเซียมา

ก่อน

หลี่เฉินเช่นส่งรถเข็นกลับไปให้บิดาของเสี่ยวฉ่งเพื่อให้เขา ทําการซ่อมแซมประกอบมันขึ้นมาใหม่ แต่ทว่าต่อให้จะ

ประกอบและเชื่อมมันเข้ามาใหม่อย่างไรก็ยังเห็นร่องรอย การทําลายมาได้อย่างชัดเจน ก็เหมือนกับหลี่เฉินเล่นในเวลา นี้ แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเดิมกับเก่าก่อน ทว่าภายในจิตใจ ของเขากลับแตกสลายไปไม่มีชิ้นดีนับตั้งแต่วันที่ซูเซียดาย จากเขาไปแล้ว

เนื่องจากการเสียชีวิตของพระชายานิ่งอันทำให้ภายในวังงด จัดงานเฉลิมฉลองรื่นเริงใดๆทั้งสิ้น ไทเฮาก็เสียพระทัยจนล้ม ป่วย พระองค์ดึงมือของฮองเฮามากุมไว้ “พวกข้าต่างก็ติดค้าง นางเหลือเกิน เด็กน้อยคนนั้นรู้เรื่องและเฉลียวฉลาดถึงเพียงนี้ หากไม่มีนางเย่เอ๋อและอานเหยียนก็คงไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ อีกทั้งขาของเฉินเช่นก็คงไม่ สามารถเดินได้อีกตลอดชีวิต ข้านึกถึงวันเหล่านั้น วันที่เด็ก น้อยคนนั้นเข้าวังมา นึกถึงยามที่นางเจรจาเจื้อยแจ้วกับทุก คนก็ทำให้ข้ารู้สึกปวดใจ ยามนั้นเฉินเช่นใจร้ายกับนางเพราะ เรื่องจ่ายเงินยิ่งนัก ยามนี้หากตีข้าให้ตายข้าก็ไม่มีวันเชื่อว่า หยิงหลงจะเป็นคนทำร้ายจ่ายเงิน ไม่น่าเล่าว่ายามที่นางเข้า วังก่อนหน้าจึงดูไม่มีความสุขนัก นั่นคงเป็นเพราะตลอดเวลา ที่นางออกเรือนไปอยู่จวนอ๋องก็คงไม่เคยพบเจอความสุขเลย กระมัง

ฮองเฮาก็เศร้าพระทัยเหลือจะเอ่ย พระองค์เห็นหลิวหยิง หลงตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ ทอดพระเนตรเห็นนางตั้งแต่เป็น ตุ๊กตากระเบื้องเดินได้จนถึงวันที่เติบใหญ่มาเป็นลูกสะใภ้ของ พระองค์ พระองค์รักและอดทนต่อเด็กสาวคนนี้มาเสมอแม้ว่า จะมีหลายครั้งหลายคราที่นางทําให้พระองค์ผิดหวังซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า แต่ภาพลักษณ์ยามที่นางออดอ้อนเชื่อฟังก็ไม่เคย จางหายไปจากพระทัยของพระองค์แม้แต่น้อย ซึ่งนั่นทำให้ ไม่ว่านางจะทำผิดพลาดอะไรพระองค์ก็ยังคงให้อภัยนางอยู่ เสมอ ยามที่นางเข้าวังมารักษาอาการให้พระชายาเจิ้นหยวน พระองค์ไม่ได้อยู่ในวังด้วยแต่ก็ได้ยินว่านางทําให้ผู้คนต่างตก ตะลึงในฝีมือการแพทย์ของนางยิ่งนัก ซึ่งนั่นก็ทำให้พระองค์ เริ่มเอะพระทัยว่าจริงๆแล้วเด็กสาวคนนั้นอาจไม่ใช่หลิวหยิง หลงที่พระองค์เคยรู้จักอีกแล้ว

ดูเหมือนว่าการคาดเดาของพระองค์คงอีกไม่นาน ความจริงจะเปิดเผยออกมา

หลี่เฉินเช่นเดินทางเข้าวังในวันเทศกาลเฉินเย่นชิวเพื่อถวาย พระพรเสด็จพ่อเสด็จแม่ แต่เนื่องด้วยพระชายานิงอันเพิ่ง ถึงแก่กรรมทำให้ในวังร่วมไว้อาลัยให้นางหนึ่งปีเต็ม ปีนี้เหล่า เชื้อพระวงศ์จึงทำเพียงร่วมโต๊ะสังสรรค์กันเท่านั้น หลี่เฉินเ นพาหลิวมี่เหอเข้ามาในวังพร้อมเขาด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่ช เซี่ยตายไปหลิว เหอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แม่นางจะไม่ ชอบหลิวหยิงหลงมาโดยตลอดแต่ทว่ายามที่พี่สาวของนาง ตาย หญิงสาวก็ทรุดลงกับพื้นและปล่อยโฮออกมาอย่างไม่ สนใจสิ่งใด ความโศกเศร้าในใจของนางดูเหมือนจะไม่ยิ่ง หย่อนไปกว่าหลี่เฉินเย่นเลยสักนิด

หลายต่อหลายคนเข้าใจว่านางเสแสร้งแกล้งทำเพราะตลอด ระยะเวลาที่ผ่านมานางกับหลิวหยิงหลงไม่เคยลงรอยกัน แม้แต่น้อย ทว่ามีเพียงตัวนางที่รู้ดีว่านางไม่ได้เสแสร้งแกล้ง ทําเลยสักนิด ความเจ็บปวดที่นางแสดงออกมาล้วนออกมา จากใจจริงของนางทั้งสิ้น

แม้แต่หลี่เฉินเย่นก็ไม่เชื่อมั่นในตัวนาง ยามที่ชูเซี่ยเสียชีวิต ไปแล้วเขาไม่อนุญาตให้นางเข้าใกล้ศพก็พี่สาวเลยสักครั้ง

ยามที่หลิว เหอคุกเข่าเคารพศพอยู่นั้นหลี่เฉินเช่นก็ไล่ ตะเพิดนางออกไปอย่างไม่ใยดี ในยามนั้นเขาไม่ต่างกับคนบ้าเสียสติ ชายหนุ่มเกลียดชังตนเองที่ชูเซี่ยต้องตายเพราะ เขาและก็พาลมาเกลียดหลิวเหอที่เป็นคนคอยพูดจายุแยง ด้วย

ยามค่ำคืนหลี่เฉินเป็นดื่มสุราไปเยอะมาก เขาเห็นภาพยามที่ อ๋องเจิ้นหยวนและพระชายาอยู่ด้วยกันอย่างรักใคร่กลม

เกลียวก็ไม่อาจทนเห็นภาพตรงหน้าได้ ช่างเป็นภาพที่ขัดหู ขัดตาเขายิ่งนัก ราวกับว่าเขาไม่อาจทนเห็นผู้ใดมีความสุขได้

อีก

ความสุขเช่นนี้เดิมทีเขาก็เคยมีมันมาก่อนเช่นเดียวกัน อ๋อง เจิ้นหยวนเห็นน้องชายของตนดื่มสุราหนักเกินไปก็พยายาม ห้ามปราม หลี่เฉินเล่นในยามนี้บอบบางเหมือนแก้ว ไม่ว่าถูก กระทบตรงส่วนใดก็ล้วนเจ็บปวด

อ๋องเจิ้นหยวนเองก็ลำบากใจ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ พระชายาเจิ้นหยวนจับมือของสวามีอย่างให้กำลังใจพลางก้ม ลงเอ่ยกระซิบ “หากเขายังทำใจไม่ได้ ท่านก็ให้เขาดื่มสุรา หน่อยเถิด โหร่วเฟยกล่าวกับข้าว่ายามที่เขาอยู่ในจวนแทบ จะไม่แตะต้องสุราเลยแม้แต่น้อย ไม่กล้าดื่มเพราะกลัวจะ ประคองสติตนเองไม่ได้

ทรงเฟยที่นั่งอยู่ด้านข้างได้ยินเข้าก็สงสาร นางกวาดตามองอ๋องเจิ้นหยวนครั้งหนึ่ง ใบหน้ามีสีหน้าของความลำบากใจ

ปะปนอยู่

ยามที่ชูเซี่ยรักษาอาการของอานเหยียนจนดีแล้ว นางเคย กล่าวคำพูดประโยคหนึ่ง เป็นประโยคที่นางไม่เคยลืมเลือน “การที่สองสามีภรรยากันได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีงามที่สุดแล้วเพคะ ยังจะมองหาสิ่งอื่นใด อีกเล่า หากพระชายาเจิ้นหยวนไม่อยู่แล้ว ชีวิตของอ๋องเจิ้น หยวนก็คงจบเช่นกัน ทรงเฟยโปรดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนด้วยเถิด เพคะ”

ยามนั้นข้างกายไม่มีใครจึงไม่มีผู้ใดอื่นได้ยินคำกล่าวนั้นของ นางอีก

ยามนั้นนางไม่ได้ส่งเสียงหรือเอ่ยคำพูดใดออกไป เพราะว่ามี เพียงนางที่ทราบดีกว่าใครว่าถ้วยยาที่นางส่งให้เย่เอ๋อดื่มยาม คลอดนั้นเป็นนางเองที่วางยาพิษลงไปในถ้วย ยามนั้นร่างกาย ของเย่เอ๋อถูกพิษอยู่ก่อนแล้ว หลังจากคลอดอานเหยียนออก มาร่างกายนางก็ย่ำแย่ต่อให้นางถูกพิษเพิ่มไปอีกก็ย่อมไม่มีผู้ ใดสาวมาถึงตัวของนาง

คนเป็นแม่ล้วนเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งสิ้น อ๋องเจิ้นหยวนเป็นบุตรชายคนโตของฝ่าบาท แน่นอนว่านางย่อมต้องการให้บุตร ชายของตนได้นั่งบนบัลลังก์ต่อจากฮ่องเต้ แต่ทว่าคาดไม่ ถึงว่าบุตรชายของนางจะแต่งเย่เอ๋อสตรีที่เรียบง่ายเข้ามาใน จวน เย่เอ๋อเป็นสตรีที่ไม่มีความคิดที่จะแก่งแย่งชิงดีตำแหน่ง บัลลังก์มาเป็นของอ๋องเจิ้นหยวนเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นบุตร ชายนางจึงไม่คิดจะแก่งแย่งบัลลังก์อำนาจเช่นกัน ยามที่เย่เอ๋ ออยู่ในภาวะคลอดยาก อ๋องเจิ้นหยวนก็แทบจะล้มทั้งยืน นาง ทราบดีว่าตราบใดที่เย่เอ๋อยังอยู่บุตรชายของนางก็จะไม่มีวัน ยืนหยัดต่อสู้ได้ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจวางยาพิษลงในถ้วยยา ขณะที่ชูเซี่ยช่วยทำคลอดให้แก่นาง แต่ใครจะคาดคิดว่าชูเซี่ ยกับมองออกว่ายามนั้นพระชายาเจิ้นหยวนถูกวางยาพิษทั้ง ยังออกไปตามหาหญ้าหลินเฉ่ามาช่วยเหลือด้วยตนเองการ ตรวจสอบพิษและหาผู้กระทำจึงถูกระงับไว้ชั่วคราว ต่อมาก็มี อาการป่วยหนักขององค์ชายน้อยและอาการอัมพาตของหลี่ เฉินเย่น ฮ่องเต้หนักพระทัยเสียจนลืมสืบหาต้นต่อของยาพิษ ต่อซึ่งนั้นเป็นโชคดีของนางยิ่งนัก

ทว่านางก็ไม่เข้าพระทัยว่าเริ่มแรกผู้ใดกันที่เป็นผู้วางยาพิษ ให้เย่เอ๋อเพื่อเอาชีวิตของสองแม่ลูก

ถึงจะสงสัยเพียงใดนางก็ไม่คิดจะส่งคนไปสืบค้นเรื่องราว

ด้วยเกรงว่าจะสาวมาถึงตัวของนางได้

ดังนั้นนอกจากนางจะซาบซึ้งที่ชูเซี่ยช่วยเหลือพระราชนัดดา แล้วนางยังต้องขอบคุณที่ชูเซี่ยไม่นึกจะเปิดเผยความจริง

เกี่ยวกับเรื่องที่นางเป็นผู้วางยาลงในถ้วยยา ไม่เช่นนั้นหากมี การสืบค้นเข้าจริงๆย่อมสาวมาถึงตัวนางได้ไม่ยาก

หากไม่มีเบาะแสจากชูเซี่ยก็จะไม่มีผู้ใดสาวมาถึงตัวของนาง ได้อีกต่อไป จะไม่มีผู้ใดรับรู้ว่านางโหดเหี้ยมอำมหิตถึงขั้น

วางยาพิษลูกสะใภ้ของตนเองได้ลงคอ

ในยามนี้นางเข้าใจแล้ว เข้าใจในที่สุดว่าต่อให้ไม่อาจเป็น ฮ่องเต้ได้ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป หากยามนั้นเย่เอ๋อตายไปจริงๆ

บุตรชายของนางก็คงไม่ต่างอะไรกับหลี่เฉินเย่นในเวลานี้เป็น

แน่

“ท่านแม่ ไม่สบายหรือเจ้าคะ” เย่เอ๋อเห็นว่าใบหน้าของโรง เฟยไม่สู้ดีก็อดห่วงไม่ได้ หญิงสาวจึงเอ่ยถามขึ้น

หวงเฟยทอดมองใบหน้าของเย่เอ๋อในใจของรู้สึกละอาย ขึ้นมา ความจริงแล้วเย่เอ๋อเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์งดงาม ทำ หน้าที่และวางตัวได้อย่างเหมาะสมเสมอมาทั้งยังรักและ เทิดทูนบุตรชายของนางจากใจจริง หญิงสาวเป็นสะใภ้ที่สมบูรณ์แบบเกินกว่าผู้ใด โชคดีเหลือเกินที่หลี่เฉินเย่นและชุ เซียสามารถนําหญ้าหลินเฉ่ากลับมาได้ มิฉะนั้นหากเกิดอะไร ขึ้นมานางก็ไม่รู้ว่าจะพบหน้าอานเหยียนได้อย่างไร

ทรงเฟยแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ไม่เป็นอะไรหรอก แค่ เห็นเงินเป็นเป็นเช่นนี้ก็คิดถึงหญิงหลงขึ้นมาก็เท่านั้น

พระชายาเจิ้นหยวนเองก็ถอนหายใจ “จริงเจ้าค่ะ ช่างโชค ร้ายเหลือเกิน คนดีมักจะอายุสั้น เมื่อนึกถึงนางข้าก็รู้สึกไม่ สบายใจขึ้นมา” เอ่ยถึงตรงนี้ดวงตากลมก็มีน้ำตาคลอหน่วย ออกมา แต่ทว่าวันนี้เป็นเทศกาลเฉินเล่นชิว เป็นเทศกาลมงคล นางจึงไม่อาจหลั่งน้ำตาออกมาได้ จึงทำได้เพียงกล้ำกลืน นํ้าตากลับลงไป

ทรงเฟยจับมือของเย่เอ๋อไว้แน่นก่อนถอนหายใจออกมา

หนักๆ

หลี่เฉินเย่นเมามายจนหมดสติไปแล้ว ฮ่องเต้จึงรับสั่งให้อ๋อง เจิ้นหยวนส่งเบากลับไปพักผ่อน ฮองเฮาห่วงใยในตัวบุตรชาย จึงรีบร้อนตามไปดูแลเขาอย่างใกล้ชิด

ยามที่หลี่เฉินเย่นสะลึมสะลือหูของเขาก็มักจะได้ยินเสียง

หัวเราะของซูเซี่ยดังอยู่ข้างหูเสมอ หลี่เฉินเย่นดึงมือของเจิ้น
หยวนอ๋องไว้แน่นก่อนจะร่ำไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด นี่เป็น ครั้งแรกที่เขาร้องไห้ระบายความอัดอั้นความเจ็บปวดออกมา ราวกับว่าหัวใจของเขาไม่อาจฝืนทนเก็บความเจ็บปวดเหล่า นั้นได้อีกต่อไปแล้วจึงระเบิดออกมาในที่สุด

หลี่เฉินเป็นไม่รู้ว่าตนเองพูดอะไรออกมา เขาพร่ำเอ่ยอยู่เช่น นั้นๆโดยที่แม้แต่ตนเองก็ไม่ทันได้ยั้งคิด ภายในห้องยิ่งมา ก็ยิ่งมีผู้คนมากขึ้น ไทเฮา ฮ่องเต้ ฮองเฮา หรงเฟย อ๋องเจิ้น หยวนและพระชายา ทุกคนล้วนอยู่ภายในห้องนี้กันทั้งหมด

เดิมทีหลิวมี่เหอก็อยู่ภายในห้องเช่นเดียวกัน แต่เมื่อนาง ได้ยินประโยคพร่ำบอกจากเขาที่เอ่ยถึงหลิวหยิงหลงก็ทำให้ นางรู้สึกโศกเศร้าจนต้องหลบออกมาร้องไห้ข้างนอก

เขาเอาเพ้อถึงผู้หญิงคนนั้น จากนั้นก็อาเจียนออกมาด้วย ความเมามาย ภาพเบื้องหน้าของเขา ราวกับว่าเขากำลังเห็น

หญิงสาวที่คำนึกอยู่ทุกเสี้ยวลมหายใจของตนกำลังส่งยิ้มให้ เขา พร้อมเอ่ยขึ้นอย่างร่าเริง “ข้าชื่อชูเซี่ย!”

ทุกคนในที่นี้ต่างก็มีสีหน้าหนักอึ้ง ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ไปเชิญ ท่านอุปราชและท่านราชครูเข้าวังมาโดยทันที
ภายในห้องอักษร ไทเฮา ฝ่าบาท อ๋องเจิ้นหยวนและทรงเฟย

ต่างก็อยู่

เมื่อท่านอุปราชและท่านราชครูมาถึงก็ให้เข้าพบทันที เวลา ผ่านไปนาน ระหว่างนี้ฝ่าบาทไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้า

ออกห้องอักษรโดยเด็ดขาด

เรื่องที่คุยกันในห้องอักษรไม่อนุญาตให้แพร่งพรายออกไป โดยเด็ดขาดเนื่องจากเป็นรับสั่งจากฝ่าบาท ผู้ใดแพร่งพรายผู้ นั้นต้องโทษประหาร

เพราะเหตุนี้ หญิงสาวนามว่าชูเซียจึงมาปรากฏตัวที่เมืองหล วงเงียบๆและก็จากไปเงียบๆเช่นเดียวกัน

ฝ่าบาทส่งเอ่ยขึ้นอย่างอาลัย “สตรีประหลาด โชคร้ายเหลือ เกิน มิฉะนั้นข้าก็คงมอบยศถาบรรดาศักดิ์ให้แก่นางไปแล้ว จะ มีตำแหน่งใดเหมาะกับนางบ้างหรือไม่นะ

ไทเฮาเป็นผู้นับถือในพระพุทธเจ้ามาเนิ่นนาน เงียบไปนานจึง จะค่อยๆตรัสออกมาอย่างอาลัยอาวรณ์ “อามิตตาพุทธ ข้าไม่ เคยรู้มาก่อนเลยว่าสวรรค์จะประทานสิ่งที่ค้าเช่นนี้มาให้แก่ พวกข้า
“นี่ก็อธิบายได้แล้วสินะเพคะว่าเหตุใดเงินเย่นที่ไม่เคยชื่น ชอบในตัวหญิงหลงมาก่อนจึงได้เกิดหลงรักนางขึ้นมา แท้จริง แล้วพวกนางต่างเป็นคนละคนกัน เช่นนั้นแล้วแท้จริงหญิงหลง เป็นอะไรตายกันแน่นะเพคะ” ฮองเฮายังมีจุดที่พระองค์ไม่ เข้าใจอยู่

ไม่มีผู้ใดสามารถให้คําตอบได้ มีเพียงหลิวหยิงหลงตัวจริงที่ ทราบ แต่ทว่าท่านอุปราชรู้แจ้งอยู่แก่ใจว่าเป็นเพราะบุตรสาว ของตนไม่ได้รับความรักจากสวามีของตนอีกทั้งบิดามารดา แท้ๆของตนเองยังเห็นชอบให้น้องสาวออกเรือนมาใช้พระ สวามีร่มกันกับนาง หยิงหลงรู้ว่าโดยตลอดว่าท่านอ๋องรักใคร่ ชอบพอในมีเหอ ดังนั้นเมื่อมีเหอแต่งเข้ามาในจวนและได้รับ ความรักและความเอาใจใส่ของท่านอ๋อง นางจึงไม่อาจทนได้ อีกต่อไป

ท้ายที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจจบชีวิตที่ท้อแท้สิ้นหวังของตน ลง ทำให้หญิงสาวที่มีนามว่าชูเซี่ยสบโอกาสเข้ามาอยู่ในร่าง ของนางได้ ใช้ชีวิตอยู่ในร่างของหลิวหยิงหลงมานานถึงสอง เดือน เพียงแค่ช่วงระยะสั้นๆเพียงสองเดือนกลับเปลี่ยนแปลง ชีวิตของผู้คนได้มากถึงเพียงนี้ น่าเสียดายเหลือเกินที่หญิง สาวนามว่าชูเซียไม่อาจรักษาร่างนี้ไว้ได้นาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ